ฟีนิกซ์นิพพาน-ตำนานหยวนชิงหลิง - ตอนที่ 180 บ้านเดิมต้องการฆ่า
ทั่วร่างของหยวนชิงหลิงมิมีแรงเหลืออยู่เลย หัวของนางวางอยู่บนตักของอวี่เหวินฮ่าว ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงบดบังใบหน้าที่ซีดเผือดของหยวนชิงหลิง พร้อมกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า "ข้าไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอันใด? ตั้งครรภ์มาได้หนึ่งถึงสองวันแล้ว ไม่เคยอ้วกออกมาเลยสักครั้ง จู่ๆพลันรู้สึกอยากอ้วกมาเช่นนี้ได้ "
อวี่เหวินฮ่าวพลันค่อยๆปัดผมออกไปจากใบหน้าของหยวนชิงหลิง พลางกล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวดว่า "เจ้าดูยาที่อยู่ในกล่องยาเจ้าแล้วหรือยัง? มียาใดที่สามารถหยุดอาการอ้วกได้หรือไม่ ?"
"อันใดที่สามารถกินได้ ข้าล้วนอแต่กินไปหมดแล้ว " หยวนชิงหลิงพลันถอนหายใจออกมา
"ข้าอยากรับความลำบากเช่นนี้แทนเจ้าเหลือเกิน" หัวใจของอวี่เหวินฮ่าวพลันค่อยๆเจ็บปวดขึ้น
หยวนชิงหลิงยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น "นี่ยังมิได้เป็นอันใดมากนัก ยามคลอดถึงจะเป็นการเจ็บปวดที่แท้จริง"
หากดูจากการแพทย์ในสมัยนี้แล้วนั้น การคลอดบุตรก็เสมือนกับการก้าวขาไปยังประตูยมโลกเสียฃข้างหนึ่งแล้ว อีกทั้งเมื่อมาเป็นครรภ์ที่ผิดปกติเช่นนี้อีก เลือดย่อมไหล่ออกตามแนวขวางของเด็ก แม้แต่หนทางที่จะช่วยชีวิตก็ยังไม่มีเลย หยวนชิงหลิงพลันรู้สึกว่าชีวิตของตนเองลดเหลือเพียงครึ่งชีวิตเสียแล้ว
ภายในใจของอวี่เหวินฮ่าวพลันรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก แต่เดิมการตั้งครรภ์นั้นถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเรื่อ
งหนึ่ง ทว่า เมื่อคิดถึงความกดดันภายในพระราชวังแล้วนั้น และยังรวมไปถึงความกดดันจากด้านนอกอีกด้วย ความลำบากในการตั้งครรภ์ ความเจ็บปวดของการคลอดบุตร ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่ปรากฏอยุ่บนร่างของน้องหยวน เขาจึงรู้สึกกรุ่นโกรธบุตรของตนเองขึ้นมาในทันที
เจ้าเด็กดื้อ ยังมิทันได้เกิดมาก็ให้มารดาของเจ้าเดือดร้อนมากมายถึงเพียงนี้แล้วหรือ
"เสด็จพ่อกล่าวเช่นไรบ้าง ?" หยวนชิงหลิงพลันค่อยๆเปิดปากถามออกมา
"เสด็จพ่อดีใจเป็นอย่างมาก ไทเฮาและเสด็จแม่ก็ดีใจมากเช่นกัน" หากแต่อวี่เหวินฮ่าวกับรู้สึกว่าตนเองไม่รู้สึกดีใจขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
หยวนชิงหลิงจึงกล่าวว่า "ถ้าดีใจก็ดีแล้ว ก็ยังมีคนที่ไม่ดีใจด้วยเช่นกัน"
"ถังหยางได้กระจายข่าวออกไปแล้ว ว่าเจ้าครรภ์ไม่มั่นคง อีกทั้ง ยังมีข่าวดีอีกเรื่องหนึ่ง พี่ใหญ่ถูกย้ายออกไปจากเมืองหลวงแล้ว ไม่กี่เดือนนี้เขาย่อมไม่สามารถมาปรากฏตัวได้ เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะพยายามปกป้องเจ้าเป็นอย่างดีและจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด"
หยวนชิงหลิงเอื้มมือไปจับมืออวี่เหวินฮ่าว หัวพลันแนบไปอยู่ที่อกของเขา พลันพยายามหาตำแหน่งที่ดีที่สุดเพื่อจะได้โอบกอดเขาได้อย่างถนัด "ลำบากท่านแล้ว"
"เป็นเจ้าที่ลำบากแล้ว" อวี่เหวินฮ่าวพลางลูบไปที่ใบหน้าของหยวนชิงหลิง
หลังจากช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุขผ่านไปแล้ว นั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่วุ่นวาย การเป็นพ่อแม่คนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก
วันรุ่งขึ้น อวี่เหวินฮ่าวพลันตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพื่อให้ข้ารับใช้จัดเตรียมโจ๊กและผักดอง หยวนชิงหลิงในช่วงนี้ต่อมรับรสง่าย กินสิ่งใดไปก็พลันแต่จะอ้วกออกมา โจ็กและผักดองนางยังพอสามารถกินได้บ้าง
พูดยังมิทันขาดคำ ก็พลันเห็นหยวนชิงหลิงถือกระโถนอ้วกออกมาแล้ว ลู่หยาที่ยืนอยู่ข้างกายรู้สึกเป็นห่วงยิ่งนัก
อวี่เหวินฮ่าวถามหมอหลวงแล้ว หมอหลวงพลันกล่าวว่า ช่วงเวลาที่นางจะอ้วกได้ง่ายมากที่สุดคือยามเช้า นั่นเรียกว่าอาการแพ้ท้อง
อวี่เหวินฮ่าวจึงก้าวเข้าไปด้านหน้าเพื่อลูบหลังให้หยวนชิงหลิงเล็กน้อย พร้อมทั้งสั่งให้ลู่หยาเตรียมน้ำเกลือเข้ามาเพื่อให้นางได้ทำการบ้วนปาก
ยามที่หยวนชิงหลิงนอนลงบนเตียงนอนของนางนั้น นางกลับรู้สึกว่าตนเองราวกับกำลังจะตายอีกรอบหนึ่ง เมื่อลุกขึ้นมาในยามเช้า นางก็มักจะมีอาการเวียนหัวหลังจากนั้นก็จะเกิดอาการอ้วก
หมอหลวงจึงถูกเชิญเข้ามาอีกครั้ง สีหน้าที่ซีดขาวของหยวนชิงหลิงพลันเอ่ยถามหมอหลวงว่า "เหตุใดข้าถึงแพ้ทองรุนแรงเช่นนี้กัน ?"
หมอหลวงเฉาพลันกล่าวว่า "พระชายา ร่างกายของท่านได้รับบาดเจ็บมากจนเกินไป รวมไปถึงอารมณ์กรุ่นโกรธเมื่อคืนก่อน จึงทำให้ลมปรานของท่านทำงานหนัก เลือดในการไหลเวียนได้ไม่ดีนักจึงทำให้เกิดอาการเช่นนี้ หลังจากนี้อาการของท่านจะค่อยๆดีขึ้นพะยะค่ะ "
"รีบรักษาข้าเสีย ยาตัวไหนที่ว่าดีเอามาให้ข้ากินให้หมด. ข้าอยากจะหยุดอาการเวียนหัวนี่สักที อ๊วก"แม้แต่ดวงตาของหยวนชิงหลิงนางก็ยังไม่ค่อยมีแรงที่จะลืมมันขึ้นมา
อวี่เหวินฮ่าวกังวลเสียจนต้องดึงมือหมอหลวงออกมา "ท่านไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้แล้วหรือ ? ไทเฮาให้ยาบำรุงมาตั้งหลายอย่าง ท่านให้นางใช้ได้หรือไม่"
หมอหลวงเฉาพลันลากอวี่เหวินฮ่าวออกมาไกลๆ พร้อมส่งเสียงถอนหายใจออกมา "ท่านอ๋องพะยะค่ะ ความจริงข้าก็ได้ปรึกษาท่านหมอมาบ้างเหมือนกัน การตั้งครรภ์ของพระชายาในยามนี้ผิดปกติยิ่งนัก ร่างกายของพระชายายังมิได้รับการบำรุงอย่างใดเลย คราแรกพระชายาได้กินน้ำแกงจื่อจินเข้าไป หากนับเวลาช่วงไม่กี่วันที่ได้กินยาถอนพิษไปนั้น ก็สามารถบังคับอาการที่กินน้ำแกงจื่อจินเพื่อระงับความหนาวเย็นได้. หากแน่ในยามนี้ทุกอย่างกับระเบิดออกมาหมด อย่างไรพระชายาย่อมต้อง ทรมานเป็นร้อยเท่าพะยะค่ะ. เมื่อรวมไปถึงกับบาดแผลจากการถูกลอบสังหารในครานั้นด้วยและคำพูดแย่ๆในคราที่ปะทะกัน ในยามนี้ร่างกายของพระชายาราวกับขนปุยนุ่มๆ ที่ไม่สามารถรองรับอันใดได้ อีกทั้งก็ยังไม่มีแรงที่จะทำสิ่งใดเช่นกันพะยะค่ะ "
อวี่เหวินฮ่าวไม่ได้ยินคำพูดเช่นนี้ เขาพลันขบริมฝีปากของตนเองอย่างรุนแรง เหตุใดก่อนหน้านั้นเขาถึงโง่เขลาได้ถึงขนาดนี้ ?
หมอหลวงพลันรีบร้อนกล่าวต่อไปว่า "ลักษณะร่างกายของพระชายาที่สามารถตั้งครรภ์ได้เช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเม็ดยาจื่อจินที่ไปช่วยเลือดลมของนางไหลเวียนดีขึ้น ทว่า ก็ช่วยได้เป็นการช่วยคราวเท่านั้น ในเมื่อตอนนี้ฤทธิ์ยาได้หายไปแล้ว ย่อมต้องรอดูปฏิกิริยาของร่างกายพระชายาต่อไปแล้ว"
อวี่เหวินฮ่าวพลันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมถามหมอหลวงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "หากไม่เอาเด็กแล้วเล่า?"
หมอหลวงพลันตกตะลึงไปทันที "เช่นนั้นย่อมไม่ดีพะยะค่ะ หากว่าเด็กในครรภ์ถูกบังคับให้แท้งแล้ว ร่างกายของพระชายาย่อมทนไม่ไหวแน่ ในยามนี้อาการของครรภ์ยังสามารถประคับประคองไปได้ดี ท่านอ๋องอย่าได้คิดถึงเรื่องการทำแท้งเลยพะยะค่ะ. หากเกิดปัญหาอันใดขึ้นมาแล้ว. เกรงว่าชีวิตของพระชายาก็คงไม่สามารถรักษาไว้ได้เช่นกัน"
อวี่เหวินฮ่าวพลันตกใจเสียหน้าตาซีดเซียว สีหน้าขาวซีด พร้อมร่างกายที่สั่นเทา เวลาของความสุขได้ล่วงเลยไปแล้ว ในยามนี้หลงเหลือแต่เพียงความวิตกกังวลและความเศร้าโศก โกรธที่หยวนชิงหลิงจะไม่ตั้งครรภ์
"นี่เกี่ยวข้องกับที่นางโกรธเปิ่นหวางด้วยหรือไม่ ? นางในยามนี้ลำบากเป็นอย่างมาก "อวี่เหวินฮ่าวพลันกล่าวออกมา
หมอหลวงพลันพยักหน้าเล็กน้อย "ย่อมต้องเกี่ยวข้องกันพะยะค่ะ ความโกรธที่ใจลงที่ปอด ผู้คนล้วนแต่รู้สึกอึดอัดกันหมด ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ท่านอ๋องที่ทำให้พระชายาโกรธ นางก็จักต้องทนกับอาการเช่นนี้ทั้งเช้าเย็นอยู่ดีพะยะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวรู้สึกเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ราวกับรู้สึกไร้จุดหมายไปครู่หนึ่ง วันนี้เขาลางานเพื่อมาดูแลหยวนชิงหลิง คนในวังล้วนแต่ส่งของขวัญมาไม่ขาดสายทั้ง ไท่เฮา พระสนมเซียน ฮองเฮา พระสนมกุ้ยเฟย พระสนมฉินและเหนียงเหนียงทั้งหลายที่ส่งมา หลังจากนั้นก็มีพระชายาชินอ๋องและยังมีของขวัญขององค์ชายต่างๆอีก
จวนฉีอ๋องและจี้อ๋องมิได้ส่งอันใดมา หากว่าเห็นแก่หน้าตาแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่พวกเขาก็ยังต้องส่งของขวัญมาให้อยู่ดี
ข่าวคราวการตั้งครรภ์ของหยวนชิงหลิงนั้น ก็กระจายไปถึงจวนโหวด้วยเช่นกัน จิ้งโหวตกตะลึงเป็นเวลานั้น ถึงได้เชื่อเรื่องนี้ขึ้นมา
เขาจึงรีบกลับไปที่จวนของตนเองทันที แล้วจึงให้ฮูหยินรองเตรียมสิ่งของเพื่อส่งไปให้อีกทั้งยังเรียกหวังซื่อไปด้วยเช่นกัน เพื่อต้องการที่จะเข้าพบพระชายาพวกเขาตั้งใจรอแล้วรอเล่า
ภายในใจของจิ้งโหวนั้น ราวกับรุกโชนไปด้วยเปลวไฟที่ร้อนรุ้ม โอกาศมาถึงแล้ว โอกาศของเขามาถึงแล้ว ตราบใดที่หยวนชิงหลิงให้กำเนิดเป็นบุตรชายออกมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าฉู่โสวฝูอีกต่อไป มิจำเป็นตองปีนขึ้นไปตำแหน่งใดๆด้วยเช่นกัน ความร้อนผาวบนใบหน้าพวกเขาคอยปลอบประโลมลงบนความเย็นในใจ
หากแต่ ฮูหยินรองและหวังซื่อไปได้ไม่นานก็กลับมากันแล้ว
จิ้งโหวเมื่อมองดูใบหน้าที่ทรุดโทรมของพวกนางทั้งสองแล้ว จึงชะงักไปครู่หนึ่ง "เหตุใดกลับมาไวถึงเพียงนี้ ? ไม่รั้งพวกเจ้ากินข้าวสักมื้อหน่อยหรือ ?"
หวังซือกล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยพอใจว่า "อยู่อันใดกัน ? เพียงแค่เข้าไปวางของแล้วก็เรียกให้กลับ กล่าวว่าพระชายาต้องการพักผ่อน ผู้ใดก็ไม่สามารถเข้าไปรบกวน"
"ยังกล้าต่อต้านอีกหรือ? เจ้าลูกคนนี้ !" จิ้งโหวพลันกล่าวออกมาด้วยความโมโห
หวังซื่อค่อยๆอธิบายออกมาว่า "มิใช่การต่อต้านจริงๆ ข้าเห็นว่า พระชายาและองค์หญิงทั้งหลายเข้าไปแล้ว. มิได้เห็นกับตาหากแต่ได้ยินมาว่า ครรภ์นางไม่มั่นคงนัก หมอหลวงจึงต้องการให้นางพักผ่อนให้มากๆ ฉู่อ๋องจึงได้จัดคนเข้าไปเยี่ยมเยียนด้วยความเข็มงวด"
"ครรภ์ไม่มั่นคง ?"จิ้งโหวพลันตกตะลึงเป็นอย่างมาก สีหน้าพลันเปลี่ยนไป "เหตุใดครรภ์ถึงไม่มั่นคงได้ ? ได้ถามหรือไม่ ?"
"ถามใครกันเล่า ? ไม่รู้จะได้ถามถึงสามคำหรือเปล่า " หวังซือพลันเอ่ยออกมาด้วยความกรุ่นโกรธ "ฉู่อ๋องก็เช่นกัน ข้าเป็นป้าสะใภ้ของเขาเชียว ก็ยังทำตัวเย็นชากับข้าได้ คราหลังข้าไม่ไปแล้ว"
จิ้งโหวพลันกล่าวออกมาโดยความโมโห" หุบปาก. ฉู่อ๋องเย็นชาแล้วอย่างไร? เจ้าจะอดทนไม่ได้เลยหรือ? เขาเป็นถึงชินอ๋อง. หากเรียกเจ้าป้าสะใภ้ เจ้าก็ควรภูมิใจได้แล้ว"
หวังซื่อที่ได้ยินคำตำหนิไปสองสามคำ ก็มิกล้าพูดอันใดออกมาอีก
ฮูหยินรองจึงค่อยๆพูดออกมาอย่างมีเหตุผลว่า "พี่หลง. มิใช่นางกล่าวหาท่านหรอกเจ้าค่ะ ในเมื่อฉู่อ๋องไม่อนุญาติให้เข้าเฝ้า พวกเราไปอย่างไรก็ไม่ยอมให้พบอยู่ดี. มิสู้เรารอเสียหน่อยละเจ้าคะ"
จิ้งโหวพลันบีบมือของฮูหยินรองเล็กน้อย พร้อมขมวดคิ้วลง "รอไม่ได้แล้ว การประเมินเจ้าหน้าที่ใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ข้าต้องการพบหยวนชิงหลิง เพื่อให้นางพูดต่อหน้าฉู่อ๋องสักสองสามประโยค ฉู่อ๋องย่อมเข้าใจได้แน่. ยามนี้นางตั้งครรภ์แล้ว ฉู่อ๋องจะไม่ตามใจนางได้อย่างไรกัน"
หวังซื่อได้ยินถึงเจตนาของจิ้งโหว พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา "ยัยเด็กหน้าตายผู้นั้นช่างเหมือนมารดาไม่มีผิดเพี้ยน เช่นนั้น ให้มารดาของนางไปด้วยดีหรือไม่ ? ฉู่อ๋องคงจะไม่ใจจืดใจดำ. ถึงผู้อาวุโสไว้นอกประตูจวนหรอกระมัง?"
ฮูหยินรองพลันกล่าวออกมาด้วยท่าทีเฉยเมยว่า "เช่นนั้นไม่ดีแน่ พี่ใหญ่ป่วยหนัก จะให้นางออกไปเดินรับลมด้านนอกได้แย่างไร ? ให้นางพักรักษาตัวดีๆเถิด"