ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 42
ขณะที่นารีรัตน์นั่งรับประทานอาหารอยู่กับแซคคารีย์นั้น หญิงสาวก็ตาดีมองไปเห็นที่ฝ่ามือของชายหนุ่มมีสีดำจางๆ ติดอยู่
“ตายแล้ว นั่นมือของคุณแซคไปจับของดำอะไรมาคะ ถึงได้มีสีลอกติดมือมาด้วยแบบนั้นน่ะค่ะ”
แซคคารีย์หงายฝ่ามือขึ้นมอง และตีหน้าเรียบเฉย “คงเป็นแฟ้มงานของแฮรี่มั้ง ผมจับแล้วไม่ได้ล้างมือ”
“แหวะ ทำไมลูกน้องของคุณถึงได้สกปรกแบบนี้ล่ะคะ ถ้านารีเป็นคุณนะคะ นารีจะไล่ออกให้หมดเชียว”
“ช่างเถอะ ผมไม่เคยถือสาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หรอก”
เมื่อถูกตัดบทนารีรัตน์ก็อึ้งไปพักใหญ่ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมา จึงเป็นแซคคารีย์ที่เป็นฝ่ายพูดขึ้นเอง
“ได้ข่าวลินดาบ้างไหมครับ นารี”
สีหน้าของนารีรัตน์กระตุกไปด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะสวมหน้ากากเสแสร้งทับเอาไว้
“ไม่ได้ข่าวเลยค่ะ ป่านนี้คงไประเริงอยู่กับชู้รักมั้งคะ ดีไม่ดีป่านนี้อาจจะท้องโตแล้วก็ได้ค่ะ นี่นารีแทบไม่อยากจะเชื่อเลยนะคะว่าน้องสาว ฝาแฝดของตัวเองจะมีนิสัยสำส่อนแบบนี้”
“ผมว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตสำนึกมากกว่ากรรมพันธุ์นะครับ”
แซคคารีย์จ้องหน้านารีรัตน์ “ก็เหมือนกับในคลิปโป๊นั่นไงครับ”
นารีรัตน์หน้าร้อนฉ่าด้วยความอับอาย ถึงแม้แซคคารีย์จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่หล่อนก็รู้ดีว่าเขากำลังด่า
“เอ่อ… งั้นวันนี้นารีขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีเย็นนี้จะไปสวดมนต์ที่วัดกับคุณแม่น่ะค่ะ”
“เชิญครับ ผมคงไม่สะดวกออกไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ นารีรู้ว่าคุณยังเดินไม่ถนัด ขอตัวนะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้นารีจะแวะมาเยี่ยมใหม่”
“ขอบคุณครับ”
นารีรัตน์เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปแล้ว แซคคารีย์ก็ถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะเข็นรถเข็นออกจากห้องอาหารและก็เจอเข้ากับสาวใช้พอดี
“เรียบร้อยดีไหม”
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแซค”
สาวใช้คนที่พาอลินดาในคราบของพยาบาลแก้วไปห้องพักรีบมารายงานเจ้านายของตัวเอง
“ดีมาก เธอมีอะไรก็ไปทำเถอะ”
“ค่ะ”
เมื่อสาวใช้เดินจากไปแล้ว แต่แซคคารีย์ยังคงหยุดรถเข็นเอาไว้ที่เดิม และสายตาของเขาก็เลื่อนกลับไปมองชั้นบนอีกครั้ง มองด้วยสายตามืดดำอ่านความรู้สึกไม่ออก
เสียงเคาะประตูห้องหลายครั้งติดทำให้อลินดาที่กำลังจะเช็ดสีดำออกจากใบหน้าและตามเนื้อตัวชะงัก หล่อนหันไปมองที่บานประตูไม้ คิ้วโก่งสวยเลิกสูง
“เอ่อ… ใครคะ” หล่อนดัดเสียงถามออกไป
“ฉันเอง”
อลินดาสะดุ้งตัวเย็นเฉียบเมื่อรู้ว่าคนที่อยู่หลังบานประตูห้องคือ แซคคารีย์
“เอ่อ… คุณแซคมีอะไรกับแก้วเหรอคะ”
“เปิดประตูให้ฉันก่อน” แซคคารีย์ยังคงชอบออกคำสั่งเหมือนเดิม และหล่อนก็ไม่มีทางเลือก จำต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้สตูลที่นั่งอยู่เดินไปดึงประตูให้เปิดออก
แซคคารีย์นั่งอยู่บนรถเข็นตรงหน้า และจ้องมองหล่อนด้วยสายตาเย็นชา
“คุณแซค… มีอะไรจะใช้แก้วเหรอคะ”
“ฉันเหนียวตัว อยากอาบน้ำ”
“คะ?” หล่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“ทำไมต้องทำหน้าตกอกตกใจด้วยล่ะ ในเมื่อฉันไม่ได้บอกว่ากำลังจะไปตายสักหน่อย แค่อยากอาบน้ำแค่นั้นเอง” น้ำเสียงของแซคคารีย์มีความยียวนอยู่ในที
“แล้ว… ปกติใครอาบน้ำให้คุณแซคคะ”
ไหล่กว้างของคนที่นั่งนิ่งอยู่บนรถเข็นไหวน้อยๆ
“ฉันอาบเอง” เขาตอบออกมาหน้าตาเฉย ในขณะที่หล่อนรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นที่สุด
“แล้วทำไมวันนี้คุณแซคถึง… ไม่อาบเองล่ะคะ” หล่อนทำใจกล้าพูดออกไป
คู่สนทนาที่มีใบหน้าหล่อราวกับเทพเจ้าปั้นแต่งเหยียดยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้า
“วันนี้ฉันขี้เกียจ อยากให้เธออาบให้นี่ หรือว่าเธอมีปัญหาล่ะ ฉันจะได้โทรให้แฮรี่มารับตัวเธอกลับไป”
อลินดาส่ายหน้าดิก “ไม่… ไม่มีปัญหาค่ะ แก้ว… ทำได้ค่ะ”
“งั้นก็ตามฉันมาที่ห้อง”
แล้วผู้ชายเอาแต่ใจก็เข็นรถออกไปจากห้องพักของหล่อน มุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนของเขา
อลินดาถอนใจยาวเหยียด ขณะเดินตามเขามาติดๆ
ไม่ว่าแซคคารีย์จะอยู่ในสภาพไหน เขาก็เอาแต่ใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง แล้วนี่หล่อนทำถูกต้องแล้วใช่ไหมที่เป็นห่วงเขาจนต้องแฝงตัวเข้ามาแบบนี้
“ใจลอยอะไรอยู่ล่ะ เข้ามาสิ”
เสียงเรียกไม่พอใจของแซคคารีย์ทำให้อลินดาที่ใจลอยอยู่สะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้อง
แซคคารีย์ใช้มือเข็นรถเข็นไปยังหน้าประตูห้องน้ำ จากนั้นก็หันมามองหล่อนที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่กลางห้อง
“ยืนทำอะไรอยู่ล่ะ มาช่วยประคองฉันเข้าไปในห้องน้ำสิ”
“เอ่อ… ค่ะ”
อลินดารีบถลาเข้าไปช่วยพยุงให้แซคคารีย์ลุกขึ้นจากรถเข็น แต่ตัวของเขาหนักมาก หลายครั้งที่เขาเอนจะล้มลงมาทับร่างของหล่อน
“อุ๊ย… ระวังค่ะ”
ตอนนี้หล่อนใช้สองแขนกอดรัดเรือนกายทรงพลังเอาไว้แน่น กลิ่นหอมประจำตัวของเขากำลังทำให้เลือดสาวปั่นป่วน หล่อนหน้าแดงก่ำ พยายามบอกตัวเองให้เย็นเข้าไว้ แต่ความร้อนรุ่มที่สุมอยู่ในช่องท้องมันค่อยๆ แผ่ขยายไปตามกระแสเลือด จนตอนนี้มันกระจายอยู่เต็มร่างของหล่อนแล้ว
“กอดฉันแน่นไปหรือเปล่า”
“เอ่อ…”
หญิงสาวรีบคลายอ้อมแขน และจะถอยห่าง แต่ร่างของแซคคารีย์ก็เอนจะล้มมาทับ จึงต้องรีบประคองเอาไว้อีกครั้ง
“อย่าปล่อยมือจากฉันเด็ดขาดนะ เข้าใจไหม”
สายตาคมกริบสีสนิมที่จ้องมองประสานมานั้น ทำให้หัวใจสาวเต้นโครมคราม
“คุณแซคหมายถึง…”
“ฉันหมายความว่า ถ้าเธอปล่อยมือจากฉัน ฉันก็อาจจะร่วงลงไปกองกับพื้นห้องน้ำยังไงล่ะ”
หล่อนพยักหน้ารับน้อยๆ และเสหลบสายตา ขณะกัดฟันประคองร่างใหญ่โตของแซคคารีย์เข้าไปใกล้อ่างน้ำสีขาวขนาดใหญ่ให้ได้มากที่สุด
“คุณแซคนั่งลงบนขอบอ่างก่อนนะคะ เดี๋ยวแก้วจะผสมน้ำอุ่นให้ค่ะ”
แซคคารีย์ทรุดตัวลงนั่งบนขอบอ่างตามที่หญิงสาวต้องการ สายตาจับจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าทุกอิริยาบถ จนเจ้าหล่อนต้องหันมามองอย่างประหม่า
“แก้วมีอะไรผิดปกติเหรอคะ”
“หน้าเธอดำมาตั้งแต่เกิดเลยหรือเปล่า”
อลินดาชะงักกึกไป ก่อนจะแก้ตัว “ก็ดำมาตั้งแต่เกิดเลยค่ะ”
“แล้วไอ้ไฝเม็ดเป้งบนหน้าผากเธอล่ะ เพิ่งมีหรือว่ามีตั้งแต่เกิด”
ทำไมหล่อนรู้สึกว่าน้ำเสียงของแซคคารีย์เจือความขบขันอยู่นะ ทั้งๆ ที่สีหน้าของเขาเรียบเฉย หรือวาหล่อนจะคิดมากไปเอง
“ก็… มีมาตั้งแต่เกิดแล้วน่ะค่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ”
แซคคารีย์พยักหน้ารับน้อยๆ และเฝ้ามองแม่พยาบาลหน้าดำผสมน้ำอุ่นในอ่างน้ำหรูจนเสร็จ
“น้ำอุ่นพร้อมแล้วค่ะ คุณแซคลงได้เลยค่ะ”
“ให้ฉันลงทั้งที่มีเสื้อผ้าแบบนี้น่ะหรือ”
อลินดามองคนตัวโตก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
“เอ่อ คุณแซคก็ถอดเสื้อผ้าออกก่อนนะคะ เสร็จแล้วเรียกแก้วก็แล้วกันค่ะ แก้วจะมาประคองลงอ่าง”
ดวงหน้าของอลินดาแดงก่ำ ความร้อนระอุวิ่งพล่านจนน่าตกใจ หล่อนพยายามเสหลบสายตาคมกริบของเขาตลอดเวลา
“เธอนั่นแหละต้องถอดเสื้อผ้าให้ฉัน”
“คะ?”
“ทำหน้าตื่นอีกแล้ว ถามจริงๆ เถอะ เธอไม่ใช่พยาบาลจริงๆ ใช่ไหม แต่เธอแค่ปลอมตัวเข้ามาที่นี่ ด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง”
“ไม่ใช่นะคะ” อลินดารีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว
“ถ้าไม่ใช่ก็มาถอดเสื้อถอดกางเกงให้ฉันสิ ฉันเหนียวตัวเต็มทีแล้ว อยากจะนอนแช่น้ำ”
“เอ่อ… ก็ได้ค่ะ”
หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นใดอีก นอกจากขยับตัวเข้าไปใกล้เขา และเริ่มต้นเปลื้องผ้า
“มือสั่นเชียวนะ”
น้ำเสียงขบขันของแซคคารีย์ทำให้อลินดาถึงกับต้องรีบตั้งสติ และปฏิเสธ
“แก้ว… ขี้หนาวน่ะค่ะ”
คนตัวโตงึมงำตอบรับในลำคอ ขณะนั่งนิ่งให้หล่อนปลดกระดุมเสื้อให้ทีละเม็ดทีละเม็ด แต่ให้ตายเถอะ นี่แกะกระดุมมาเกือบห้านาทีแล้ว แต่กระดุมเพียงแค่หกเม็ดบนสาบเสื้อเชิ้ตก็ยังไม่หลุดออกจากกันทั้งหมดเสียที
“อุ๊ย…” อลินดาตกใจหน้าซีด เมื่อมือใหญ่ยกขึ้นกุมมือของหล่อนเอาไว้ และสายตาคมกริบก็จ้องเขม็ง
“เธอไม่ชำนาญเลยนะ”
“คือว่า…”
หล่อนกำลังจะหาคำพูดมาแก้ต่าง แต่เขากระชากสาบเสื้อเพียงครั้งเดียว กระดุมเสื้อที่หล่อนแกะเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดก็กระเด็นหวือลอยหายไปต่อหน้าต่อตา แล้วแผงอกกว้างกำยำที่มีไรขนขึ้นหนาดกก็ปรากฏแก่สายตา
น้ำลายในลำคอเหนียวหนึบเป็นยาง ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่กล้ามเนื้องดงามตรงหน้า ลิ้นเล็กแลบออกมาเลียริมฝีปากที่แห้งผากอย่างลืมตัว
“หิวหรือ…”
“หิว… อะไรคะ”
แซคคารีย์ระบายยิ้มบางๆ “ไม่รู้สิ เห็นเธอเลียปาก”
“เอ่อ… แก้วก็แค่รู้สึกปากแห้งน่ะค่ะ” หล่อนเสหลบสายตาของเขาพัลวัน แซคคารีย์แสดงออกเหมือนรู้ว่าหล่อนเป็นใคร แต่เขาจะรู้ได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อหล่อนทาตัวทาหน้าซะดำปี๋ขนาดนี้
“อืม” เขาพยักหน้ารับน้อยๆ “ถอดกางเกงให้ฉันสิ ฉันจะได้ลงไปในอ่างน้ำเสียที เดี๋ยวน้ำจะเย็นหมด”
“คุณแซค… ถอดเองไม่ได้เหรอคะ”
“มันหน้าที่เธอไม่ใช่หรือ”
สายตาดุๆ ของแซคคารีย์ทำให้อลินดาไม่มีทางเลือก หล่อนจำต้องคุกเข่าตรงหน้าของเขา และยื่นมือสั่นๆ มาที่ขอบกางเกงลำลองขายาว
“เร็วสิ”
“ค่ะ” หล่อนหลับตาลง ใช้มือเล็กปลดตะขอกางเกง พร้อมกับรูดซิปลงจนสุด จากนั้นก็รีบชักมือออก
“เสร็จแล้วค่ะ”
“เสร็จตรงไหน ฉันยังใส่กางเกงอยู่เลย”
ทำไมหล่อนถึงรู้สึกว่าแซคคารีย์กำลังกลั่นแกล้งหล่อนอยู่นะ
“งั้นคุณแซคยกก้นขึ้นนิดนะคะ แก้วจะดึงกางเกงออกค่ะ”
เขาทำตามที่หล่อนบอกอย่างว่าง่าย ไม่ช้ากางเกงลำลองขายาวก็หลุดออกไปจากตัวของแซคคารีย์
หล่อนถอนใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ไม่นานก็ต้องหน้าซีดสลับแดงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคำพูดของแซคคารีย์
“บ็อกเซอร์ด้วย”
หล่อนจ้องมองเขาด้วยสายตาตื่นตกใจ “คุณแซค… จะถอดหมดเลยเหรอคะ”
“ใช่” เขาตอบรับ และส่งสัญญาณให้หล่อนทำตามคำสั่ง อลินดาหน้าแดงแล้วแดงอีก ภาวนาให้ตัวเองสามารถทานทนต่อสิ่งเร้าตรงหน้าได้ให้นานที่สุด
“เร็วสิ โอ้เอ้อยู่ได้”
“ค่ะ…”
หล่อนเอียงหน้าหนี และหลับตาปี๋อีกครั้ง ขณะค่อยๆ สอดนิ้วเรียวเข้าไปในขอบกางเกงในบ็อกเซอร์อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าจับพลาด หล่อนอาจจะเจอกับงูใหญ่ของเขาเข้า แต่..
“อุ๊ยยย…”
“นี่เธอจับอะไรฉันเนี่ย”
หล่อนรีบชักมือออกอย่างไว เมื่อมือไปสัมผัสเข้ากับท่อนชายแข็งชันเข้าอย่างจัง
“ขอ… ขอโทษค่ะคุณแซค” หล่อนรีบลุกขึ้น และหันหลังให้ ตอนนี้หัวใจของหล่อนเต้นแรงเหลือเกิน “แก้ว… ขอตัวก่อนนะคะ” และหล่อนก็ไม่คิดจะอยู่รอให้เขาคัดค้าน สองเท้าบอบบางรีบซอยหนีออกมาจากห้องน้ำทันที
แซคคารีย์หรี่ตาแคบมองตามไปด้วยเงียบๆ กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง ขณะลุกขึ้นยืน สลัดบ็อกเซอร์ออกจากตัว และก้าวลงไปในอ่างน้ำกว้างด้วยท่วงท่าสง่างาม