หยวนชิงหลิงถูกส่งกลับไปที่หอเฟิ่งอี้ มามาทั้งสองและลู่หยาตกใจเมื่อเห็นนางในสภาพเช่นนี้ แต่ซีมามาก็ตั้งสติได้ จึงให้ลู่หยาไปเตรียมซุปสร่างเมา จากนั้นก็ถามสถานการณ์กับกู้ซือ
กู้ซือกล่าวว่า "เมาจากตำหนักไท่ซั่งหวง ได้ให้ซุปสร่างเมาแล้ว แต่ก็อาเจียนออกหมด"
"เมาในตำหนักไท่ซั่งหวงงั้นหรือ สวรรค์ ต้องทำให้ไท่ซั่งหวงทรงเกรี้ยวมากใช่หรือไม่" ซีมามากล่าวด้วยความตกใจ
"ทรงโกรธหรือไม่ไม่รู้ แต่สีหน้าของฉางกงกงซีดไปหมดแล้ว" กู้ซือกล่าว
"เฮ้อ!" ซีมามาหันหน้าไปมองหยวนชิงหลิงนางนั่งบนเตียง ฉีมามาต้องการให้นางนอนลง แต่นางยกมือขึ้นแล้วพูดว่า "อย่าแตะต้องข้า ข้าเวียนหัว!"
"ใต้เท้ากูเชิญกลับไปก่อนเถิด ขอบคุณท่านมากๆ" ซีมามากล่าว
กู้ซือมองไปที่หยวนชิงหลิง ใบหน้าของนางแดงจนน่ากลัว ดวงตาของนางก็เป็นสีแดง ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าก็ยับยู่ยี่ แลดูกระเซอะกระเซิงมาก
"ขอตัวลา!" กู้ซือหันหลังและเดินออกไป
ไม่คิดว่าพระชายาฉู่ที่ปกติดูเรียบร้อยผู้นี้ พอเมาอาละวาดขึ้นมาช่างน่ากลัวนัก
ตอนที่เขาไปถึงตำหนักเฉียนคุน เห็นนางถือเก้าอี้กำลังจะทุบลง ไท่ซั่งหวงก็ขดตัวอยู่ที่มุมแหย่ง ฉางกงกงถูกนางอ้วกใส่ทั้งตัว กระทืบเท้าอย่างหงุดหงิดเสียดายเสื้อผ้าใหม่ของเขา
เขาไม่เคยเห็นตำหนักเฉียนคุนที่มี…ความเป็นมนุษย์เยี่ยงนี้ และเขาไม่เคยเห็นไท่ซั่งหวงนอกเหนือจากมีความเกรงขามยิ่งใหญ่ ยังมีท่าทีอื่น เฉกเช่นกระต่ายน้อยที่ตกใจกลัว
บางที เขาควรที่จะรายงานเรื่องนี้กับท่านอ๋อง
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่หน้าเตียง รู้สึกว่าโลกหมุนไปหมด สิ่งต่างๆ ตรงหน้านางเดี๋ยวเล็กเดี๋ยวใหญ่ เสียงต่างๆก้องอยู่ในหูของนาง นางดูเหมือนจะได้ยินเสียงจากไกลๆ ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลย แต่นางรู้สึกว่าหัวของนางจะระเบิดแล้ว นางต้องทำอะไรสักอย่าง มิเช่นนั้น นางคงจะโมโหมากกว่านี้
"พระชายา พระองค์ดื่มไปมากแค่ไหนกันเพคะ ทำไมถึงเมาเยี่ยงนี้ได้" ซีมามาถอนหายใจ พยายามช่วยให้นางนอนลง
หยวนชิงหลิงคว้าข้อมือของนางและค่อยๆ เงยศีรษะขึ้น
ซีมามาเห็นจิตสังหารแวบผ่านดวงตาของนาง ซีมามาค่อยๆก้มศีรษะลง นางเกิดความอาฆาตจริงๆ แต่เพียงเพราะเห็นแก่ไท่ซั่งหวงแค่นั้น
"ห้องเครื่องอยู่ที่ไหน" หยวนชิงหลิงถามเบาๆ "พาข้าไปที"
"ห้องเครื่อง? พระองค์จะเสด็จไปทำอะไรในห้องเครื่องเพคะ?"
"พา…" นางสะอึก ใบหน้าแดงก่ำ แทบจะคลั่ง "แค่พาข้าไปที่นั่นก็เพียงพอ ถามมากความทำไม?"
"นอนพักเถอะ…"
"พาข้าไป!" หยวนชิงหลิงแผดเสียงตะโกน ทำให้ซีมามาและฉีมามาตกตะลึง
ซีมามามองดูแววตาที่เกลียดชังของนาง คิดว่าลู่หยากำลังต้มซุปสร่างเมาอยู่ที่ห้องเครื่อง จึงทำตามนางอย่างเชื่อฟังนาง ถือโอกาสพานางไปดื่มซุปสร่างเมาที่นั่นเลย
"เพคะ หม่อมฉันจะพาพระชายาไป พระชายาเสด็จเองได้ไหมเพคะ" ซีมามาประคองนาง
"ข้าเดินได้ เจ้าไม่ต้องประคองข้า…" นางยกมือขึ้น คนพวกนี้ล้วนมีเจตนาร้าย นางไม่แตะต้อง ไม่อยากเข้าใกล้ ก้าวไปหนึ่งก้าว ก็รู้สึกว่าทั้งบ้านกำลังหมุน นางคว้าตัวซีมามา "ประคองก็ดี… ประคองหน่อย!"
นางหมุนไปสองรอบ ซีมามาถึงประคองนางได้มั่นคง น้ำหนักทั้งตัวของหยวนชิงหลิงทิ้งลง ซีมามาแทบจะยืนไม่ไหว ฉีมามาก็เข้ามาช่วยพยุง ทั้งสองคนก็พยุงนางออกไปด้วยกัน
เสียงฝีเท้าของหยวนชิงหลิงแผ่วเบา ปากของนางบ่นพึมพำ "จับตัวข้าไปอีกแล้ว พักนี้ข้าโชคไม่ดีอะไรนักหนานะ พอมาที่นี่ ข้าได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นนักโทษ จะต้องมีวันที่พวกเจ้าขอร้องข้า"
"เพคะ เพคะ! "ทั้งสองได้แต่ตอบรับไม่กล้าพูดอะไร แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระชายา ฉางกงกงปล่อยให้นางดื่มเยอะเยี่ยงนี้ได้อย่างไร
หลังจากออกไปรับลมแล้ว หยวนชิงหลิงไม่ได้รู้สึกสบาย แต่นางกลับเวียนหัวมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ฟุ้งซ่านในหัวใจของนางยังคงเพิ่มขึ้น
หัวใจของนางเต็มไปด้วยความโกรธ ความโกรธนี้ทำให้นางรู้สึกไม่อัดอั้นใจ ทำไมไม่มีอะไรเป็นไปตามใจนึกนะ? เจ้าอวี่เหวินฮ่าวต้องการปฏิเสธการแต่งงาน เจ้าก็แค่พูดออกไป ทำไมใช้นางเป็นโล่? นางเป็นคนรังแกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? ตอนนี้ทำให้คนรู้สึกไม่พอใจมากมาย ศีรษะของนางเหมือนผูกไว้กับสายคาดเอวแล้ว รอดูแค่ว่าพวกเขาจะมาเอาเมื่อไรแค่นั้น ชีวิตช่างไร้ค่านัก ชีวิตช่างไร้ค่า นางย้ำประโยคนี้ในใจ ถ้านางจะตาย ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องฆ่าผู้ร้ายคนสำคัญให้ได้
ด้วยสิ่งที่ยึดเหนี่ยว นางจึงบากบั่นมาถึงห้องเครื่อง นางพยายามใช้กำลังประคับประคองทรงตัวออกจากทั้งสองคน และพุ่งเข้าไปอยู่ในครัว หมุนตัวไปมา ทำเอาลู่หยาตกใจ "พระชายา ท่านกำลังหาอะไรเพคะ ท่านตรัสมา หม่อมฉันจะหามาให้เพคะ.."
หยวนชิงหลิงเห็น ตะครุบเข้าไป หยิบมีดทำครัวเล่มใหญ่ขึ้นมา ชี้ไปทางลู่หยา ขบฟันกัดไปมา "ใครจะปองร้ายข้า ข้าจะฆ่าคนๆนั้นก่อน"
การกระทำเยี่ยงนี้ ทำเอามามาทั้งสองและลู่หยาตกใจเหลือเกิน การที่นางกวัดแกว่งมีดทำครัว ไม่ใช่เพราะกลัวว่านางจะทำร้ายคนอื่น แต่กลัวว่านางจะทำร้ายตัวเองโดยไม่ทันระวัง
"พระชายา มีอะไรค่อยๆตรัสเถอะเพคะ!" ซีมามาขยิบตาให้ลู่หยา ให้นางออกไปตามองครักษ์
ลู่หยารู้และต้องการหาช่องทางและวิ่งออกไป หยวนชิงหลิงรู้ถึงจุดประสงค์ของนาง จึงเตะม้านั่งเตี้ย ลอยไปที่ประตู "ใครกล้าไป?"
ลู่หยาหยุดฝีก้าวของนางทันทีและยกมือขึ้น "หม่อมฉันไม่ไป หม่อมฉันไม่ไป พระชายา โปรดอย่าทรงวู่วามเพคะ วางมีดลงเถอะเพคะ ถ้าท่านอ๋องทรงทราบมันแย่เอานะเพคะ"
หยวนชิงหลิงได้ยินคำว่าท่านอ๋องสองคำ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเกลียดชัง แล้วกัดฟันพูดว่า "ข้าจะฆ่าเขาก่อน"
นางวิ่งออกไปพร้อมกับมีดทำครัว คนดื่มจนเมาแล้วนั้นเต็มไปด้วยเรี่ยวแรง และนางก็วิ่งเร็วมาก ลู่หยากใจมากจนน่องของนางอ่อนแรง หลังจากวิ่งตามสองก้าวก็สะดุดขาตัวเอง มามาทั้งสองแก่เกินไปวิ่งไม่ทัน ได้แต่ตะโกนสุดเสียงว่า "เร็ว หยุดพระชายาเร็ว"
คนที่ถือมีดทำครัวและเมาอาละวาดอยู่นั้น ไม่มีใครหยุดนางได้ หยวนชิงหลิงวิ่งไปโดยปราศจากคนกีดขวางจนถึงหอเซียวเยว่
ซวีอีเพิ่งออกมาจากด้านใน กู้ซือมาเยือน อวี่เหวินฮ่าวสั่งให้เขาไปสั่งคนเตรียมเหล้าและอาหาร
ผลก็คือ แค่ก้าวลงขั้นบันได ก็เห็นคนวิ่งเข้ามาอย่างดุเดือด มีแสงสีเงินวาบอยู่ในมือ เปล่งประกายด้วยความอาฆาต!
เขาเตะออกไปทันที และพอเห็นว่าเป็นหยวนชิงหลิง ก็หยุดทันที แต่แรงปล่อยนั้นแรงเกินไป เขาบังคับให้หยุดกลับย้อนกลับให้เขา ตัวเขาพุ่งไปข้างหน้า และล้มลงใต้ฝ่าเท้าของหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงวิ่งเร็วมาก แต่จู่ๆก็มีใครบางคนพุ่งหมอบลงตรงหน้านาง นางไม่สามารถยั้งฝีเท้าได้ จึงเหยียบลงที่ด้านหลังศีรษะของเขา
พอเหยียบเข้าด้านหลังศีรษะ มันลื่นไถล นางเอียงเท้าแล้วเลื่อนลงมาที่หู ซวีอีรู้สึกว่าหูของเขาถูกเหยียบย่ำจนกลายเป็นโคลน
และเอวของเขาก็ตึงขึ้นทันที เขาได้ยินเสียงก๊อกแก๊กที่ชัดเจน เท้าคู่นั้นไถลจากสะโพกของเขา และเขาโค้งตัวทันที เพื่อป้องกันการถูกเหยียบลงบนเจ้าโลกของเขา ทันทีที่เขากัดฟันยืนขึ้น หยวนชิงหลิงก็วิ่งเข้าไปแล้ว
นางวิ่งมาตลอดทาง จนมีเหงื่อออกพอสมควร หยวนชิงหลิงก็มีสติมากขึ้นเล็กน้อย
เมื่อนางถือมีดทำครัวบุกเข้าไปในห้องของอวี่เหวินฮ่าว นางรู้แล้วว่ากำลังทำอะไรอยู่ แต่นางไม่เต็มใจที่จะคิดถึงผลที่จะตามมา ยิงธนูแล้วศรธนูไม่หวนคืน นางจำต้องขอคำอธิบายให้ตัวเอง นางไม่อยากจะให้ใครรังแกแบบนี้อีกต่อไป
คำพูดของท่านยายดังก้องอยู่ในหัว สู้จนตายก็คือชีวิตนี้ อย่าทำให้คนดูถูกเหยียดหยาม
กู้ซือกระโดดขึ้นก่อน และเห็นมีดทำครัวสีดำอยู่ในมือของนาง เขาพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พระชายา วางมีดลงก่อน"
"คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปซะ!" หยวนชิงหลิงหรี่ตา เป่าผมที่กระจัดกระจาย แลดูไร้สติ ผมที่ถูกเป่าปลิวขึ้นแล้วตกลงมาดังเดิม และดวงตามีความโหดร้ายมากขึ้นเล็กน้อย
MANGA DISCUSSION