ซีมามาปิดปากนางแล้วเอ่ยเบาๆ “ชู่ อย่าพูดเหลวไหลเพคะ ผู้ที่มาคือมู่หยูกงกง บอกว่าฝ่าบาทเรียกตัวพระชายาเข้าวังทันทีพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงสีหน้าเปลี่ยนไป “ต้องเป็นเพราะอาการขององค์ชายแปดไม่ดีแน่” นางลุกขึ้น ซีมามาและลู่หยาเข้ามาช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าและเกล้าผมอย่างเรียบง่าย ตอนนี้อากาศหนาวเย็น ดังนั้นซีมามาจึงหยิบเสื้อคลุมออกมาสวมให้หยวนชิงหลิงแล้วจึงออกเดินทาง
มู่หยูกงกงรออยู่ด้านนอกอย่างร้อนรน เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงออกมาแล้วก็บอกนางทันทีว่า “พระชายา ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เสด็จเข้าวังเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงถามว่า “เป็นเพราะองค์ชายแปดอาการไม่ดีหรือ?”
มู่หยูกงกงพยักหน้าอย่างหนักใจ “พ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงจึงไม่รอช้า “ไปกันเถอะ”
เมื่อคืนนางดูแล้วว่านางไม่มียา ในกล่องยาไม่มียาอย่างอื่นนอกจากยาบำรุงครรภ์ ยาแก้หวัดและยาทาแผลเล็กๆ น้อยๆ มียาปฏิชีวนะอยู่ไม่กี่เม็ด แต่ว่าไม่มีประโยชน์อันใดกับผู้ที่บาดเจ็บสาหัสเลย
ฟ้ายังไม่สว่างดี ท้องฟ้าเป็นสีหม่นเข้ม ขอบฟ้ามีเส้นสีขาวปรากฏขึ้น ทั้งเมืองหลวงเงียบสงัดจนน่ากลัว
ซีมามาเดินทางไปกับนางด้วยพูดขึ้นเบาๆ “พระชายา หากไม่มั่นใจก็อย่าได้ลงมือช่วยเป็นอันขนาดนะเพคะ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ฮองเฮาต้องโทษท่านแน่”
หยวนชิงหลิงพยักหน้าอย่างเลื่อนลอย “ข้ารู้แล้ว”
นางจิตใจว้าวุ่นเล็กน้อย สาเหตุที่จิตใจไม่สงบก็คือนางไม่อาจมองเบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ที่จริงนางรู้สึกว่าเรื่องนี้มุ่งเป้ามาที่ฉู่อ๋อง
เมื่อเข้ามาในวังแล้ว มู่หยูกงกงก็พานางและซีมามาไปถึงตำหนักชิงหัว ที่นี่อยู่ข้างตำหนักของฮองเฮา สร้างขึ้นมาเป็นเอกเทศ ชื่อว่าตำหนักชิงหัว เป็นที่ประทับขององค์ชายแปด
เมื่อตามมู่หยูกงกงเข้าไปก็เห็นจักรพรรดิหมิงหยวนตี้และฮองเฮาอยู่ด้านใน พระสนมกุ้ยเฟย เสียนเฟย เต๋อเฟยต่างก็อยู่กันอย่างพร้อมหน้า
ฉีอ๋องและฉู่หมิงฉุ่ยก็อยู่ด้วย แต่ทั้งสองคนนั่งแยกกัน
หยวนชิงหลิงเดินไปย่อกายเคารพ จักรพรรดิหมิงหยวนตี้มองนางและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่ต้องมากพิธี เข้าเข้าไปดูเจ้าแปดเถอะ”
หยวนชิงหลิงพยักหน้า “เพคะ”
“พระชายาฉู่อ๋อง!” ฮองเฮาเรียกนาง
หยวนชิงหลิงหันกลับไป “เพคะ เหนียงเหนียง”
“เจ้ามีวิธีช่วยเขาใช่หรือไม่?” ฮองเฮามองนางด้วยสายตาคมปลาบ สายตานั้นใกล้เคียงกับความหวาดระแวง
หยวนชิงหลิงตอบเบาๆ “ต้องดูก่อนจงจะรู้ได้เพคะ”
ฮองเฮาลุกขึ้นทันที “ตอนนั้นฉู่อ๋องตายไปแล้วเจ้ายังช่วยเขากลับมาได้ หากวันนี้เจ้าช่วยลูกแปดไม่ได้ก็เป็นเพราะเจ้าตั้งใจไม่ช่วยเขา”
ยังไม่ทันได้เข้าไป ข้อหาความผิดก็หล่นใส่นางเสียแล้ว หยวนชิงหลิงกล่าวว่า “เหนียงเหนียง ตอนนี้ข้ายังไม่รู้อาการขององค์ชายแปด รอข้าดูก่อนแล้วค่อยว่ากันได้หรือไม่เพคะ?”
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้กล่าวอย่างราบเรียบ “ฮองเฮา ใจเย็นๆ ก่อน ให้นางเข้าไปดูหน่อยเถอะ”
ฉีอ๋องลุกขึ้นยืน “ข้าจะไปเป็นเพื่อนพี่สะใภ้เอง”
ห้องบรรทมด้านในและตำหนักด้านนอกมีแพงแค่กำแพงกั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ได้ใหญ่โตนัก
ข้างในมีหมอหลวงเฝ้าอยู่ บนเตียงมีเด็กชายวัยรุ่นนอนอยู่ด้วยร่างกายที่ปราศจากสีเลือด เขาคล้ายฉีอ๋อง แพขนตายาว นอนอยู่โดยแทบจะไม่มีลมหายใจ บนพื้นมีอ่างวางอยู่ใบหนึ่ง น้ำในอ่างนั้นถูกย้อมจนเป็นสีแดง น้ำกระเพื่อมขึ้นลงตามเสียงฝีเท้าราวกับคลื่นที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง เด็กชายผู้นั้นหน้าตาหมดจด หากไม่ใช่เพราะสีหน้าซีดขาวและกำลังหายใจรวยริน
หมอหลวงเฉากล่าวเบาๆ “พระชายา องค์ชายแปดถูกคนทำลายชีพจรหัวใจแล้วจึงถูกเอาดาบแทงเข้าที่หัวใจ แม้จะกินยาเม็ดจื่อจินเข้าไปแล้ว แต่ว่าอาการยังแย่นัก เขาหายใจช้าลงเรื่อยๆ แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หมอหลวงทั้งหลายไม่มีวิธีใดๆ และทำได้เพียงแต่ยืนรอ เห็นได้ว่าพวกเขายอมแพ้แล้ว ฮ่องเต้และฮองเฮาต่างก็อยู่ด้านนอก เกรงว่าหากตายก็คงจะเป็นคนผมขาวส่งคนผมดำ
หยวนชิงหลิงพยักหน้าและเดินเข้าไป
ตอนที่อยู่บนรถม้า นางแอบเอากล่องยาออกมาวางไว้บนพื้น ตอนที่ลงมาก็ถือกล่องยาลงมือ ตอนนี้เมื่อนางเปิดกล่องยาดูก็พบว่ามียาใหม่เพิ่มเข้ามาเล็กน้อย มียาที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวและยากระตุ้นหัวใจ ช้ำใน ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอด หลังจากที่นางสอดท่อระบายแล้ว การหายใจขององค์ชายแปดก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ว่าอาการก็ยังคงหนักมาก นอกจากอาการบาดเจ็บภายนอกแล้วยังมีเลือดออกข้างใน ดังนั้นปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก็คือเขาเสียเลือดมากเกินไป จะต้องทำการให้เลือดทันที แต่การให้เลือดจะสามารถทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ เพราะนางไม่อาจรู้ได้ว่าเลือดของเขาหยุดไหลแล้วหรือยัง
นางเดินออกไปบอกจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ว่านางต้องการให้เลือด เพราะไม่ใช่ครั้งแรกดังนั้นแม้แต่ฉีอ๋องก็เข้าใจ
หยวนชิงหลิงหยิบกระดาษตรวจสอบกรุ๊ปเลือดออกมาตรวจเลือด เลือดของฉีอ๋องไม่เข้ากัน ท่านอ๋องสี่อวี่เหวินเว่ยก็ให้ตรวจ เลือดของเขาก็ไม่เข้ากันเช่นกัน จี้อ๋อง ซุนอ๋องต่างก็ถูกเรียกเข้ามา หลังจากตรวจแล้ว หยวนชิงหลิงก็ยังคงส่ายหน้า
ฮองเฮาอดรนทนไม่ไหว “ทำไมเจ้าจึงเอาแต่ส่ายหน้า? เจ้าตั้งใจทำให้ผู้อื่นลำบากใจใช่หรือไม่? พวกเขาเป็นพี่น้องกัน จะไม่เข้ากันได้อย่างไร? หากนำเลือดของพวกเขามาหยดรวมกันแล้วจะต้องรวมกันได้”
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะอธิบายต่อนางอย่างไร จึงได้แต่กล่าวว่า “เหนียงเหนียง ไม่ใช่หม่อมฉันจงใจ หากกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน ถ่ายเลือดเข้าไปก็มีแต่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตน้องแปด”
“ลูกห้าเล่า?” จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ถามขึ้น
มู่หยูกงกงตอบว่า “ท่านอ๋องยังตรวจสอบเรื่องในวังอยู่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปเชิญมาพ่ะย่ะค่ะ”
หยวนชิงหลิงเดิมจะบอกว่าไม่จำเป็น อวี่เหวินฮ่าวเลือดกรุ๊ปเอ องค์ชายแปดเลือดกรุ๊ปบี แต่ว่าหากไม่ตรวจ ฮองเฮาต้องว่านางอีกแน่ อวี่เหวินฮ่าวถูกเรียกมาอย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงอยู่ที่นี่เขาก็นิ่งงัน สายตาซับซ้อน เขาไม่ต้องการให้นางมา
หยวนชิงหลิงเจาะเลือดที่นิ้วของเขาแล้วหยดลงบนกระดาษ
อวี่เหวินฮ่าวเอ่ยเสียงเบา “หากรู้สึกไม่สบายก็ต้องพักผ่อน”
“ข้ารู้แล้ว” หยวนชิงหลิงตอบเบาๆ
นางยกกระดาษขึ้นมาและส่ายศีรษะ “ไม่เข้ากันเพคะ”
ฮองเฮาราวกับจะคลุ้มคลั่ง มีคนผู้หนึ่งเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า ก้มศีรษะลงและกล่าวเสียงเบา “พี่สะใภ้ห้า แล้วข้าเล่า?”
หยวนชิงหลิงมองเขาอย่างตกใจเล็กน้อย เขาเรียกนางว่าพี่สะใภ้ แต่นางไม่เคยพบเขามาก่อน
หยวนชิงหลิงหันไปมองอวี่เหวินฮ่าวทันที อวี่เหวินฮ่าวจึงกล่าวว่า “น้องเก้า เจ้ามานี่”
องค์ชายเก้า? หยวนชิงหลิงนึกออกทันที
องค์ชายเก้าอวี่เหวินเทียน ปีนี้เขาน่าจะอายุราวสิบหกปี มารดาของเขาคือสนมหลัวกุ้ยผิน นางเคยได้รับความโปรดปรานอย่างมากจากฝ่าบาทและเคยวางแผนทำร้ายฮองเฮาจึงถูกตัดสินประหารชีวิต นางมีหนึ่งโอรสและหนึ่งธิดาที่ไม่มีโอกาสได้หลุดพ้นจากสภาพเลวร้ายเพราะความผิดของนาง
ฮองเฮามองเขาอย่างเย็นชา “เจ้ามายุ่งอะไรด้วย? ออกไป!”
ฮองเฮาเกลียดหลัวกุ้ยผิน เกลียดองค์ชายเก้าและเกลียดองค์หญิงสิบเจ็ด เรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงทราบ
องค์ชายเก้าค่อยๆ เดินคอตกออกไป
หยวนชิงหลิงรู้ว่าในยามนี้หากไม่ยั่วโมโหฮองเฮาได้ก็จะดีที่สุด แต่เงาร่างอันสิ้นหวังและหางตาโค้งลงที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาทำให้หยวนชิงหลิงหวั่นไหว องค์ชายเก้าห่วงใยพี่ชายผู้นี้จริงๆ ดังนั้นถึงแม้จะรู้ว่าฮองเฮาไม่ชอบเขา แต่เขาก็ยังเสนอตัวเข้ามา
หยวนชิงหลิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “นี่เป็นเรื่องฉุกเฉิน เลือดของพี่น้องจะเข้ากันได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตรวจเสียหน่อยเถอะ”
ยามที่หยวนชิงหลิงพูดนางหันไปมองจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ เขาพยักหน้าช้าๆ
องค์ชายเก้าเดินกลับมาและมองหยวนชิงหลิง “รบกวนพี่สะใภ้ด้วย”
เขาคงเพิ่งเสียงแตกได้ไม่นาน เสียงจึงได้ทุ้มต่ำมาก
หยวนชิงหลิงตรวจเลือดให้เขา เงียบไปครู่หนึ่งแววตาของนางก็ปรากฏแววยินดี “เข้ากันได้!”
ฮองเฮาตัวแข็งไปชั่วขณะ นางหายใจหอบถี่อย่างไม่เต็มใจและมององค์ชายเก้าอย่างเกลียดชัง
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้เอ่ยออกมาว่า “ยังไม่รีบนำตัวเข้าไปอีก?”
หยวนชิงหลิงกล่าวกับองค์ชายเก้าว่า “น้องเก้า เชิญ!”
องค์ชายเก้าเดินตามนางเข้าไป ครั้งนี้ฮองเฮาและฮ่องเต้ก็ตามเข้ามาด้วย เลือดไหลออกมาจากร่างขององค์ชายเก้าผ่านทางสายเล็กเข้าสู่ร่างกายขององค์ชายแปด
หยวนชิงหลิงแนะนำจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ว่า “องค์ชายเก้ายังอายุน้อย ควรจะเตรียมคนมาเพิ่มอีก เสด็จพ่ออนุญาตให้เหล่าองครักษ์มาตรวจเลือดได้หรือไม่เพคะ?”
ฮองเฮาไม่ท่าทีไม่เต็มใจนัก นางกล่าวอย่างเรียบเฉย “โอรสของข้ามีสายเลือดแห่งสวรรค์ จะใช้เลือดผู้อื่นซี้ซั้วได้อย่างไร?”
หยวนชิงหลิงเหลือบมองจักรพรรดิหมิงหยวนตี้และกล่าวเบาๆ “หม่อมฉันคิดว่ารักษาชีวิตไว้สำคัญกว่า”
ฮองเฮาพูดเสียงแหลม “เช่นนั้นหากใช้เลือดคนอื่น ลูกของข้าก็จะรอดใช่หรือไม่?”
หยวนชิงหลิงเงียบไปชั่วอึดใจ “หม่อมฉันไม่อาจรับรองได้เพคะ”
“ในเมื่อเจ้าไม่อาจรับรองได้ แล้วจะให้สายเลือดของราชวงศ์แปดเปื้อนได้อย่างไร?” ฮองเฮากล่าวอย่างโกรธเคือง
หยวนชิงหลิงพยายามอธิบายเหตุผล “เหนียงเหนียง นี่เป็นการทำให้เลือดของราชวงศ์ต้องแปดเปื้อนที่ไหนกันเพคะ? นี่เป็นเพียง…”
MANGA DISCUSSION