เหลิ่งจิ้งเหยียนมองเขาพร้อมรอยยิ้มบางๆ และกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ "แต่อย่างไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านอ๋องอยู่แล้ว ได้ยินว่าวันนั้นพระชายาฉู่อ๋องก็อยู่ช่วยชาวบ้านที่หน้าประตูเมืองด้วย"
"ใช่" อวี่เหวินฮ่าวมองเขาแล้วเอ่ยเตือนเสียก่อน "อย่าคิดจะทำอะไรนาง"
"ต้องเริ่มลงมือจากนาง!" เหลิ่งจิ้งเหยียนกล่าว
อวี่เหวินฮ่าวตบโต๊ะ "ฝันไปเถอะ"
เหลิ่งจิ้งเหยียนมองเขา "ท่านอ๋องโปรดใจเย็นลงก่อน ฟังข้าพูดให้จบก่อน"
อวี่เหวินฮ่าวโบกมือ "เจ้าว่ามาเถอะ แต่อย่างไรก็คงไม่ใช้วิธีที่ดีอะไร"
"พระชายาช่วยที่นอกเมือง เรื่องนี้ก็มีผู้คนมากมายเห็นใช่หรือไม่? สองวันมานี้ในเมืองต่างก็ลือไปทั่วว่าพระชายาฉู่อ๋องช่างมีเมตตา ทั้งยังงดงาม หากเรื่องนี้จะต้องหาคนมารับผิดชอบแล้วล่ะก็ พระชายาฉู่อ๋องเหมาะสมที่สุดแล้ว"
"นี่มันอะไรกัน?" อวี่เหวินฮ่าวถลึงตามองอย่างไม่สบอารมณ์
เหลิ่งจิ้งเหยียนหัวเราะ "วันนี้คนที่เป็นที่โปรดปรานของไท่ซั่งหวงคือใคร? ตอนนี้พระชายาที่โด่งดังที่สุดคือผู้ใด? ท่านคิดว่าหากพระชายาฉู่อ๋องไปขอพระราชทานอภัย ฝ่าบาทจะลงโทษนางหรือ? แม้ฝ่าบาทต้องการ แต่ไท่ซั่งหวงต้องไม่ยอมแน่ อีกอย่าง พระชายายังช่วยองค์หญิงหงเติงไว้ด้วย เสด็จลุงของท่านไม่มีทางยอมอยู่เฉยแน่"
"แบบนี้จะไม่เป็นการข่มขู่หรือ?" อวี่เหวินฮ่าวรู้สึกว่าวิธีนี้ไม่เหมาะนัก เสด็จพ่อต้องทนต่อการบีบบังคับไม่ได้แน่
หากทำให้เขาหัวเสียขึ้นมาจริงๆ และสั่งโบยหยวนชิงหลิง เช่นนั้นบ้านท้ายของนางจะไม่ยิ่งใหญ่ยิ่งแบนหรอกหรือ? ไม่ได้ๆ !
เหลิ่งจิ้งเหยียนตบบ่าของเขาเบาๆ "เชื่อข้าเถอะ รับรองไม่ผิดหวัง"
อวี่เหวินฮ่าวถลึงตามองเขา "หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา…"
"ท่านอ๋องจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด!" เหลิ่งจิ้งเหยียนตบโต๊ะ
"…ไม่ได้เรื่อง!"
ไม่ใช่คนดีอะไรทั้งนั้น
หลังออกมาจากสำนักบัณฑิต อวี่เหวินฮ่าวก็ขบคิดมาตลอดทางและยังแวะไปที่ประตูเมืองโดยเฉพาะเพื่อดูว่าหยวนเจี๋ยอยู่หรือไม่
หยวนเจี๋ยอยู่ที่นั่น เขามีผ้าคล้องแขนไว้ วันนั้นที่เขาช่วยคนได้รับบาดเจ็บที่ไหลและข้อศอก
"ท่านอ๋อง!" หยวนเจี๋ยยิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันขาวและหันกลับไปสั่ง "อาซาน ไปยกชามาให้ท่านอ๋อง!"
อวี่เหวินฮ่าวมองหยวนเจี๋ย "ไม่ต้องหรอก ข้าเพียงผ่านทางมาเท่านั้น มาดูว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"ขอบพระทัยสำหรับความใส่พระทัยของท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ อาการบาดเจ็บของผู้น้อยไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ" หยวนเจี๋ยตอบพลางยิ้มกว้าง "สำหรับคนที่ถึกทนอย่างพวกเราแล้ว บาดแผลแค่นี้จะนับว่าเป็นอะไรได้อย่างไร?"
"เจ้าเคยออกรบหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถาม
"เคยพ่ะย่ะค่ะ" หยวนเจี๋ยตอบ "เคยออกรบอยู่หลายครั้ง สังหารทหารของกองทัพฝ่ายศัตรูไปได้กว่าร้อยคนจึงได้ตำแหน่งแม่ทัพรักษาการณ์"
อวี่เหวินฮ่าวตกตะลึง "สังหารไปกว่าร้อนคนหรือ? เป็นสงครามครั้งใดกัน?"
"สงครามผาหู่โถวพ่ะย่ะค่ะ!" หยวนเจี๋ยตอบ
อวี่เหวินฮ่าวอึ้งไปเล็กน้อย "สงครามผาหู่โถว? ตอนนั้นข้าเป็นคนนำทัพ เหตุใดจึงไม่เคยเห็นเจ้าเลย?"
หยวนเจี๋ยโบกมือ รู้สึกหน้าชาเล็กน้อย "ตอนนั้นผู้น้อยเป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อยที่คอยระวังหลัง แม้ท่านอ๋องจะเคยเห็นก็คงไม่รู้จักพ่ะย่ะค่ะ"
จากทหารชั้นผู้น้อยที่คอยระวังหลัง ตอนนี้ได้เป็นถึงแม่ทัพผู้รักษาประตูเมือง อวี่เหวินฮ่าวพอจะจินตนาการออกว่าหาทางของเขาลำบากเพียงใด ในใจของเขาจึงยิ่งหนักอึ้ง คนผู้นี้ยังเคยเป็นคนในสังกัดของเขาด้วย! เพราะต้องการแพะรับบาป ดังนั้นจึงจะทำลายผลงานของเขาจนหมดสิ้น!
"ข้าขอตัวก่อน หากว่างเมื่อไรค่อยคุยกันอีก" อวี่เหวินฮ่าวไม่อาจเผชิญหน้ากับใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสนี้ได้อีก ไม่รู้ว่าหากเขารู้ว่าเสด็จพ่อจะปลดเขาแล้ว ใบหน้ายิ้มแย้มนี้จะเปลี่ยนเป็นเช่นไร?
"พ่ะย่ะค่ะ น้อมส่งท่านอ๋อง"
อวี่เหวินฮ่าวหันม้าจากไปราวกับต้องการหนีไปให้พ้น
เมื่อกลับมาถึงจวน หยวนชิงหลิงมองแวบเดียวก็ดูออกว่าเขามีเรื่องหนักอึ้งในใจ เขาปิดเองก็ไม่อาจทนปิดบังได้เพราะมันช่างเป็นเรื่องที่กวนใจเขาอย่างมากเสียเหลือเกินจึงเล่าคำสั่งของเสด็จพ่อให้หยวนชิงหลิงฟัง เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ เบิกตากว้างมองเขาอยู่ครู่ใหญ่จึงได้เค้นเสียงออกมาได้ "เหตุใดเสด็จพ่อจึงได้เลอะเลือนเช่นนี้?"
"เขาต้องการรักษาชื่อเสียงของพระชายาฉีอ๋องจึงต้องหาคนมารับโทษแทน!" อวี่เหวินฮ่าวกล่าวอย่าไม่พอใจ
"หยวนเจี๋ยมีความชอบ!" หยวนชิงหลิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
"ข้ารู้ เมื่อครู่ข้ายังไปที่ประตูเมืองโดยเฉพาะ เขากลับไปเฝ้าประตูเมืองแล้วทั้งๆ ที่ยังบาดเจ็บอยู่" อวี่เหวินฮ่าวถอนหายใจ
หยวนชิงหลิงรู้สึกผิดหวังจนพูดไม่ออก นางเป็นนักวิจัย ไม่รู้เรื่องการเมืองนัก เพียงแต่รู้สึกว่าเช่นนี้จะทำให้คนปวดใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่เพิ่งทำความดีความชอบ "มีวิธีอะไรไหม?" หยวนชิงหลิงถาม
อวี่เหวินฮ่าวลังเลเล็กน้อยแล้วจึงส่ายศีรษะ "ไม่มี เรื่องนี้ต้องมีใครสักคนรับผิดชอบ"
หยวนชิงหลิงถอนหายใจ "โหดร้ายเสียจริง"
แม่ทัพรักษาประตูเมืองผู้นั้นพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ อย่างน้อยก็ทำหน้าที่ของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ควรถูกลงโทษ ทั้งสองคนต่างก็จนคำพูดและทำได้เพียงถอนหายใจเบาๆ พร้อมรู้สึกจนปัญญากับสถานการณ์ปัจจุบัน
ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี่เหวินฮ่าวจึงเอ่ยออกมาว่า "ที่จริงแล้วข้ายังไปหาจิ้งเหยียนที่สำนักบัณฑิตมาด้วย เขาบอกข้ามาวิธีหนึ่ง"
"วิธีอะไรหรือ?" หยวนชิงหลิงรับถาม
อวี่เหวินฮ่าวมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อน "เขาให้เจ้าไปขอพระราชทานอภัยโทษ"
"ข้า?" หยวนชิงหลิงตะลึง "ให้ข้าไปขออภัยเรื่องอะไร? ข้าไม่มีตำแหน่งขุนนาง จะขออภัยโทษได้อย่างไร?"
"จิ้งเหยียนกล่าวว่าเจ้ามีฐานะเป็นพระชายาฉู่อ๋อง ได้รับพระกรุณาธิคุณจากฝ่าบาทและความเคารพนับถือจากประชาชน ตอนที่เกิดเรื่องขึ้นเจ้าอยู่ที่นั่นด้วยแต่ไม่อาจขัดขวางและไม่อาจจัดการอะไรได้ ทำให้คนบาดเจ็บยิ่งอาการหนักขึ้น ตอนนั้นสถานการณ์วุ่นวาย ไม่สามารถปกป้ององค์หญิงหงเติงได้อย่างดี ทำให้นางได้รับบาดเจ็บหนัก อันตรายจนถึงชีวิต"
หยวนชิงหลิงเบิกตากว้างอยู่ครู่ใหญ่ "นี่… ฝ่าบาทเพียงได้ฟังก็คงรู้ว่าข้ากำลังหาเรื่อง"
อวี่เหวินฮ่าวกล่าวว่า "ถูกต้อง แต่เสด็จพ่อจะลงโทษเจ้าได้หรือ?"
เขากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "คทาหลวงของเจ้าทำได้เพียงแค่ขู่น้องเจ็ดเล็กน้อยเท่านั้น"
"ท่านไม่กลัวหรือ?" หยวนชิงหลิงหยิบมันออกมาและมองเขาอย่างเคร่งขรึม
อวี่เหวินฮ่าวรีบพูดว่า "ไม่ต้องเอามันออกมาบ่อย รีบเก็บให้ดีเถอะ เก็บให้ดี"
หยวนชิงหลิงเก็บคทาหลวงกลับไป "เช่นนั้นทำไมเสด็จพ่อจะไม่ลงโทษข้า? เจตนาของข้าชัดเจนมากเลยมิใช่หรือ"
"เพราะตอนนี้เจ้าครองใจของประชาชนอยู่ ชาวบ้านต่างก็ชื่นชมเจ้า เสด็จลุงรู้สึกขอบคุณต่อเจ้า เสด็จปู่โปรดปรานเจ้า หากเจ้าได้รับโทษเพราะเรื่องเช่นนี้ เสด็จไม่มีทางยอมอยู่เฉยๆ แน่"
หยวนชิงหลิงจึงแสดงท่าทีเข้าใจ "ที่แท้ก็จะพึ่งคนแก่นี่เอง ไม่สิ เอาไท่ซั่งหวงออกมาเป็นโล่ต่างหาก!" วิธีนี้นับว่าไม่ได้เป็นวิธีที่ดีนัก
เพราะนางเพิ่งจะทำความชอบ ฝ่าบาททรงชื่นชมนางอยู่บ้าง หากไปบีบบังคับให้เขาปล่อยหยวนเจี๋ยไป ความรู้สึกดีนั้นก็คงจะหายไปเป็นแน่ แต่ใครจะไปใส่ใจความชอบเล็กน้อยเช่นนี้กัน? อย่างน้อยนางก็ไม่สนใจ
"งั้นก็เอาเช่นนี้แหละ!" หยวนชิงหลิงกล่าว
อวี่เหวินฮ่าวประหลาดใจเล็กน้อย "ไม่ลองคิดดูก่อนหรือ? หากทำเช่นนี้แล้ว เสด็จพ่อต้องมีอคติต่อเจ้าแน่"
"อย่างไรเขาก็คงไม่ฆ่าข้าหรอก" หยวนชิงหลิงมองเขา ลังเลเล็กน้อย "คงไม่ได้จะประหารข้าใช่ไหม?" "ไม่มีทางอยู่แล้ว เจ้ายังมีนั่นอีกไม่ใช่หรือ?" อวี่เหวินฮ่าวทำปากบุ้ยใบ้และเหลือบมองไปยังแขนเสื้อของนาง
หนังสือรับรองฉบับนั้น นางเก็บมันไว้ราวกับของล้ำค่า แม้ไข่มุกนางจะคืนไปแล้วแต่หนังสือรับรองนั่นนางเอามาเก็บไว้อย่างดี
"ใช่แล้ว ท่านว่าฉู่หมิงฉุ่ยไม่ได้ตั้งครรภ์ก่อนหน้านี้ ไม่ได้ตั้งครรภ์หลังจากนี้ ทำไมจึงได้ตั้งครรภ์ขึ้นมาในตอนนี้เล่า? ข้าคิดว่านางแสร้งท้องเสียอีก สวรรค์ไร้ตาจริงๆ ที่ให้เด็กกับนางมาปกป้องนางในตอนนี้"
ฉู่หมิงฉุ่ยโชคดีมากจริงๆ ทุกครั้งที่ทำผิด จะต้องมีคนออกมาปกป้องนาง ไม่ใช่ฉู่โส่วฝู่ก็เป็นฮองเฮา ครั้งนี้แม้แต่สวรรค์ก็ยังช่วยนาง นางคิดถึงคำที่พระชายาซุนอ๋องเคยกล่าวไว้จึงรีบเอ่ยว่า "ตอนนี้นางตั้งครรภ์แล้ว เช่นนั้นฉีอ๋องก็คงจะถูกแต่งตั้งเป็นรัชทายาท"
"ไม่พอใจหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถาม
หยวนชิงหลิงส่ายหน้า "ไม่ใช่ไม่พอใจ เพียงแต่รู้สึกว่าฉีอ๋องเป็นคนไร้สมอง จะเป็นรัชทายาทได้อย่างไร? เขาจะมีกี่ชีวิตมาสังเวยหรือ?"
อวี่เหวินฮ่าวประหลาดใจเป็นอย่างมาก นึกว่านางเพียงจะบ่นสองสามคำ แต่นางกลับพูดถึงปัญหาอย่างตรงประเด็น น้องเจ็ดไม่มีทางนั่งอยู่บนตำแหน่งรัชทายาทโดยมั่นคง นี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉู่โส่วฝู่จึงไม่ออกมาแสดงท่าทีเสียที ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
เขาอยากรู้เป็นอย่างมากว่านางไม่สนใจตำแหน่งพระชายารัชทายาทสักนิดเลยหรือ? ต่อไปก็จะได้ขึ้นเป็นฮองเฮา แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องได้เป็นรัชทายาทและมีชีวิตรอดไปจนสามารถสืบราชบัลลังก์เสียก่อน
"เจ้าไม่หวังให้ข้าชิงตำแหน่งรัชทายาทเลยหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถาม
MANGA DISCUSSION