มู่หยูกงกงพูดอย่างรวดเร็ว “ถูกต้อง ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ มิควรทำเยี่ยงนี้”
อวี่เหวินฮ่าวมองตาของมู่หยูกงกง ราวกับว่าคิดขึ้นมาได้ ถามว่า “กงกงมาในเวลานี้ มีเรื่องอะไรหรือไม่”
มู่หยูกงกงส่ายหัวทันที “มิมีอะไรพ่ะย่ะค่ะ แค่ออกจากวังมาเยี่ยมพระชายาตามคำสั่งของฝ่าบาท”
“เจ้าปทูลเสด็จพ่อว่า ข้าได้แต่งงานกับหญิงป่าเถื่อน และต้องการหย่ากับนาง!” อวี่เหวินฮ่าวกล่าวอย่างโกรธเคือง
ริมฝีปากของมู่หยูกงกงสั่นไหว เห็นลู่หย่าวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง “ท่านอ๋อง มามา แย่แล้ว พระชายาทรงกำลังคิดสั้นแล้ว”
มู่หยูกงกงกลัวจนขาของเขาอ่อนลงทันที และกลุ่มคนทั้งหมดก็รีบไปที่หอเซียวเยว่
หยวนชิงหลิงไม่ได้คิดสั้น แต่กำลังจะคิดสั้นสั้น โชคดีที่ซวีอีพบเข้าทันเวลา แย่งกริชมาได้ แต่ทว่า ดูเหมือนว่ามือของพระชายาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน มีเลือดหยดอยู่สองสามหยดบนพื้น
ซีมามาเห็นเช่นนี้ ก็รีบผลักอวี่เหวินฮ่าว “ท่านอ๋องยังทรงมิพอพระทัยอีกหรือเพคะ?”
อวี่เหวินฮ่าวจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เต็มใจและเอื้อมมือออกไปประคองนาง “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”
หยวนชิงหลิงสะอื้นไห้และหันหลังให้กับเขา พูดด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูกว่า “ไปเลย ไปหาชายารองของเจ้าซะ ประเดี๋ยวข้าก็จะไปจากจวน”
“หาชายารองอะไรกัน ก็บอกแล้วว่าเป็นข่าวลือ เจ้ายังถือเอาจริงเอาจังอีก” อวี่เหวินฮ่าวทำอะไรไม่ถูก
“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ ตั้งแต่ข้าท้อง ทุกคนก็คอยจัดเตรียมหาชายารองให้เจ้า ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นในเวลานี้ ถ้าเจ้าแต่งชายารองตอนนี้ และมีคนใหม่ใครจะจำคนเก่าอย่างข้าได้อีก ข้าจากไป ตายไปเลยจะยังดีเสียกว่า” หยวนชิงหลิงร้องไห้ด้วยความเศร้า ไหล่ของนางสั่นอย่างรุนแรง
อวี่เหวินฮ่าวขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ “ข้าอธิบายให้เจ้าฟังแล้ว เจ้ายังไม่เชื่ออีก เจ้าจะโวยวายไปถึงเมื่อไหร่กัน?”
หยวนชิงหลิงร้องไห้และหยุดพูด
ซีมามาพามู่หยูกงกงออกไป มอบเหรียญเงินให้มู่หยูกงกง แล้วถอนหายใจ “สิ่งที่ท่านเห็นในคืนนี้ ห้ามกราบทูลไท่ซั่งหวงหรือฝ่าบาทนะเจ้าคะ คู่รักหนุ่มสาวงอนกันเล็กๆน้อยๆ ตั้งแต่พระชายาทรงตั้งครรภ์ นิสัยของนางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นที่เข้าใจได้ว่ามีความดื้อรั้นขึ้นบ้าง และขอให้มู่หยูกงกงช่วยปิดบังไว้ด้วยนะเจ้าคะ”
พ่อมู่กงกงผลักเงินออกและกล่าวว่า “กูกูดูแลพระชายาให้ดีด้วยเถอะ ข้าขอตัวกลับก่อนแล้ว”
หลังจากที่มู่หยูกงกงจากไป สองสามีและภรรยาก็มองหน้ากัน ทั้งคู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มให้ซึ่งกันและกัน แต่หลังจากยิ้ม หยวนชิงหลิงก็หลั่งน้ำตา นางเศร้าในทันใด น้ำตาของนางเหมือนลูกปัดที่เชือกขาดนางไม่สามารถหยุดมันได้
ตอนแรกอวี่เหวินฮ่าวคิดว่านางแสร้งทำ แต่เมื่อเห็นว่าน้ำตาของนางไหลออกมาเป็นทาง นางร้องไห้เสียใจมาก เขารู้สึกประหม่า เอามือกุมใบหน้าของนางไว้ และค่อยๆ เช็ดน้ำตาด้วยนิ้วของเขา “เป็นอะไรไป? จู่ๆ ก็ร้องไห้ อึดอัดมากหรือ?”
หยวนชิงหลิงร้องไห้ ยิ่งร้องไห้ยิ่งเศร้าใจ นางไม่พูดอะไรสักคำ ทำให้ทุกคนกังวลขึ้นมา และซีมามาก็พูดทันทีว่าจะไปตามหมอหลวง “ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นไร” ดวงตาทั้งสองข้างบวมจากการร้องไห้เหมือนลูกวอลนัท
“เกิดอะไรขึ้น บอกข้ามา!” อวี่เหวินฮ่าวถามอย่างกังวลใจ
หยวนชิงหลิงมองไปที่เขา และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บที่หัวใจเล็กน้อยอีกครั้ง “ข้าแค่คิดถึงเราทะเลาะกัน ในใจรู้สึกทรมาน ข้าบอกจะจากไป เจ้าบอกว่าจะหย่ากับข้า จะฆ่าเด็ก ข้ารู้ว่าเป็นเรื่องเท็จทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าทำไม ข้าถึงได้เศร้าใจนัก คำเหล่านี้แทงเหมือนเข็ม และปลายหัวใจของข้าก็เจ็บ”
รู้สึกอยากร้องไห้ และหัวใจของเขาเจ็บปวดเหมือนที่นางพูด ในขณะนี้ เขารู้ว่าในชีวิตของเขา เขาไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีหยวนชิงหลิง
น้ำเสียงของเขาที่ปวดร้าวและร้อนรน และพูดว่า “คราวหน้าเราจะไม่พูดแบบนี้อีก แม้จะเป็นแค่การแสดง ก็จะไม่พูดอีก ไม่ เราจะไม่แสดงอีกแล้ว ถ้ายังมีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ข้าจะปฏิเสธเองเพียงผู้เดียว”
หยวนชิงซบอยู่ในอ้อมอกของเขาและตอบรับอย่างหนักแน่น ดวงตาของนางยังร้อนผ่าวอยู่
ทว่าว่า มู่หยูกงกงกลับวังไป ไม่ฟังคำพูดของซีมามาเลย รักษาความลับ แต่เล่าให้จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ฟังจนหมด
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ขมวดคิ้ว “พระชายาคิดสั้นจริงหรือ?”
“ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่เมื่อกระหม่อมไปถึง ก็มีเลือดอยู่ที่พื้นและพระหัตถ์ของพระชายาก็ได้รับบาดเจ็บ พระชายาร้องไห้เสียใจมาก และท่านอ๋องก็ทรงโกรธจนทนไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง “พวกเขาดูเหมือนกำลังแสดงกันอยู่หรือไม่”
มู่หยูกงกงส่ายหัวแล้วกล่าวว่า “กระหม่อมดูแล้วไม่เหมือนพ่ะย่ะค่ะ และพวกเขาไม่รู้ว่ากระหม่อมจะไปที่นั่นมาก่อน จะเล่นให้ใครดูล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ส่ายหัว “มิจำเป็น เจ้าห้าฉลาดนัก และภรรยาของเขาก็เรื่องมากเสียด้วย”
“นี่…กับแค่มิต้องการชายารอง?” มู่หยูกงกงลังเล “ฝ่าบาท กระหม่อมไม่เข้าใจเหตุใดท่านอ๋องถึงปฏิเสธการอภิเษกนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่เข้าใจ?” จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ยิ้มจางๆ
“กระหม่อมโง่เขลานัก” มู่หยูกงกงกล่าว “ฝ่าบาทโปรดให้คำชี้แนะด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้เย้ยหยัน “เจิ้นก็ไม่รู้ การเข้าหาฉู่โสวฝู่ สำหรับเขา ข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือ พระชายาฉู่อ๋องอาจไม่โปรดยัยหนูตระกูลฉู่นัก เพื่อผู้หญิงคนเดียว สละโอกาสอันยิ่งใหญ่ เขาดูไม่เหมือนคนโง่เขลาเช่นนี้เลย”
มู่หยูกงกงได้ยินว่าเกี่ยวข้องถึงราชสำนัก จึงไม่กล้าถามอีก
ไม่ใช่ว่าจักรพรรดิหมิงหยวนตี้จะมิทรงเข้าพระทัยสิ่งที่อวี่เหวินฮ่าวกำลังคิดเลย ฉู่โสวฝู่เสนอหลานสาวของเขาซ้ำๆ เพื่อให้เป็นชายารองของเขา เขาต้องรู้จุดประสงค์และความตั้งใจอย่างเป็นแน่
นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา แต่ก็หมายความว่าเขาจะถูกควบคุมโดยฉู่โสวฝู่ ลูกชายคนนี้หยิ่งผยอง ไม่เต็มใจเพื่อเห็นแก่ผลประโยชน์แล้วจะบังคับตัวเองให้เลือกตัวเลือกบางอย่างที่เขาอาจเผชิญในอนาคต ไม่ประนีประนอม เป็นการดีหรือไม่นั้น ต้องมองมันจากสองด้าน การเป็นจักรพรรดิ บางครั้งไม่สามารถประนีประนอมอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม บางครั้งจำเป็นต้องประนีประนอม มีความปิติยินดีในพระทัยของจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ แม้ว่าเขาจะยังต้องประสบกับมัน แต่อย่างน้อย เขาก็เห็นสัญญาณที่ดี
เกี่ยวกับพระราชโองการให้อภิเษกกับฉู่หมิงหยางมาเป็นชายารอง ก็ไม่ได้ส่งถึงจวนฉู่ ซึ่งถือเป็นการหลีกเลี่ยงอุปสรรคครั้งนี้ไปได้
แต่ทั้งหยวนชิงหลิงและอวี่เหวินฮ่าวต่างก็รู้ดีว่าปัญหานี้จะกลับมาเสมอ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก พวกเขาไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไรได้อีก จากอีกมุมหยวนชิงหลิงค่อนข้างมีความสุขมาก เพราะนางไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวที่ดิ้นรนเพื่อรักษา ยังมีเขาอยู่เคียงข้าง หลังจากประสบกับสิ่งนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองก็ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
หลังจากผ่านเดือนที่ยากลำบาก ก็เข้าสู่ฤดูหนาว
ในสภาพอากาศหนาวเย็น หยวนชิงหลิงไม่ชอบเคลื่อนไหวนัก
การกินและการดื่มเริ่มเป็นปกติแล้ว แม้ว่าบางครั้งจะมีอาการคลื่นไส้อยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทารกในครรภ์เริ่มแข็งแรง ทุกครั้งที่หมอหลวงมาตรวจครรภ์ เขาก็พยักหน้าอย่างพอใจ “พัฒนาการดีมาก พัฒนาการดีมากพ่ะย่ะค่ะ”
ในวันที่ฉีอ๋องอภิเษกชายารอง เป็นวันที่หิมะตกครั้งแรก
เนื่องจากท่านอ๋องอภิเษกชายารองก็เป็นงานสำคัญเช่นกัน จวนฉีจึงมีงานเลี้ยงขนาดใหญ่ และอวี่เหวินฮ่าวและหยวนชิงหลิงซึ่งเป็นพี่และพี่สะใภ้ ยังคงต้องร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขา
เป็นเรื่องบังเอิญที่จี้อ๋องเสด็จกลับเมืองหลวงในวันนี้ และเสด็จกลับเมืองหลวงด้วยความดีความชอบ
ฝ่าบาทประทานรางวัลอย่างหนักแก่เขา โดยยกย่องเขาที่ปราบปรามโจรทั้งหมดในเมืองถิงเจียงในเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่ง
จักรพรรดิหมิงหยวนประทานเสื้อคลุมสีเหลืองแก่จี้อ๋อง ซึ่งไม่ใช่สีเหลืองสด แต่ฝ่าบาทให้เสื้อคลุมสีเหลืองนั่นหมายความว่าอย่างไร
เหล่าขุนนางเริ่มคาดเดาอีกครั้ง
ฝ่าบาทแห่งราชวงศ์ก่อนๆก็ให้เสื้อคลุมสีเหลืองเช่นกัน แต่มอบให้กับรัชทายาทเท่านั้น ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ คือยอมรับจี้อ๋องเป็นรัชทายาทหรือไม่? ถูกต้อง จี้อ๋องทำผลงานได้ดีตั้งแต่แรกแล้ว และตอนนี้เขาได้คุณงามความดีที่ปราบพวกโจรได้ ได้รับเสื้อคลุมสีเหลือง อีกทั้งเป็นโอรสคนโต ถ้าฝ่าบาทมีพระประสงค์จะให้เขา เป็นรัชทายาท ก็คงเป็นเรื่องชอบธรรม
แต่รู้สึกสงสารฉู่อ๋อง เขายังคิดว่าพระชายาทรงตั้งครรภ์ทำให้สามารถรักษาตำแหน่งรัชทายาทได้อย่างมั่นคง และยังเป็นเรื่องไม่แน่นอนว่าทายาทนี้เป็นชายหรือหญิง แม้ว่าจะเป็นองค์ชายน้อย แต่ก็อาจไม่ใช่ของเขา เพราะโอรสคนโตและสายตรงก็ยังอยู่ จะว่าความฉลาด ในขณะที่เหล่าขุนนางทั้งหมดจะร้องไห้เสียใจแทนหาอวี่เหวินฮ่าว อวี่เหวินฮ่าวก็พาพระชายาฉู่อ๋องมาร่วมเชลลฃลบลงานเลี้ยงการอภิเษกชายารองของฉีอ๋อง
MANGA DISCUSSION