ถ้าเขาไปที่จวนฮุ่ยติ่งโหวเพื่อช่วยตัวเองจะทำอย่างไร?
นำคนจำนวนมากเยี่ยงนี้ ดูเหมือนว่ากำลังจะค้นหาจวน ไม่รู้ว่ามีพระราชโองการหรือไม่ ถ้าไม่มีพระราชโองการของฝ่าบาท ค้นจวนโหวโดยไร้เหตุผล ถ้าไม่พบอะไร ฝ่าบาทต้องทรงสอบสวนอย่างแน่นอน! อวี่เหวินฮ่าวคงจะไม่บุ่มบ่ามเยี่ยงนี้ได้?
นางก็ไม่กล้าเดินตาม นางเพียงนั่งยองๆกับพื้น สงบสติอารมณ์
ไม่นานหลังจากที่หยวนชิงหลิงหนีออกมา ฮุ่ยติ่งโหวก็ฟื้นขึ้นมา ในจวนมีหมอ ตรวจอาการบาดเจ็บของเขา และส่ายหัว "เกรงว่าท่านโหวจะมิอาจมีทายาทได้อีกต่อไป"
ฮุ่ยติ่งโหวค่อยๆหลับตาลง หายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง และเมื่อข้าลืมตาพดกอีกครั้ง มันก็เป็นสีแดงก่ำแล้ว
โหดเหี้ยม กระหายเลือด และชั่วร้าย เฉกเช่นหมาจิ้งจอกที่ถูกบีบไปสู่ทางตัน ความโกรธทำให้ใบหน้าที่ซีดของเขา เผยให้เห็นรอยแดง และใบหน้าของเขาที่แทบจะบิดเบี้ยว
คนสนิทก้าวมาข้างหน้า วันนี้เขาหมดสภาพจริงๆ เสื้อผ้าของเขาถูกเหล่าสุนัขเลวกัดจนขาดเป็นหลายแห่ง แต่โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ
"ท่านโหว มีเรื่องแปลกอีกเรื่องหนึ่ง ตอนพระชายาฉู่หนีไป เหล่าสุนัขเลวทุกตัวในสนามก็เข้ามาเปิดทางให้นาง กระทั่งกัดองครักษ์ในจวนด้วย"
ฮุ่ยติ่งโหวแทบไม่อยากเชื่อเลย เหล่าสุนัขเลวยี่สิบตัวในจวน เขาเป็นคนนำพวกมันมาทั้งหมด ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ ดุร้าย และเชื่อฟังอย่างมาก และสุนัขหนึ่งตัว ก็สามารถก็สามารถรับมือคนยอดฝีมือหนึ่งคนได้
"น้ำไหลไม่มีทางย้อนกลับ ฆ่าทิ้งซะ!" ฮุ่ยติ่งโหวกัดฟัน
"ขอรับ!" คนสนิทตอบรับ "อีกเรื่อง สายตรวจรายงานมาบอกว่า ฉู่อ๋องกำลังจะมาถึงจวนโหวขอรับ"
ดวงตาของฮุ่ยติ่งโหวเผยความอาฆาต และเขาจ้องไปที่หมอและพูดว่า "พันแผลให้ข้าที ข้าคงจะต้องไปพบอวี่เหวินฮ่าวเจ้าหลานชาย"
"ท่านโหวอาการบาดเจ็บของท่านไม่สะดวก…"
ฮุ่ยติ่งโหวขัดจังหวะคำพูดของหมออย่างเย็นชา "ถ้าข้านี้ไม่ขยับ จะรักษาได้งั้นหรือ"
หมอลดศีรษะลง "เกรงว่า…มันก็ไม่ได้เหมือนกันขอรับ"
"เช่นนั้นก็มิต้องพูดให้มากความ" ฮุ่ยติ่งโหวพูดอย่างโกรธเคือง
ไม่ว่าจะเป็นอวี่เหวินฮ่าวหรือหยวนชิงหลิงเขาจะไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป และจะไม่ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ อีกทั้งต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวมาถึงประตูของจวนโหว ทุกคนต่างลงจากหลังม้า ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดูแลแขกจะออกมาต้อนรับ พวกเขาก็รีบเร่งเข้าไป
ฮุ่ยติ่งโหวนำทหารของจวนและองครักษ์ออกมา และทันทีที่เขาเห็นอวี่เหวินฮ่าว เขามุ่งมั่นที่จะทุบกระดูกของเขาให้เป็นเถ้าถ่าน ความเกลียดชังทั้งเก่าและใหม่ จะชำระบัญชีในวันนี้ให้จบ
"ท่านอ๋องพาคนจำนวนมากมาที่จวนของข้า มีคำชี้แนะอะไรหรือไหม?" ฮุ่ยติ่งโหวถามอย่างเย็นชา
อวี่เหวินฮ่าวก็มองเขาอย่างเย็นชา และเขาเกลียดฮุ่ยติ่งโหวเข้าไส้! ครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมกองทัพ เขาอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขา ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าไปในค่ายทหาร เขาไม่เคยถูกเขาเห้นคุณค่าเลย คำพูดส่วนใหญ่เป็นการเสียดสีและดูถูก โดยจงใจปกปิดความดีความชอบและปราบปรามเขา แม้กระทั่ง ยื่นจดหมายไปหลายฉบับ โดยหาว่าโลภความก้าวหน้า และใช้กำลังทหารโดยประมาท ถ้าไม่มี กองบัญชาการช่วยแก้ต่าง เกรงว่าตอนนี้คงจะยังมิอาจหลุดพ้น ต่อมาได้ต่อสู้กับเขาเพราะความโหดร้ายของเขาต่อหญิงสาว
เฉาชานจวิน(ตำแหน่งเสนาธิการทหาร)ก้าวมาข้างหน้าและโค้งมือของเขา และกล่าวว่า "มีคนเห็นท่านโหวลักพาตัวพระชายาฉู่ เกรงว่าชื่อเสียงของ ท่านโหวจะเสียหาย ท่านอ๋องจึงพาคนมาตรวจสอบ เพื่อคืนความบริสุทธิ์ของท่านโหวขอรับ"
ฮุ่ยติ่งโหวพูดอย่างโกรธเคือง "เหลวไหล ข้าไม่เคยพบพระชายาฉู่มาก่อน จะลักพาตัวมาได้อย่างไร?"
เฉาชานจวินถาม "ถ้าเช่นนั้น ขอถามท่านโหว วันนี้ท่านพาใครมาจากตลาดหรือไม่ขอรับ"
ฮุ่ยติ่งโหวกล่าวอย่างเย็นชาว่า "ไม่เคย ล้วนเป็นคำใส่ร้าย"
อวี่เหวินฮ่าวมองเขาอย่างเย็นชา "ใส่ร้ายหรือไม่ ค้นแล้วก็รู้เอง"
ฮุ่ยติ่งโหวไม่โกรธแต่กลับยิ้มออกมา แสดงฟันสีดำเหลือง แต่กลับดูเหมือนหมาป่าอ้าปาก "ท่านอ๋อง จวนของข้า ท่านจะค้นก็ค้นได้ง่ายๆเยี่ยงนี้หรือ"
"ท่านโหวกลัวว่าข้าจะค้นเจออะไรหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวจ้องมาที่เขา
ฮุ่ยติ่งโหวก็จ้องมาที่เขา และค่อยๆ เคลื่อนมาข้างหน้า ทุกย่างก้าวช่างเจ็บปวด ทั้งสองสบตากันราวกับดาบคมกริบ สายตาที่แหลมคมดั่งดาบสบไปมา ไม่ได้ลงมือ พวกเขาก็ได้สร้างสนามรบราวดาบคม
อวี่เหวินฮ่าวได้กลิ่นเลือดบนร่างกายของเขา และหัวใจของเขาก็ทรุดลงเล็กน้อย ท่าทีฮุ่ยติ่งโหวที่ดูปกติ ไม่น่าจะบาดเจ็บ แล้ว กลิ่นเลือดของใครกันนะ? หญิงอัปลักษณ์คนนั้น หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง
พอคิดเช่นนี้ เขาคิดอย่างกังวลและพูดว่า "ในวันนี้ที่ข้าระดมทหารของเจ้ากรมการพระนคร เพื่อตรวจสอบกรณีการหายตัวไปของพระชายา ขอท่านโหวให้ความร่วมมือด้วย"
ฮุ่ยติ่งโหวค่อยๆ ถอนตาที่แหลมคมของเขา ทำเสียงเชอะ "ท่านอ๋องช่างมีอำนาจเสียจริง ในเมื่อเป็นการสืบสวน ข้าไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ความร่วมมือ แต่ถ้าไม่พบในจวนโหว ข้าคงต้องทูลเสนอต่อฝ่าบาท ร่วมวงกับเจ้า"
ในทุกคำพูด ล้วนคือคำขู่ คำขู่นี้ นี้ง่ายเหมือนการร่วมวงที่ไหนกัน?
อวี่เหวินฮ่าวออกคำสั่งสองครั้งติดต่อกัน "ชานจวิน ทังหยาง พวกเจ้าพาคนเข้าไปค้นในจวน จำไว้ว่าต้องดูว่ามีห้องลับ ใต้ดิน และค้นให้ละเอียด อย่าคลาดแม้แต่จุดเดียว"
"ซวีอี เจ้าพาคนไปค้นประตูหน้าและประตูหลัง ก่อนการตรวจสอบจะจบลง ห้ามใครออกจากจวน"
"ขอรับ!"
ทหารเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว และได้แยกย้ายกันค้นหา
ฮุ่ยติ่งโหวและอวี่เหวินฮ่าวยังคงยืนเผชิญหน้ากัน แต่ในใจอวี่เหวินฮ่าวรู้สึกผิดปกติ ความมั่นใจในตอนที่เขายังไม่มา เขามาพร้อมกับทหารของเจ้ากรมพระนคร และฮุ่ยติ่งโหวจะให้ความร่วมมือเป็นแน่ แต่คงจะไม่ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เยี่ยงนี้ หรือว่าหยวนชิงหลิงจะถูกกำจัดไปแล้ว?
เมื่อฮุ่ยติ่งโหวเห็นเขาอารมณ์เสีย เขายิ้มอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม แววตาที่มืดมน "ท่านอ๋อง ถ้าหาไม่พบ ท่านก็แค่รอดูได้เลย"
อวี่เหวินฮ่าวไม่พูดอะไร ดวงตาของเขามืดมน จากแววตาของฮุ่ยติ่งโหว เผยความชั่วร้าย หรือว่า ซวีอีจะตกหลุมพราง เขาไม่ได้ลักพาตัวหยวนชิงหลิงมา หรือว่า เขาลักพาตัวหยวนชิงหลิงมา แต่ไม่ได้พากลับมาที่จวนโหว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เขาทำผิดพลาดร้ายแรง ใช้อารมณ์ทำงาน ไม่ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน
แต่ไม่มีเวลาตรวจสอบ หากหญิงอัปลักษณ์นั่นตกไปอยู่ในมือของเขาจริงๆ ผลที่ตามมาจะเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง เขาทำได้แค่เดิมพันกับสิ่งนี้ และเขาจะถือว่ามันเป็นการทดแทนบุญคุณของหยวนชิงหลิง แม้ว่าเขาจะไม่เคยไปยินดีที่จะยอมรับมัน
"เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงมุ่งเป้ามาที่เจ้า?" ฮุ่ยติ่งโหวเยาะเย้ย ยกริมฝีปากขึ้นและเยาะเย้ย ปกปิดความชั่วร้ายและความเย็นชาในดวงตาของเขา
อวี่เหวินฮ่าวแสดงความใจร้อนเล็กน้อย "ข้าก็อยากรู้มาตลอด ท่านโหวโปรดให้คำชี้แนะกับข้าที"
ฮุ่ยติ่งโหวยกนิ้วก้อยขึ้น และพูดอย่างเย้ยหยัน "เพราะข้าดูถูกเจ้า นอกจากที่เจ้ามีวรยุทธ เจ้าไม่เก่งเรื่องการวางแผน ดื้อรั้นเย่อหยิ่ง ไม่ฟังคำสั่งทหาร ไม่เคารพผู้บังคับบัญชา แต่ฝ่าบาททรงยินดีให้เจ้าทำการใหญ่ ดังนั้น เจ้าจะใช้สิ่งนี้เพื่อก้าวขึ้นที่สูง ถ้าเจ้าไม่มีฝ่าบาท วันนี้เจ้าสมควรที่จะยืนคุยกับข้าที่นี่หรือไม่?"
อวี่เหวินฮ่าวยิ้ม "ต้องโทษที่เจ้ามีชีวิตที่ไม่ดี เจ้าไม่มีฝ่าบาทคอยหนุนหลัง"
ฮุ่ยติ่งโหวหังเราะอย่างบ้าคลั่งและพูดว่า "งั้นหรือ? บางทีแม้จะมีฝ่าบาทก็ไม่ได้ผล วันนี้เจ้าก็ตกอยู่ในมือของข้า ข้าจะสู้กับเจ้าจนเจ้ามิอาจลุกขึ้นได้"
เขาดูหยิ่งผยองและพึงพอใจมาก และมีความขุ่นเคืองอย่างบ้าคลั่งภายใต้ดวงตาของเขา จ้องมองที่อวี่เหวินฮ่าว แทบจะเผา อวี่เหวินฮ่าวอย่างสมบูรณ์
การแสดงออกของอวี่เหวินฮ่าวสงบ แต่หัวใจของเขากังวลอย่างมาก เขากลัวว่าจะไม่พบหยวนชิงหลิงในจวนท่านโหว และเขาก็กลัวว่าหากพบตัวนาง เพราะถ้าพบนาง เกรงว่านาง…
เขามีความกลัวว่าเขาไม่กล้าที่จะคิด
ทหารกลับมารายงานทีละคน "ท่านอ๋อง เราค้นหาในห้องโถงใหญ่แล้ว แต่ไม่พบ"
"ท่านอ๋อง ค้นที่สวนหลังบ้านแล้ว แต่ไม่พบ"
"ท่านอ๋อง เราได้สำรวจจวนทุกหนทุกแห่งแล้ว และพบว่ามีห้องลับ แต่ไม่พบพระชายา"
หัวใจของอวี่เหวินฮ่าวค่อยๆดิ่งลง เขามองขึ้นไปที่ฮุ่ยติ่งโหวซึ่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ทังหยางเดินอย่างรวดเร็วและรายงาน "ท่านอ๋อง พบตำหนักข้างในลานหลังบ้าน ซึ่งเต็มไปด้วยเครื่องทรมาน"
ทันทีที่เขายกมือขึ้น ก็เห็นทหารหลายคนเข้ามาพร้อมกับเครื่องทรมานและวางลงต่อหน้าอวี่เหวินฮ่าว
อวี่เหวินฮ่าวเห็นว่าเครื่องทรมานจำนวนมากถูกเปื้อนไปด้วยเลือด
ฮุ่ยติ่งโหวพูดอย่างเย็นชา "ทำไม เจ้าต้องการค้นหาห้องทรมานของข้าด้วยหรือไม่"
"ไม่ทราบว่าท่านโหวต้องการห้องทรมานเพื่ออะไร?" อวี่เหวินฮ่าวถามช้าๆ
"เพื่อลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่เชื่อฟัง ท่านอ๋องก็ลองเอาไปรายงานได้ ก็บอกว่าข้าตั้งห้องทรมานเป็นการส่วนตัว ทารุนต่อผู้ใต้บังคับบัญชา" ฮุ่ยติ่งโหวทำเสียงเชอะ
ทังหยางดูกังวลมาก เขาตรวจสอบสถานที่ทั้งหมดที่สามารถตรวจสอบได้แล้ว และไม่พบร่องรอยของพระชายาจริงๆ ไม่รู้ว่าซวีอีจะหาละเอียดหรือไม่? หากมันว่างเปล่าจะเป็นหายนะ
ชานจวินก็กลับมาและพูดว่า "ท่านอ๋อง ยกเว้นลานที่มีเหล่าสุนัขเลว ต่างได้ค้นหาทั่วแล้ว"
"เหล่าสุนัขเลว?" ดวงตาของอวี่เหวินฮ่าวเป็นประกาย
MANGA DISCUSSION