นารีรัตน์โบกมือให้กับกฤติชัย และเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งก็เจอกับมารดาที่นั่งรออยู่
อุบลเต็มไปด้วยความโล่งใจ เมื่อเห็นบุตรสาวคนโตกลับมาบ้าน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แล้วก็ตาม
“นารี… ลูกหายไปไหนมา”
นารีรัตน์ระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ห้องรับแขก
“พ่อไม่อยู่อีกแล้วเหรอแม่”
“พ่อออกไปหาเพื่อนน่ะ น่าจะกลับค่ำๆ ว่าแต่นารีเถอะ ไปไหนมา เมื่อคืนก็ไม่ยอมกลับบ้าน”
คนถูกถามไหวไหล่เล็กน้อยอย่างไม่แยแสอะไร “ฉันก็ไม่เที่ยวตามประสาของฉันน่ะแม่”
“แต่แม่นอนไม่หลับทั้งคืนเลยนะ แม่เป็นห่วงลูกมากนะ”
นารีรัตน์มองมารดาอย่างรำคาญ ตอนนี้หล่อนไม่ต้องการเล่นละครเป็นลูกสาวที่ดีอีกแล้ว
“ฉันโตแล้วนะแม่ จะห่วงทำไมล่ะ”
“ก็แม่รักลูกมากนี่ แม่ก็ต้องเป็นห่วงสิ”
อุบลพูดออกมาทั้งน้ำตา นารีรัตน์เต็มไปด้วยความรำคาญ แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้ เพราะยังมีเรื่องที่ต้องให้มารดาช่วยอยู่
“ฉันขอโทษก็แล้วกันแม่ คราวหลังฉันจะโทรบอกแม่ก็แล้วกันถ้าจะไม่กลับบ้านน่ะ”
อุบลระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ
“ขอบใจมากลูก แล้วนี่กินข้าวกินปลามาหรือยัง ถ้ายังแม่จะไปทำกับข้าวให้กิน”
“ไม่ต้องหรอกแม่ ฉันกินข้าวมาแล้ว”
“งั้นเอาน้ำผลไม้ไหม แม่จะไปทำมาให้”
อุบลที่รักนารีรัตน์มากพยายามเอาใจ แต่ก็ถูกลูกสาวสุดที่รักปฏิเสธ
“ไม่ต้องหรอกแม่ ฉันไม่หิวไม่กระหายอะไรทั้งนั้นแหละ”
“งั้นเหรอ” น้ำเสียงของอุบลเต็มไปด้วยความผิดหวัง
นารีรัตน์ถอนใจแรงๆ ก่อนจะพูดออกมา “แม่เราไปเที่ยวหัวหินกันไหม ฉันอยากไปพักผ่อนสมองน่ะ”
“ไปสิ ลูกจะได้หายเศร้าด้วย” อุบลเห็นด้วยเป็นที่สุด “แล้วเราจะไปกันเมื่อไหร่ดีล่ะ นารี”
นารีรัตน์นั่งนิ่งเงียบ แววตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ แต่อุบลไม่ทันได้มองเห็น
“ฉันอยากให้แม่โทรไปชวนลินดาไปด้วยน่ะแม่”
“ทำไมล่ะลูก” อุบลแปลกใจ
“ฉันอยากจะปรับความเข้าใจกับน้องน่ะแม่ ตอนนี้ฉันคิดได้แล้วล่ะว่า คนที่ผิดมาตลอดก็คือฉันเอง ไม่ใช่ลินดา”
อุบลมองลูกสาวคนโตอย่างเหลือเชื่อ “ทำไมลูกถึงเปลี่ยนความคิดล่ะนารี”
นารีรัตน์แสร้งบีบน้ำตา และมองมารดา “ก็ถ้าฉันมั่นคงกับความรักของคุณแซค ไม่วอกแวกไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น จนลืมเขาไปตั้งสามปี ลินดาก็คงไม่มีโอกาสสวมรอยเป็นฉันและไปติดต่อกับคุณแซคเองหรอกแม่ เห็นไหมว่าเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะฉัน”
อุบลจับมือลูกสาวเอาไว้ และพูดปลอบใจ “ลูกไม่ผิดหรอกนารี ไม่มีใครผิดหรอก ลูกของแม่เป็นคนดีเสมอ”
“ฉันอยากคุยกับลินดาให้รู้เรื่อง แม่ช่วยโทรนัดให้ลินดาไปเที่ยวกับฉันที่หัวหินด้วยนะจ๊ะ”
อุบลพยักหน้ารับโดยไม่ได้เอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ได้สิลูก แม่จะโทรไปบอกน้องให้”
“ขอบคุณจ้ะแม่ ขอบคุณแม่มากนะจ๊ะ”
นารีรัตน์ซบหน้ากับอกของมารดาและแสร้งร้องห่มร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิดต่อไปจนมารดาเชื่อสนิทใจ
“ใครโทรมาหาหรือ ถึงต้องไปคุยนอกห้อง คงไม่ใช่นายแฮรี่ หรือคุณกฤติชัยใช่ไหม”
คนที่นอนเอกเขนกรออยู่บนเตียงกว้าง เอ่ยถามทันทีที่หญิงสาวเดินเข้ามาภายในห้องนอน หลังจากออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงนอกห้อง
“แม่โทรมาค่ะ”
คำตอบของอลินดาทำให้ใบหน้าของแซคคารีย์คลายความหงิกลงได้เล็กน้อย
“ไหนเอาเบอร์มาดูสิว่าใช่แม่เธอจริงหรือเปล่า”
อลินดาเดินเข้าไปหยุดที่เตียง และยื่นโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มดูหมายเลขโทรเข้าล่าสุด
“เชื่อหรือยังคะ”
“อืม เชื่อแล้ว”
แซคคารีย์เห็นว่าเป็นเบอร์ของอุบลจริงๆ ก็คลายความสงสัย และก็ดึงร่างของภรรยาเข้ามากอดแนบอก
“ปล่อยก่อนค่ะ ลินดายังไม่ได้อาบน้ำเลยนะคะ”
“ไม่ปล่อย จนกว่าจะบอกว่าแม่เธอโทรมาทำไม ปกติไม่เห็นเคยพิศวาสอะไรเธอเลยนี่น่า”
แซคคารีย์พูดได้ตรงกับความเป็นจริงทุกประการ แต่หล่อนก็น้อยใจจนชาชินไปเสียแล้ว
“แม่ชวนไปเที่ยวหัวหินน่ะค่ะ”
คิ้วเข้มของแซคคารีย์เลิกสูง แววตาสีสนิมที่มองมายังหล่อนเต็มไปด้วยความแคลงใจ
“ทำไมจู่ๆ มาชวนไปหัวหินล่ะ”
“เห็นแม่บอกว่าพี่นารีอยากไปน่ะค่ะ แม่ก็เลยอยากให้ลินดาไปด้วย พี่น้องจะได้ปรับความเข้าใจกัน”
“เรื่องฉันใช่ไหม”
คนตัวเล็กตวัดตามองค้อนเจ้าของคำถาม “รู้ตัวด้วยเหรอคะว่าเป็นต้นเหตุน่ะ”
“รู้สิ แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ เพราะฉันไม่มีทางกลับไปหานารีได้อีกแล้ว ฉันหมดรักนารีไปแล้ว”
“แล้วตอนนี้คุณแซครักใครล่ะคะ”
อลินดาถามไปอย่างนั้นแหละ แต่กลับถูกเขาพลิกตัวขึ้นทาบทับเอาไว้ พร้อมกับก้มหน้าลงมาจูบปากแรงๆ ราวกับหล่อนพูดอะไรผิดอย่างนั้นแหละ
“ฉันรักผู้หญิงที่ถักผ้าพันคอให้น่ะ แล้วก็ผู้หญิงที่ขยันส่งโปสการ์ดไปให้ฉันทุกๆ เดือน แต่ว่า… ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ เธอรู้ไหมอลินดา”
แก้มนวลแดงระเรื่อ เสหลบสายตาคมกริบพัลวัน แต่ แซคคารีย์ก็ยังถามย้ำอีกครั้ง
“ทำไมไม่ตอบล่ะ”
“ก็… ลินดาไม่รู้จะตอบว่าอะไรนี่คะ”
“ก็พูดความจริงยังไงล่ะ ความจริงที่ฉันรู้หมดแล้วออกมา”
เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่ยังหอมแก้มนวลฟอดใหญ่ อลินดารู้สึกสั่นไหววาบหวามไปทั้งตัว เสหลบสายตาคมพัลวัน
“คุณแซค… รู้แล้วเหรอคะ”
“หึ ฉันรู้นานแล้วต่างหาก”
คราวนี้คนตัวเล็กเผยอช้อนตามองด้วยความแคลงใจ
“คุณแซครู้นานแล้ว…”
“ใช่”
“แล้ว… รู้ได้ยังไงคะ หรือว่าพี่นารีบอก…”
แซคคารีย์ส่ายหน้าไปมาน้อยๆ ดวงตาไม่คลาดไปจากดวงหน้างามของอลินดาแม้แต่วินาทีเดียว
“ก็ตั้งแต่ที่ฉันรู้ว่าผู้หญิงชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างเธอกลายเป็นสาวบริสุทธิ์ ฉันก็ต้องทนอยู่กับความสงสัยทุกวินาที จนกระทั่งฉันทนไม่ไหวและสืบหาความจริง และฉันก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอถูกใส่ร้าย”
อลินดาน้ำตาซึม หลบสายตาของแซคคารีย์
“และคนที่ใส่ร้ายเธอก็คือนารีรัตน์”
หญิงสาวพูดไม่ออก ได้แต่ร้องไห้เงียบๆ
“ฉันเคยถามเธอหลายครั้งแล้วเรื่องคลิปโป๊นั่น แต่เธอก็ไม่เคยให้คำตอบฉันเลย ตอนนี้ตอบฉันมาตามความจริงนะ ว่าทำไมถึงได้ยอมรับว่าเป็นตัวเอง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นคือนารี” นิ้วแกร่งเชยคางมน และบังคบให้หล่อนสบประสานสายตา
“ตอบฉันตามความจริงนะลินดา… อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว”
อลินดาสะอื้นน้อยๆ ก่อนจะตอบออกไปเพราะไม่รู้ว่าจะทนเก็บเอาไว้ทำไมอีก ในเมื่อแซคคารีย์ก็รู้ทุกอย่างแล้ว
“ลินดาไม่อยากให้คุณกับพี่นารีมีปัญหากันค่ะ”
“แค่นี้หรือ”
“และก็… เพื่อแลกกับการที่พี่นารีจะไม่เอาชื่อของลินดาไปทำเรื่องเสื่อมเสียอีกค่ะ”
แซคคารีย์ถอนใจออกมาแรงๆ และรู้สึกผิดหวังในตัวของนารีรัตน์ยิ่งนัก เขากอดร่างของอลินดาเอาไว้แน่น จูบซับน้ำตาให้กับหล่อนด้วยความสงสาร
“ฉันขอโทษนะที่เคยร้ายกับเธอเอาไว้มาก แต่นั่นเพราะฉันเข้าใจเธอผิดไป”
หล่อนส่ายหน้าไปมา สะอื้นไห้แผ่วเบา
“คุณแซคไม่ผิดหรอกค่ะ อย่าโทษตัวเองเลย”
“แล้วใครผิดล่ะ”
เขาย้อนถามกลับมา
“เอ่อ… ไม่มีหรอกค่ะ”
ชายหนุ่มระบายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะกระซิบชิดปากอิ่ม
“ผู้หญิงที่แอบรักฉันใช่ไหมที่ผิด”
หน้านวลแดงก่ำและเสหลบสายตาคมกริบพัลวัน แต่เขาก็ยังเอ่ยถามไม่เลิก
“ทำไมไม่ตอบล่ะ ลินดา”
“เอ่อ…”
“ไหนบอกมาสิว่าหลงรักฉันตั้งแต่เมื่อไหร่”
อลินดาขัดเขินจนตัวแทบแตกปริ
“คุณแซคน่ะ ถามอะไรคะ ลินดาจะไปอาบน้ำแล้วค่ะ”
“ไม่ให้ไป จนกว่าจะตอบก่อน ไหนบอกมาสิว่ารักฉันเมื่อไหร่”
“คุณแซคน่ะ…”
ชายหนุ่มหัวเราะหึหึ ก่อนจะก้มลงดูดปากล่างอวบอิ่มแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“ถ้าไม่พูด ฉันจะหาคำตอบเองนะ”
“คุณแซค… จะหาคำตอบยังไงเหรอคะ”
รอยยิ้มหื่นกระหายบนใบหน้าหล่อเหลาของแซคคารีย์ทำให้อลินดารู้คำตอบในที่สุด แต่มันก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะหล่อนห้ามปรามการหาคำตอบแสนวาบหวามของชายหนุ่มไม่ทัน
“อื้อ… อ๊า… คุณแซค…”
ร่างสาวถูกจับเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่า และเขาก็ลูบไล้โลมเลียกัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ทุกจังหวะการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความหิวกระหายตะกละตะกลาม แต่ภายใต้ความดิบเถื่อนของแซคคารีย์ก็เต็มไปด้วยความเสียวกระสันน่าลุ่มหลง
หล่อนดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างทรงพลังที่ไม่เคยแรงตกของแซคคารีย์ยาวนาน ดื่มด่ำไปกับรสกำซาบของไอสวาทจนยากที่จะถอนตัวถอนใจออกมาได้ เวลาผ่านพ้นไปนานหลายชั่วโมง แต่เขาก็ยังคงเดินหน้ามอบความหฤหรรษ์ให้อย่างต่อเนื่อง
กี่ครั้งกันนะ? ที่หล่อนสุขสมทั้งบนร่าง ใต้ร่าง หรือกับลิ้นสากของแซคคารีย์
อลินดาพยายามคิดหาจำนวนที่แท้จริง แต่นิ้วมือกลับไม่พอนับเอาเสียนี่ ช่างเถอะ เอาไว้ค่อยนับพรุ่งนี้เช้าก็แล้วกัน หญิงสาวหลับตาพริ้ม และปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปในกระแสธารสวาทตลอดทั้งค่ำคืน
MANGA DISCUSSION