นางควานหาของในแขนเสื้อ อวี่เหวินฮ่าวรีบห้ามนางไว้ทันที "พอแล้ว ไม่ต้องหาแล้ว ข้าเห็นคทาหลวงนั่นแล้วปวดหัว"
"ไม่ได้จะตีท่านเสียหน่อย ท่านจะเจ็บอะไรกัน?" หยวนชิงหลิงยิ้ม
อวี่เหวินฮ่าวช่วยนางถอดเสื้อคลุม "นอนเถอะ"
หยวนชิงหลิงนอนลง อวี่เหวินฮ่าวก็นอนลงเช่นกัน เขายื่นมือออกไปอย่างเคยชิน นางก็ยกศีรษะขึ้นอย่างเคยชินเช่นกันเพื่อให้เขาสอดแขนรองใต้คอนาง จากนั้นก็พลิกตัว ทั้งก็เข้าสู่อ้อมของเขา การเคลื่อนไหวเช่นนี้ทำจนเคยชินเป็นปกติก็กลายเป็นนิสัย เพียงแค่เขายื่นมือออกมา นางก็ยกศีรษะขึ้นให้เขาสอดมือเข้าไปได้ พฤติกรรมนั้นเป็นไปโดยธรรมชาติ แต่ก่อนทั้งสองคนไม่ได้สังเกต แต่คืนนี้พวกเขากลับพบความจริงข้อนี้พร้อมกันและยิ้มให้กัน ที่แท้เมื่อเป็นสามีภรรยามานานแล้ว เรื่องต่างๆ มากมายก็เป็นไปตามธรรมชาติและความเคยชิน ความเคยชินนั้นยังรวมไปถึงยามที่เขากอดนางก็มักจะจูบแก้มและคอของนางโดยไม่อาจห้ามได้ อีกทั้งมือก็ยังซุกซนอยู่ไม่สุข คืนนี้ทั้งสองอารมณ์ดี อวี่เหวินฮ่าวเห็นว่าหยวนชิงหลิงอารมณ์ดี เขาจึงอารมณ์ดีไปด้วย
หยวนชิงหลิงดึงมือของเขาไปทาบบนหน้าอกของนาง อวี่เหวินฮ่าวชักมือกลับทันที "ห้ามยั่วข้าเล่น ดึกแล้ว แล้วข้าก็ไม่อยากอาบน้ำเย็นด้วย"
ยั่วจนเขาร้อนรุ่มแต่ก็ไม่อาจแตะต้องนางได้ ต้องทรมานไปทั้งคืนและอย่าได้คิดว่าจะนอนได้เลย
หยวนชิงหลิงพลิกตัวมาทับเขาไว้และพูดเบาๆ พลิ้วแผ่วที่ริมฝีปาก "คงไม่ต้องกลัวแล้ว ท่านเบาแรงหน่อยก็พอ"
อวี่เหวินฮ่าวมองนาง "เอาจริงหรือ?"
"เอาจริง!" หยวนชิงหลิงปรือตาลง
อวี่เหวินฮ่าวลุกขึ้นมาแล้วค่อยๆ ประคองนางนอนลงช้าๆ และพูดอย่างเอาจริงเอาจัง "คืนนี้เจ้าห้ามแตะตัวข้าอีก แม้แต่แขนเสื้อของข้าก็ห้ามแตะ เขยิบเข้าไปข้างในอีก เขยิบเข้าไปอีกหน่อย"
หยวนชิงหลิงกลอกตา "ทำตัวเป็นหลิ่วเซี่ยฮุ่ย*หรือ?" (*บุคคลในหลู่ก๊กยุคชุนชิวจ้านกั๋ว หลิ่วเซี่ยฮุ่ยสวมกอดลูกสาวของอ้ายต้ง แต่ก็มิได้ล่วงเกินหรือแสดงกิริยาลวนลาม เปรียบเปรยถึงผู้ที่มีจิตใจแน่วแน่มั่นคง)
"คำของหมอหลวงต้องจำไว้ให้ดี" อวี่เหวินฮ่าวนอนลงแล้วค่อยๆ ปรับลมหายใจช้าๆ และพึมพำสะกดจิตตนเองให้นอนหลับ คนข้างกายของเขาเป็นยั่วยวนนัก ปีศาจชัดๆ เขาจะแตะต้องนางไม่ได้ สนใจก็ไม่ได้ "อามิตตาภพุทธ"
เดิมหยวนชิงหลิงเพียงคิดจะแกล้งเขาเล่นๆ เท่านั้น แต่เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้แล้ว นางก็เอาตัวเข้าไปแนบชิดพร้อมกดปากลงไป
"อามิตตาภพุทธ!" คำพูดงึมงำอู้อี้หลุดออกมาจากปากเขา สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นลึกล้ำทันที มือค่อยๆ เอื้อมไปกอดด้านหลังของนาง
ผ่านไปชั่วเวลาน้ำชา หยวนชิงหลิงก็นอนลงพร้อมรอยยิ้มกว้าง "อย่าแตะตัวข้า ระหว่างเรามีเส้นแบ่งเขตกั้นอยู่ อามิตตาภพุทธ"
อวี่เหวินฮ่าวลุกขึ้นพลางสบถ หยิบเสื้อผ้าสองชิ้น สวมรองเท้าแล้วจึงเดินปึงปังออกไป
"ท่านอ๋องจะไปอาบน้ำเย็นอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?" ซวีอีที่เฝ้าอยู่ด้านนอกและไปพักเมื่อถึงยามจื่อจึงได้เห็นเหตุการณ์เช่นนี้จนชินตา
"ยุ่งไม่เข้าเรื่อง!" อวี่เหวินฮ่าวเดินจากไปโดยไม่ตอบคำถาม
ซวีอียักไหล่ "บอกแล้วว่าให้ท่านหาคนมาปรนนิบัติสักสองสามคน ท่านก็ไม่เอา แล้วจะยังโทษใครได้อีก?"
อวี่เหวินฮ่าวในใจเต็มไปด้วยเพลิงโทสะลุกโชน
ข้างสระปีศาจมีสระน้ำเย็น ตั้งแต่ที่หยวนชิงหลิงตั้งครรภ์ เขามาที่นี่บ่อยขึ้นมาก ทังหยางจึงให้คนประดับไฟไว้
แสงไฟมืดสลัว เขาถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออกอยู่ด้านหลังฉาก เมื่อกำลังจะถอดชุดนอนก็เห็นเงาหนึ่งเคลื่อนไหว มีคนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ช่วยเขาถอดเสื้อผ้าจากด้านหลัง สองมือกอดเขาแน่นและเบียดกายแนบชิดเข้ามา
อวี่เหวินฮ่าวหัวเราะ "เจ้าไม่นอนแล้วตามข้ามาที่นี่ทำไม? รีบกลับไปนอนเสีย"
ริมฝีปากนั้นจรดลงบนไหล่ของเขาพร้อมด้วยเสียงหอบ
อวี่เหวินฮ่าวตะลึงงัน เขาจับมือที่กอดเขาแล้วหันกลับไปทันที ภาพที่เข้ามาในคลองสายตากลับเป็นแม่นางน้อยใบหน้ากลมมน นางหน้าแดงก่ำ ดวงตาของนางพร่างพรายและมองเขาอย่างเขินอายปนหวาดกลัว
อวี่เหวินฮ่าวผลักนางออกทันทีแล้วตวาดเสียงดัง "เจ้าเป็นใคร? ใครให้เจ้าเข้ามา?"
แม่นางน้อยกระเด็นล้มลงบนพื้น จากนั้นนางก็คุกเข่าขึ้น แพขนตาสั่นไหวเบาๆ ดูท่าทางน่าสงสาร "หม่อมฉันชื่อเสี่ยวหลาน มาปรนนิบัติท่านอ๋องเพคะ"
อวี่เหวินฮ่าวพูดอย่างโกรธเกรี้ยว "ใครให้เจ้ามาปรนนิบัติข้า"
เขาตะโกนเสียงดัง "ฉีโหลว ฉีโหลว!"
กลางดึก ด้านนอกไม่มีคน
เขาใช้มือเดียวลากเสี่ยวหลานออกไป
เพิ่งออกจากเรือนมาก็เห็นว่าหยวนชิงผิงเดินออกมา นางเห็นอวี่เหวินฮ่าวเปลือยท่อนบนลากเสี่ยวหลานมาด้วยก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนไป "ท่านอ๋อง ท่าน…"
นางรีบดึงเสี่ยวหลานมาหลบด้านหลังทันทีและมองอวี่เหวินฮ่าวด้วยสายตาอาฆาต ริมฝีปากของนางสั่นระริก "ท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร?"
อวี่เหวินฮ่าวจ้องนางแล้วหรี่ตาลง "เจ้าสอนนางหรือ?"
หยวนชิงผิงเอ่ยถามเสี่ยวหลาน "เจ้าเป็นอะไรหรือไม่? ไม่เป็นไรใช่ไหม? อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่นี่"
เสี่ยวหลานส่ายหน้าอย่างหวาดกลัว น้ำตาของนางเอ่อล้นออกมายิ่งทำให้ดูสร้อยเศร้าและน่าสงสาร
อวี่เหวินฮ่าวโกรธจัด เขาดึงตัวเสี่ยวหลานไว้ "ใครบอกให้เจ้าทำแบบนี้?"
ซวีอี ลู่หยาและพวกฉีโหลวต่างก็รีบมา เมื่อเห็นภาพนี้เข้าต่างก็อึ้งไป ท่านอ๋องรังแกแม่นางน้อยได้อย่างไร?
หยวนชิงผิงก็โมโหเช่นกัน "อย่าคิดว่าท่านเป็นองค์ชายแล้วจะรังแกผู้หญิงได้ ปล่อยนางเดี๋ยวนี้นะ"
อวี่เหวินฮ่าวโมโหจนลมออกหู แต่เมื่อฟังจากน้ำเสียงของน้องสะใภ้แล้วนางคงไม่ได้เป็นผู้บงการ โวยวายเสียงดังเช่นนี้ย่อมต้องได้ยินไปถึงหยวนชิงหลิง
ซีมามาประคองนางเดินเข้ามา นางสวมเสื้อคลุมผ้าแพรลากยาวมากับพื้น เพราะว่ามาอย่างรีบร้อน ท่าทางจึงเหมือนกับนกเพนกวินใส่เสื้อคลุม
"มีเรื่องอะไรกัน?" นางก้าวมาด้านหน้า มองเสี่ยวหลานแล้วจึงมองอวี่เหวินฮ่าวที่กำลังโกรธจัด
หยวนชิงผิงพูดอย่างอยุติธรรม "ท่านพี่ ท่านอ๋องกับเสี่ยวหลาน… เขาทำอย่างนี้ได้อย่างไร?"
อวี่เหวินฮ่าวโกรธจนควันออกหู เขาพูดอย่างโกรธเคือง "ข้ากำลังอาบน้ำอยู่ที่สระปีศาจ จู่ๆ นางก็บุกเข้ามากอดข้าจากด้านหลัง ข้าก็เลยลากนางออกมา"
หยวนชิงผิงอึ้งไป "เหลวไหล…"
แต่คำพูดของนางกลับหยุดลงในทันใด นางหันไปมองเสี่ยวหลาน "เจ้าบอกว่าเจ้าจะออกไปเดินเล่น เจ้าไปเดินเล่นที่ไหนกัน?"
แต่ว่าไม่มีทางแน่ นางเชื่อใจเสี่ยวหลานว่านางเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ เสี่ยวหลานคุกเข่าลงทันทีและร้องไห้ออกมาเสียงดัง เสียงร้องไห้นั้นฟังดูเจ็บปวดและหมดหวัง หยวนชิงผิงไม่อาจแยกแยะข้อเท็จจริง ไม่รู้ว่านางร้องไห้เพราะว่าถูกรังแกหรือว่าเหตุผลอื่นกันแน่
หยวนชิงหลิงเหลือบมองอวี่เหวินฮ่าวแล้วจึงหันไปพูดกับซวีอี "พาท่านอ๋องไปอาบน้ำเถอะ"
"ยังจะอาบอะไรอีก…" อวี่เหวินฮ่าวยังไม่หายโกรธ แต่กลับได้รับสายตาเย็นเยียบจากหยวนชิงหลิง "ล้างตรงที่ถูกนางสัมผัสออกให้สะอาด แล้วก็เช็ดให้สะอาด ซวีอี เจ้าไปช่วยเขาอาบ โดนตรงไหนบ้างให้ขัดออกแรงๆ !"
ซวีอีรับคำสั่งอย่างแข็งขันและดึงตัวอวี่เหวินฮ่าวไป
อวี่เหวินฮ่าวยังไม่ลืมหันกลับมาอธิบาย "ข้าไม่ได้แตะนาง ตอนที่นางเข้ามากอดก็รู้แล้ว…"
"ลู่หยา ฉีโหลว นำคุณหนูรองและแม่นางเสี่ยวหลานไปที่ห้องด้านข้าง" หยวนชิงหลิงหมุนตัวไป ซีมามาจึงรีบวิ่งเข้าไปประคอง
ลมหายใจของหยวนชิงหลิงหอบเร็วมาก นางกำลังโมโห
เสี่ยวหลานถูกฉีโหลวดึงขึ้น "ไปเถอะ จะร้องไห้ทำไม? ท่านอ๋องรังแกเจ้าหรือไง?"
หยวนชิงผิงถลึงตาใส่ฉีโหลว "ไม่เช่นนั้นเป็นเสี่ยวหลานไปยั่วเขางั้นหรือ?"
ให้ตายนางก็ไม่เชื่อ เสี่ยวหลานเอาแต่ร้องไห้และยอมให้ฉีโหลวดึงตัวนางไปตามใจ
หยวนชิงหลิงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ความร้อนรนอึดอัดในใจปะทุขึ้นมาอีกครั้งจนมีความรู้สึกอยากอาเจียน
นางอดทนฝืนไว้อย่างสุดกำลังและให้ซีมามารินน้ำให้นาง นางดื่มไปเล็กน้อยแล้วจึงค่อยมองเสี่ยวหลาน "พูดมาเถอะ เรื่องเป็นมาอย่างไร?"
หยวนชิงผิงทนไม่ไหวก้าวเข้ามาด้านหน้า "ท่านพี่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวหลาน นางถูกรังแก แม้ท่านจะไม่ช่วยนางแต่ก็ไม่ควรคาดคั้นนางเช่นนี้"
หยวนชิงหลิงกวาดตามองหยวนชิงผิงเล็กน้อย "เจ้าเงียบไปก่อน ฟังนางพูด"
เสี่ยวหลานกลับเอาแต่ร้องไห้และไม่พูดอะไร
หยวนชิงหลิงเริ่มหมดความอดทน นางตวาดออกมา "หยุดร้องไห้ได้แล้ว"
"ท่านพี่!" หยวนชิงผิงมองนางอย่างผิดหวัง "นางเป็นคนที่ถูกรังแก ทำไมท่านจึงตวาดนางอีก?"
หยวนชิงหลิงมองน้องสาวที่เดิมทีฉลาดเฉลียว วันนี้สมองของนางเต็มไปด้วยขี้เลื่อยหรืออย่างไร?
MANGA DISCUSSION