ฉีอ๋องใบหน้าแดงก่ำ เขาจ้องมองนางตาเขม็ง รู้สึกเถียงไม่ออกอยู่นาน ท้ายที่สุดก็ได้กล่าวขึ้นมาด้วยความโกรธเคือง "ข้าพูดเรื่องตกน้ำกับเจ้า เจ้าจะมาสาธยายอะไรเยอะแยะ? ข้าไม่เลิศเลอก็ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะต้องเข้ามายุ่งเกี่ยว"
"พูดถึงเรื่องตกน้ำใช่ไหม?" แทนที่หยวนชิงหลิงจะเกรี้ยวกราด นางกลับยิ้มออกมาและจ้องมองเขา "ท่านมานี่สิ ข้าจะพูดให้ท่านฟังดีๆ"
"เจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบๆพูด!" ฉีอ๋องกล่าวด้วยความโมโห "ไม่ต้องมาลวดลายเช่นนี้"
หยวนชิงหลิงลุกขึ้นยืน นางเอามือล้วงเข้าไปใต้แขนเสื้อพลางยิ้มอย่างเยือกเย็น "ก็ได้ ข้าจะเล่าเรื่องตกน้ำให้ท่านฟัง"
คทาหลวงกลิ้งไปกลิ้งมาในมือ นางกดมันเพียงเล็กน้อย คทาหลวงก็ค่อยๆขยายความยาวออกไปเรื่อยๆ
ฉีอ๋องจ้องมองนาง แล้วค่อยๆก้าวเท้าถอยหลัง "เจ้าคิดจะทำอะไรน่ะ? หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า ข้าก็จะกราบทูล……"
หยวนชิงหลิงยื่นคทาหลวงออกไป โดยจ่อไปที่ศีรษะและข้างๆใบหน้าของเขาพลางกล่าวเสียงกร้าวว่า "กราบทูล ไปกราบทูลสิ ข้าพูดกับท่านมาตั้งนาน ท่านยังจะคอยวกวนกับเรื่องตกน้ำอยู่อีกหรือ? เรื่องตกน้ำ ความจริงก็คือฉู่หมิงฉุ่ยผลักข้าตกลงไป แล้วนางก็กระโดดตามลงมาเอง ข้าว่ายน้ำไม่เก่ง เพื่อจะทำร้ายนางแล้ว ข้าถึงกับยอมให้ตัวเองต้องจมน้ำไปด้วยกันอย่างนั้นหรือ? ท่านน่ะโง่ ไม่ใช่ข้า ท่านไม่มีสมอง แต่ข้ามี วันนี้ข้าจะสั่งสอนคนที่เลอะเลือนอย่างท่าน ฉู่หมิงฉุ่ยเป็นใคร? นางมีตระกูลฉู่คอยหนุนหลัง แล้วข้าจะไปลงมือทำร้ายนางถึงจวนหวายอ๋องอย่างไม่กลัวตายเลยอย่างนั้นหรือ? ข้ากับนางเคยมีเรื่องบาดหมางมามากน้อยเพียงไร? วันนั้นข้าก็ได้ให้นางสาบานต่อหน้าท่านไปแล้ว แต่นางไม่กล้า เหตุใดจึงไม่กล้าล่ะ? ก็เพราะว่านางไม่แน่จริง แต่ว่าข้ากล้า หากว่าในวันนั้นข้าคิดปองร้ายฉู่หมิงฉุ่ยจริง ได้ผลักนางลงไปในน้ำจริง ขอให้ข้าหยวนชิงหลิงจะต้องไม่ตายดี ขอให้ข้าตายโดยไร้ดินกลบ!"
คำพูดเหล่านี้ ฟังดูดุดันยิ่งกว่าคำพูดเมื่อครู่นี้เป็นอย่างมาก นางพูดออกมาเสียงกร้าวพร้อมๆกับฟาดคทาไปทางฉีอ๋อง นางฟาดคทาไปไม่น้อยกว่า 5-6 ครั้ง
"ข้าจะฆ่าเจ้า……" ฉีอ๋องโกรธจนดูเหมือนมีเปลวไฟลุกโชนไปทั่วร่าง แต่ว่า นางมีคทาหลวงอยู่ในมือ เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้นางมากเกินกว่านั้น ทำได้แค่เพียงมองนางด้วยความเคืองแค้น ปากก็ขู่จะเอาชีวิตนางครั้งแล้วครั้งเล่า
เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าหยวนชิงหลิงจะกล้าฟาดเขา มันมากเกินไปจริงๆ ช่างป่าเถื่อนที่สุด!
หยวนชิงหลิงถือคทาหลวงเดินเข้าไปใกล้ ฉีอ๋องเดินถอยหลังหนี เขาจับตาดูความเคลื่อนไหวทุกย่างก้าวของนางอย่างระแวดระวัง "เจ้าอย่าเข้ามานะ เจ้าคิดจะทำอะไร? ถอยไป ถอยไปเดี๋ยวนี้!"
"ใต้เท้าทัง!" หยวนชิงหลิงตะโกนไปทางประตู มีผู้คนมากมายเข้ามามุงดูสถานการณ์
ทังหยางวิ่งเข้ามาอย่างงุนงง "พระชายาทรงมีสิ่งใดจะรับสั่งพ่ะย่ะค่ะ!"
"ไปยกน้ำชามาให้ฉีอ๋อง!" หยวนชิงหลิงกล่าว
"ไม่ต้องมาเสแสร้งทำดี เจ้าคิดจะวางยาใช่หรือไม่? เจ้ากล้าหรือ? หยวนชิงหลิง เจ้ากล้าหรือ?" ฉีอ๋องพูดด้วยความเกรี้ยวกราด
"นั่งลงสิ!" หยวนชิงหลิงชี้ไปที่เก้าอี้ น้ำเสียงของนางเริ่มเป็นปกติ
หลังการปะทะอันดุเดือด ใบหน้าของเขาดูบวมเป่ง นางรู้สึกตัวว่านางมือหนักเกินไป นางควรจะฟาดไปที่ส่วนร่างกายจะดีกว่า ไม่ควรจะฟาดไปบนใบหน้า
"ข้าไม่นั่ง เจ้าเหิมเกริมทำร้ายข้า นังหญิงใจโฉด เจ้าทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสีย……"
ความอดทนของหยวนชิงหลิงค่อยๆจางหายไป นางตวาดขึ้นมาอีกครั้ง "บอกให้นั่งลงไงล่ะ!"
ฉีอ๋องตกใจจนสะดุ้ง เขารีบนั่งลงอย่างไม่พอใจ แล้วจ้องหน้านางเสมือนว่านางนั้นเป็นศัตรู
หยวนชิงหลิงมองมาที่เขาพร้อมเอ่ยขึ้นมาว่า "คำพูดบางอย่าง พูดแล้วพูดอีก ท่านไม่เบื่อที่จะฟังแต่ข้าเบื่อที่จะพูด นี่เป็นการพูดครั้งสุดท้าย ท่านจงตั้งใจฟัง ในใจของฉู่หมิงฉุ่ยหาได้มีท่านไม่ ที่นางแต่งงานกับท่านก็เพราะว่าท่านเป็นโอรสของภรรยาเอก ท่านมีโอกาสสูงที่สุดในการจะได้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาท และที่สำคัญก็คือ ฉู่โสวฝู่ต้องการเกาะท่านเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น นางกำลังหลอกใช้ท่านอยู่ หากท่านสามารถยอมรับความรักที่มาพร้อมกับผลประโยชน์และการหลอกลวงนี้ได้ ข้าก็ว่าอะไรท่านไม่ได้หรอก แต่ต่อจากนี้ไป ไม่ว่าจะทำหรือพูดสิ่งใด ก็ขอให้ท่านใช้สมองคิดให้ถ้วนถี่ อย่าให้ราชวงศ์ต้องขายหน้า ทำในสิ่งที่ผู้เป็นอ๋องสมควรกระทำ ทำในสิ่งที่สุภาพบุรุษสมควรกระทำ"
นางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ความเกรี้ยวกราดในจิตใจเริ่มทุเลาลง นางเก็บคทาหลวงเข้าไปใต้แขนเสื้อ "ดื่มชาให้สบายใจเถอะ ทำใจให้ผ่อนคลายแล้วค่อยๆคิดตามในสิ่งพูดที่ข้าได้พูดไปเมื่อครู่นี้ ข้าไม่รบกวนแล้ว"
พูดจบ นางก็เดินออกไป
ฉีอ๋องมองดูนางจากด้านหลัง เขายังคงโกรธอยู่ หรือจะเรียกว่าอับอายก็คงได้ เขายังคงไม่ไปไหน จะต้องรอพี่ห้ากลับมาให้ได้ ให้พี่ห้ารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทังหยางสั่งคนให้ยกน้ำชาไปถวาย เมื่อเห็นเขายังคงหน้าตาบูดบึ้งอยู่เช่นเดิม จึงได้กล่าวขึ้นว่า "ฉีอ๋อง สิ่งที่พระชายาตรัสไปเมื่อครู่นี้เป็นคำพูดที่มีค่าดุจดั่งอัญมณี ขอท่านโปรดรับฟังนางสักหน่อย! พระชายาทรงหวังดีกับท่านนะพ่ะย่ะค่ะ"
"นางหวังดีกับข้า? ตลกสิ้นดี!" ฉีอ๋องสะบัดหน้า "พี่ห้ายังไม่กลับมาอีกหรือ?"
ทังหยางส่ายหน้าเบาๆแล้วจึงเดินออกไป
ฉีอ๋องมองดูน้ำชาที่ใสแจ๋ว เขาจิบเข้าไป 1 คำ สมองของเขาคิดอะไรไปเรื่อย จึงไม่รู้รสชาติความละมุนของน้ำชา เขาสัมผัสได้เพียงความรู้สึกแปลกๆที่แผ่ซาบซ่านไปจนทั่ว
เขาไม่เชื่อ สิ่งที่หยวนชิงหลิงพูดมา เขาไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว แต่ว่า เพราะเหตุใดฉุ่ยเอ๋อร์จึงไม่กล้าสาบานล่ะ? นางคงจะเหนื่อยที่จะต้องมาต่อปากต่อคำกับหยวนชิงหลิงกระมัง ผู้หญิงเช่นนางดุดันน่ากลัว แถมยังป่าเถื่อน ไม่ต่อปากต่อคำด้วยก็ถูกแล้ว แต่ว่า เพราะเหตุใดจึงยังคงรู้สึกข้องใจอยู่อีกล่ะ? ฉุ่ยเอ๋อร์หลอกใช้เขาและหลอกลวงเขาจริงๆหรือ? แต่ว่า นางก็ดีกับเขามาก ทั้งอ่อนหวานและมีเหตุมีผล เป็นคุณลักษณะที่ผู้เป็นพระชายาควรมี
เขานึกย้อนไปยังเรื่องราวต่างๆหลังจากที่ได้อภิเษกมา 1 ปี สิ่งที่นางได้กระทำมาทั้งหมดนั้นหาข้อตำหนิไม่ได้เลย สิ่งที่ภรรยาควรทำ นางก็ทำได้เป็นอย่างดี ไม่เคยบกพร่องแม้แต่น้อย
เขายังไม่พอใจอยู่อีกหรือ? พอใจแล้วสิ แต่ว่า หากว่านางใช้ความรู้สึกที่แท้จริงมากกว่านี้สักนิด ไม่ต้องใช้สายตาที่อ่อนโยน แต่เป็นการแสดงให้เห็นความรู้สึกออกมาทางแววตา อย่างเช่นว่า เมื่อนางโกรธก็ดูขุ่นเคือง เมื่อนางมีความสุขก็ดูสุขใจ เมื่อนางหึงหวง……
หึงหวง? ดูเหมือนว่านางจะไม่เคยหึงหวงเขาเลย ต่อให้เสด็จแม่จะตรัสเรื่องการแต่งตั้งพระชายารองขึ้นมาก็ตาม นางก็ได้แต่รับฟังอย่างสงบ หัวใจของฉีอ๋องพลันรู้สึกสับสนขึ้นมาในทันที ทั้งสับสนและว้าวุ่น
อวี่เหวินฮ่าวกลับมาแล้ว เมื่อกลับเข้ามาก็ได้ยินทังหยางรายงานว่าฉีอ๋องยังคงอยู่ที่จวน มิหนำซ้ำ ยังถูกพระชายาเล่นงานไปแล้วด้วย
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวได้ฟังดังนั้นแล้วก็รู้สึกเห็นใจ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสมน้ำหน้า เจ้าอ๋องเจ็ดนั่น จริงๆแล้วสมควรจะโดนด่า 1 ชุดแล้วค่อยฟาดอีก 1 ชุดเสียด้วยซ้ำ
พี่รองไม่เอาการเอางาน วันๆเอาแต่สนุกสนานเพลิดเพลิน แต่ว่าพี่รองก็ไม่ทำให้ใครต้องชังน้ำหน้า แต่ว่าน้องเจ็ด หลังจากที่ได้อภิเษกไปแล้วก็ทำเกินไปจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันนี้ เมื่อได้ไปไต่ถามฉู่หมิงฉุ่ยที่จวนฉีอ๋อง ท่าทางบ่ายเบี่ยงของเขาช่างน่าโมโหยิ่งนัก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมราชสกุล เขาก็ควรเข้าไปถามไถ่ผู้ที่ถูกทำร้าย
เมื่อเข้าไปแล้วก็เห็นฉีอ๋องกำลังเหม่อลอยโดยถือถ้วยน้ำชาเอาไว้ในมือ ใบหน้าบวมเป่ง ท่าทางน่าสงสาร
อวี่เหวินฮ่าวกระแอมขึ้นมาและเอ่ยไปว่า "ที่กรมมีเรื่องต้องสะสางมากมาย ข้ากลับมาดึก คงจะรอนานแล้วสินะ? ได้เจอพี่สะใภ้ห้าหรือยังล่ะ?"
ฉีอ๋องเฝ้าคอยการกลับมาของเขามาโดยตลอด เมื่อเห็นอวี่เหวินฮ่าวเดินเข้ามา ความรู้สึกอึดอัดก็พรั่งพรูออกมาในทันที "พี่ห้า ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว"
"เป็นอะไรไป? เอ๊ะ? หน้าเจ้าไปโดนอะไรมาน่ะ?" อวี่เหวินฮ่าวถามไถ่ด้วยความห่วงใย
ฉีอ๋องเกือบจะร้องไห้ออกมา "พี่สะใภ้ห้าฟาดข้า"
ฟาดได้ดีจริงๆ!
"ฟาดรุนแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ? มันจะมากเกินไปแล้ว!" อวี่เหวินฮ่าวเป็นเดือดเป็นร้อนและกล่าวด้วยความโมโห "ข้าจะกลับไปจัดการกับนางเอง"
"ดีเลยพ่ะย่ะค่ะ!" ฉีอ๋องวางถ้วยน้ำชาลง เขาเอามือไปคลำบริเวณแก้ม ยังคงเจ็บแปลบๆ "พี่ห้าจะต้องช่วยข้าเอาคืนให้ได้นะ"
"นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ใครหน้าไหนก็มารังแกน้องชายของข้าไม่ได้ทั้งนั้น" อวี่เหวินฮ่าวนั่งลง และกล่าวด้วยความเกรี้ยวกราด
ฉีอ๋องมองดูเขา เขารู้สึกไม่ค่อยเชื่อถือพี่ห้าอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ก็ช่างเถอะ จะจัดการให้หรือไม่จัดการให้ มันก็ไม่สำคัญหรอก
"พี่ห้า ข้าขอถามอะไรอย่างสิ ท่านจะต้องตอบมาตามความเป็นจริงนะ" ฉีอ๋องเริ่มมีท่าทีปกติ
"ถามมาสิ!" อวี่เหวินฮ่าวมองหน้าเขา อื้อหือ นางนี่มือหนักใช่ย่อย
นัยน์ตาฉีอ๋องรู้สึกประหม่า "ถ้าหากว่า……ถ้าหากว่าเรื่องจวนองค์หญิงนั่นไม่ได้เกิดขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ท่านจะยังอภิเษกกับฉุ่ยเอ๋อร์อยู่หรือไม่?"
อวี่เหวินฮ่าวตกตะลึง เจ้าสมองบ๊องนี่ถูกฟาดไปยกเดียวก็ครุ่นคิดเป็นแล้วงั้นหรือ?
เขาไตร่ตรองสักพัก "ท้ายที่สุดแล้ว ข้าจะไม่แต่งกับนาง ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ข้า อยู่ที่นางต่างหากล่ะ"
"เพราะอะไรล่ะ?" ฉีอ๋องไม่เข้าใจ
"ก็นางไม่ยอมแต่งกับข้าน่ะสิ" อวี่เหวินฮ่าวตอบ
"เพราะอะไรล่ะ?" ฉีอ๋องยังคงไม่เข้าใจ พวกเขาสนิทสนมชิดใกล้กันมาตั้งแต่เด็กเลยนี่นา
อวี่เหวินฮ่าวยิ้มและพูดว่า "ทำไมเพราะอะไรเยอะจริง?"
ฉีอ๋องใจสั่นสะท้าน "ที่นางไม่อยากแต่งงานกับท่าน เป็นเพราะว่าโอกาสที่ท่านจะได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทมีน้อยกว่าข้าใช่หรือเปล่า?"
อวี่เหวินฮ่าวเบิกตาโต "ไยเจ้าจึงถามเช่นนี้?"
"ก็พี่สะใภ้ห้าที่ร้ายกาจนั่นบอกข้ามาน่ะสิ" ฉีอ๋องเริ่มจะเสียใจ เสียใจอย่างสุดซึ้งเสียแล้ว
"เจ้าเชื่อหรือ?" อวี่เหวินฮ่าวถามกลับ
ฉีอ๋องนิ่งเงียบไปสักพัก "เรื่องโกหก!"
"ในเมื่อเป็นเรื่องโกหก แล้วเจ้าจะกังวลไปไย?"
ฉีอ๋องรู้สึกล่องลอย เขาไม่รู้ว่าคำพูดของพี่สะใภ้ห้าที่ร้ายกาจนั่นจะเชื่อถือไม่ได้ สิ่งที่นางพูดมาล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น
"เรื่องตกน้ำนั่น พี่ห้าเชื่อพี่สะใภ้ห้าที่ร้ายกาจหรือเปล่า?" ฉีอ๋องถามต่อ
MANGA DISCUSSION