ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 24 อาการดีขึ้นเล็กน้อย
จนกระทั่งเงาพระอาทิตย์ตกดินนี้ปกคลุมไปทั่วลานในวัง ข้าก็ยังไม่เห็นอวี่เหวินฮ่าวเข้ามาในพระราชวัง
หยวนชิงหลิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย วันนี้ผ่านไปอย่างราบรื่นมาก ตั้งแต่ที่นางข้ามภพมาที่นี่ นางยังไม่เคยได้ลองใช้ชีวิตแบบนี้เลย
ตอนกลางคืนหลังจากล้างแผลให้ฝูเป่าเรียบร้อยแล้ว ฉางกงกงก็ขอให้นางกลับไปพักผ่อนที่หอซีนวล
หยวนชิงหลิงออกไปด้านนอกตำหนัก นางเห็นเสลี่ยงของหยวนหมิงตี้มาถึงหน้าประตูตำหนักแล้ว นางกำลังลังเลว่าจะรีบออกไปหรือรอให้เขามาเข้าเฝ้าแล้วจากไปดี ทันใดนั้นนางก็เห็นคนที่แต่งตัวเป็นองครักษ์เดินไปข้างหน้าและพูดอะไรบางอย่าง สีหน้าของหยวนหมิงตี้ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก จากนั้นเขาก็หันกลับไปและเดินจากไป
มาถึงหน้าตำหนักแล้วก็หันหลังเดินออกไปเลยหรือ? มีเรื่องอะไรที่ร้ายแรงเกิดขึ้นหรือ?
หยวนชิงหลิงกลับไปที่หอซีนวลด้วยความเหม่อลอย ซีมามาก็เข้ามาเปลี่ยนยาให้นาง หยวนชิงหลิงเช็ดตัวด้วยน้ำร้อน แล้วล้างหน้า นางรู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างมาก
หลังจากกินยาแก้อักเสบแล้วนางก็เข้านอน
ช่วงนี้นางกินยาแก้อักเสบอยู่บ่อยๆ จนทำให้ซึมไปทั้งตัว นางง่วงนอนอยู่ตลอด เมื่อร่างกายของนางสัมผัสกับเตียง เปลือกตาของนางก็หย่อนลงมาทันที
ถึงขั้นที่ไม่มีเวลาได้คิดว่าทำไมหยวนหมิงตี้จึงจากไปทั้งๆ ที่มาแล้ว
กลางดึกซีมามาเข้ามาปลุกนาง
หยวนชิงหลิงขยี้ตาแล้วมองไปที่ซีมามาที่กำลังยืนถือโคมไฟอยู่ข้างๆ นาง สีหน้าของนางมีความเศร้าที่คลุมเครือเผยออกมา หยวนชิงหลิงแทบจะกระโดดขึ้นมาจากเตียง นางถามอย่างไม่ส่งเสียง "อดีตจักรพรรดิ….."
"ไม่….ไม่ใช่! " ซีมามารีบพูดขัดนางขึ้นมาทันที " พระชายารีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากพระราชวังไป กู้ซือรอคุณอยู่ข้างนอก"
"ออกนอกวัง?" หยวนชิงหลิงตะลึง เวลานี้ออกนอกวังไปทำอะไร?
"ไม่ต้องถามแล้วเจ้าค่ะ ไปเร็ว! " ซีมามายื่นมือออกไปแล้วยกผ้าห่มของนางขึ้นมา นางหันหน้าไปและสั่งการด้วยเสียงต่ำๆ " เปลี่ยนชุดให้พระชายา"
จากนั้นหยวนชิงหลิงก็เห็นว่าในตำหนักนั้นไม่ได้มีเพียงซีมามาเพียงคนเดียว แต่ยังมีสาวใช้อีกสอง
มีผ้าที่เย็นและเปียกวางบนใบหน้าของนาง ซีมามากล่าวว่า " พระชายาจะต้องตื่นให้ดีก่อนเจ้าค่ะ"
ความเย็นนี้ทำให้หยวนชิงหลิงตื่นขึ้นมาทันที นางเองก็ไม่ได้ถาม ซีมามาเป็นคนของอดีตจักรพรรดิ ที่นางต้องออกนอกวังคงเป็นคำสั่งจากอดีตจักรพรรดิอย่างแน่นอน
อดีตจักรพรรดิโกรธนางหรือ?
จึงขับไล่นางออกจากวังไปตอนกลางดึก?
เมื่อออกไปข้างนอก นางเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดเกราะสีเงินพร้อมกระบี่ที่เอวยืนอยู่หน้าระเบียง เมื่อเขาเห็นนางออกมา องครักษ์ก็ทำความเคารพ " หม่อมกู้ซือคอยคุ้มกันพระชายาออกนอกวังขอรับ"
หยวนชิงหลิงจำเขาได้ คนนี้คือกู้ซือรองหัวหน้าองครักษ์
วันก่อนเขาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการสอบสวนคดีที่ฝูเป่าตกจากอาคาร
นางรู้สึกตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน กู้ซือคุ้มกันนางออกนอกวัง? อดีตจักรพรรดิต้องการไล่นางออกไป ก็แค่ส่งคนมาส่งนางออกจากวังไปก็พอแล้ว เหตุใดจึงต้องไปรบกวนรองหัวหน้าองครักษ์?
นางเองก็ไม่ได้ถามอะไร แล้วเดินตามกู้ซือไป
ฝีก้าวของกู้ซือนั้นเร็วมาก หยวนชิงหลิงพยายามเดินตามเขาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังตามไม่ค่อยทัน
เมื่อมาถึงที่ประตูพระราชวัง หยวนชิงหลิงก็หอบอย่างมากแล้ว
มีเกวียนม้าจอดอยู่ด้านนอกพระราชวัง หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นมอง และเห็นว่าคนที่ขับเกวียนม้านั้นคือทังหยางคนดูแลจวน
ทังหยางลงจากหลังม้า แล้ววางเก้าอี้ขั้นบันไดพร้อมพูดว่า " พระชายาโปรดขึ้นเกวียนม้าขอรับ"
หยวนชิงหลิงไม่ได้ถามอะไร นางเหยียบเก้าอี้นั้นแล้วเข้าไปนั่งในเกวียนม้า
กู้ซือขี่ม้าอยู่ด้านหน้า ทังหยางบังคับเกวียนม้าไปตามถนนที่มืดไปยังจวนฉู่อ๋อง
เกวียนม้าวิ่งเร็วมากโยกไปมาตลอดทาง หยวนชิงหลิงรู้สึกเจ็บแผล แต่นางไม่มีเวลาไปสนใจความเจ็บปวดนี้ เพราะหัวใจของนางถูกครอบงำด้วยความตื่นตระหนกที่สุดจะพรรณนา
เกวียนม้ามาถึงที่จวนฉู่อ๋องแล้วหยุดลง ทังหยางลงจากเกวียนและเปิดม่านออกเพื่อให้หยวนชิงหลิงเดินลงมา
มีโคมไฟขนาดใหญ่สองดวงแขวนอยู่หน้าประตูจวนฉู่อ๋อง ปกคลุมไปด้วยหมอกและส่องแสงเจิดจ้า
หยวนชิงหลิงรู้สึกไม่สบายใจ นางก้าวเท้าผิดทำให้ข้อเท้าพลิก กู้ซือรีบช่วยพยุงนางไว้และกระซิบว่า "พระชายาระวังด้วยนะขอรับ"
"ขอบคุณนะ! " หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้น นางสบตากับดวงตาที่เย็นชาของกู้ซือ
"เดินได้ไหมขอรับ? " กู้ซือปล่อยมือและถามนาง
หยวนชิงหลิงลองย่างเท้าและมันเจ็บมาก แต่นางก็เดินกะเผลกเข้าไปโดยไม่ยอมให้กู้ซือพยุง
เมื่อเข้าไปในจวน นางเดินตรงไปเรื่อยๆ ทังหยางจึงได้กล่าวว่า "คืนเมื่อวานนี้ ท่านอ๋องถูกโจมตีเมื่อตอนออกจากวังไป ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสขอรับ"
"สาหัสแค่ไหน?" มิน่าเล่าเมื่อวานเขาไม่ได้เข้าวัง ที่แท้เพราะถูกทำร้ายนี่เอง
"ท่านหมดลมหายใจไปแล้วขอรับ แต่ต่อมาฉีอ๋องได้นำยาเม็ดจื่อจินมาให้ท่าน จึงมีอาการดีขึ้นขอรับ แต่ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาสักที ยิ่งกว่านั้นตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น ท่านก็มีไข้สูงตลอดขอรับ และหายใจอ่อนแรง อาเจียนเป็นเลือดสองครั้ง " ทังหยางกล่าวด้วยเสียงทุ้มๆ
":black">เหตุใดเจ้าจึงเพิ่งมาตามข้าตอนนี้?" หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างกังวล
ถังหยางเดินเข้ามาอย่างรีบร้อนและกล่าวว่า " ท่านอ๋องไม่อนุญาตให้แจ้งไปที่พระราชวังขอรับ แต่เพราะสถานการณ์เมื่อคืนนั้นวิกฤตอย่างมาก จึงได้เข้าไปในวังเพื่อเรียนท่านฮ่องเต้ขอรับ แต่ไม่ทราบว่าเมื่ออดีตจักรพรรดิทราบเรื่องนี้ ก็สั่งให้บ่าวมาถามเกี่ยวกับสถานการณ์ จากนั้นฉางกงกงก็พาบ่าวเข้าไปในวังเพื่อไปรับพระชายามาขอรับ"
ทังหยางเองไม่ทราบจุดประสงค์ที่อดีตจักรพรรดิเรียกให้พระชายากลับมา ฉางกงกงบอกเพียงว่าพระชายาเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยท่านอ๋องได้
หยวนชิงหลิงไม่เวลาไปสนใจว่าเหตุใดอดีตจักรพรรดิจึงทราบเรื่องนี้ แต่เมื่อนางนึกขึ้นได้ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาฮ่องเต้มาถึงที่พระราชวังเฉียนคุนแล้ว แต่กลับเดินจากไป คงเป็นเพราะคนของจวนอ๋องนั้นเข้ามารายงานเรื่องนี้
กู้ซือตามหลังมาตลอด เมื่อได้ยินสิ่งที่ทังหยางพูด เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามหยวนชิงหลิงว่า "พระชายาทราบหรือไม่ว่าอดีตจักรพรรดิหมายถึงอะไรขอรับ? "
"ข้าไม่ทราบ ไปดูก่อนดีกว่า" หยวนชิงหลิงรู้สึกเจ็บเท้าอย่างมาก และรู้สึกกังวลใจด้วยเช่นกัน บางทีอาจเป็นอารมณ์ของเจ้าของร่างเดิมก็เป็นได้
เมื่อมาถึงหอเซียวเยว่ที่อวี่เหวินฮ่าวอาศัยอยู่ หัวหน้าองครักษ์ของจวนอ๋องได้ยินเสียงฝีเท้าแล้วจึงเปิดประตูออกมา ด้านในห้องนั้นมืดมนอย่างมาก เต็มไปด้วยกลิ่นคาวของเลือด และกลิ่นอายที่เคร่งขรึม
หยวนชิงหลิงขาอ่อนลงเพราะกลิ่นเลือดที่คาวมากนี้ นางยื่นมือออกไปกำลังจะจับประตูไว้ แต่ประตูกลับขยับไปตามแรงผลักของนาง และนางก็ล้มลงไปข้างหน้า
ฉีโหลวสาวใช้ของฉู่อ๋องรีบเข้าไปพยุงตัวนางขึ้นมา " พระชายาโปรดระวังเจ้าค่ะ"
หน้าผากของ หยวนชิงหลิงถูกกระแทกจนเป็นแผล มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย และนางก็รู้สึกหนักศีรษะขึ้นมา
นางรู้สึกมีนงงอยู่ในใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่? ไม่ใช่ว่าตนไม่เคยรับมือกับผู้ป่วยหนัก แล้วเหตุใดตนจึงจะลนลานเช่นนี้?
ในที่สุดนางก็เดินไปถึงข้างเตียง เมื่อนางเห็นคนที่นอนอยู่บนเตีนว นางก็หายใจเข้าอย่างตกใจ
เขา… คือฉู่อ๋อง อวี่เหวินฮ่าวหรือ?
มีแผลยาวจากหูด้านซ้ายไปถึงกระดูกระหว่างคิ้ว แผลนี้ลึกมากจนมองเห็นกระดูก รอบๆ แผลก็บวมขึ้นมา มีผ้าพันศีรษะอยู่ดูเหมือนจะมีบาดแผลเช่นกัน
เขาหลับตาแน่น ใบหน้าของเขาขาวซีดขาวราวกับกระดาษ ริมฝีปากของเขาไม่มีสีเลือดเลย เขาแทบไม่มีลมหายใจแล้ว เหมือนกับคนที่ตายไปแล้ว
"มีแผลสิบแปดแผล ช่องท้องถูกแทงไปสองที มีบาดแผลที่แขนทั้งสองข้าง เท้าทั้งสองข้างและหลัง" ที่มุมหนึ่งมีคนคนหนึ่งกำลังพูดอย่างสงบ
หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นและมองไป ฉีอ๋องยืนอยู่ข้างๆ ม่านกันบัง เสียงของเขาทั้งเจ็บปวดและตกใจ
หยวนชิงหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง โดนฟันไปสิบแปดที เขายังมีชีวิตอยู่อีกหรือ?
"หมอหลวงอยู่ที่ไหน? " หยวนชิงหลิงถามด้วยเสียงแหบๆ "ทำไมจึงไม่เชิญหมอหลวงมาดูอาการ?"
"หมอหลวงกลับวังไปแล้วขอรับ" ทังหยางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาเป็นคนส่งหมอหลวงกลับไปที่พระราชวังเอง หมอหลวงบอกว่า แม้แต่พระเจ้าก็ยากที่จะรักษา เขาเหลือเพียงหนึ่งลมหายใจแล้ว
"เปิดผ้าห่ม ข้าขอดูแผลหน่อย" หยวนชิงหลิงพูดขึ้นมาทันที
ทังหยางก้าวเข้าไปข้างหน้าและเปิดผ้าห่มขึ้น แล้วถอดเสื้อผ้าของเขาออก มีเพียงหน้าท้องและส่วนล่างตรงต้นขาเท่านั้นที่ถูกปกคลุมด้วยผ้าไว้ บาดแผลนั้นได้รับการรักษาแล้ว แต่ว่าหนังตรงบาดแผลนั้นเปิดออก มีเลือดปะปนไปด้วย สถานการณ์นั้นเลวร้ายอย่างมาก
หยวยชิงหลิงเอนตัวลงไปแล้วฟังการเต้นของหัวใจและการหายใจ หัวใจเต้นอย่างอ่อนแรง หยุดและเต้นเป็นครั้งคราว เขาเสียเลือดไปมาก และไม่สามารถรับการถ่ายเลือดได้และเริ่มมีอาการหัวใจล้มเหลวแล้ว