ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ - ตอนที่ 29 นักเรียนแลกเปลี่ยนและเพื่อนร่วมห้อง
ในตอนนี้
<> = ภาษายูเครนนะครับ <3
“แล้วนี่รู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นใคร..?”
“ฉันก็ไม่รู้เดซุ”
“งั้นคงต้องเลี่ยงเธอไปก่อน ผมเองก็คุยกับเธอไม่รู้เรื่องด้วย”
ในห้องของนักเรียนประถม
ระยะห่างระหว่างเด็กยูเครนที่ย้ายมากับเพื่อนๆในห้องมันค่อนข้างมาก
หรือจะให้พูดเองก็คงเป็นกำแพงของภาษามากกว่า
แถมปัจจุบันนี้เองรัสเซียก็บุกเข้ายูเครนอีก
สถานการณ์ตอนนี้มันไม่คงที่เลย
เพราะงั้นเธอเลยถูกย้ายมาจากยูเครนด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าญาติๆแน่
และก็เพราะว่าสถานการณ์มันปุบปับ ภาษาญี่ปุ่นของเธอในตอนนี้ยังไม่สามารถใช้สื่อสารกับใครได้
“นี่อิโรฮะจัง.. ทำอะไรซักอย่างหน่อยไม่ได้หรอ?”
“มือถือ”
“แต่คุณครูไม่ให้ใช้ ไม่ใช่หรอ?”
มันก็คงจะง่ายขึ้นมากถ้าได้ใช้แอปแปลภาษา แต่น่าเสียดายยยยกฎของโรงเรียนไม่ให้ใช้อะสิ
แต่แล้วคุณครูก็มาบอกกับฉันว่า “เธอสามารถใช้มันได้นะ”
“ฉันเดาว่า.. ให้ใช้แค่ในการคุยกัน”
แล้วพอทุกคนรู้ว่าสามารถใช้ได้ พวกเขาก็ใช้กันอย่างสนุกสนาน
ไมหันไปมองที่นักเรียนใหม่บ่อยๆและสีหน้าของเธอมันก็กระตุก
ฉันไม่เข้าไปช่วยอยู่แล้ว เธอก็รู้นี่!
เพราะฉันจะไม่เอาเวลาอันแสนมีค่าของฉันไปทำเรื่องอื่นแล้ว! ฉันจะดูแต่วีทูบเบอร์ และไม่เอาคอของฉันไปสร้างปัญหาเพิ่มที่ไหนอีก!
เพราะมันจริงยิ่งกว่าจริงไงเล่า เจอปัญหาแทบตลอด ;w;
* * *
“ในตอนนี้เทอมใหม่ของฉันก็ได้เริ่มแล้ว และก็เงินก้อนแรกก็ได้รับมาแล้วเช่นกันเย้! ขอบคุณทุกๆคนมากเลยน้าา”
>เทอมใหม่ !
>ดีใจด้วยจ้า!
>ในที่สุดเธอก็มีเงินไปสมัครสมาชิกเนอะ
“ช่ายย ฉันคิดถึงวันเก่าๆที่มีเงินจ่ายพรีเมี่ยมด้วย และตอนนี้ฉันก็ชนะแล้วฮ่าๆ ตอนนี้ฉันเก่งที่สุด!”
>ระวังการใช้เงินด้วยนะ มีเงินเยอะเกินระวังหมดตัวเร็วน้าา
>ระวังภาษีด้วย (1)
>ระวังภาษี (2)
“พี่อาเนะแนะนำนักภาษีให้ฉันรู้จักแล้วล่ะ เพราะงั้นไม่เป็นอะไรหรอก!”
>อาเนโกะเก่งขนาดนี้เลยหรอเนี่ย?
>ได้เงินทั้งหมดเท่าไหร่หรออ www?
>จะเอาเงินไปใช้ทำอะไรหรอ?
“ถ้าถามว่าจะใช้กับอะไรหรอ.. อย่างแรกก็คงเป็นเมมเบอร์ชิพ และฉันเองก็ยังที่จะคุยกับทุกๆคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ซักหน่อย เพราะฉันจะเอาเงินนี้ไปใช้ในการสอบน่ะ”
>เยี่ยมมาก
>สรุปเธอเองก็เลือกที่จะสอบสินะ
>มันเป็นเงินของอิโรฮะจังนี่ เพราะงั้นใช้ตามที่อยากใช้ได้เลย”
>แต่มันจะแย่เอานะ ถ้าอิโรฮะจังป่วยอีกขึ้นมา
>ผมอยากให้อิโรฮะจังพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ
>ทำไมการเป็นเมมเบอร์ถึงเป็นเรื่องแรก แล้ว สอบ เป็นเรื่องที่สองล่ะwwww
“หาา มันก็เพราะว่าพวกนายทุกคนให้เงินฉันมา ฉันเองก็ต้องตอบแทนอุตสหกรรมนี้ไงล่ะด้วยเงินจากอุตสหกรรมวีทูบเบอร์ ใช่ไหมล่ะ!” [เงินเข้าและเงินออกแบบวนลูบ]
>LOL
>อืมๆ ธุรกิจจริงๆ!
>อิโรฮะจัง ปกติแล้วเธอจะใช้เงินแบบคงที่ตลอดแต่ผมกลัวว่าเธอจะติดนิสัยใช้เงินสิ้นเปลืองเอา
การเปิดภาคเรียนใหม่เป็นสิ่งที่ดีเลยล่ะสำหรับวีทูบเบอร์
เพราะฉันเองก็จะได้มีเวลาในการดูวีดีโอสำหรับเมมเบอร์ชิพ และทุกๆอย่างเองก็ผ่านไปได้ดี(?)
>อิโรฮะจัง ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างหรอ?
และในเวลานั้น ก็มีคอมเม้นหนึ่งที่เตะตาฉันขึ้นมา
ฉันรู้สึกเหมือนถูกตีที่หัวด้านขวา
อ่ะ ใช่ ฉันรู้เหตุผลล่ะ
ความรู้สึกของไม กับ เด็กนักเรียนที่พึ่งย้ายเข้ามา
หลังจากที่ปิดสตรีมลง ฉันก็ได้เอาเคอร์เซอร์เมาส์ไปที่ช่องค้นหา
มันไม่ใช่เพราะเธอหรอกนะ
ฉันวางแผนที่จะเรียนสิ่งต่างๆเกี่ยวกับยูเครนอยู่แล้วล่ะ (ภาษายูเครน)
เพราะงั้นนี่จึงเป็นแค่การเร่งตารางที่ฉันคิดไว้แค่นั้นเอง
จริงๆนะ เชื่อฉันสิ
* * *
–หลายวันได้ผ่านไป
ฉันเดินเข้าห้องเรียนด้วยขาที่ไม่มีแรง
ฉันทั้งรู้สึกง่วง เหนื่อย และเหมือนอยู่ที่ขอบของหน้าผา มันยากสุดๆเลยล่ะ..
ฉันรู้สึกว่าราวกับสมองของฉันในตอนนี้มันกำลังป่วยอยู่
ฉันใช้เวลาไปหลายวันไปกับภาษานี้
มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เรียนภาษาหนึ่งด้วยสมาธิสูงสุดและระยะเวลาที่น้อย
ฉันต้องการข้อมูลเข้าเพื่อใช้ความสามารถสุดโกงของฉันนั่นแหละ
เพราะงั้นแหละการเรียนรู้ภาษาใดภาษาหนึ่งมันใช้เวลาเยอะอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเก่งได้เร็วแค่ไหน
และนั่นก็เป็นความสำคัญของการจัดลำดับ
ฉันเริ่มเรียนรู้ภาษาตามลำดับของจำนวนวีทูบเบอร์ของภาษานั้นนั่นแหละนะ
“อรุณสวัสดิ์..”
ประตูของห้องเรียนได้ถูกเปิดขึ้นพร้อมกับเสียงอันแสนเหนื่อย
เมื่อมองไปที่รอบๆห้อง ในตอนนี้ก็มีนักเรียนหลายๆคนมาถึงโรงเรียนแล้ว
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีใครซักคนรอบๆตัวของเด็กที่ย้ายเข้ามาใหม่
เธอนั่งอยู่ตัวคนเดียว ราวกับมีบาเรียกั้นอยู่รอบๆตัว
“เธอติดหนี้ฉันล่ะนะ”
ฉันพูดมันกับไมที่อยู่ในจินตนการ
และฉันจะเอาไปบ่นให้คุณครูโฮมรูมฟังทีหลังด้วย
ฉันอยากที่จะดูพวกวีดีโอของวีทูบเบอร์และสตรีมด้วยหัวใจที่ไม่มีอะไรมาติดขัด
ฉันไม่สามารถสนุกกับมันได้หรอกนะ ถ้าฉันยังเป็นห่วงเรื่องนี้
ฉันเลยเดินไปหาเด็กที่เข้ามาใหม่
เด็กนักเรียนที่ย้ายเข้ามาต้องรู้แล้วแน่ๆว่าฉันจะเข้ามาทักเธอ เพราะเธอได้เงยหน้าขึ้นมา
<หืม…?>
“สาาวัส ดี!”
เสียงดังได้เรียกเด็กที่มาใหม่นั้นได้กระทบเข้ากับหูของฉันและราวกับมันกำลังขัดฉันอยู่
เธอไม่ได้จ้องมองมาที่ฉัน แต่จ้องไปที่คนที่กระโดดไปมาอยู่ด้านหน้าของเธอ
เขาเป็นผู้ชาย และเป็นเพื่อนร่วมห้อง
ในมือของเขาถือสมุดไว้อยู่
และด้านหลังของผู้ชายคนนั้นก็เป็นเด็กอีกหลายคน
หลังจากที่มีคนเปิดแล้ว พวกเขาก็พูด <อรุณสวัสดิ์> เป็นภาษายูเครนกัน
และพวกเขาก็จ้องไปที่สมุดที่เอามา และพยายามพูดคำที่ได้จดเอาไว้ทั้ง
<ฉันอยากเป็นเพื่อนกับคุณ>
<สอนภาษายูเครนหน่อยสิ>
<ฉันจะสอนภาษาญี่ปุ่นเอง>
และอื่นๆ
ฉันตกใจที่เห็นพวกเขาทำอย่างนั้น และรู้สึกถึงความพ่ายแพ้
“…ฮ่าๆ นี่ฉันทำอะไรอยู่เนี่ย..?”
ฉันรู้สึกรังเกียจตัวเองหน่อยๆที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษให้เก่งกว่าคนอื่น..
ทั้งฉันยังผิดหวังกับตัวเองที่ใช้ความสามารถพิเศษและคิดที่จะช่วยเธอแบบเท่ๆอีก.
สิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้เลยคือฉันจะไม่พัฒนาภาษายูเครนตอนนี้ล่ะ
ตอนแรกฉันต้องการที่จะพูดภาษายูเครนกับเธอ ถึงแม้มันยังจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ต้องเสี่ยงล่ะนะ
<มาเป็นเพื่อนกันเถอะ!>
ฉันต้องพูดกับเธอเหมือนที่เธอพูดกับฉัน
ดูสิ ไอเดียโครตฉลาด สมกับเป็นเด็กประถมจริงๆ
“ขอบคุณนะ”
นักเรียนแลกเปลี่ยนคนนั้นได้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่เหมือนจะทำให้ฉันร้องไห้
พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์
ฉันเดินไปที่กระเป๋านักเรียนของตัวเองและเอากระดาษที่ฉันปริ้นไว้ออกมา
ฉันเดินไปที่เหล่าหนุ่มๆ
“นี่ฉันให้”
“นี่มันอะไรหรอ อิโรฮะ?”
“ใช้ในตอนที่ต้องการจะใช้นะ”
<แล้วก็นี่ฉันให้เธอด้วย>
<อะไรนะคะ..>
ฉันยื่นไปให้เธอ มันเป็นกระดาษปริ้นของพวกบทสนทาระหว่างภาษาญี่ปุ่น และ ยูเครนที่ฉันปริ้นเอาไว้
ในนั้นฉันได้สร้างประโยคที้ใช้บ่อยในโรงเรียน โดยพยายามใช้คำที่เข้าใจง่ายที่สุด
“เธอพูดยูเครนได้ด้วยนี่..!”
“ฉันเรียนมาหน่ะ ถ้ามีปัญหาล่ะก็เรียกฉันได้เลย เดียวฉันสอนเอง”
ฉันบอกไปแบบเดียวกันกับเด็กนักเรียนที่ย้ายเข้ามา
นักเรียนที่ย้ายมาใหม่กลอกตาไปมาราวกับสติหลุดไปแล้ว และเพื่อนๆในห้องก็มองมาที่ฉันด้วยสายตาสงสัยอะไรบางอย่าง
ฉันสงสัยว่าพวกเขาจะรู้ตัวไหมนะ
เมื่อฉันคิดอย่างนั้น เด็กผู้ชายที่คุยตอนแรกก็พูดกับฉัน
“อ่ะ เอ่อ.. ขอบคุณนะ ถึงแม้เธอจะดูแปลกๆไปบ้างมันเลยทำให้ฉันมีอคตินิดหน่อย”
“จ้าๆ”
และเพื่อนในห้องก็พูดกับฉันแบบ
“เธอเรียนภาษายูเครนด้วยหรอ!”
“สุดยอด!”
“สอนฉันด้วยสิ”
แล้วฉันก็ถูกล้อมรอบด้วยเพื่อนร่วมห้อง
ทำไมถึงเปลี่ยนการเร็วจังล่ะ..?
ไม่สิ ฉันคิดแบบนั้นไม่ได้
เพราะในตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าตั้งแต่แรก
–ในโลกของเหล่าเด็กๆนั้น ไม่มีตัวกั้นถึงมันจะเป็นสัญชาติหรืออายุ พวกเขาก็จะหาทางเข้าหากันเสมอ
“ขอบคุณนะอิโรฮะ!”
ไมได้เดินเข้ามาหาฉันและฉันเองก็ตอบกลับไป
“รู้แล้วล่ะ”
ฉันรู้สึกเขินเล็กๆ เลยเกาแก้มของตัวเองและพูดเพิ่มไปว่า
“เงียบน่า”
* * *
และฉันก็เล่าเรื่องราวนี้ลงไปในสตรีมของฉัน
และพวกช่องแชทเองก็ล้วนแต่บอกว่า
>ฉันเองก็อยากเรียนภาษายูเครนเหมือนกันนะ
และในนั้นก็มีหลายๆคนได้บอกกับฉันว่ามีบางคนที่ต้องอพยพออกจากยูเครนเพื่อไปหางานเลยก็มี
และในตอนที่ฉันรู้ตัว ดูเหมือนคนในประเทศยูเครนดูจะคุ้นเคยกับฉันอย่างหน้าประหลาด
ด้วยการที่เห็นการตอบสนองของเหล่าช่องแชทที่ฉันไม่ได้คาดคิด ฉันเลยตัดสินใจจะลองพูดเป็นภาษายูเครนดู แล้วพูดว่า
“แหมม ก็ฉันอยู่ที่นี่ทั้งที ทำไมจะไม่ล่ะ?”
ซึ่งการตอบสนองก็ดูดีอย่างมาก
และหลายๆคนที่ปกติแล้วไม่ได้ดูวีทูบเบอร์เองก็เข้ามาดูด้วย
นั่นเลยเป็นครั้งแรกที่สตรีมของฉันโตขึ้นขนาดนี้ และไม่ใช่การคอแลปหรือตัดเป็นคริปแต่เป็นทั้งไลฟ์
ฉันรู้สึกว่าในตอนนี้ฉันมีไอเดียที่ดีสุดๆ กับสิ่งที่ฉันจะทำในฐานะวีทูบเบอร์แล้วล่ะ
* * *
แล้วก็นะ
วันต่อมา คุณครูโฮมรูมของฉันได้เอากระดาษปริ้นที่คล้ายๆกับของฉัน เอามาให้ฉัน
และคุณครูก็ได้พูดออกมา
“เดียวนะ มีแล้วหรอ.. แถมยังดีกว่าของที่ครูทำอีก!”
ฉันงงไปแปปนึง..
ช้าเกินไปแล้วค่าาาาาาาาาาาาาาา!