ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 183 คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
อวี่เหวินฮ่าวไต่ถามสาวใช้ "องค์กวนอิมประทานบุตรนั่นมีลักษณะอย่างไร? สีอะไร?" แต่สาวใช้เพิ่งถูกทำให้ตกใจจนเกือบร้องไห้ เมื่อถูกอวี่เหวินฮ่าวไต่ถาม นางยังคงนึกสิ่งใดไม่ออก พูดจาตะกุกตะกัก หัวสมองว่างเปล่า ลิ้นก็พันกันไปหมด
"คือ……คือว่าหม่อมฉัน หม่อมฉันจำไม่ได้แล้วเพคะ น่าจะเป็นสีขาวหยกเพคะ"
อวี่เหวินฮ่าวแสยะยิ้มแล้วหันไปมองพระชายาจี้อ๋อง "พี่สะใภ้ ดูเหมือนว่าในสายตาของท่าน ข้าคงจะเป็นแค่เพียงคนโง่คนหนึ่งที่จะกลั่นแกล้งกันอย่างไรก็ย่อมได้"
พระชายาจี้อ๋องนิ่งไป "น้องห้าหมายความว่าอย่างไร?"
"ก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้ก็ให้สืบสวนต่อไปก็แล้วกัน" อวี่เหวินฮ่าวหันหลัง พระชายาจี้อ๋องมองดูด้วยสายตาอันเยือกเย็น นางกำหมัดแน่น แล้วจึงค่อยๆคลายมือออก
"ฉีมามา เจ้าจะต้องได้รับโทษ!" พระชายาจี้อ๋องกล่าวเสียงดังด้วยความเคืองแค้น
มามาผู้ที่กำลังจะลงมือโบยสาวใช้ตัวน้อยก็รีบคุกเข่าลงในทันที ใบหน้าของนางซีดเผือด มามานางนี้เป็นมามาที่พระชายาจี้อ๋องพาเข้ามาดูแลจัดการจวนเมื่อตอนที่นางอภิเษก เป็นมามาที่มีความสนิทสนมกับพระชายาจี้อ๋องเป็นอย่างมาก ความคิดหลายๆอย่างก็มีมามาผู้นี้เป็นผู้สนับสนุน
ครั้งนี้ อวี่เหวินฮ่าวไม่รอให้พระชายาจี้อ๋องพูดจา เขาเอ่ยเสียงกร้าวว่า "องครักษ์ประจำจวนอยู่ที่ไหน?"
มีคน 2 คนเดินจากข้างนอกเข้ามา "พ่ะย่ะค่ะ!"
อวี่เหวินฮ่าวสั่งการเสียงกร้าว "ลากตัวฉีมามาออกไป โบยนาง 30 ยก"
พระชายาจี้อ๋องมองดูฉีมามาด้วยความเวทนา ริมฝีปากของนางสั่นเครือ ฉีมามาไม่วิงวอนขอความเมตตา นางยื่นแขนให้องครักษ์เข้ามาพาตัวออกไป อวี่เหวินฮ่าวให้คนออกไปจับตาดู ห้ามปราณีแม้แต่เพียงนิดเดียว
พระชายาจี้อ๋องยิ้มอย่างขมขื่น "ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ท่านอ๋องคิดเล็กคิดน้อยกับบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เลยหรือ?"
"เข็มไม่แทงโดนเนื้อ พระชายาจี้อ๋องก็คงไม่ได้สัมผัสกับความเจ็บปวด" อวี่เหวินฮ่าวหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก พระชายาจี้อ๋องจ้องมองเขาและส่ายหน้า "คิดไม่ถึงเลยว่าท่านอ๋องจะออกหน้าได้เพียงนี้ ความอิจฉาริษยากันของสตรีมีให้เห็นอยู่ทั่วไป แต่สงครามระหว่างสตรีกับสตรี แต่ไหนแต่ไรมาก็หาได้มีบุรุษเข้ามาข้องเกี่ยว การที่ท่านอ๋องเสนอตัวเข้ามาจัดการเช่นนี้ คงจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะความใจแคบเป็นแน่"
อวี่เหวินฮ่าวตอบกลับอย่างเยือกเย็น "นานๆทีจะได้เห็นพระชายาจี้อ๋องพูดจาตรงไปตรงมา เช่นนั้นข้าก็ขอพูดตรงๆเช่นเดียวกัน ผู้ใดก็ตามที่คิดร้ายกับหยวนชิงหลิงไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตามแต่ คนๆนั้นถือว่าตั้งตัวเป็นอริกับข้า หาได้เกี่ยวอันใดกับสงครามระหว่างสตรีกับสตรีไม่ ท่านลงมือกับหยวนชิงหลิง ก็เท่ากับลงมือกับข้า"
พระชายาจี้อ๋องกลับหัวเราะชอบใจ หัวเราะไปหัวเราะมาก็เอามือขึ้นมาปาดน้ำตา "ช่างน่าขันยิ่งนัก นี่มันบ้าบอจริงๆ นี่เจ้าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในจวนองค์หญิงไปแล้วหรือ? หยวนชิงหลิงเคยทำกับเจ้าไว้อย่างไร? เป็นเพราะนาง ทำให้เจ้าไม่อาจแต่งงานกับฉู่หมิงฉุ่ย ไม่ได้รับการสนับสนุนผลักดันจากฉู่หมิงฉุ่ย เจ้าไม่เกลียดนางหรือ?"
อวี่เหวินฮ่าวยิ้ม "เกลียด ดังนั้น นางจึงเป็นศัตรูของข้าไปตลอดชีวิต ผู้ใดจะแตะต้องนาง ล้วนต้องข้ามศพข้าไปเสียก่อน"
พระชายาจี้อ๋องแสยะยิ้ม "น้องห้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่ ข้าย่อมรู้ดี ในตอนนี้หยวนชิงหลิงเป็นที่โปรดปรานของไท่ซั่งหวง แถมยังตั้งครรภ์แล้วด้วย ย่อมมีผลประโยชน์ต่อเจ้ามากมายแน่นอน ไม่รู้ว่าพระชายาฉู่อ๋องจะเข้าใจตรงจุดนี้ด้วยหรือไม่? หรือว่าจะยังสิ้นคิด หลงคิดว่าน้องห้าหลงรักนางจริงๆ? ต้องการให้ข้าหาคนไปชี้แนะนางเสียหน่อยหรือไม่ล่ะ?"
"แล้วแต่ท่านเถิด!" อวี่เหวินฮ่าวยิ้ม "แต่เกรงว่าพี่สะใภ้จะลุ่มหลงในความเฉลียวฉลาดของตนเองมากเกินไปจนทำเรื่องที่เสียแรงเปล่า พี่สะใภ้อยู่ว่างๆ ไม่สู้เอาเวลาไปจัดหาสถานที่พักผ่อนดีๆเอาไว้ให้กับตัวเองจะดีกว่านะพ่ะย่ะค่ะ" พูดจบ ก็สะบัดแขนเสื้อและหันหลังเดินจากไป
พระชายาจี้อ๋องยิ้มในขณะที่มองดูเขาเดินห่างออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของนางดูน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ แววตาของนางดุดัน ฉีมามาถูกโบยครบ 30 ยกแล้ว ทำเอานางเกือบตาย ฉีมามาถูกองครักษ์หามตัวออกไป เนื่องจากฉีมามาเป็นคนสนิทของนาง ข้างกายของนางจะต้องมีฉีมามาคอยเฝ้ารับใช้นางจึงจะอุ่นใจ ตลอดระยะเวลา 10 ปีในจวนอ๋อง แม้จะเป็นนายบ่าว แต่ความผูกพันนั้นไม่ต่างจากแม่ลูก อวี่เหวินฮ่าวรู้เรื่องนี้ดี จึงโหดร้ายกับฉีมามา พระชายาจี้อ๋องฝืนสังขารไปเยี่ยมฉีมามา เห็นแผ่นหลังของฉีมามาเต็มไปด้วยรอยเลือด ทำให้นางรู้สึกโกรธแค้นจนแทบจะกระอักเลือด
ฉีมามาร้องไห้ "พระชายาอย่าทรงเสียพระทัยเพราะหม่อมฉันเลยนะเพคะ ท่านกำลังประชวร อย่ากริ้วจนส่งผลกระทบต่อพระวรกายเลยนะเพคะ หม่อมฉันไม่เป็นอะไร"
พระชายาจี้อ๋องทั้งเจ็บใจและแค้นใจ นางกัดฟันแน่นและกล่าวว่า "ข้าจะต้องล้างแค้นให้เจ้าให้ได้"
ฉีมามาสูดลมหายใจ "ไม่นึกว่าฉู่อ๋องจะทรงเอาเป็นเอาตายกับเรื่องเล็กๆ การกระทำเช่นนี้หาได้น่ายำเกรงไม่ ต่อให้ทรงทราบ ก็แค่ว่ากล่าวตักเตือนไม่กี่คำก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่นี่เขาถึงกับบุกมาถึงที่นี่ และยังนำคดีพระชายารองหลิวมาเป็นข้ออ้าง พระชายาเพคะ ท่านจะต้องระวังตัวเอาไว้นะเพคะ เขาจับจุดอ่อนของพระชายาได้แล้ว เรื่องของพระชายารองหลิว เขารู้ละเอียดดีเหลือเกิน"
พระชายาจี้อ๋องจึงตอบกลับไปว่า "ตอนนี้เขาถูกจับตามองว่าจะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งองค์รัชทายาท ย่อมเย่อหยิ่งเป็นธรรมดา แต่โชคชะตาของเขานั้นขึ้นอยู่กับลูกในท้องของหยวนชิงหลิง หากพระครรภ์นั้นถูกกำจัดแล้ว ดูซิว่าเขายังจะคงจองหองได้อยู่อีกหรือไม่?"
ฉีมามากล่าวอย่างตกใจ "พระชายา ท่านอย่าบุ่มบ่ามทำอะไรนะเพคะ ตอนนี้มีสายตาของคนในวังกี่คู่ที่กำลังจ้องมองพวกเราอยู่? หากพลั้งพลาดขึ้นมา จะเสียอนาคตไปเลยนะเพคะ นั่นมันไม่เหมือนในจวนของพวกเรานะเพคะ"
พระชายาจี้อ๋องกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ลงมือกับหยวนชิงหลิง ได้ยินว่าสภาวะครรภ์ของนางยังไม่ค่อยมั่นคง เพราะนางได้ทานน้ำแกงจื่อจินเข้าไป การทานน้ำแกงจื่อจินย่อมส่งผลต่อเด็กในครรภ์อยู่แล้ว ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือ เพียงแค่ไปยั่วโมโหนาง หรือจะให้คนไปข่มขู่นางสักเล็กน้อย ก็สมใจข้าได้แล้วล่ะ"
ฉีมามากล่าวด้วยสีหน้าร้ายกาจ "ใช่แล้วเพคะ"
อวี่เหวินฮ่าวกลับมาที่จวนอ๋อง เขาอารมณ์ดียิ่งนัก!
แต่ทังหยางกลับเป็นกังวล "พระชายาจี้อ๋องทรงร้ายกาจ ท่านไปยั่วโมโหนาง เกรงว่านางจะไม่ปล่อยท่านไปแน่"
อวี่เหวินฮ่าวจึงกล่าวว่า "ต่อให้ข้าไม่ไปยั่วโมโหนาง แล้วนางจะปล่อยให้ข้าได้อยู่อย่างสงบสุขงั้นหรือ? นางจะยอมให้น้องหยวนคลอดลูกอย่างราบรื่น? เป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นเช่นนี้ ไม่สู้ได้หาอะไรสนุกๆทำเสียก่อน เอาให้นางตกใจเล่นๆสักเล็กน้อยก็ยังดี"
ทังหยางคิดไปคิดมาก็เห็นด้วย ในเมื่อถึงอย่างไรก็ต้องเชือดเฉือนกันอยู่แล้ว หยวนชิงหลิงไม่รู้เรื่องนี้แม้แต่น้อย นางยังคงอาเจียนอยู่เช่นเคย ไม่รู้สึกสดชื่นเลย นางเคยคิดยอมแพ้ ไม่รู้ว่าในตอนที่แม่อุ้มท้องนางอยู่นั้นจะทุกข์ทรมานเช่นนี้หรือไม่? หากใช่ นางก็รู้สึกผิดมาก เพราะยังไม่ทันที่จะตอบแทนพระคุณแม่ นางก็ต้องมาด่วนจากไปเสียก่อน การอาเจียนเป็นเรื่องทรมาน แถมยังไม่ค่อยอยากอาหารอีก กลิ่นและรสชาติอาหารเพียงเล็กน้อยก็ทำให้นางต้องอาเจียนแทบเป็นแทบตาย วันนี้ กว่าจะทานโจ๊กได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายก็อาเจียนออกมาจนหมด นางนอนซมอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าซีดเผือดพลางพูดกับอวี่เหวินฮ่าวอย่างอ่อนแรงว่า "ท่านฆ่าข้าเถอะ ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว"
อวี่เหวินฮ่าวปลอบโยนนาง "ไม่ต้องพูดแล้ว หลับตานอนพักผ่อนเถอะ" ในใจของอวี่เหวินฮ่าวร้อนรนจนแทบคลั่ง เขาอยากฆ่าคน อยากฆ่าเด็กในท้องของนางเสีย หากไม่ติดคำพูดของหมอหลวงที่กล่าวเอาไว้ว่าหากนำเด็กออกจะเสี่ยงไปถึงชีวิตผู้เป็นแม่ด้วย เขาคงจะลงมือเอาเด็กออกตั้งนานแล้ว ในร่างกายของน้องหยวนมีเด็กตัวน้อยๆ ในร่างกายของเขามีสัตว์ร้ายเข้ามาสิงสู่ สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ทำอันตรายกับใคร มีเพียงจะทำร้ายเขา มันทำร้ายหัวใจของเขาจนชอกช้ำ
หยวนชิงหลิงหลับตา นางไม่รู้สึกวิงเวียนเมื่อนางหลับตา แต่ในทางตรงกันข้าม มันเจ็บปวดทรมานมากกว่านั้น นางจึงต้องคอยลืมตา แต่นางก็ทั้งง่วงและอ่อนล้า แม้แต่เรี่ยวแรงจะหายใจก็แทบจะไม่มี เมื่อใดก็ตามที่นางหลับตา ก็จะต้องรู้สึกว่านางนั้นใกล้จะสิ้นใจแล้ว น้ำตาของนางไหลริน หัวใจที่อ่อนระทวยรู้สึกว้าวุ่น นางคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้าน คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่าง
เมื่อเห็นหยดน้ำตาของหยวนชิงหลิง ดวงตาของอวี่เหวินฮ่าวก็รู้สึกร้อนผ่าว เขาสวมกอดนางไว้โดยที่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
"อวี่เหวินฮ่าว ข้าคิดถึงบ้าน ข้าอยากกลับบ้าน" หยวนชิงหลิงร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้น
หญิงสาวหลายๆคนเมื่อแต่งงานออกเรือนไปแล้ว ยังจะกลับไปอยู่ที่บ้านเดิมของตนเองได้อีกหรือ? หญิงสาวหลายๆคนที่กำลังตั้งครรภ์ มารดาของนางจะคอยมาดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดได้งั้นหรือ? การเตรียมเสื้อผ้าเด็ก ถุงเท้าเด็ก กำชับเรื่องข้อควรระวังระหว่างการตั้งครรภ์ นับตั้งแต่ที่นางถูกส่งมายังที่ที่ไม่รู้จัก ชีวิตนี้ทั้งชีวิตคงจะไม่ได้เห็นหน้าของแม่อีกแล้ว แม่จะรู้หรือไม่นะว่านางอยู่ที่นี่?
อวี่เหวินฮ่าวคิดว่านางคิดถึงท่านย่า จึงรีบเช็ดน้ำตาให้นาง "ได้ ได้ ข้าจะให้ลู่หยาไปเชิญท่านย่ามาเดี๋ยวนี้ ข้าจะให้นางมาค้างที่นี่ คอยอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ดีไหม?"
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า นางร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม