"ไม่ วางข้าลง ข้าจะเดินไป" หยวนชิงหลิงกล่าว
อวี่เหวินฮ่าวอุ้มนางขึ้น "เงียบไปเถอะ"
โถส้วมอยู่เพียงห้องถัดไปเท่านั้น อวี่เหวินฮ่าวอุ้มนางไปแล้วจึงปล่อยนาง ไม่นานนางก็ค่อยๆ เดินออกมาและยึดแขนของอวี่เหวินฮ่าวพยุงตัวไว้ นางโล่งใจไปทั้งตัว
"ลู่หยา ช่วยหยิบของมาให้ข้าหน่อย ประจำเดือนของข้ามาแล้ว!"
เมื่อมามาทั้งสองได้ยินเช่นนั้นก็สบตากันด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
หยวนชิงหลิงกลับรู้สึกโล่งใจ เดิมนางถูกหมอทำให้ตกใจแทบแย่ ทำให้นางเกือบจะเชื่อแล้ว ลู่หยารีบไปค้นหาของและเตรียมน้ำร้อนให้นางอาบ
หยวนชิงหลิงมองสิ่งของเก่าแก่อย่างที่สุด มีหูเกี่ยวห้องออกมาสองหู นางหมดคำพูดแล้วจริงๆ มันใช้อย่างไรนางรู้ แต่ว่าไม่สะดวกเลยจริงๆ ดูเหมือนว่านางจะต้องทำสำลีขึ้นมารองเองเสียแล้ว
เมื่อทำเสร็จแล้วและนอนลงบนเตียง หมอหลวงเฉาก็มาถึง
ได้ยินว่าพระชายาอาเจียนอยู่เป็นเวลานานและยังมีหมอมาดูแล้วก็ไม่ได้บอกสาเหตุออกมา เขาจึงให้ความสำคัญมาก
อวี่เหวินฮ่าวให้เขาตรวจชีพจร เขาดึงด้ายแดงออกมาอย่างระมัดระวัง อวี่เหวินฮ่าวจึงพูดอย่างร้อนรน "ยังจะลีลาอะไรอีกล่ะ? ตรวจชีพจรไปเลยสิ"
เมื่อครู่หมอก็เป็นเช่นนั้น โรคร้ายแรงอยู่ตรงหน้าแล้วยังจะพูดอะไรเช่นนี้อีก?
หมองหลวงเฉากล่าวว่า "นี่เป็นกฎพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวร้อนรนเป็นอย่างมาก แต่กลับมองหมอหลวงดึงด้ายแดงออกมาอย่างจนปัญญา นิ้วของหมอหลวงวางลงเบาๆ บนด้ายแดง หมอหลวงเฉาวางนิ้วลงไปได้ไม่นานก็เลิกคิ้วเงยหน้าขึ้นมองหยวนชิงหลิง
"ทำไมหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถาม
หมอหลวงเฉาประสานมือคารวะ "ขอให้ท่านอ๋องอนุญาตให้กระหม่อมเอาด้านแดงออกแล้วจับชีพจรโดยตรงพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวกลอกตาอย่างโกรธเคืองและตะโกนใส่หูเขา "เมื่อกี้ก็บอกแล้วไงว่าให้เจ้าจับชีพจรโดยตรง"
หมอหลวงเฉายังคงตอบว่า "นี่เป็นกฎพ่ะย่ะค่ะ"
หยวนชิงหลิงยื่นมือออกมาและมองหมอหลวงเฉา "เป็นอะไรท่านก็บอกมาตรงๆ เถอะ"
เมื่อครู่ตอนที่นางอาบน้ำอยู่ด้านในเห็นว่าในกล่องยาไม่มียาใหม่เพิ่มเข้ามา มีเพียงกรดโฟลิคและแคลเซียมที่ใช้สำหรับบำรุงครรภ์เท่านั้น ดังนั้นนางจึงคิดว่าตนเองไม่ได้เป็นอะไรมาก
หมอหลวงเฉาหลับตาลง ตรวจชีพจรที่มือซ้ายและมือขวา แล้วก็เปลี่ยนจากมือขวาเป็นมือซ้ายอีก
ตอนที่อวี่เหวินฮ่าวร้อนใจจนจะโยนเขาออกไปแล้วจะไปเรียนวิชาแพทย์เองนั้น หมอหลวงเฉาก็ลืมตาขึ้นและถามว่า "ระดูของพระชายาช้ามานานเท่าไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ?"
หยวนชิงหลิงหัวเราะ "เพิ่งมา"
หมอหลวงเฉาชะงักไปแล้วจึงถอนหายใจ "นั่นไม่ใช่ระดูพ่ะย่ะค่ะ พระชายามีลมปราณตับติดขัด เลือดลมก็พร่อง พระครรภ์จึงไม่มั่นคง มีอาการแท้งเล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวเบิกตากว้าง "เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? นางท้องตั้งแต่เมื่อไหร่? เจ้ารู้หรือไม่รู้กันแน่?"
หมอหลวงเฉาอุดหูอย่างไม่ใส่ใจบ่งบอกว่าเสียงนั้นดังเกินไปแล้ว "ชีพจรลื่นนั้นไม่ผิดแน่ ส่วนที่ตอนนี้พระชายามีลมปราณตับติดขัดคิดว่าคงเป็นเพราะโมโหเรื่องให้คืนนี้ ความโกรธทำลายหัวใจจึงได้ทำให้มีอาการแท้ง กระหม่อมจะจ่ายยาให้ก่อนหนึ่งชุดให้พระชายาเสวยก่อน หากพระครรภ์ไม่มั่นคงและมีอาการตกเลือดแล้ว ต่อไปอีกหลายวันจะต้องนอนพักอยู่บนเตียงนะพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวมองหยวนชิงหลิงอย่างนิ่งงัน หยวนชิงหลิงก็มองเขาอย่างตกใจเช่นกัน มุมปากของอวี่เหวินฮ่าวค่อยๆ ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แต่มุมปากของหยวนชิงหลิงกลับค่อยๆ โค้งลงและอยากร้องไห้
"ท้องหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถามอย่างระมัดระวัง เขาค่อยๆ นั่งลงมองหยวนชิงหลิง ยังคงมีท่าทีไม่อยากเชื่อนัก
"หมอหลวง ก่อนหน้าพระชายาได้เสวยน้ำแกงจื่อจินเข้าไป" ซีมามากล่าว
หมอหลวงเฉาตะลึงไป "นี่… นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?"
"จริงๆ!" ฉีมามากล่าว
หมอหลวงเฉารีบยื่นมือออกไปจับชีพจรของนางอีกครั้ง ตรวจดูอยู่ครู่หนึ่งก็เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย "เป็นชีพจรมงคลจริงๆ"
"แต่ว่าเคยเสวยน้ำแกงจื่อจินนะเจ้าคะ" ซีมามากล่าว
"แต่นี่มันก็เป็นชีพจรมงคลจริงๆ!" หมอหลวงกล่าว
อวี่เหวินฮ่าวรู้สึกได้ถึงความตกใจและความยินดีในใจสลับกันไปมา เขารู้สึกราวกับจะเป็นบ้า หยวนชิงหลิงก็เช่นกัน แต่ความตกใจและความยินดีของนางกลับตรงกันข้ามกับอวี่เหวินฮ่าว
"ตกลกว่าท้องหรือไม่ท้องกันแน่?" เขาร้อนใจแล้ว
"ท้องพ่ะย่ะค่ะ!" หมอหลวงตอบอย่างมั่นใจ
อวี่เหวินฮ่าวจ้องมองหมอหลวง "เจ้าต้องวินิจฉัยให้แน่นะ พระชายาจะได้ไม่ดีใจไปเสียเปล่าๆ ดูสิ นางปลาบปลื้มดีใจจนจะแทบร้องไห้อยู่แล้ว"
เขาค้อมตัวลงแตะแขนของหยวนชิงหลิงเบาๆ "พวกเราอย่าเพิ่งดีใจไปก่อนเลย บางทีอาจจะวินิจฉัยพลาด"
เขารู้ถึงผลข้างเคียงของน้ำแกงจื่อจินว่าทำลายร่างกายเป็นอย่างมาก ระยะนี้เขาให้ฉีมามาต้มน้ำแกงบำรุงร่างกายให้นางตลอด หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ตาข้างไหนของเขาถั่วจนมองเห็นว่านางยินดีจนแทบร้องไห้กัน? นางกลัวจนแทบจะร้องไห้อยู่แล้วไม่เห็นหรือ? เด็กสาวอายุเพียงสิบเจ็ดปีต้องคลอดลูกจะไม่กลัวได้อย่างไร?
นางมองอวี่เหวินฮ่าว เอื้อมมือไปลูบใบหน้าหล่อเหลาที่บวมช้ำของอวี่เหวินฮ่าวและพูดอย่างนุ่มนวลพร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันไปด้วย "หากข้าท้องขึ้นมาจริงๆ คนแรกที่ข้าจะฆ่าก็คือท่าน"
อวี่เหวินฮ่าวตกตะลึง นางบ้าไปแล้ว! เขาหันไปมองหมอหลวงทันทีและกล่าวพร้อมขบกรามแน่น "เจ้ารีบวินิจฉัยให้ชัดเจนว่าพระชายาเป็นอะไรกันแน่!"
เมื่อนิ้วของหมอหลวงเด้งออกมาราวกับสัมผัสปุยนุ่น หยวนชิงหลิงจึงโมโหเล็กน้อย "ไม่ต้องตรวจแล้ว พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้าขอสงบสติอารมณ์สักพัก"
"น้องหยวน…"
"ท่านเงียบซะ อย่าเรียกข้าว่าน้องหยวนอีก ท่านก็ออกไปด้วย คืนนี้ท่านไปเล่นพนันทะเลาะวิวาทจึงได้ทำให้ข้าโมโห" หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
ดวงตาของหมอหลวงเบิกกว้างพร้อมเสียง "ติ๊ง" เขาเอื้อมมืออันสั่นเทาออกไป "ต้องใช่แน่ๆ คนที่เพิ่งตั้งครรภ์จะนิสัยเปลี่ยนไปกะทันหัน หงุดหงิดขี้รำคาญ นี่เป็นอาการบ่งชี้ของการตั้งครรภ์อ่อนๆ ท่านอ๋องอย่าได้ทำให้พระชายาโมโหอีกเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวมองหยวนชิงหลิงอย่างตกตะลึง คิดไปถึงก่อนหน้านี้ หยวนชิงหลิงมีสีหน้าโกรธเกรี้ยวราวกับผีที่ดุร้าย เขาจึงไม่กล้ายั่วโมโหนาง กลัวว่านางจะโมโหอีก
"เช่นนั้น… เช่นนั้นข้ารออยู่ด้านนอกก็แล้วกัน หากเจ้ามีอะไรเรียกข้าก็แล้วกัน" เขากล่าวอย่างนุ่มนวล "เจ้าอย่าได้โมโหอีกเลย จะโมโหอีกไม่ได้ อย่าทำร้ายลูกของเรา"
หยวนชิงหลิงสองมือจับศีรษะ นางโมโหจนตัวสั่นเทิ้ม "ออกไป!"
อวี่เหวินฮ่าวจับตัวหมอหลวงไว้แล้วหลบออกไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวว่านางจะโมโหอีก
"พระชายาจะโกรธไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ" ซีมามายังคงเกลี้ยกล่อม หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นทันที "มามา ท่านก็ออกไปด้วย ข้าอยากอยู่เงียบๆ คนเดียวสักพัก ปิดประตูให้ข้าด้วย"
ซีมามาจึงได้แต่เพียงกล่าวว่า "เพคะ พวกหม่อมฉันจะรออยู่ด้านนอก หากมีอะไรก็เรียกพวกเรานะเพคะ"
ซีมามา ฉีมามาและลู่หยาต่างก็ออกไปและปิดประตู
ด้านนอกทุกคนต่างก็มองหน้ากันไปมา ซวีอีมองทังหยางแล้วก็มองท่านอ๋อง เฮ้อ "ท่านอ๋องหยุดเดินไปเดินมาเถอะพ่ะย่ะค่ะ ทำให้คนอื่นร้อนรนกระวนกระวายไปกันหมด"
ทังหยางกล่าวด้วยความโมโห "ทหาร เอาตัวซวีอีออกไป อย่าให้เข้ามาใกล้หอเซียวเยว่อีกแม้แต่ก้าวเดียว"
นี่มีเรื่องอะไรให้เขาร้อนรนกระวนกระวายกัน? ช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย
กู้ซือเดินเข้ามาพูดกับอวี่เหวินฮ่าวอย่างหดหู่ "เรื่องคืนนี้เป็นความผิดของข้าเอง หากพระชายาโมโหจนแท้งพระครรภ์ แม้ข้าจะถูกตัดหัวก็ยังไม่อาจรับผิดชอบได้"
ตอนนี้คนในวังต่างก็คอยจับจ้องท้องของพระชายาของชินอ๋อง ฝ่าบาทแทบจะถามถึงเรื่องนี้อยู่ทุกวันว่าเหล่าพระชายาของชินอ๋องตั้งครรภ์บ้างแล้วหรือยัง ไท่ซั่งหวงแม้จะไม่พูด แต่ก็ได้ยินว่าเขาประทานหยกให้แก่พระชายาฉู่อ๋องเพื่อให้นางมีลูก
อวี่เหวินฮ่าวไม่มีแก่จิตแก่ใจไปคิดเล็กคิดน้อยกับกู้ซืออีก เพียงแต่มองเข้าไปด้านในอย่างกังวล เขาไม่รู้ว่าเมื่อน้องหยวนโกรธแล้วจะเป็นอย่างไร หรือบางทีอาจจะใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เหมือนเขาหรือไม่ คงทั้งหวังว่าจะตั้งครรภ์แต่ก็กลัวว่าจะไม่ได้ตั้งครรภ์กระมัง?
ที่จริงหากไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ไม่เป็นไร อย่างไรก็ยังอายุน้อยนัก
เขาเกาศีรษะแล้วกล่าวอย่างเสียใจ "เมื่อคืนข้าไม่น่าเพิ่มความกดดันแก่นางเลย ข้าบอกว่าหากนางตั้งครรภ์ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งชายารอง ตอนนี้นางคงกลัวว่านางจะไม่ได้ตั้งครรภ์"
"แต่จะช้าหรือเร็วท่านก็ต้องแต่งชายารอง แม้พระชายาจะมีลูก ข้างกายท่านอย่างไรก็จะขาดผู้หญิงไปไม่ได้" กู้ซือกล่าว
"นางมีลูกได้แล้วข้าจะแต่งชายารองไปทำไม? ก่อนหน้านี้ไม่อาจแย้งต่อคำกล่าวที่ว่าความอกตัญญูมีอยู่สามประการ แต่ที่เป็นที่สุดของความอกตัญญูก็คือ การไร้ทายาทสืบสกุลได้ ตอนนี้มีทายาทแล้ว ยังจะมีอะไรอธิบายไม่ได้อีกเล่า" อวี่เหวินฮ่าวกล่าว
หมอหลวงเฉาพึมพำอยู่ด้านข้าง "ดื่มน้ำแกงจื่อจินเข้าไปแล้วตั้งครรภ์ได้อย่างไร? ช่างแปลกเสียจริง"
คนที่อยู่ด้านนอกต่างก็ต่างคนต่างคิดกันไป
MANGA DISCUSSION