ลู่หยาก้าวเข้ามาพยุงฉีมามาขึ้นไปนั่งด้านข้าง
ทังหยางกล่าวกับหมอว่า "เด็กกำลังเจ็บปวดจริงๆ ไม่เช่นนั้นท่านสั่งยาบรรเทาความเจ็บปวดสักหน่อย ทางเราจะไม่ให้ภายนอกรู้เด็ดขาดว่าท่านเคยมารักษาให้"
ทังหยางกล่าวพลางยัดเงินเข้าไปในแขนเสื้อของหมอ
หมอลี่จึงกล่าวว่า "หากเพียงบรรเทาอาการปวดก็ไม่ยาก เพียงแต่มันไม่มีประโยชน์ที่จะบรรเทาความเจ็บปวด คนจะไปก็ต้องไป"
"ใช่ๆๆ!" ทังหยางเพียงอยากให้หั่วเกอไปสบายกว่านี้ เด็กคนนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ เขาเองก็ดูเขาเติบโตขึ้นมา
หมอลี่กำลังจะเขียนตำรับยา แต่ทันใดนั้นประตูก็ปิดลงดังปังและลงกลอนล็อกจากด้านใน
ลู่หยารับรู้ถึงสัมผัสของเนื้อผ้าที่นางเห็นเมื่อประตูถูกปิด นางกรีดร้องออกมาว่า "เป็นพระชายา"
เมื่อฉีมามาได้ยินว่าพระชายาเข้าไปในห้องก็ทั้งโมโหทั้งเสียใจ นางพุ่งตัวไปราวกับแม่สิงโตที่บ้าคลั่งและทุบประตูอย่างแรง "เปิดประตู เปิดประตู ท่านต้องการอะไร?"
เสียงของหยวนชิงหลิงดังมาจากข้างใน เสียงไม่ดัง คำพูดก็สั้นเพียงแค่สามคำ "มีทางรอด"
หมอลี่ได้ยินเห็นนั้นก็หัวเราะเยาะ "เหลือลมหายใจแค่นั้นยังจะมีทางรอด? ในจวนอ๋องมีมีเทพเซียนมาจากไหนกัน?"
ฉีมามาตัวอ่อนปวกเปียก มองไปที่ทังหยางอย่างสิ้นหวัง "ใต้เต้าทัง ได้โปรดให้ใครมาพังประตูที ข้าอยากอยู่เป็นเพื่อนเขา เขาคงกลัวมาก!"
ทังหยางไม่คาดคิดว่าพระชายาจะเสด็จมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ มาก่อความวุ่นวายอะไรกันนะ?
ดูเหมือนว่านางจะยังไม่เข้าใจคำพูดของท่านอ๋อง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าโทษที่เขาจะไปฟ้ององค์ชาย
เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม "ลู่หยา ไปเชิญท่านอ๋องมา หากท่านอ๋องไม่อยู่ด้วย ไม่ดีที่พวกเราจะทำอะไรพระชายาเอง แล้วก็เรียกคนมาอีกสองสามคน ให้มาพังประตู"
"เจ้าค่ะ!" ลู่หยาเองก็โกรธมากจึงรีบวิ่งออกไปทันที
ทังหยางขอให้หมอนั่งสั่งยาบนก้อนหินที่ลานเพื่อจะได้ให้คนไปเอายาสะดวก
หยวนชิงหลิงได้ยินการเคลื่อนไหวข้างนอกดังนั้นนางจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรีบเร่งมือ
หั่วเกอไม่มีสติแล้ว แต่เขาก็ยังคงร้องไห้ครวญครางเพราะความเจ็บปวด
หยวนชิงหลิงมองไปที่แผลของเขา มีหนองเกิดขึ้นที่มุมหางตาและตาก็บวมขึ้นมามาก มันเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย
นางเปิดกล่องยาหยิบยาออกมา นางฉีดยาฆ่าเชื้อให้เขาก่อน จากนั้นจึงหยิบมีดผ่าตัดใบเล็กและเบตาดีนออกมาฆ่าเชื้อแล้วจึงเริ่มกรีดระบายเลือดและหนองออก
ไม่มียาชา เพียงใช้กำลังบังคับให้ระบายออก เด็กน้อยทนไม่ไหวและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ฉีมามาที่อยู่ข้างนอกได้ยินเสียงกรีดร้องของหลานชาย นางเอาหัวโขกประตูด้วยความเคียดแค้นและสาบานว่า "มีอะไรก็มาทำข้า หากทำเขา แม้ตายข้าก็จะไม่ปล่อยท่านไป"
"โหดร้ายเกินไปแล้ว!" หมออดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง
ทังหยางทั้งโกรธและปวดใจ แต่เขากลัวว่าฉีมามาจะชนจนตัวนางเองจะแย่ไปด้วยจึงก้าวไปคว้าตัวนางไว้
ในไม่ช้าลู่หยาก็เชิญฉู่อ๋องมาถึง
ทันทีที่ฉู่อ๋องเข้ามาในลาน เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนของหั่วเกอจากข้างใน
เมื่อฉีมามาเห็นฉีอ๋องมาแล้วก็คุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้และพูดว่า "ท่านอ๋อง! ช่วยหลานชายของข้าด้วยเจ้าค่ะ!"
ฉู่อ๋องสีหน้าบึ้งลงและกล่าวว่า "ทหาร พังประตู!"
องครักษ์ในจวนสองสามคนรีบก้าวไปพังประตู คนหลายคนกระแทกประตูเข้ามาพร้อมกัน เพียงสามสี่ทีประตูก็ถูกพังออก
ฉีมามารีบพุ่งเข้าไปและเห็นหยวนชิงหลิงถือมีดอยู่ในมือ บนพื้นมีสำลีเปื้อนเลือดเต็มไปหมด ฉีมามารีบวิ่งมาหยุดนางไว้ "นี่ท่านอยากเอาชีวิตข้า ท่านกำลังจะฆ่าข้า!"
"ท่านย่า ข้าเจ็บ ข้าเจ็บ!" หั่วเกอสั่นเทิ้มไปทั้งตัว เขาใช้แรงทั้งหมดจับมือของฉีมามาแล้วร้องไห้
หยวนชิงหลิงจัดการกับมันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดิมทีต้องการจะปิดแผล แต่ดูเหมือนว่าจะทำไม่ทันแล้ว
นางยกกล่องยาขึ้นมา ทันใดนั้นด้านหน้านางก็ถูกทาบทับไปด้วยเงามืด มีฝ่ามือหนึ่งตบลงมาบนหน้าของนางทำให้นางหูอื้อ แก้มของนางปวดและชาสักพักก่อนที่จะรู้สึกแสบร้อนขึ้นมา
ก่อนที่นางจะได้สติ คอของนางก็ถูกมือแข็งราวคีมเหล็กบีบแน่น ดวงตาของนางเบิกกว้างจึงเห็นใบหน้าอันโกรธขึ้งของฉู่อ๋อง อากาศถูกบีบออกมาจากปอดของนาง ด้านหน้าดับวูบไปเหมือนกับจะเป็นลม
"เด็กอายุเพียงสิบขวบ" เสียงฟันที่ขบดังอยู่ข้างหูของนาง "เจ้ากล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับเขา ทหาร ลากตัวนางออกไปโบยสามสิบที!"
หยวนชิงหลิงไม่สามารถหลับลงมาหลายวันแล้วจึงแทบไม่มีแรงอยู่แล้ว หลังจากถูกตบ นางก็อ่อนแรงมากจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เมื่อเขาปล่อยมือที่บีบคอนางไว้ นางก็ล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงและสูดหายใจเฮือกใหญ่ จู่ๆร่างกายกลับถูกคนกระชากลากออกไปอย่างไม่ไยดี
ในความมืด นางเห็นเพียงใบหน้าของฉู่อ๋องที่เย็นชาจนเกือบจะเป็นน้ำแข็งและความรังเกียจในสายตานั้น เสื้อผ้าที่หรูหรานั้น…
นางถูกลากลงไปตามขั้นบันไดหิน ศีรษะของนางกระแทกกับบันไดหินที่แข็งและแหลมคมจนเจ็บ สายตาของมืดลง ในที่สุดนางก็หมดสติไป
นางไม่ได้หมดสตินานนัก มีความเจ็บปวดเป็นพักๆมาจากร่างกายของนาง มันเป็นความเจ็บปวดที่นางไม่เคยได้รับมาก่อน ไม้โบยตีลงมาทีเอวและต้นขาของนาง ทุกครั้งช่างเจ็บปวดเข้าไปจนถึงกระดูก เอวและขาของนางแทบจะหักแล้ว
มีกลิ่นคาวเลือดอยู่ในปากของนาง นางกัดริมฝีปากและกัดลิ้นตนเอง มีความมืดอยู่ตรงหน้านาง แต่นางกลับไม่สามารถหมดสติไปได้อีก
ความเจ็บปวดทำให้นางตื่นตัว
หลังจากผ่านไปสามสิบที นางกลับรู้สึกว่าชีวิตได้ผ่านมานานแล้ว
หยวนชิงหลิง อัจฉริยะแห่งศตวรรษที่ยี่สิบสอง มีผู้คนมากมายที่ชื่นชมและเคารพนาง ทุกโอกาสที่นางแสงตัวขึ้นต่างก็เป็นจุดสนใจ
มีผู้ป่วยกี่คนที่รอคอยให้นางพัฒนายาช่วยชีวิต
แต่ทว่าเมื่ออยู่ที่นี่ นางเพียงต้องการช่วยชีวิตเด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง แต่มันกลับยากมาก ยากจนแทบจะต้องใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน
นางถูกลากกลับไป ไม่มีใครสนใจว่านางจะเป็นหรือตาย คงจะดีที่สุดหากนางตายไปเสียได้
นางถูกโยนลงบนพื้นหินอ่อนของหอเฟิ่งอี๋พร้อมกับกล่องยาของนางกระแทกเข้าที่หลังของนางอย่างแรง
นางพลิกตัวไม่ได้และคิดได้ว่าหลังของนางคงเปื้อนเลือดแล้ว นางลากกล่องยาเข้ามา เปิดมันและหยิบเม็ดยาออกมากลืนเข้าไปและฉีดยาอีกครั้งเพื่อหวังว่าจะมีชีวิตรอดจากภัยครั้งนี้
นางหมดสติไปอีกครั้งอย่างช้าๆ
ที่ลานกว้าง ฉู่อ๋องอวี่เหวินฮ่าวสั่งให้โบยหยวนชิงหลิงอย่างรุนแรง แต่ความโกรธของเขาก็ยังไม่ดับลง เขาปลอบใจฉีมามาสองสามคำแล้วจึงจากไป
ทังหยางตามเขาไป "ท่านอ๋อง ทางพระชายาต้องการให้หมอไปดูหรือไม่ขอรับ?"
อวี่เหวินฮ่าวหน้าบึ้งตึง "ไม่จำเป็น หากตายก็ประกาศไปว่าตายกะทันหัน!"
"แล้วทางจิ้งโหว… จะอธิบายยังไง?" ทังหยางถาม
"แล้วต้องอธิบายยังไง?" เสียงของอวี่เหวินฮ่าวเย็นชา
ทังหยางเข้าใจแล้ว "ขอรับ!"
อวี่เหวินฮ่าวสาวเท้าก้าวออกไป
ทังหยางเดินกลับไปที่ลานบ้านและสั่งให้ลู่หยาไปเอายามาให้หั่วเกอ
หลังจากเข้าไปในลานแล้วเขาก็เห็นว่าหัวเกอหลับไปแล้ว
ฉีมามาเช็ดน้ำตาและทำความสะอาดก้อนสำลีเปื้อนเลือดพลางร้องไห้ไปด้วย "หลับได้แล้วก็ดี เขาเจ็บมากจนนอนไม่หลับมาตลอด"
ทังหยางเหลือบมองที่ตาของหั่วเกอแล้วตกใจ "ดูเหมือนจะไม่ได้บวมขนาดนั้นแล้ว"
ฉีมามาเงยหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นางเห็นว่าดวงตาของเขาบวมน้อยลงไปมากและไม่มีหนองอีก
ทังหยางเห็นสิ่งที่นางเพิ่งเก็บกวาด เขาหยิบเข็มขึ้นมาดู "นี่คืออะไร?"
"ไม่รู้ เมื่อครู่ผู้หญิงคนนั้นโยนมันทิ้งไว้ที่นี่" ฉีมามาตอบ
เพราะความเกลียดชังจนถึงที่สุด จึงใช้คำว่าผู้หญิงคนนั้นเรียกหยวนชิงหลิง
ทังหยางไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน "คงไม่ใช่ว่าวางยาพิษอีกหรอกนะ?"
"ท่านหมอไปแล้วเหรอ?" ฉีมามาถามอย่างร้อนรน
"ไปแล้ว เหลือไว้เพียงใบตำรับยา" ทังหยางเหลือบมองหั่วเกอ "ไม่ต้องกังวล ข้าเพียงแค่คาดเดาเท่านั้น ดูแล้วคงไม่ได้รับพิษอะไรหรอก"
ฉีมามาช้อนตาอันบวมแดงของนางขึ้นและกล่าวกับทังหยางว่า "ข้าอยากอยู่เฝ้าเขา ใต้เท้าให้อนุญาติข้าได้หรือไม่… "
"ไม่จำเป็นต้องพูดหรอก เจ้าอยู่เป็นเพื่อนหั่วเกอก็ดีแล้ว" ทังหยางกล่าว
"ขอบคุณเจ้าค่ะ!"
ทังหยางถอนหายใจเบาๆ "หมอบอกว่าคงเป็นคืนนี้ เจ้าคอยเฝ้าไว้เถอะ"
น้ำตาของฉีมามาร่วงลงมาอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION