ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 50
“พ่อเอ็งไม่มาหรอก ไปงานบวชเพื่อนที่ต่างจังหวัดอีกแล้ว” คราวนี้เป็นอุบลพูดขึ้นแทน
อลินดาพยักหน้ารับน้อยๆ “เอ่อ ว่าแต่พี่นารีจองห้องเอาไว้เผื่อคุณแซคหรือเปล่าคะ”
“พี่ไม่ได้จองเผื่อน่ะ เพราะไม่คิดว่าคุณแซคจะมาด้วย ยังไงขอโทษด้วยนะคะคุณแซค” นารีรัตน์มองไปหาแซคคารีย์ด้วยสายตาละอายใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเปลี่ยนใจปุบปับเอง”
“งั้นเดี๋ยวนารีไปจองห้องให้ก่อนนะคะ รอแปบนึง”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจองเองก็ได้” แซคคารีย์ปฏิเสธ แต่นารีรัตน์ไม่ยอม
“คุณแซคขับรถมาเหนื่อยนั่งรอตรงนี้กับลินดาเถอะค่ะ เดี๋ยวนารีไปจองห้องพักให้นะคะ”
แม้จะรู้สึกแปลกใจกับความมีน้ำใจของนารีรัตน์ที่มาพุ่งสูงปี๊ดเอาตอนนี้ แต่แซคคารีย์ก็ตัดความรำคาญด้วยการตอบรับ
“งั้นรบกวนด้วยครับ”
นารีรัตน์ฉีกยิ้มกว้างอย่างสมใจ “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวนารีมาค่ะ”
“แม่ไปด้วยนารี”
“แม่รออยู่ตรงนี้แหละจ้ะ เดี๋ยวฉันมา แปบเดียว”
อุบลจำต้องยืนอยู่ที่เดิม และมองลูกสาวคนโตที่เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์โรงแรมเงียบๆ
“แม่นั่งรถมาไกลเมื่อยไหมจ๊ะ”
อลินดาเดินเข้ามาจับแขนของมารดา ก่อนจะประคองไปนั่งบนโซฟาอย่างนุ่มนวล
“เอ็งไม่ต้องมาห่วงข้าหรอก ข้ายังแข็งแรงอยู่”
“ฉันรู้ว่าแม่ยังแข็งแรงมาก แต่ฉันเป็นลูก ฉันก็ต้องอยากดูแลแม่สิจ๊ะ”
อุบลสบประสานสายตากับลูกสาวคนเล็ก ก่อนจะเมินหน้าหนีไปมองทางอื่นอย่างละอายใจ
“แล้วนี่แม่ได้ไปเดินเล่นที่ชายหาดหรือยังจ๊ะ”
“ยัง เพิ่งมาถึงเอง”
อุบลตอบสั้นๆ
“งั้นเดี๋ยวฉันเก็บของเสร็จแล้ว เราไปเดินเล่นน้ำทะเลกันนะแม่ ฉันไม่ได้มาทะเลนานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายก็ตอนเล็กๆ นู้น แม่จำได้ไหมจ๊ะ”
อุบลนิ่งเงียบไป ยิ่งอลินดาทำดีด้วยเท่าไหร่ หล่อนก็ยิ่งเสียใจที่รักลูกลำเอียง
“เอ็งอยู่กับคุณแซคไปเถอะ อย่ามายุ่งกับข้าเลย ข้ามันแก่แล้ว เดินเล่นคนเดียวได้”
“คุณแซคไม่ว่าอะไรหรอกจ้ะ ถ้าฉันจะพาแม่ไปเล่นน้ำทะเลน่ะ จริงไหมคะคุณแซค” อลินดาหันไปถามแซคคารีย์ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เงียบๆ อยู่
“ครับ ตามสบายครับ”
อลินดาฉีกยิ้มกว้าง
“เห็นไหมจ๊ะแม่ คุณแซคไม่ว่าอะไรสักหน่อย งั้นเดี๋ยวเราไปเล่นน้ำทะเลกันนะจ๊ะ”
อุบลอยากจะปฏิเสธ แต่พอเห็นแววตายิ้มแย้มและอ้อนวอนของอลินดาแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้
“ก็ได้ แต่ต้องรอนารีก่อนนะ”
“จ้ะแม่”
อลินดาระบายยิ้มอย่างดีใจที่มารดายอมไปเล่นน้ำทะเลด้วย ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่นารีรัตน์เดินกลับมาพอดี
“ห้องเต็มน่ะค่ะคุณแซค”
แซคคารีย์วางหนังสือพิมพ์ในมือลงกับโต๊ะกระจกทันที คิ้วเข้มหนาดกเลิกสูง
“รีสอร์ทใหญ่ขนาดนี้ ห้องเต็มหรือครับ”
“ใช่ค่ะ เต็มทุกห้องเลย”
“ไม่น่าเชื่อนะครับ นี่ก็ไม่ใช่ช่วงไฮท์ซีซั่นด้วย”
“จริงๆ ค่ะคุณแซค ไม่เชื่อไปถามพนักงานที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ”
นารีรัตน์ยืนยันหน้าตาจริงจัง
“เอาอย่างนี้ไหมคะ คุณแซคก็พักที่รีสอร์ทใกล้ๆ ก่อน แล้วพอพรุ่งนี้ถ้ามีห้องว่าง นารีจะรีบจองเอาไว้ให้คุณแซคเลยค่ะ”
“ผมพักที่ไหนก็ได้ครับ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
นารีรัตน์ลอบยิ้มพึงพอใจ แต่ก็กลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรทันทียามที่มีสายตาของคนอื่นจ้องมา
“นารีต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
แซคคารีย์ลุกขึ้นยืน พร้อมกับคว้าแขนอลินดาให้ลุกขึ้นยืนตามไปด้วย
“งั้นผมกับอลินดาขอตัวไปพักรีสอร์ทใกล้ๆ ก่อนนะครับ แล้วช่วงค่ำจะมารับประทานอาหารค่ำด้วยครับ”
“ไม่ได้นะคะ คืนนี้ลินดาจะต้องค้างกับนารีกับแม่ด้วย” นารีรัตน์แย้งขึ้น “จริงไหมลินดา บอกคุณแซคไปสิ”
อลินดารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อย “คุณแซคคะ คืนนี้ลินดาขอค้างกับแม่และพี่นารีนะคะ”
“เอาไว้พรุ่งนี้รอฉันได้ห้องพักที่นี่ก่อน เธอค่อยไปค้างกับครอบครัวก็ได้นี่”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงรู้สึกเป็นห่วงอลินดาจับใจแบบนี้
“นี่คุณแซคคิดว่าพวกเราจะทำร้ายลินดาเหรอคะ” นารีรัตน์พูดขึ้นแทงใจดำของแซคคารีย์ยิ่งนัก
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ผมเป็นห่วงลินดาครับ”
“งั้นก็ให้ลินดามันไปค้างกับคุณแซคเถอะนารี แม่จะได้นอนกับนารีสองคนไง”
อุบลพูดออกมา เพราะไม่อยากให้นารีรัตน์ผิดใจกับ แซคคารีย์
“ไม่ได้นะแม่ เอ่อ… ฉันหมายถึงเราอุตส่าห์มาเที่ยวทั้งที เราก็ควรจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาสิ จริงไหมลินดา”
อลินดาระบายยิ้มออกมา น้ำตาซึม เมื่อนารีรัตน์พูดให้รู้สึกว่าหล่อนคือคนในครอบครัวคนหนึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต
“ค่ะ ฉันจะค้างกับพี่กับแม่คืนนี้”
“อลินดา…”
แซคคารีย์ไม่พอใจ
อลินดาช้อนตามองสามี วางมือบนท่อนแขนของเขา ก่อนจะขอร้องด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“ให้ลินดาค้างกับแม่สักคืนนะคะคุณแซค ลินดาสัญญาว่า พรุ่งนี้จะรีบตื่นมากินข้าวเช้ากับคุณแซคค่ะ”
“แต่ฉัน…”
“นะคะคุณแซค… นะคะ…”
แซคคารีย์ถอนใจออกมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แต่ก็ต้องยอมตกลงในที่สุด
“ก็ได้ แต่ต้องระวังตัวนะ เข้าใจไหม”
“รับทราบค่ะ”
นารีรัตน์มองภาพที่แซคคารีย์แสดงความห่วงใยอลินดาออกหน้าออกตาด้วยความคลั่งแค้น หล่อนแทบจะระเบิดมันออกมาอยู่แล้ว แต่ก็ต้องสะกดกลั้นเอาไว้ก่อน
‘มึงไม่รอดแน่ อีลินดา!’
“ล่ำลากันเสร็จหรือยังคะ ถ้าเสร็จแล้ว นารีจะได้พาน้องสาวขึ้นไปห้องพักค่ะ”
อลินดาหันไปยิ้มให้กับนารีรัตน์ ก่อนจะพูดกับแซคคารีย์ “แล้วตอนเย็นเจอกันนะคะคุณแซค”
“อืม”
แซคคารีย์ยืนมองตามร่างของอลินดาที่เดินไปพร้อมกับนารีรัตน์และอุบลด้วยความไม่สบายใจเลย
“ทำไมวันนี้ฉันเป็นห่วงเธอมากแบบนี้นะอลินดา”
ชายหนุ่มถอนใจออกมา และก้าวเท้ากำลังจะเดินออกไปจากตัวรีสอร์ทหรู แต่ก็ชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งเสียก่อน และพอมองหน้าชัดๆ ก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร
“คุณกฤติชัย…”
“อ้าว คุณแซคคารีย์นี่เอง ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่นะครับ”
“ผมต่างหากล่ะครับที่ต้องพูดคำนี้ คุณกฤติชัยหายไปไหนมาครับเนี่ย”
กฤติชัยระบายยิ้มบางๆ
“ผมป่วยน่ะครับ ก็เลยไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลมา แต่ตอนนี้หายดีแล้วครับ”
“ยินดีด้วยครับที่หายป่วยแล้ว ว่าแต่คุณกฤติชัยมาพักผ่อนที่นี่เหมือนกันหรือครับ”
“ใช่ครับ และก็มาทำธุระสำคัญบางอย่างด้วย”
กฤติชัยพูดคุยอยู่กับแซคคารีย์สักพักก็ขอตัวมาพักผ่อน ซึ่งพอขึ้นมาถึงห้องพักก็พบว่านารีรัตน์มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“หายไปไหนมานะคุณกฤติชัย นารีมานั่งรอตั้งหลายนาทีแล้วนะคะ”
“ผมก็ไปเตรียมการณ์ตามที่คุณต้องการยังไงล่ะครับนารี”
นารีรัตน์ฉีกยิ้มกว้าง และลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามากอดแขนของกฤติชัยอย่างประจบเอาใจ
“น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
“ผมน่ารัก แล้วคุณเคยรักผมจริงๆ สักครั้งไหมครับ”
คำถามสวนกลับมาของกฤติชัยทำให้นารีรัตน์อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนที่หญิงสาวจะฉีกยิ้มกลบเกลื่อน
“รักสิคะ รักมากที่สุดด้วยล่ะค่ะ”
“ถ้าคุณรักผม แล้วคุณจะให้ผมไปฆ่าน้องสาวของคุณทำไมล่ะครับ เจตนาของคุณคือต้องการแย่งสามีของน้องสาวฝาแฝดกลับคืนมาใช่ไหมครับ”
ทำไมไอ้กฤติชัยมันถามได้จี้ใจดำแบบนี้นะ
นารีรัตน์หงุดหงิดงุ่นง่านในใจ แต่ก็จำต้องฉีกยิ้มกลบเกลื่อนเพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจ
“นารีก็แค่อยากจะทำให้พวกมันทุกข์ทรมานเท่านั้นเองค่ะ นารีไม่ได้คิดจะกลับไปยุ่งอะไรกับคุณแซคอีกแล้วล่ะค่ะ”
“แน่ใจหรือครับ”
“แน่ใจค่ะ นารีรักคุณคนเดียวค่ะคุณกฤติชัย” หล่อนออดอ้อนด้วยการซบหน้ากับแผงอกของกฤติชัย และพร่ำเพ้อคำว่ารักออกมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน
“หลังจากคุณแก้แค้นให้นารีสำเร็จแล้ว เราสองคนก็จะใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข”
ไม่มีคำตอบใดออกมาจากปากของกฤติชัย นอกจากการยืนกอดร่างของหล่อนเงียบๆ
นารีรัตน์ยืนยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจ และก็ก่นด่า กฤติชัยในอกด้วยความเกลียดชัง เพราะหากกฤติชัยไม่ชิงตัวหล่อนมาจากงานแต่งงาน ป่านนี้หล่อนก็คงจะมีความสุขกับ แซคคารีย์ไปแล้ว ไม่ต้องให้อลินดามาชุบมือเปิบแบบนี้หรอก
‘ทั้งมึงทั้งอีลินดานั้นแหละที่ต้องลงไปในนรก หึหึ’