ซวีอีเฝ้ามองหยวนชิงหลิงจากไปด้วยความโกรธ เขาอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา และพูดว่า "ไม่รู้ว่านางทำยังไงให้ท่านอ๋องโกรธ นางถูกทุบตีอีกแล้ว"
ทังหยางก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเห็นว่ามีเลือดออกตรงหน้าผากของอวี่เหวินฮ่าว นอกจากนี้ยังมีรอยมือบนใบหน้าที่ขาวซีด เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ซวีอี รีบเอาผงยามาเร็ว ๆ "
ซวีอีก้าวเข้ามาดูและพูดด้วยความโกรธ "นางกล้าลงมือกับท่านอ๋องงั้นหรือ?"
"รีบไปเอาผงยามาเดี๋ยวนี้! " ทังหยางผลักเขา
อวี่เหวินฮ่าวกล่าวอย่างเฉยเมย "ไม่ต้องใช้แล้ว"
แต่ทังหยางยืนยันที่จะใช้ยา เมื่อซวีอีเอายาผงมา แต่อวี่เหวินฮ่าวกลับบอกว่า "ไม่จำเป็นต้องใช้ยา นางทายาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว"
ซวีอีรู้สึกงงงวย อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า "ท่านอ๋องขอรับ นางกล้าลงมือกับท่านแล้วนะขอรับ เหตุใดท่านจึงยังใช้ยาของนางอยู่? ตอนนี้นางหยิ่งผยองมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว"
อวี่เหวินฮ่าวเพิกเฉยต่อเขา เขาพูดกับทังหยางว่า " เจ้านำยาไปให้นางสักหน่อย น้ำแกงจื่อจินน่าจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว :black">เมื่อสักครู่ข้าได้ยินนางบอกว่าเห็นผี"
"นางเห็นภาพลวงตางั้นหรือ?" ทังหยางเข้าใจในทันใด "พระชายาเข้าใจท่านอ๋องผิดไป"
อวี่เหวินฮ่าวกล่าวอย่างเย็นชา "เข้าใจผิดอะไรกัน? ข้าแค่ต้องการปลุกนางให้ตื่น เมื่อข้าดีขึ้น จะต้องถูกทุบตีหนักๆ อีกครั้ง"
ซวีอีพยักหน้าเห็นด้วย " สมควรแล้วขอรับ" ท่านอ๋ององอาจที่สุดเลยขอรับ ตั้งตารออย่างตื่นเต้น
ทังหยางเหลือบมองเขาอย่างหงุดหงิด "เจ้าดูแลท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบไปรีบกลับ"
"ขอรับ! " ซวีอีตอบ
หยวนชิงหลิงกลับไปที่หอเฟิ่งอี๋ด้วยความโกรธ
ลู่หยากำลังเช็ดโต๊ะอยู่ เมื่อเห็นนางกลับมา นางประหลาดใจอย่างมากและถามว่า "พระชายาเจ้าอยู่ดูแลท่านอ๋องมิใช่หรือเจ้าคะ?"
หยวนชิงหลิงพยักหน้าอวี่เหวินฮ่าวได้รับบาดเจ็บหนัก ทุกคนในจวนทราบเรื่องนี้ แต่ว่าอาการของเขาสาหัสแค่ไหนนั้นไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ อีกทั้งไม่กล้าแจ้งเรื่องนี้ให้พระสนมเซียนเสด็จแม่ของอวี่เหวินฮ่าวทราบ
ฮ่องเต้ได้ออกคำสั่งว่าห้ามมีข่าวหลุดไปที่วังหลังแม้แต่น้อย แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น อดีตจักรพรรดิถึงได้ทราบเรื่องนี้
"พระชายาเจ้าคะ … " ลู่หยาเห็นสีหน้าของนางไม่ค่อยดีนัก เมื่อนึกถึงท่าทางที่รุนแรงของนางในอดีตแล้ว นางก็ตัวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว " บ่าวออกไปรินน้ำให้พระชายานะเจ้าค่ะ"
"ขอบคุณ! " หยวนชิงหลิงกล่าว
ลู่หยาผงะไปครู่หนึ่งและเดินออกไปอย่างมึนงง นางกล่าวขอบคุณอีกแล้วหรือ?
ลู่หยาเพิ่งออกไปได้ครู่เดียว ทังหยางก็มาถึงแล้ว
หยวนชิงหลิงเห็นเขาเข้ามา จึงพูดอย่างเย็นชา " ทำไมหรือ? เขาให้เจ้ามาส่งต่อความโกรธที่เขามีหรือ? ไม่จำเป็น! "
ทังหยางส่ายหัวเล็กน้อย และหยิบขวดลายครามสีขาวที่มีรูปดอกบัวออกมาจากแขนเสื้อ "ยาเหล่านี้เป็นยาที่ท่านอ๋องให้บ่าวนำมาให้พระชายาขอรับ"
"ยา? " หยวนชิงหลิงมองไปที่ขวดเครื่องเคลือบดินเผาขนาดเล็กที่ประดิษฐ์ขึ้นอย่างประณีตนี้ แล้วหยิบมันขึ้นมาและเปิดฝาเทเม็ดยาสีแดงสดออกมาหนึ่งเม็ดเล็ก ๆ
"หากพระชายามองเห็นภาพหลอน…เช่นเห็นผีอะไรทำนองนั้น ก็กินยาทันทีแล้วจะไม่เป็นไรขอรับ" ทังหยางกล่าว
"ข้าสบายดี แล้วจะเห็นภาพลวงตาได้อย่างไร … " นางหยุดพูดกะทันหันและมองไปที่ขวดนั้นด้วยความประหลาดใจ เขาคิดว่านางเห็นภาพหลอนหลังจากที่กินยาเม็ดจื่อจินเหมือนคนรับใช้ตัวน้อยที่ขโมยของงั้นหรือ?
ดูเหมือนนางจะตะโกนไปว่าเห็นผี
"ที่เขาตีข้า เพราะเขาคิดว่าข้าเห็นภาพหลอนงั้นหรือ? " หยวนชิงหลิงยืนขึ้นและถาม
ทังหยางพยักหน้า "ใช่ขอรับ ดูจากอาการบาดเจ็บของท่านอ๋องแล้ว ท่านคงใช้แรงทั้งหมดที่เหลือตบท่านขอรับ บาดแผลตรงหว่างคิ้วของท่านมีเลือดไหลออกมาขอรับ"
คำพูดของทังหยางไม่ได้มีน้ำเสียงตำหนิ แต่สายตาที่เขามองหยวนชิงหลิงนั้นมีความหมายเช่นนี้เล็กน้อย
หยวนชิงหลิงลุกขึ้น "ไปแผลของเขาก่อน"
"พระชายากินยาก่อนขอรับ" ทังหยางกล่าว
หยวนชิงหลิงถามทังหยาง " :black">กินยาพวกนี้เข้าไป ก็สามารถแก้พิษของยาเม็ดจื่อจินได้หรือ?"
ทังหยางลังเล "อย่างน้อยก็สามารถบรรเทาได้ขอรับ"
"ต้องทำอย่างไรถึงจะแก้พิษนี้ได้"
ทังหยางส่ายหัว "เกรงว่าคงต้องใช้เวลาสักพักขอรับ"
หยวนชิงหลิงกลืนยาลงไปหนึ่งเม็ดและพูดว่า "ข้าทราบแล้ว ไปกันเถอะ"
นางรู้สึกว่าปอดนางขยายขึ้น และหายใจได้อย่างราบรื่นตลอดทางที่ออกจากหอ
ดูเหมือนว่ายานี้จะช่วยในการขยายปอด
เมื่อปอดขยายตัว การหายใจก็เป็นไปอย่างราบรื่น ดังนั้นสมองก็จะไม่เกิดภาวะขาดออกซิเจนและจะไม่เกิดภาพหลอน
แต่ว่าไม่ทราบว่าใครกันแน่ที่เป็นคนทำยาเม็ดจื่อจินและยาแก้พิษนี้?
เมื่อพวกเขามาถึงหอเซียวเยว่อีกครั้ง ทังหยางและซวีอีก็ตามหยวนชิงหลิงเข้าไป พวกเขาระแวงนางมาก นางกล้าที่จะตบท่านอ๋องงั้นหรือ? ถึงจะตัวเล็กแต่ช่างใจกล้าจริงๆ
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวเห็นนาง สีหน้าของเขายังคงเฉยเมย เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ
แต่เมื่อหยวนชิงหลิงเห็นมีเลือดซิบออกมาจากแผลเขา นางก็รู้สึกผิดเล็กน้อย นางไม่สามารถพูดคำว่าขอโทษออกมาได้อย่างแน่นอน นางทำได้แค่นั่งเงียบ ๆ ข้างเตียงแล้วจัดการแผลให้เขา
"นั่งแบบนี้ไม่เจ็บเหรอ?" จู่ๆ อวี่เหวินฮ่าวก็พูดขึ้นมา จนทำให้หยวนชิงหลิงตกตะลึง
นางมองมาที่เขา และเขาก็มองจ้องมาที่นางเช่นกัน เป็นแววตาที่ซับซ้อนมาก
"ไม่ค่อยเจ็บเจ้าค่ะ!" หยวนชิงหลิงพูดอย่างไม่แยแส
"ข้าขอโทษ! " เขาพูดอย่างกะทันหัน
มุมปากของหยวนชิงหลิงขยับเล็กน้อย เฆี่ยนสามสิบทีกับคำขอโทษหนึ่งคำ
นางไม่อยากจะคืนดีด้วยดี ระหว่างนางและเขานั้น ต้องมีกำแพงมากั้นพวกเขาไว้จึงจะปลอดภัย
ดังนั้นนางควรพูดอย่างเคร่งขรึมว่าคำขอโทษนั้นไม่มีประโยชน์
"ลืมไปซะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว" แต่สิ่งที่นางกล่าวออกมานั้น กลับเป็นคำพูดที่ประนีประนอมเช่นนี้ มันทำให้หยวนชิงหลิงรู้สึกดูถูกตัวเอง
แววตาของอวี่เหวินฮ่าวเริ่มเผยรอยยิ้มออกมา
หยวนชิงหลิงจ้องไปที่เขาอย่างดุดัน แต่เขากลับแสดงท่าทีอันธพาลออกมา "ข้าเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไป"
หยวนชิงหลิงกดที่แผลอย่างแรง ความเจ็บปวดนี้ทำให้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
"ทักษะของข้าไม่ค่อยดี ข้าไม่ได้เจตนาเจ้าค่ะ" หยวนชิงหลิงกล่าว
ซวีอีไม่สามารถทนดูอีกต่อไปแล้ว "พระชายาลงมือเบาหน่อยขอรับ"
"เจ้ามาทำสิ! " หยวนชิงหลิงเหลือบมองเขา จากนั้นก็ถอยออกไปทันที
ซวีอียื่นคอไปมองแล้วหดกลับมา "เอ่อ… พระชายาทำดีกว่าขอรับ"
เขาไม่รู้ว่าทำแผลยังไง รอบแผลนั้นเหมือนตะขาบ มือของเขาค่อยข้างหนัก เขาคงลงมือแรงกว่านาง
อวี่เหวินฮ่าวมองไปที่ซวีอีและทังหยาง "เอาล่ะ พวกเจ้าออกไปเถอะ คือนนี้ให้พระชายาเฝ้าก็พอแล้ว"
"ขอรับ!" ทังหยางและซวีอีเห็นว่าอวี่เหวินฮ่าวสั่งการด้วยตัวเองแล้ว พวกเขาจึงถอยออกไป
หยวนชิงหลิงเช็ดใบหน้าให้เขาไปด้วย จากนั้นก็เลื่อนตัวลงไปคุกเข่าบนเบาะข้างเตียง
"พวกเขาปกป้องเจ้าอย่างมากเลยนะเจ้าคะ"
"ข้าเป็นคนจ่ายเงินให้พวกเขา"
หยวนชิงหลิงพยักหน้า ก็จริง พนักงานทุกคนล้วนปกป้องเจ้านายของตน
และนางผู้ซึ่งเป็นภรรยาของเจ้านาย ก็เป็นเพียงคนที่อาศัยอยู่ด้วยเท่านั้น พนักงานก็ย่อมไม่เห็นหัวนาง
"อีกไม่ถึงสามวัน ทุกคนจะรู้ว่าเจ้าเป็นคนที่รักษาเสด็จปู่จนหายดี ดังนั้นจงระวังตัวด้วย" อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
หยวนชิงหลิงวางคางของนางไว้ขอบเตียง "จี้อ๋อง ใช่หรือไม่?"
สีหน้าอวี่เหวินฮ่าวเปลี่ยนไป "ใครเป็นคนบอกเจ้า?"
"ข้าเดาสิ! " หยวนชิงหลิงจำได้ว่าจี้อ๋องเข้าไปในวังเฉียนคุนตอนนั้น แววตาที่เขามองนางดูแปลก ๆ อีกอย่างเขาดูผ่อนคลายอย่างมากและเต็มไปกลิ่นอายของความทรงพลัง ดังนั้นนางจึงรู้สึกว่าจี้อ๋องนั้นน่าสงสัยที่สุด
อวี่เหวินฮ่าวพูดอย่างเย็นชา "อย่าทำตัวฉลาดมากไป เจ้าไม่รู้หรือว่าเจ้ากำลังทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เจ้าพูดเช่นนี้กับข้าก็พอ ไปข้างนอกห้ามพูดเช่นนี้อีก โดนเฉพาะในพระราชวัง"
"แน่นอนว่าข้ารู้ว่าพูดไม่ได้" หยวนชิงหลิงยิ้มเบาๆ "อันที่จริงเรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องอะไรกับข้าหรือ? ทางที่ดีข้าหลีกเลี่ยงเรื่องนี้ดีกว่า"
อวี่เหวินฮ่าวจ้องไปที่นาง " หลีกเลี่ยงงั้นหรือ? ข้าเกรงว่ามันคงเป็นไปไม่ได้"
MANGA DISCUSSION