เมื่อนำเข็มออกมาแล้ว ก็แอบซ่อนไว้ในแขนเสื้อ พร้อมทั้งเก็บซ่อนกล่องยาเรียบร้อยแล้ว แล้วจึงจัดทรงผมให้เรียบร้อยขึ้น เพื่อจะได้ไม่ให้ผมเผ้าของตนเองดูยุ่งเหยิงจนเกินไปนัก ยามที่นางถูกพาเข้ามาจากทางประตูหลังนั้น เส้นทางที่เดินทางมาจนถึงที่นี่ นางล้วนแต่จำได้หมดทุกทาง หากจะหาทางหนีออกไปนั้น ทางเลือกที่ดีคือการหนีไปที่ประตูหลัง หากแต่ปัญหาที่สำคัญยังเป็นยาสลบที่มีเพียงแค่หลอดเดียว อีกทั้งยังมีถึงสองคน และยังมีฮุ่ยติ่งโหวที่ยังอยู่ด้านนอกอีก แม้ว่าจะหนีผ่านจากห้องนี้ไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถหนีออกไปที่ประตูใหญ่ได้เช่นกัน ดูเหมือนว่า ยาสลบหลอดนี้ คงต้องเก็บไว้ใช้กับฮุ่ยติ่งโหวเสียแล้ว
ฮุ่ยติ่งโหวเดินไปยังห้องตำรา พร้อมทั้งเรียกคนสนิทให้เข้ามาทันที "เจ้านำกำลังพลไปป้องกันจวนให้ดี อย่าได้ให้ผู้ใดบุกเข้ามาได้ แม้ว่าจะเป็นฉู่ฮ่องก็ตาม ให้ยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุดเสีย หลังจากนั้นให้ทำท่าทีว่าพระชายาอยู่ในจวน แล้วให้ฉู่อ๋องเข้ามาตามหา"
คนสนิทได้ยินเช่นนั้น "ท่านโหว หากท่านอ๋องตามหาพระชายาฉู่อ๋องเจอละพะยะค่ะ ?"
ฮุ่ยติ่งโหยวพลันเผยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาออกมา "หากเป็นคนของเปิ่นโหวแล้ว อย่างไรย่อมต้องเป็นคนของเปิ่นโหว เปิ่นโหวสามารถทำให้นางกลายเป็นผุยผงได้ โดยมิให้ผู้ใดตามรอยนางเจอแม้แต่คนเดียว"
คนสนิทพลันเข้าใจความหมายในทันที "ขอรับ เช่นนั้นรอจนกว่าท่านโหวจะซ่อนพระชายาฉู่อ๋องเรียบร้อยแล้ว. กระหม่อมถึงจะปล่อยตัวฉู่อ๋องให้เข้ามา"
ฮุ่ยติ่งโหวพลันหยิบกริชขึ้นมาแกว่งเล่นไปมา อีกทั้งยังกระแทกกริชลงบนโต๊ะ หากแต่กริชมิได้แทงทะลุด้ามแต่อย่างใด ฮุ่ยติ่งโหวกล่าวออกมาด้วยท่าทีที่เย็นชาว่า "ไอเจ้าลูกหมาอวี่เหวินฮ่าวนั่น เปิ่นโหวมิถูกชะตากับมันมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่รู้ว่าจักรพรรดิทรงคิดเห็นเช่นไรกัน. ที่ให้มันมานั่งบนตำแหน่งเจ้ากรมการพระนครได้ หากแต่ มิต้องรีบร้อนจนเกินไป หากเขามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรตำแหน่งนี้ย่อมไม่มั่นคงอย่างแน่นอน ส่งสตรีที่โง่เขลามาให้ข้ายันประตูจวนเช่นนี้ เปิ่นโหวก็จักใช้นางทำให้อวี่เหวินฮ่าวราวกับตกอยู่ในขุมนรก ไม่ให้ผุดให้เกิดเลยทีเดียว"
คนสนิทข้างกายพลันยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา "ขอรับ ท่านโหวถูกทำให้อับอายมากเลยทีเดียว"
ฮุ่ยติ่งโหวเมื่อหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวที่หน้าอับอายในวันนั้น. ก็ราวกับแผลในอกกำลังปริแตก "วันนั้น ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของเปิ่นโหว ที่ถูกทำลายลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิ อีกทั้งเขายังกล้าลงมือตบตีโหวเช่นข้าต่อหน้าทหารทั้งหลายทั้งปวงอีก และยังเกือบโดนจักรพรรดลงโทษอีกด้วย. หากมิใช่ท่านลุงของเปิ่นโหวคอยช่วยเหลือแล้วละก็ เกรงว่าเปิ่นโหวคงไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้ ความโกรธแค้นที่เปิ่นโหวสะสมมาในหลายปีนี้ กำลังจะถูกชำระภายในวันนี้แล้ว"
"ท่านโหวโปรดวางใจ วันนี้กระหม่อมรับปากว่าจะสร้างข้อหาบุกรุกจวนและข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบของฉู่อ๋องให้จงได้" คนสนิทข้างกายพลันกล่าวขึ้นมา "ถ้าเช่นนั้นพระชายาฉู่อ๋องจะจัดการเช่นไรหรือพะยะค่ะ?"
ฮุ่ยติ่งโหวพลันแย้มยิ้มขึ้นมา "ในเมื่อส่งนางมาหน้าประตูจวนเช่นนี้แล้ว เปิ่นโหวย่อมต้องใช้นางสร้างความอับอายให้กับฉู่อ๋อง? ทว่า ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร หากเขารู้ว่าภรรยาของตนเองเป็นของเล่นให้กับผู้อื่นเสียแล้ว อื้ม จะรู้สึกอย่างไรกันนะ ?"
"ขอรับ เช่นนั้นข้าจะรอคอยคำสั่งของท่านโหวสั่งมา เมื่อส่งนางเข้าห้องมืดแล้ว ก็ให้สั่งไปอยู่ในเรือแห่งอื่นชั่วคราว เพื่อรั้งรอท่านโหว"คนสนิทพลันกล่าวขึ้นมา
ฮุ่ยติ่งโหวพลันหลี่ตาลง อวี่เหวินฮ่าวอ่าอวี่เหวินฮ่าว ในยามนั้น เจ้ากล้าหาญถึงเพียงไหนกัน ? ถึงได้ตบตีเปิ่นโหว. อีกทั้งยังเอาความดีความชอบที่ข้าทำไว้ไปกระโดดโลดเต้นเช่นนั้นอีกหรือ? เมื่อนึกถึงหยวนชิงหลิงขึ้นมา เขาพลันยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา. เขาย่อมต้องไม่เชื่อในคำพูดของหยวนชิงหลิงอยู่แล้ว. อยากจะมาดูน้องเขยว่าเป็นคนเช่นไรงั้นหรือ ? เกรงว่าจะเป็นอวี่เหวินฮ่าวที่ทำตัวเป็นเต่าในกระดองผู้นั้นกระมัง ที่ส่งนางมาเป็นสายสืบ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เขามั่นใจเป็นอย่างมาก ว่าอวี่เหวินฮ่าวจะเดินทางมา ในเมื่ออวี่เหวินอ่าวเกลียดเขามากขนาดนี้ เป้าหมายแรกที่จะต้องลงมือ ย่อมต้องเป็นเขาที่ใจร้อนเกินไป
ในที่สุดหยวนชิงหลิงก็ล้มเลิกความคิดที่จะใช้ยาสลบไปกับสาวใช้ทั้งสองแล้ว เนื่องจากนางได้ยินเสียงที่พูดคุยกันด้านนอก. เกรงว่าจะเป็นคนที่เข้ามาคุมด้านนอกกระมัง. นางที่มียาสลบเพียงแค่หลอดเดียวเช่นนี้ ไม่ควรใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์
ทว่า กล่องยาในครานี้ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง ช่างทำให้นางหดหู่ใจเป็นอย่างมาก. ก่อนหน้านั้น นางยังคิดว่ากล่องยาจะเปลี่ยนไปตามความคิดของนางเสียอีก ที่แท้มิได้เป็นเช่นนั้นเลย ในยามนี้ นางหวังจริงๆ ว่าในกล่องยาจะเป็นปืนสักกระบอก หยวนชิงหลิงพลันนั่งลง พร้อมทั้งจัดกระบวนการความคิดของตนเอง ภายในใจพลันค่อยๆสงบลง โอกาสมีเพียงแค่ครั้งเดียว นางจักต้องทำให้ไม่ผิดพลาดเป็นอันขาด. หากผิดพลาดเพียงนิดเดียวละก็ เกรงว่าชีวิตนี้คงไม่มีเหลือแล้ว
"แม่นาง ท่านโหวเรียนเชิญท่าน!" สาวใช้ที่อยู่ด้านนอกพูดไม่กี่ประโยค จึงเดินเข้ามาหาหยวนชิงหลิง
"เชิญ!" หยวนชิงหลิงมองไปที่สาวใช้ "ไปไหนกัน ?"
สาวใช้พลันแย้มยิ้มออกมา "ท่าโหวรอท่านอยู่ที่ห้องแล้ว รวมไปถึงข้าวปลาอาหารสุราก็ได้ถูกจัดเตรียมไว้แล้วเช่นกัน"
หยวนชิงหลิงในยามนี้จักขัดขืนไม่ไปก็ไม่ได้ จึงกล่าวออกมาว่า "ได้ นำทางไป"
เมื่อออกมานอกประตูนั้น ก็เดินไปตามทางเลี้ยวถึงสามโค้ง แล้วจึงจะถึงห้องรับรองแห่งหนึ่ง หยวนชิงหลิงพยามยามจำเส้นทางอยู่นั้น. สถานที่แห่งนี้อยู่ไกลจากเมื่อครู่เป็นอย่างมากื. อีกทั้งเสียงของสุนัขก็ยังดังชัดเจนมากยิ่งขึ้น ราวกับถูกกักขังไว้ในเรือนแห่งนี้ก็มิปาน
เมื่อประตูถูกเปิดออก. สาวใช้พลันยิ้มออกมาด้วยท่าทีที่เย็นชา "เข้าไปเถอะ. แม่นาง!"
นางพลันผลักแผ่นหลังของหยวนชิงหลิงให้เข้าไปในห้อง หยวนชิงหลิงพลันถลาเข้าไปในห้องทันที ด้วยมิทันได้ตั้งตัว เพียงครู่หนึ่งพลันได้ยินเสียงประตูที่ถูกปิดลง แสงไฟในห้องสลัวๆ ผ้าม่านสีฟ้าผืนหนาๆ พร้อมทั้งประตูที่ถูกติดไว้ด้วยกระดาษสีเหลืองเพื่อป้องกันแสงไฟลอดเข้า หยวนชิงหลิงอดไม่ได้ที่จะเกินความหวาดกลัวภายในใจ เมื่อมองไปทางแสงเทียนที่อยู่ด้านซ้าย
แสงเทียนพลันค่อยๆสว่างขึ้นมา พร้อมทั้งสาดส่องให้เห็นบรรยากาศภายในห้อง ผู้ที่ถือแสงเทียนเดินเข้ามานั้นเป็นฮุ่ยติ่งโหว ใบหน้าของเขาดูหน้ากลัวเป็นอย่างมาก ราวกับสื่อให้เห็นถึงความโชคร้าย อีกทั้งช่วงบนยังไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าด้วย และยังบาดแผลเล็กใหญ่ไม่น้อยเต็มไปทั่วร่างกาย หากแต่สิ่งที่ทำให้หยวนชิงหลิงหวาดกลัวมิใช่คนที่อยู่ตรงหน้า หากแต่เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ทรมานร่างกายภายในห้องต่างหาก เครื่องมือที่ใช่ทรมานหญิงสาว
อีกทั้ง ยังเต็มไปด้วยรอยเปื้อนเลือกมากมายอีกด้วย พร้อมทั้งกลิ่นเหม็นเน่า หยวนชิงหลิงยกมือปิดจมูกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ภายในใจเต็มไปด้วยความโมโหมากกว่าที่เกร็งกลัวเสียอีก ห้องนี้ปลิดชีวิตเหล่าสตรีทั้งหลายมามากเพียงใดแล้วกันแน่ ?
"กลัว ?" ฮุ่ยติ่งโหวพลันแสยะยิ้มออกมา "เปิ่นโหวชื่นชมเจ้าเป็นอย่างมาก เพื่อที่ช่วยอวี่เหวินฮ่าวมาโค้นล้มเปิ่นโหว. แม้แต่ชีวิตของเจ้าก็ไม่เสียดายแล้วหรือ"
เนื่องจากเพลิงโทสะที่เกิดขึ้น. หยวนชิงหลิงพยายามที่จะสงบจิตใจของตนเองลง นางมองไปยังฮุ่ยติ่งโหว ทพร้อมทั้งค่อยๆก้าวเดินไปหา "ท่านโหวพูดผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาเพราะเขา"
"งั้นหรือ ? เช่นนั้นเจ้ามาเพราะใครกัน ? หรือว่ามาเพราะต้องการให้เปิ่นโหวชื่นชมร่างกายของเจ้ากัน ?" ฮุ่ยติ่
งโหวพลันยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา หากแต่สายตากำลังจับจ้องไปยังเรือนร่างของหยวนชิงหลิง พร้อมทั้งไปหยุดอยู่ที่หน้าอกของนาง ราวกับมีแรงกระตุ้นอันใดบางอย่างในร่างกายขึ้นมาทันที แววตาที่หื่นกระหายพร้อมทั้งความบ้าเลือดที่กำลังประทุขึ้นมาในทันที
หยวนชิงหลิงแย้มยิ้มเล็กน้อย. สองมือพลันซ่อนไว้ในแขนเสื้อของตนเอง แล้วค่อยๆนำเข็มยาสลบออกมา
"สตรีส่วนใหญ่ล้วนแต่ชมชอบแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งนั้น " หยวนชิงหลิงมองไปยังฮุ่ยติ่งโหวด้วยท่าทีที่โง่เขลา แล้วจึงก้าวเดินเข้าไปหนึ่งก้าว ดวงตาที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้านั้น กล่าวว่า "น่าเสียดาย ที่ข้ามองอวี่เหวินฮ่าวผิดไป เขามิได้ชอบข้า อีกทั้งยังเป็นบุรุษหัวอ่อนอีกด้วย"
"งั้นหรือ" ฮุ่ยติ่งโหวพลันโยนเทียนไขในมือทิ้งไป พร้อมทั้งโอบกอดเอวของนางในทันที แล้วจึงกดนางลงไปบนตัวเขา พร้อมซบหัวลง แล้วจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ยามนี้รู้สึกเสียดายแล้วงั้นหรือ ก็มิทันการแล้ว. อวี่เหวินฮ่าวเป็นบุรุษหัวอ่อนแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาจักไปเป็นตัวอันใดได้กัน ?"
มือของหยวนชิงหลิงคล้องไปยังที่ด้านหลังของฮุ่ยติ่งโหว อีกทั้งยังจ้องเข้าไปในตาของฮุ่ยติ่งโหวแล้วกล่าวว่า "ใช่แล้ว ข้าเกลียดเขาจริงๆ"
เล็บของนางพลันจิกเข้าไปบนแผ่นหนังของฮุ่ยติ่งโหวในทันที นั่นทำให้สายตาของเขาล้ำลึกขึ้น และทั่วร่างกำลังสั่นเทาไปด้วยความเจ็บปวด. หยวนชิงหลิงกดหัวลงไปฟังเสียงหน้าอกของเขา ยิ่งในเวลานนี้. จิตใจของนางพลันสงบมากยิ่งขึ้น เข็มฉีดยาถูกฉีดเข้าไปในจุดที่นางเพิ่งจะใช้เล็บหยิกฮุ่ยติ่งโหวไปเมื่อครู่ ทันใดนั้น ฮุ่ยติ่งโหวก็คว้ามืออีกข้างหนึ่งเข้ามาบีบคอของหยวนชิงหลิงในทันที แล้วจึงเอื้อมมือไปบีบแขนที่มีเข็มฉีดยาของหยวนชิงหลิง ดวงที่แดงกร่ำไปด้วยความโกรธจัด ฮุ่ยติ่งโหวพลันฟาดมือตบเข้ามาที่ใบหน้าของหยวนชิงหลิงในทันที "ใช้อาวุธลับงั้นหรือ ?"
หยวนชิงหลิงพลันรู้สึกว่าสมองพลันว่างเปล่าไปหมด เพียงครู่หนึ่งพลันรู้สึกเจ็บปวดแสบร้อนขึ้นมาในทันที. สายตาพลันมืดดำ อาการเวียนหัวที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง ภายในปากราวกับได้กลิ่นคาวหวานของเลือดอยู่. หยวนชิงหลิงพยายามบังคับตนเองให้มองไปที่กระบอกเข็มยา ภายในใจพลันครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง. ก็เห็นว่ายาสลบถูกฉีดเข้าไปหมดแล้ว
หยวนชิงหลิงพลันยกยิ้มขึ้น เลือดพลันไหลออกมาจากมุมปากในทันที "ข้าเกลียดที่เขาไม่ฆ่าท่านในคราแรกอย่างไรเล่า "
หยวนชิงหลิงมิรู้เลยว่า รอยยิ้มของตนเองในยามนี้น่าเกลียดไม่แพ้กัน ความน่าสยดสยองนี้ไปกระตุ้นกับอารมณ์ของฮุ่ยติ่งโหวในทันที. สายตาของเขาเต็มไปด้วยแววตาฆ่าฟัน มือข้างหนึ่งพลันคว้าหยวนชิงหลิงเข้ามา พร้อมกับฉีกอาภรณ์ออกเพื่อให้เห็นไหล่เนียน
ฮุ่ยติ่งโหวพลันเอนตัวเข้าไป แล้วจึงกัดเข้าไปที่หัวไหล่ของหยวนชิงหลิงอย่างเต็มแรง
"สาม สอง หนึ่ง "หยวนชิงหลองมิอาจหลีกหนีได้ทันจึงได้แต่นับเลขอยู่ภายในใจ
ฮุ่ยติ่งโหวพลันล้มลงไปในทันที
MANGA DISCUSSION