ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ - ตอนที่ 45 อะไรไร๊สีฟ้า
“เอ่อออ คือฉันอ่านคิวอาร์โค้ดไม่ได้หรอกค่ะ แฮะๆ”
“อ่ะ ฮ่าๆ ไม่มีทางที่อิโรฮะจังจะอ่านคิวอาร์โค้ดได้หรอกเนอะ ไม่ว่าจะมองยังไง”
> โฮ่ววว
> นึกว่าอ่านได้ซะอีก
> แต่ถ้าอิโรฮะจังอ่านได้ก็ไม่น่าตกใจอะไรนะ
“อืมมม แล้วก็ภาษาญี่ปุ่นเองก็ดีในทางนั้นเหมือนกันนะคะ แบบด้วยเพราะฮิรากานะ คาตาคานะ หรือคันติเอง ก็ทำให้ง่ายในการอ่านเป็นช่องๆมาก ขอแค่อ่านคันจิออกแล้วแบ่งเป็นจุดๆ ก็สามารถสรุปได้เลย”
“จริงด้วยสินะคะเนี่ย ก็ภาษาญี่ปุ่นนี่เนอะ”
“แล้วก็มีบางภาษานะคะ ที่ต่อให้เข้าใจภาษานั้นดีแค่ไหน แต่บางทีการพูดเองก็ยังเป็นเรื่องที่ยากทั้งเรื่องของการออกเสียง การใช้ลำคอเอย นั่นเลยเป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าคือความต่างของ ‘คุณสมบัติ”
เห.. คงต้องพูดเพิ่มซักหน่อย
เพราะดูเหมือนว่าผู้เข้าร่วมคนหนึ่งจะดูไม่คุ้นเคยกับคำที่ฉันพูดออกไป
“คุณสมบัติหรอคะ?”
“ถ้าให้เราอธิบายล่ะก็ สามารถสรุปได้ว่าเป็นวัฒนธรรมหรือสิ่งที่ประเทศนั้นทำกัน”
“วัฒนธรรมหรอคะ..? อย่างเช่นไฟจราจรที่มักจะเรียกแต่แบบในแต่ล่ะประเทศหรือเปล่าคะ แบบเช่นในประเทศญี่ปุ่นเองที่มักจะเรียกสัญญานไฟสีเขียวว่าสีฟ้า แล้วก็ในประเทศที่ผมเกิดอย่างอังกฤษเองก็เรียกสัญญานไฟสีเหลืองว่าแอมเบอร์ด้วย”
“คือฉันขอถามหน่อยได้หรือเปล่าคะ ว่าทำไมถึงเรียกว่า ‘ สีฟ้า ‘ ?”
แล้วคุณพิธีกรก็ดูอยากจะเป็นคนตอบล่ะ “ เห เรื่องนั้นเองหรอคะ ? ”
เธอรู้หลายเรื่องจริงๆด้วย สมกับเป็นคุณพิธีกรที่ผ่านมาหลายโปรเจ็ค !
“ก็มีหลายทฤษฎีน้า อยากเช่นเคยมีการเขียนว่า ‘ ไฟสัญญานสีฟ้า ‘ คือ ไฟสัญญานสีเขียวในหนังสือพิมพ์เองก็เป็นหนึ่งในทฤษฎีนั้น ”
“จริงด้วยค่ะ เท่าที่ผมได้ยินมาก็คงเป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเองที่มักจะเรียกของสีเขียวเป็นสีฟ้าซะหมด ราวกับว่า ‘ไม่มีสีเขียวในประเทศญี่ปุ่น’ ยังไงอย่างงั้นเลยล่ะค่ะ”
“เห ไม่มีสีเขียวเลยหรอคะ..?!”
“ย้อนกลับไปเมื่อเนิ่นนานแล้วในตอนแรกประเทศญี่ปุ่นนั้นมีแค่สี่สีเท่านั้น ขาว ดำ แดง และ ฟ้า นั่นเลยเป็นสาเหตุที่สีเขียวกลายเป็นตัวแทนของสีฟ้าไป แต่ฉันก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่แบบมันยังมี [ แอปเปิ้ลฟ้า ] [ ใบไม้สีฟ้า ] บลาๆ ”
“สีฟ้าหมดเลย..?”
“ฟังดูแปลกเนอะ?”
“เอาต่อเลยค่ะ เรื่องราวแบบนี้แหละที่ฉันอยากได้ยินเลยสร้างโปรเจ็คนี้ขึ้นมา!”
“ในประเทศญี่ปุ่นมีคำๆเดียวที่บ่งบอกว่าคือสีฟ้า แต่ในประเทศรัชเซียมีถึงสองคำที่เอาไว้บอกว่านี่คือสีฟ้า ฟังดูแปลกพอแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่คนรัสเซียสามารถแยกออกได้ว่าอันไหนคือ ‘ สีฟ้า’ ”
“สุดยอดไปเลยละค่ะ นั่นแปลว่าการรับรู้เองก็เปลี่ยนไปตามภาษาที่ใช้เองสินะคะเนี่ย”
ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ?
ไม่รู้อ่ะ แต่มันก็จริงน้า
“อย่างเช่นก็ภาษากูกูยูทีเมียร์ที่มักจะใช้กันในประเทศออสเตรเลีย มันไม่มีคำศัพท์ที่เอาไว้บอกนะคะว่านี่คือด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย ด้านขวา แต่จะบอกด้วยทิศแทนเช่นทิศเหนือ ใต้ ออก ตก อะไรอย่างงั้นราวกับว่าทุกคนมีความสามารถพิเศษกันหมดเลยล่ะค่ะ ”
“เป็นอย่างที่บอกเลยล่ะค่ะ ปกติผมจะบอกเอาจากทิศทางของพระอาทิตย์แต่ผมก็ทำไม่ได้แบบนั้นเหมือนกัน ในภาษาอื่นการบอกจำนวนสิ่งของก็เหมือนว่าจะไม่ได้ใช้เป็นพวกตัวเลขล่ะค่ะ อย่างเช่น ของมีสามสี่ชิ้นเองก็ยังคงแยกออก แต่ถ้าเริ่มไปถึง ห้าหกชิ้น ก็เริ่มไม่รู้แล้วว่าของมีกี่ชิ้นกันแน่”
“อยู่กันได้ยังไงกันค่ะเนี่ย..!?”
“มันก็เป็นเรื่องของพวกชนชั้นในสังคมนั่นแหละค่ะ แต่เอาจริงๆในทีแรก ตอนเป็นทารกเองก็นับสิ่งของได้มากสุดไม่เกิน 3 นะคะทั้งผม คุณ หรือคนอื่นๆ”
>เด็กท่ีทารกนับได้ถึง 3..?
>นี่นายฉลาดขนาดนั้นเลยหรอ อาชิชิ?
>รู้ได้ยังไงหรอ?
>เพราะว่าทารกจะมีพฤติกรรมที่จะจ้องไปยังสิ่งที่พวกเขามองเห็นเป็นครั้งแรก และสำรวจมันไง
“ในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่าฉันจะใช้ภาษาอื่นได้ขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถรู้ได้หมดถ้าฉันยังไม่รู้สิ่งที่เรียกว่าคุณสมบัติ ทำให้ตอนนี้ก็ยังคงมีแค่ภาษาญี่ปุ่นที่ฉันเชี่ยวชาญจริงๆ”
“นั่นคือความหมายของคุณสมบัติในตอนแรกสินะคะเนี่ย..”
“ก็ตามที่บอกไปนั่นแหละค่ะ”
มันเป็นเพราะเรื่องของภาษาตรงๆ หรือ เป็นการจดจำมากกว่านะ?
ให้อธิบายเพิ่มก็คงเป็น ในแต่ละภาษาจะมีความชัดของแต่ล่ะอย่างอยู่
อย่างเช่นสีดำและสีขาว
อันนี้ขาวเท่าไหร่ อันนี้ดำแค่ไหน
หรือว่าอยู่ตรงกลางกันนะ ?
ไม่สิ ไม่ใช่ว่าตรงกลางคือสีเทาหรอกหรอ?
“อือๆ สุดยอดไปเลยล่ะค่ะบางทีที่ฉันเปลี่ยนภาษาที่ใช้พูดเองก็มีบางครั้งเหมือนกัน ที่ต้องรู้จักวัฒนธรรมของที่นั่นและคุณค่าของสิ่งต่างๆของประเทศนั้น เลยจะเข้าใจตัวของภาษาจริงๆ แล้วก็เป็นตามที่เราคิดเลยล่ะค่ะ ว่าอิโรฮะจังเป็นคนที่พิเศษจริงๆด้วย ”
“มันเหมือนว่าอิโรฮะจังจะมีแค่ ‘ คุณสมบัติ ‘ ของคนญี่ปุ่นราวกับว่าพูดทุกภาษาเหมือนกับภาษาญี่ปุ่นอะไรอย่างงั้น”
คำถามนั้นทำให้ลมหายใจของฉันหายไปช่วงหนึ่ง
และตรงจุดนั้นก็เหมือนจะเป็นจุดที่ฉันกำลังเล็งไว้อยู่
“อย่างเช่นตอนที่พูดแต่ละภาษา ปกติก็จะต้อง ‘ สลับสมอง’ จะพูดยังไงดีล่ะ แต่สำหรับอิโรฮะจังจะไม่ได้เป็นแบบนั้น”
อย่างเช่นตอนที่คนญี่ปุ่นพูดภาษาอังกฤษเองด้วย มันจะดูเหมือนว่าตอนพูดเป็นคนที่มีอารมณ์สูงและดูร่าเริงแบบนั้นหรือเปล่านะ
น่าจะหมายถึงงี้แหละน้า ตอนที่โดนพูดถึงทีแรกหัวใจแทบจะวายเลยล่ะค่ะ
ว่าแต่ภาษาทีฉันคิดเพื่อพูดนี่มันคือภาษาอะไรกันนะ เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้
ในเร็วนี้ๆ..?
* * *
และแล้วเวลาได้ผ่านพ้นไป ทั้งฤดูใบไม้ผลิที่จบลง และหน้าหนาวที่เข้ามาเยือน
ฮาโลวีนเอย คริสมาสต์เอย งานปีใหม่อีฟเอย หรือ แม้แต่วันขึ้นปีใหม่
ภายในไม่กี่เดือนเกิดอะไรขึ้นเยอะ และ ผ่านไปไวจริงๆ
และแล้วในที่สุดก็ถึงเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งการต่อสู้ได้มาถึง
ที่ไม่ได้แปลว่าวันวาเลนไทน์ แต่แปลว่า วันสอบเข้าต่อม.ต้นยังไงล่ะคะ!!!
–
คุยกับคนแปลซักหน่อย ตอนนี้เป็นตอนที่แปลได้ยากมากสำหรับผม บางทีอาจจะมีบางช่วงที่ไม่ค่อยเชื่อมต่อกัน ต้องขอโทษกันจริงๆครับ เดียวมาเกลาตอนนี้ให้เป็นพิเศษเลย >w<
โดเนทได้ที่ 1532747585 กสิกร คชภัค
การที่คุณโดเนทผมสิ่งที่คุณจะได้ – ความรักจากผม
ขอบคุณครับ
*นั่งชงกาแฟ*