"ไทเฮาเสด็จแล้วหรือ? เราไปถวายพระพรต่อไทเฮาก่อนดีหรือไม่?" หยวนชิงหลิงถาม
"เสด็จย่ามิได้มา อย่าไปรบกวนท่านเลยดีกว่า" อวี่เหวินหลิงกล่าว
ฮองเฮาและเหล่านางสนมกำลังนั่งคุยกันในศาลาภายในสวน อวี่เหวินหลิงพาหยวนชิงหลิงไปถวายพระพร ส่วนพระชายาซุนอ๋องได้ถวายไปเมื่อสักครู่แล้ว จึงมิได้ตามมาด้วย
ฮองเฮา กุ้ยเฟย พระสนมเซียน พระสนมเต๋อ พระสนมฉินล้วนอยู่ที่นั่น หยวนชิงหลิงเดินไปและถวายบังคมทีละคน
ช่วงนี้หยวนชิงหลิงค่อนข้างมีชื่อเสียง ลูกสาวของจวนโหวเจว๋ที่ไม่ได้รับความชื่นชมจู่ๆ ก็กลายมาเป็นพระชายาท่านอ๋อง และนางได้รับความชื่นชมจากฝ่าบาทและไท่ซั่งหวงอีกด้วย ได้ข่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางและสองสามีภรรยาฉู่อ๋องกลมกลืนกันมาก ฉะนั้นนางจึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แต่ยกเว้นพระสนมเซียน! ไม่ว่านางจะทำกระไร พระสนมซียนก็ไม่พอใจหยวนชิงหลิงอย่างมาก ภูมิหลังเป็นหนึ่งเหตุผล และตอนนี้ท่าทางของนางก็ดูไม่สมกับที่เป็นกุลสตรีเท่าไหร่ น่าอับอายเสียจริง ดูท่าทีที่นางถวายบังคม แล้วฟังน้ำเสียงที่นางพูดจา ดูการแต่งหน้าของนาง และดวงตาทั้งสองข้างกวาดมองไปทั่ว แค่เห็นก็รู้สึกเกลียดชังแล้ว
หยวนชิงหลิงรู้ว่าพระสนมเซียนมองนางด้วยแววตาที่รังเกียจ? เวลาเราเกลียดใครสักคน แม้แต่หายใจก็ผิด
ดังนั้นนางจึงพยายามที่จะไม่สบตากับพระสนมเซียน เพราะหากแววตาที่ต่างคนต่างรังเกียจกันมาพบกัน เช่นนั้นก็คงเก้อเขินอย่างมาก
หยวนชิงหลิงมองความเกลียดชังที่มีต่อกันในลักษณะนี้เป็นการไม่ลงรอยกันระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้
ฮองเฮามองไปที่หยวนชิงหลิงและกล่าวว่า "ข้าได้ยินมาว่าพระชายาฉู่อ๋องรักษาวัณโรคของหวายอ๋องจนหายดี เมื่อได้ยินเช่นนี้ข้ารู้สึกปลาบปลื้มใจอย่างมาก ข้าเอาแต่ยุ่งกับราชกิจภายในวัง จึงไม่มีเวลาให้รางวัล……."
ขณะที่พูดเช่นนี้ นางก็ถอดกำไลหยกออกจากข้อมือแล้วยื่นให้หยวนชิงหลิง "กำไลนี้อยู่กับข้ามากว่า 20 ปี ท่านปู่ให้มาข้ามาเมื่อตอนที่ข้าอยู่ในจวน สำหรับข้าแล้วมันความหมายอันล้ำค่า บัดนี้ข้านำสิ่งนี้มอบให้กับเจ้า ถือว่าเป็นการขอบคุณที่เจ้าช่วยลูกชายของข้าไว้"
หยวนชิงหลิงมองไปที่กำไลนั้น มันดูเก่าและหยาบมาก นางเคยเห็นลู่หยาใส่อยู่หนึ่งเส้น ซึ่งสีดูดีกว่านี้อีก
อย่างไรก็ตามตนจะรังเกียจมันไม่ได้ เพราะนางกล่าวแล้วว่านี่เป็นของที่ท่านปู่มอบให้ อีกทั้งยังใส่มากว่า20ปีแล้ว ซึ่งมีความหมายอย่างมาก แม้ว่ากำไลที่ท่านปู่ให้ก็ยอมที่จะมอบให้นาง เช่นนี้คงเป็นความโปรดปรานมากที่สุดในสายตาทุกคนแล้ว
หยวนชิงหลิงรีบรับมันมา และยังต้องประจบประแจงทำท่าทีตกตะลึงที่ได้รับความโปรดปรานเช่นนี้ "ขอบคุณเสด็จแม่ทรงมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้เพคะ"
พระสนมเซียนทำเสียงไม่สบอารมณ์ ก็แค่กำไลเก่าๆ ที่ฮองเฮาหามามิใช่หรือ? จำเป็นต้องตกตะลึงประจบประแจงฮองเฮาเช่นนี้เลยหรือ? น่าอับอาย!
อวี่เหวินหลิงเป็นคนไร้เดียงสา เมื่อนางเห็นกำไลคู่นี้ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่นางมิกล้ากล่าวกระไรมาก จึงรอให้หยวนชิงหลิงถอยกลับแล้วจึงกล่าวด้วยเสียงเบาๆ ว่า "ข้าไม่เคยเห็นเสด็จแม่ใส่กำไลนี้มาก่อน และกำไลนี้มิใช่ของดีกระไร ข้าคิดว่านายใหญ่ตระกูลฉู่ก็คงไม่มอบของที่หยาบด้านเช่นนี้ให้กับหลานสาวของคนหรอก พี่สะใภ้ห้า ของแบบนี้มิจำเป็นต้องเก็บราวกับสมบัติ"
หยวนชิงหลิงมองไปที่อวี่เหวินหลิงที่ไร้เดียงสา นางโอบไหล่นางเอาไว้แล้วเดินออกไปข้างนอก "องค์หญิง เราไม่จำเป็นต้องบอกเรื่องนี้กับใคร เราทราบอยู่ในใจก็พอแล้ว ระวังปลาหมอตายเพราะปาก"
อวี่เหวินหลิงกล่าวว่า "ข้าทราบดี กับคนนอกข้าไม่กล้าพูดหรอก แต่ข้าเชื่อพี่สะใภ้ห้า"
หยวนชิงหลิงยิ้ม เด็กคนนี้ไร้เดียงสาเสียจริง อันที่จริงแล้วพวกนางรู้จักกันได้ไม่นาน นางเชื่อคนง่ายเช่นนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ทว่านางประทับใจกับความไร้เดียงสาของเด็ก การคบหาของมนุษย์ควรที่จะเรียบง่ายเช่นนี้ แต่หากว่าอยู่ในพระราชวัง ความเรียบง่ายอาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้
"พี่สะใภ้ห้า เสด็จแม่ไม่ค่อยโปรดปรานพี่เท่าไหร่นัก วันหลังข้าจะคอยพูดชื่นชมพี่ให้ท่านฟัง" อวี่เหวินหลิงกล่าว
หยวนชิงหลิงยิ้มและส่ายหน้า "ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่นางมองข้าไม่สามารถเปลี่ยนได้ในเวลาอันสั้น บางทีทั้งชีวิตนี้ก็คงเปลี่ยนไม่ได้"
"ทำไมล่ะ" อวี่เหวินหลิงถามอย่างแปลกใจ
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ตั้งแต่สมัยโบราณมาแม่สามีและลูกสะใภ้มักจะเข้ากันไม่ได้ เพราะเรารักผู้ชายคนเดียวกัน"
อวี่เหวินหลิงป้องปากแล้วยิ้ม "เช่นนั้นเจ้าก็ไม่โปรดเสด็จแม่เช่นกันใช่หรือไม่?"
ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ไม่โปรดหรอก แต่เกลียดเลยด้วยซ้ำ
"เป็นไปได้อย่างไร? ข้าประจบท่านยังไม่ทันเลย"
เห็นได้ชัดว่า อวี่เหวินหลิงมิได้สนใจในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก นางโอบแขนหยวนชิงหลิงเอาไว้แล้วเดินท่ามกลางผู้คน เมื่อมีคนเดินผ่าน นางก็แอบกล่าวให้หยวนชิงหลิงทราบว่าคนคนนี้เป็นบุตรสาวของใคร เป็นยอดตาดวงใจของใคร หรือว่าเป็นคุณหญิงใหญ่ของตระกูลไหน
หยวนชิงหลิงตกใจกับความทรงจำที่แม่นยำของนา โดยปกติแล้วนางอาศัยอยู่ในพระราชวัง ไม่ค่อยมีโอกาสออกมาข้างนอกเท่าไหร่นัก เหตุใดนางจึงจำได้อย่างชัดเจนเช่นนี้?
"หย่งอี้" จู่ๆ อวี่เหวินหลิงก็ตะโกนขึ้นมา นางพาหยวนชิงหลิงไปหาเด็กสาวที่สวมกระโปรงปักลายดอกไม้สีฟ้า
หญิงสาวนี้มีใบหน้ากลม ตาโต คิ้วหนา ทำผมทรงกลมมวยขึ้นสองข้าง น่ารักอย่างมาก เมื่อเห็นอวี่เหวินหลิง นางก็รีบเข้ามาจับมือนางเอาไว้แล้วยิ้มกว้าง ฟันของนางขาวและสวยเป็นระเบียบอย่างมาก นางดูร่าเริงอย่างมาก รูปลักษณ์ของนางเป็นลักษณะที่ใครเห็นจำต้องชอบมาก
หยวนชิงหลิงชอบนางอย่างมาก
"หย่งอี้ นี่คือพี่สะใภ้ห้าของข้า พระชายาฉู่อ๋อง!" อวี่เหวินหลิงแนะนำ
"น้อมถวายบังคมต่อพระชายาฉู่อ๋องเพคะ!" เด็กหญิงที่ชื่อหย่งอี้เร่งโน้มตัวลงแล้วถวายบังคม
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "มิต้องมากพิธีรีตองหรอก องค์หญิงคนนี้คือใครหรือ?"
"หยวนหย่งอี้ หลานสาวของแม่ทัพหยวน เป็นมิตรคนสนิทของข้า" อวี่เหวินหลิงยิ้มและกล่าว
"สวัสดีแม่หญิงหยวน!"
"พระชายาเพคะ หม่อมฉันตื่นเต้นมากที่ได้พบท่าน" หยวนหย่งอี้มองหยวนชิงหลิงด้วยแววตาที่ชื่นชม
"ตื่นเต้น?" หยวนชิงหลิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ใบหน้าของหยวนหย่งอี้แดงก่ำ ดวงตาของนางเป็นประกาย นางกล่าวด้วยความเขินอายเล็กน้อยว่า "ใช่แล้ว ท่านย่าบอกว่าท่านคือเจ้าแม่กวนอิมกลับชาติมาเกิด วันนั้นเกิดเรื่องที่นอกเมือง ท่านช่วยชีวิตคนไว้เยอะมาก ชาวบ้านล้วนพูดถึงเรื่องนี้กันเพคะ"
"จริงหรือ?" หยวนชิงหลิงตกใจ เหตุใดนางจึงไม่ทราบเรื่องนี้?
หากบอกว่านางเป็นเจ้าแม่กวนอิมกลับชาติมาเกิด เช่นนั้นก็กล่าวเกินเหตุไปหน่อย
"จริงเพคะ ท่านย่าของหม่อมฉันอยากพบท่านมาก หม่อมฉันพาท่านย่าไปพบท่านได้หรือไม่เพคะ" หยวนหย่งอี้บิดนิ้วก้อยของตัวเองแล้วมองไปที่หยวนชิงหลิวด้วยความคาดหวัง
"แน่นอนว่าได้สิ!" หยวนชิงหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม นางไม่เคยมีเพื่อนมาเยี่ยมเยือนเลย
"จริงเหรอ?" หยวนหย่งอี้ตื่นเต้นมาก ใบหน้าของนางแดงมากยิ่งขึ้น
ส่วนอวี่เหวินหลิงถูกทิ้งไว้ไม่มีใครสนใจ นางจึงพยายามแทรกเข้ามา "แล้วท่านย่าของเจ้าไม่มีคืนนี้หรือ?"
"ไม่ ข้ามากับแม่ แม่ของข้าชอบพระชายามากเช่นกัน……. ไม่เพคะ ไม่ใช่ชอบ แต่เป็นการเคารพเพคะ" หยวนหย่งอี้มองหาแม่แต่ก็ไม่พบ จึงกล่าวเบาๆ ว่า "หากว่าท่านแม่ได้พบพระชายา ท่านก็คงตื่นเต้นมากเช่นกันเพคะ"
หยวนชิงหลิงไม่รู้ว่าตนกลายเป็นที่ชื่นชมของคนอื่นไปแล้ว ความรู้สึกนี้ช่าง… ละอายใจที่จะรับมันไว้เสียจริง
"อ้อ จริง ๆ แล้ว งานเลี้ยงชมบุปผาในวันนี้จัดขึ้นเพื่อหาพระชายารองให้กับเหล่าพี่ๆ ของข้า หย่งอี้ เจ้าชอบพี่ชายคนไหนของข้ามากที่สุด" อวี่เหวินหลิงถาม
หยวนหย่งอี้มองไปที่หยวนชิงหลิง" ฉู่อ๋อง"
หยวนชิงหลิงตกตะลึง จากนั้นก็มองดูเด็กน้อยที่น่ารักไร้เดียงสานี้
นางอดไม่ได้ที่จะชอบหญิงสาวคนนี้ แล้วอวี่เหวินฮ่าวที่หื่นกาม หากมาพบเข้าจะเกิดกระไรขึ้น?
อวี่เหวินหลิงกล่าวอย่างมีความสุข "ตกลง เจ้าแต่งงานกับพี่ห้าของข้า เป็นพระชายารองของเขา เป็นเพื่อนกับพี่สะใภ้ห้าของข้า"
"นั่นสินั่นสิ!" หยวนหย่งอี้พยักหน้าอย่างตื่นเต้น และแววตาที่ตื่นเต้นของนางมองไปที่หยวนชิงหลิงเป็นครั้งคราว
"พี่สะใภ้ห้าพี่ว่าดีหรือไม่? เมื่อถึงเวลาเสด็จแม่ถามว่าชอบคนไหน พี่สะใภ้ก็ตอบไปว่าชอบหย่งอี้" อวี่เหวินหลิงกล่าวอย่างมีความสุข
หยวนชิงหลิงมองไปที่อวี่เหวินหลิงแล้วยิ้ม พยายามระงับความรู้สึกที่อยากงัดหัวนางลงจากบ่าเอาไว้ "มันเป็นยังไงหรือ? วันนี้เลือกพระชายารองให้ฉีอ๋อง แต่ให้ท่านอ๋องทุกคนได้พระชายารองกลับไปคนละหนึ่งคนหรือ?"
"งานเลี้ยงชมบุปผา หากว่าเหมาะสมก็จะคุยเรื่องแต่งงานกัน" อวี่เหวินหลิงกล่าว
งานเลี้ยงชมบุปผา ได้ชมดอกไม้ในสวน แต่เป็นดอกไม้หญิงสาวแต่ละดอกที่กำลังรอเบิกบานเหล่านี้ต่างหาก
หยวนหย่งอี้กลับทำเหมือนว่าสิ่งที่ทั้งสองกำลังพูดคุยไม่เกี่ยวกับตน นางเอาแต่มองหยวนชิงหลิง
MANGA DISCUSSION