ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 17
คลิปเสพสวาทของชายหญิงที่มีใบหน้าเหมือนกับอลินดาราวกับแกะถูกแซคคารีย์นั่งจ้องมองนับครั้งไม่ถ้วน ผู้หญิงในคลิปแทนตัวเองว่าลินดา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าใครได้ดูคลิปสวาทนี้แล้ว ไม่มีทางมองอลินดาในแง่ดีได้ ซึ่งเขาก็เช่นกัน
กรามแกร่งขบกันแน่นจนขึ้นสันนูนเป่ง ทั้งๆ ที่เคยปักใจเชื่อว่าผู้หญิงในคลิปโป๊คืออลินดา แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะหลังจากที่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายคนแรกของอลินดา ผู้หญิงในคลิปคนนี้ก็ไม่มีทางใช่อลินดาไปได้
แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันล่ะ
นารีรัตน์หรือ
แซคคารีย์เต็มไปด้วยความสับสนมึนงง เขาพยายามที่จะหาจุดสังเกตว่าคลิปนี้คือการตัดต่อ หรือไม่ก็แค่คนหน้าเหมือนนารีรัตน์กับอลินดาเท่านั้น แต่ก็หาไม่เจอ
ชายหนุ่มถอดถอนใจออกมาแรงๆ ความรู้สึกที่มีต่ออลินดาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปทีละนิด และหนึ่งในความรู้สึกที่กำลังทรมานเขาอยู่ในตอนนี้ก็คือ ความละอายใจ
ใช่ เขาละอายใจเหลือเกินที่พร่าผลาญพรหมจรรย์ของหล่อนอย่างป่าเถื่อน
ใบหน้านวลที่บิดเบี้ยวทรมานเพราะความเจ็บปวดของอลินดายังคงไม่ยอมหลุดหายไปจากสมอง หยาดน้ำตาของหล่อนทำให้เขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังตัวเอง และอีกหนึ่งความรู้สึกที่ค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้นโดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือความหวงแหน
บ้าชิบ!
แซคคารีย์สบถออกมาหลายครั้งติด แต่ก็ไม่อาจจะทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของตัวเองสงบลงได้เลย เขาตัดสินใจที่จะลุกขึ้น เพื่อที่จะเดินกลับไปยังห้องพัก แต่เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเสียก่อน
มือใหญ่เอื้อมไปกดรับ ก่อนจะกรอกเสียงทุ้มไปตามสาย เมื่อรู้ว่าใครโทรเข้ามา
“สวัสครับ คุณตำรวจ”
ร้อยเวรเจ้าของคดีทักทายมาตามสาย ก่อนจะเอ่ยถึงสาเหตุที่โทรมาหาเขาแต่เช้า
“สรุปแล้วศพผู้หญิงที่ถูกข่มขืนและตีหน้าจนเละ ไม่ใช่นารีรัตน์หรือครับ”
“ไม่ใช่คุณนารีรัตน์ครับ”
“แล้วสร้อยเส้นนั้นล่ะครับ ทำไมถึงไปอยู่ที่ศพได้”
แซคคารีย์สงสัยมาก เพราะสร้อยเส้นที่เขาซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับนารีรัตน์เป็นแบบพิเศษที่เขาเป็นคนออกแบบเอง และแน่นอนว่ามันจะต้องเป็นเส้นเดียวในโลกที่มีลายแบบนี้
“ทางญาติของผู้ตายแจ้งว่าผู้ตายเก็บสร้อยเส้นนี้ได้ครับ”
แซคคารีย์นิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะเอ่ยออกมา “ขอบคุณคุณตำรวจมากครับ แต่ถ้าได้เบาะแสของนารีรัตน์เมื่อไหร่ รบกวนโทรแจ้งผมด้วยนะครับ”
นายตำรวจเจ้าของคดีตอบรับอย่างสุภาพ ก่อนจะวางสายไป แต่เขายังคงกุมโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น ดวงตาคมกริบสีสนิมเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
ถึงแม้ว่าเขาจะดีใจมากที่ศพผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่นารีรัตน์ แต่ก็อดรู้สึกผิดบาปต่ออลินดาไม่ได้ เมื่อคืนเขาเสียใจมากเพราะคิดว่าศพผู้หญิงคนนั้นคือนารีรัตน์ จึงกลับมาย่ำยีอลินดา แล้วนี่เขาจะชดเชยความผิดของตัวเองกับหล่อนยังไงดี
ชายหนุ่มถอนใจออกมายาวเหยียด ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องทำงาน มุ่งหน้าตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง ซึ่งเขามั่นใจว่าอลินดายังคงนอนซมอยู่ในนั้น
แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง กลับพบแต่ความว่างเปล่า คิ้วเข้มหนาดกของแซคคารีย์เลิกสูง เขามองไปรอบๆ ห้องแต่ไม่พบผู้หญิงที่ตัวเองมาตามหา เขาเอ่ยเรียกชื่อของหล่อน แต่ก็ไม่มีเสียงใดตอบรับมาเหมือนเดิม
แซคคารีย์เริ่มหงุดหงิด “หายหัวไปไหนอีกเนี่ย” เขาบ่นด้วยความไม่พอใจ และสายตาก็เหลือบแลไปเห็นถาดใส่อาหารที่เขาเป็นคนสั่งให้สาวใช้ยกขึ้นมาให้หล่อนบนห้องเข้าพอดี อาหารในถาดไม่มีพร่องเลยแม้แต่นิดเดียว
“ดื้ออีกแล้ว”
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ออกจากห้องนอน ลงมายังชั้นล่าง และเรียกสาวใช้คนเดิมมาสอบถาม
“คุณลินดา… เอ่อ คุณนารีไปไหน”
“เอ่อ หนูก็ไม่ทราบค่ะ” สาวใช้ตอบเสียงแผ่ว และก้มหน้างุดด้วยความหวาดกลัว
แซคคารีย์กระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ “ให้มันได้อย่างนี้สิ เมียฉันหายไปทั้งคน แต่พวกเธอกลับไม่รู้ไม่เห็นกันเลย มันน่าเลี้ยงให้เสียข้าวสุกไหมเนี่ย”
“หนู… หนูขอโทษค่ะ”
“ไปตามรปภ. มาพบฉันเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ คุณแซค”
สาวใช้รีบวิ่งหน้าตาตื่นออกไปนอกตัวตึกใหญ่ ในขณะที่แซคคารีย์เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย และก็อดคาดโทษผู้หญิงที่ก่อปัญหาเอาไว้ไม่ได้
“อย่าให้เจอเชียว จะฟาดก้นเสียให้เข็ด”
ไม่ถึงนาทีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนก็วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า
“คุณแซคมีอะไรให้พวกผมรับใช้ครับ”
“คุณนารีได้ออกไปจากบ้านหรือเปล่า” แซคคารีย์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง ไม่พอใจ
“ออกไปครับ”
นั่นไง
แซคคารีย์เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “แล้วทำไมพวกนายถึงยอมให้เมียฉันออกไปนอกบ้าน โดยที่ฉันไม่รู้ หึ”
“ก็… คุณนารีบอกว่าขออนุญาตคุณแซคแล้วนี่ครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบกลับออกมาด้วยสุ่มเสียงสั่นเทา
แซคคารีย์สบถนับครั้งไม่ถ้วน ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจะต้องคลุ้มคลั่งขนาดนี้ กับอีแค่เมียคั่นเวลาหายออกไปจากบ้าน แต่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ มันทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากที่รู้ตัวว่าเข้าใจอลินดาผิดไป
“ฉันอนุญาตกะผีอะไรล่ะ แล้วคุณนารีบอกไหมว่าจะไปไหน”
“เอ่อ ไม่ได้บอกครับ”
แซคคารีย์หงุดหงิดจนแทบเป็นบ้า ก่อนจะโบกมือขับไล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างโมโห
“ไสหัวไปได้แล้ว ไปสิ”
“ครับ คุณแซค”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนรีบวิ่งหน้าตั้งกลับออกไป ส่วนเขาก็เดินออกมานอกตัวตึก และตะโกนเรียกหากุญแจรถเสียงดังลั่น
“มาแล้วครับ กุญแจรถมาแล้วครับ”
คนขับรถสูงวัยรีบนำกุญแจรถสปอร์ตคันโปรดมายื่นให้กับแซคคารีย์
ชายหนุ่มคว้ามาไว้ในอุ้งมือ และกำลังจะก้าวขึ้นรถ แต่คนขับรถสูงวัยเอ่ยถามเสียก่อน
“คุณแซคจะไปทำงานหรือครับ”
“วันนี้ฉันหยุด ลืมไปแล้วหรือไง”
“เอ่อ ครับ ครับ”
แล้วแซคคารีย์ที่กำลังหัวเสียสุดๆ ก็ก้าวขึ้นไปบนรถคันงามของตัวเอง และขับออกไปด้วยความเร็วสูง