หยวนชิงหลิงมองดูซุนอ๋องที่กำลังลดน้ำหนักรับประทานอาหารจนเรียบราวกับพายุหอบเศษปุยเมฆไป ขนมสองจาน ซี่โครงแกะย่างหนึ่งจาน แล้วยังมีเมนูผัดอีกสองจาน ข้าวสวยหนึ่งชาม เขากินจนไม่เหลือแม้แต่น้ำ
"ถ้าพี่รองยังไม่อิ่ม ข้าจะให้คนทำอะไรมาอีก" หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าเขายังคงมองจานเปล่าอย่างโหยหาราวกับยังไม่อิ่มนัก
ซุนอ๋องมองนางอย่างเคร่งขรึม "ไม่ล่ะ ข้าต้องการลดน้ำหนัก เจ้าจะทำร้ายข้าเช่นนี้ไม่ได้"
หยวนชิงหลิงรู้สึกจนปัญญา ผู้ที่บอกว่าจะลดน้ำหนักมาหานางเพื่อทานอาหารมื้อใหญ่แล้วบอกว่านางทำร้ายเขา
"ถ้าอย่างนั้นพี่รองก็อย่ากินอีกเลย" หยวนชิงหลิงเพียงแต่พูดได้เท่านี้
ซุนอ๋องค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างเศร้าสร้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง "ไม่ใช่แค่กินขนมไปสองชิ้นเองหรือ? เหตุใดเจ้าต้องขี้เหนียวถึงเพียงนี้?"
"ไม่ใช่…" หยวนชิงหลิงมองดูใบหน้าอ้วนพีอันโกรธเกรี้ยวของเขา นางลดไหล่ลงและพูดอย่างจนปัญญา "ข้าหมายความว่าวันนี้พี่รองกินเยอะแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกินอีก"
"พรุ่งนี้จะทำขนมอะไรหรือ?" ซุนอ๋องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปากที่มันเยิ้มด้วยท่าทางของผู้ดี เขาถามอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในสายตากลับมีความคาดหวังอย่างชัดเจน
"พี่รองอยากกินอะไรก็จะให้พ่อครัวทำสิ่งนั้น" นางพ่ายแพ้แก่เขาแล้ว
"แค่ทำอะไรง่ายๆ ก็พอ" ซุนอ๋องหลุบตาลง เขาล้วงเข้าไปควานหาของในแขนเสื้อแล้วจึงดึงกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง "จะว่าไปแล้วก็บังเอิญนัก อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันเกิดของข้า พระชายาบอกว่าเพื่อฉลองวันเกิดของข้าจึงได้ทำรายการอาหารเป็นพิเศษ มิสู้ให้ห้องเครื่องทำตามนี้ก็แล้วกัน ข้าจะได้ลองชิมรสชาติ จะได้ไม่เป็นการเสียมารยาทต่อแขกเมื่อถึงยามนั้น ไม่ต้องทำปริมาณมากนัก ข้าลดน้ำหนักอยู่ คงกินมากไม่ไหว"
รายการอาหารนั้นวางอยู่บนโต๊ะ หยวนชิงหลิงจึงรับมาดู นางนับเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ตาค้างลิ้นแข็งพูดไม่ออก "งานเลี้ยงวันเกิดของพี่รองมีอาหารสามสิบแปดรายการ?"
"ถึงแม้ว่าจะฟุ่มเฟือยไปเล็กน้อย แต่ไปประหยัดตรงอื่นเอาก็แล้วกัน ไม่ต้องมีคณะละครก็ได้ แต่เรื่องอาหารจะให้แขกกินของไม่ดีไม่ได้เด็ดขาด" ซุนอ๋องกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"อย่างไรพรุ่งนี้ก็ทำอาหารสามสิบแปดจานไม่ได้หรอก" หยวนชิงหลิงรู้สึกลำบากแทนพ่อครัวในห้องเครื่อง
"พรุ่งนี้ทำเพียงสามอย่างก็พอ วันมะรืนก็อีกสามอย่าง อย่างนี้ไปเรื่อยๆ สิบกว่าวันก็ทำเสร็จ"
"เช่นนั้นจะไม่เลยงานเลี้ยงวันเกิดไปแล้วหรือเพคะ?"
"เลื่อนออกไป!" คำพูดนั้นกระชับและรัดกุม
คนเห็นแก่กินก็มักจะหาเหตุผลในการกินได้เสมอ! นางเกือบจะแน่ใจว่าที่ซุนอ๋องมาเยี่ยมนางก็เพราะฝ่าบาทส่งพ่อครัวหลวงมาให้นางที่จวนสองคน นางพิสูจน์ได้แล้วว่าเป็นเช่นนั้นจริง ยามเมื่อเขาจากไปก็ไม่ได้ไถ่ถามอาการบาดเจ็บของหยวนชิงหลิงแม้แต่น้อย
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น คู่สามีภรรยาจี้อ๋องและฉีอ๋องก็มาพร้อมกัน
ตอนนี้ทางการกำหนดให้มีวันหยุดงานทุกสิบวัน ดังนั้นวันนี้อวี่เหวินฮ่าวจึงไม่ได้ไปทำงานและกำลังพูดคุยกับฉีอ๋องและจี้อ๋องอยู่ในห้องโถงใหญ่ ในขณะที่พระชายาจี้อ๋องและฉู่หมิงฉุ่ยมาสนทนากับหยวนชิงหลิงที่หอเฟิ่งอี๋ วันนี้ฉู่หมิงฉุ่ยสวมชุดแพรต่วนสีเขียวขี้ม้าปักลายผีเสื้อบนกิ่งดอกเหมย เกล้าผมเป็นมวยทรงสูงประดับด้วยปิ่นลายเมฆและไม่มีสิ่งประดับเพิ่มเติมใดๆ อีก แต่นางกลับดูสดชื่น อ่อนหวานและมีเสน่ห์ยิ่งนัก หน้าตาของนางโดดเด่น แต้มชาดจางๆ ปากเป็นสีชมพูระเรื่อชุ่มชื้นราวน้ำผึ้ง คิ้วสวยเฉียงขึ้นเล็กน้อย ในความมีเสน่ห์นั้นแฝงไปด้วยความดุดันเล็กน้อย
เมื่อกลับมาดูพระชายาจี้อ๋อง นางสวมชุดผ้าแพรต่วนสีเขียวมรกตลายดอกไม้ เกล้ามวยสูง ประดับด้วยปิ่นไหวทอง นางหน้าตาธรรมดาแต่กลับมีความสง่างาม ตรงหว่างคิ้วมีไฝอยู่เม็ดหนึ่ง นางมาจากตระกูลขุนนาง มีความรู้เพียบพร้อม เมื่อยืนอยู่กับฉู่หมิงฉุ่ยนางกลับไม่รู้สึกว่าถูกรัศมีของฉู่หมิงฉุ่ยกลบแต่อย่างใด แต่กลับยิ่งดูใจดี
ในทางตรงกันข้าม ใบหน้าของหยวนชิงหลิงซีดเขียว นางสวมเสื้อคลุมสีแดงเข้มที่ดูเก่าเล็กน้อย ผมของนางถูกรวบขึ้นอย่างลวกๆ ริมฝีปากของนางก็ทาชาดอย่างรีบร้อน ทำให้ยากต่อการซ่อนสีหน้าซีดเซียวของนาง
พระชายาจี้อ๋องมองดูนางด้วยสีหน้าตื่นตระหนก "ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าฮุ่ยติ่งโหวจะกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ แม้แต่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิก็กล้าทำชั่ว ครั้งนี้เจ้าคงตกใจกลัวมากกระมัง?"
"ยังดีเพคะ ขอขอบพระทัยสำหรับความห่วงใยเพคะ" หยวนชิงหลิงไม่คุ้นเคยกับนาง ไม่รู้จริงๆ ว่านางเป็นคนอย่างไร ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงตอบอย่างสุภาพเท่านั้น
เมื่อฉู่หมิงฉุ่ยได้ยินคำพูดของพระชายาจี้อ๋อง ในใจนางก็ไม่พอใจเล็กน้อย แม้ว่าฮุ่ยติ่งโหวจะเป็นผู้ก่อเรื่อง แต่เมื่อพูดต่อหน้านางก็ดูเหมือนจงใจเล็กน้อย นางไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่หยวนชิงหลิงเท่านั้น
ทั้งสองคนเคยมีความแค้นระหว่างกันมาก่อน ตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำ เป็นเพราะฉีอ๋องต้องการจะมา ดังนั้นนางจึงมาคอยคุมเขา เพราะเขาเป็นผู้ที่มักสับสน
พระชายาจี้อ๋องเป็นมิตรอย่างมาก "ข้าได้ยินมาว่าเสด็จพ่อส่งพ่อครัวหลวงมาที่จวนสองคน เช่นนั้นวันนี้เรารับประทานอาหารร่วมกันดีหรือไม่? พวกเราเหล่าสะใภ้ก็ไม่ได้นั่งสนทนากันมานานแล้ว"
หยวนชิงหลิงพยักหน้า "ดีเพคะ!"
เดิมทีทั้งสามคนไม่มีอะไรจะพูดกันมากนัก แต่พระชายาจี้อ๋องช่างสามารถสรรหาเรื่องมาพูดคุยและไม่ยอมปล่อยให้บรรยากาศเงียบเหงาลง นางถามนั่นถามนี่หยวนชิงหลิงทั้งเรื่องนอกจวนและในจวน แม้กระทั่งเรื่องการปรนนิบัติรับใช้ไท่ซั่งหวงก็ถามถึงเช่นกัน
"ไท่ซั่งหวงทรงโปรดอะไรหรือ? ตอนที่เจ้าอยู่ที่ตำหนักเฉียนคุน ไท่ซั่งหวงเอาใจยากหรือไม่?" หยวนชิงหลิงเริ่มระมัดระวังตัวขึ้น นางยิ้มตอบ "ข้าเพียงคอยรับใช้เฉพาะตอนที่พระองค์เสวยพระโอสถ เรื่องอื่นๆ ไม่ได้ทำ ยามปกติไท่ซั่งหวงก็ไม่ได้คุยกับข้านัก แต่พระองค์ก็ไม่ได้เอาใจยาก"
"จริงเหรอ? แต่ข้าได้ยินมาว่าพระองค์ให้เจ้าเดินเล่นเป็นเพื่อนเขาในอุทยานหลวงด้วย" พระชายาจี้อ๋องยิ้มบางๆ
"มีเรื่องเช่นนี้จริงเพคะ" หยวนชิงหลิงกล่าว แต่การออกไปเดินเล่นกับไท่ซั่งหวงได้ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมาก ช่างเป็นการได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝันจนน่าประหลาดใจนัก
ทำไมซุนอ๋องจอมตะกละยังไม่มาอีก?
"ไท่ซั่งหวงช่างเชื่อใจเจ้านัก พระองค์ไม่ได้ไปที่อุทยานหลวงมานานแล้ว ครั้งนี้เขาต้องการให้เจ้าไปกับเขา ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเกลี้ยกล่อมเขาใช่ไหม?" พระชายาจี้อ๋องถามอย่างกระตือรือร้น
รอยยิ้มของหยวนชิงหลิงแข็งทื่อเล็กน้อย "วันนั้นไท่ซั่งหวงอารมณ์ดีมาก"
"แสดงว่าเจ้าทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม" พระชายาจี้อ๋องชมไม่หยุด
ซุนอ๋องจอมตะกละจะมาหรือไม่มากันแน่?
ฉู่หมิงฉุ่ยก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กระวนกระวายอยู่ไม่สุขดังเหมือนกับหยวนชิงหลิง นางไม่อยากฟังเรื่องเหล่านี้เลยสักนิด เรื่องเช่นนี้ฟังๆ ไปพอประมาณก็พอแล้ว จะต้องถามหยวนชิงหลิงแบบนี้ไปทำไม? ถามเช่นนี้ไม่ยิ่งทำให้นางรู้สึกหยิ่งหรือ? พระชายาจี้อ๋องนี่ช่างแทรกซึมไปได้เสียทุกที่จริงๆ
นางเพียงแค่ยืนขึ้นแล้วพูดว่า "ไปเดินเล่นกันสักหน่อยเถอะ"
หยวนชิงหลิงยืนขึ้นทันที "ตกลง!"
พระชายาจี้อ๋องก้าวเข้ามาประคองแขนของหยวนชิงหลิง "เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ เดินระวังหน่อย"
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี มนุษย์นั้นไม่อาจดูแค่เพียงภายนอกจริงๆ พระชายาจี้อ๋องสง่างามหนักแน่น แต่บางเรื่องก็ออกจะไม่ถือตัวไปสักหน่อย ดูเหมือนว่าการออกไปเดินเล่นนั้นก็คงไม่สงบสุขนัก
แต่ทว่าซีมามาเชี่ยวชาญในการสังเกตผู้คน เมื่อเห็นว่าหยวนชิงหลิงไม่อยากเสแสร้งต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง นางจึงก้าวเข้ามา "พระชายา ถึงเวลาต้องให้หมอหลวงเปลี่ยนยาแล้วเพคะ"
หยวนชิงหลิงเอ่ยขอโทษต่อพระชายาจี้อ๋อง "ต้องขออภัยจริงๆ เพคะ ข้าคงต้องขอตัวสักครู่ อีกครู่พบกันที่โต๊ะอาหารนะเพคะ"
"เปลี่ยนยางั้นหรือ?" เดิมพระชายาจี้อ๋องคิดจะไปช่วย แต่เมื่อคิดว่าจะได้เห็นบาดแผลที่เปื้อนเลือดแล้วก็ให้รู้สึกน่าขยะแขยงนัก นางจึงเพียงเอ่ยว่า "ตกลง แล้วเจอกัน"
ฉู่หมิงฉุ่ยออกไปแล้ว สนทนากับหญิงสองคนนี้ช่างน่าเบื่อจริงๆ ใจของนางบินไปอยู่ที่ห้องโถงใหญ่แล้ว เขาอยู่ที่นั่น นางไม่ได้พบเขามาหลายวันแล้ว ตอนที่เข้ามาในจวนก็เพียงได้เห็นเขาอยู่ไกลๆ เท่านั้น ยังไม่ทันได้เอ่ยทักทายก็ถูกพระชายาจี้อ๋องลากมาที่หอเฟิ่งอี๋เสียแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองคนจากไป หยวนชิงหลิงก็ถอนหายใจยาวและกล่าวกับซีมามาอย่างซาบซึ้ง "มามาช่วยชีวิตข้าไว้"
ซีมามาพูดอย่างราบเรียบ "พระชายาจี้อ๋องเป็นคนที่ลึกซึ้งนัก พระชายาอย่าได้มีปฏิสัมพันธ์กับนางมากนักเลยเพคะ"
หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "นางเป็นคนลึกซึ้งหรือ? ข้าไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย ข้าคิดว่านางออกจะเหลาะแหละเสียด้วยซ้ำ"
ซีมามาหัวเราะเยาะ "เหลาะแหละงั้นหรือเพคะ? นั่นเป็นสิ่งที่นางแสร้งทำต่างหาก"
หยวนชิงหลิงอึ้งไป "แสร้งทำงั้นหรือ? เหตุใดจึงต้องแสร้งทำด้วย?"
"ผู้คนย่อมมีเกราะป้องกันตนเอง" นางรินชาให้หยวนชิงหลิงแล้วนั่งลงและเอ่ยว่า "พระชายาฉีอ๋องหลงทะนงในตนเอง คิดว่าความฉลาดเล็กๆ น้อยๆ ของนางสามารถควบคุมได้ทุกสิ่ง นางไม่ได้เป็นภัยร้ายแรงนัก หากยืนกรานว่าต้องระมัดระวังนางก็เป็นเพียงเพราะนางเป็นคนของตระกูลฉู่เท่านั้น แต่พระชายาจี้อ๋องแตกต่างออกไป นางแตกฉานในวิชาความรู้แต่เล็ก มีความรู้ลึกซึ้ง นางเป็นผู้ที่คอยออกอุบายอยู่เบื้องหลังให้แก่จี้อ๋อง พระชายารู้หรือไม่ว่าพระชายาจี้อ๋องน่ากลัวที่สุดที่ตรงไหน?"
หยวนชิงหลิงถาม "ตรงไหนหรือ?"
"ตรงที่แม้ว่านางจะเก่งกาจมาก แต่นางก็เต็มใจที่จะแสร้งแสดงความนอบน้อมและคล้อยตาม เต็มใจที่จะยอมลดตัวลงมาหรือแม้กระทั่งฉีกหน้ากากตนเอง เช่นนี้จะทำให้ศัตรูประมาทอย่างง่ายดาย คิดว่านางเป็นคนไม่มีพิษภัย เมื่อครู่พระชายาก็ยังคิดเช่นนี้มิใช่หรือเพคะ?"
หยวนชิงหลิงตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางยิ้มอย่างขมขื่น "เช่นนั้นในบรรดาพระชายาของท่านอ๋องทั้งหลาย จะไม่มีผู้ที่จริงใจเลยหรือ?"
"นั่นก็ไม่จริง พระชายาของซุนอ๋องไม่เลวนัก แต่นางค่อนข้างหยิ่ง หากคุ้นเคยแล้วก็ไม่มีอะไรเพคะ"
ซุนอ๋องจอมตะกละ คิดว่าเขาก็คงไม่แต่งงานกับหญิงเจ้าเล่ห์เป็นแน่
กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์
MANGA DISCUSSION