หยวนชิงหลิงไม่ทราบว่าเหตุใดฝ่าบาทจึงถามเช่นนี้ แต่นางก็ตอบตามความจริงว่า "ทูลฝ่าบาทเพคะ ท่านอ๋องดีต่อหม่อมฉันอย่างมากเพคะ"
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พยักหน้าอย่างสบายใจ "เจ้ารู้วิชาการรักษา เจ้าได้ดูแลสุขภาพตัวเองบ้างหรือไม่?"
"ทูลเสด็จพ่อเพคะ ร่างกายของหม่อมฉันไม่เป็นกระไรแล้วเพคะ" หยวนชิงหลิงไม่คาดคิดว่าฝ่าบาทยังคงนึกถึงเรื่องที่นางได้รับบาดเจ็บ นางรู้สึกซึ้งใจเล็กน้อย
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ไอแห้ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ "อืม เจ้าต้องดูแลตัวเองดีๆ เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับในอนาคตที่จะ…..อืม ต่อไปหากจะมีทายาทให้กับราชวงศ์ค์ ก็ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง
อันที่จริงเรื่องพวกนี้ไม่ควรเป็นเขาที่พูด แต่ตอนนี้ก็มีแต่เขาที่พูดได้ มิเช่นนั้นจะให้ใครไปกล่าวเรื่องนี้ พวกนางต่างก็จะคิดคาดเดาต่างๆอีกมากมาย โดยเฉพาะฮองเฮา ห้ามบอกเรื่องเหล่านี้กับนางเด็ดขาด!ส่วนพระสนมเซียนก็ช่างมันเถิด!
หยวนชิงหลิงตกตะลึง และกระจ่างขึ้นมาในทันทีทันใด นางเขินอายจนใบหน้าร้อนรุ่ม
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ได้พูดออกมาแล้ว ก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม "หากว่าเจ้าบำรุงไม่เป็น ก็ให้หมอหลวงจัดยาให้ กินไปเสียสักสองสามเดือน เดี๋ยวก็มีข่าวดี" "
กล่าวเพียงเล็กน้อย หยวนชิงหลิงจะไม่คิดมาก
แต่หัวข้อสนทนาที่น่าเขินอายเช่นนี้ ฝ่าบาทกลับกล่าวแล้วกล่าวอีก เช่นนี้ก็อดที่จะทำให้หยวนชิงหลิงคิดมากมิได้! แต่ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาครุ่นคิด นางจึงทำได้แค่ตอบกลับอย่างเก้อเขินว่า "ทราบเพคะ!"
"เอาล่ะ เจ้าไปเถอะ สิ่งที่เจิ้นพูดกับเจ้าในวันนี้ เจ้ากลับไปคุยกับชายห้า ส่วนคนอื่นๆมิจำเป็นต้องไปกล่าวกระไรมากมาย" จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พูดเสริม
หยวนชิงหลิงโน้มตัวลงแล้วน้อมลา แต่นางสงสัยอย่างมาก
ตกดึกสองสามีภรรยาไม่ทำเรื่องจำเป็น เอาแต่วิเคราะห์สิ่งที่ฝ่าบาทกล่าวมาเมื่อเช้านี้
หยวนชิงกล่าวว่า "เหตุใดเสด็จพ่อของเจ้าจึงให้ความสนใจกับเรื่องที่ข้าให้กำเนิดบุตรชายหรือไม่มากเช่นนี้?"
อวี่เหวินฮ่าวกอดนางเอาไว้ ใช้นิ้วมือมวนผมของนาง "เจ้าคิดอย่างไร?"
หยวนชิงหลิงคาดเดาอย่างใจกล้า "ท่านจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นองค์รัชทายาทรึเปล่า?"
อวี่เหวินฮ่าวส่ายหน้า "ไม่หรอก ปีที่ผ่านมานี้เสด็จพ่อเย็นชากับข้าอย่างมาก และผิดหวังมากเช่นกัน"
"นั่นเป็นเพราะข้า… เรื่องที่เกิดขึ้นที่จวนองค์หญิงไงล่ะ ตอนนี้เราดีกันแล้ว อีกทั้งข้าคิดว่าก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ ท่านก็คงให้ความสำคัญกับเจ้าอย่างมากใช่หรือไม่?"
อวี่เหวินฮ่าวกล่าวว่า " แต่งตั้งองค์รัชทายาท จะต้องเป็นบุตรชายคนโตหรือบุตรชายของฮองเฮา"
"เป็นไปได้ไหมที่จะแต่งตั้งคนที่มีความสามารถ?" หยวนชิงหลิงถาม
อวี่เหวินฮ่าวยิ้มและหันไปมองนาง "ในใจเจ้า เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่มีความสามารถและคุรธรรมหรือ?"
"ไม่!" หยวนชิงหลิงปฏิเสธ "ไม่ถึงกับว่ามีความสามารถและมีคุณธรรม แต่ความจงรักภักดีและความกล้าหาญนั้นมีมากพอจนล้นเหลือ"
อวี่เหวินฮ่าววางมือทั้งสองข้างไว้หลังศีรษะ ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งว่า เสด็จพ่อคิดเช่นนี้จริงหรือ?
"แล้วเจ้าคิดเช่นไร? อยากเป็นองค์รัชทายาทหรือไม่?" หยวนชิงหลิงถาม
อวี่เหวินฮ่าวยิ้ม "เป็นการเสแสร้งหากจะบอกว่าไม่ต้องการ แต่หากบอกว่าอยากเป็น……..สิ่งที่ต้องรับผิดชอบมันมากจนเกินไป"
หยวนชิงหลิงนอนหมอบอยู่บนเตียงโดยเอาศอกเท้าที่นอนเอาไว้ "ที่จริงข้าคิดว่าเสด็จพ่อกำลังสอดแนมว่าไท่ซั่งหวงคิดกระไรอยู่ ไท่ซั่งหวงให้ความสำคัญกับเจ้าอย่างมาก และตอนนี้ข้าก็เป็นที่โปรดปรานของไท่ซั่งหวงเช่นนี้…"
อวี่เหวินฮ่าวผงะไปครู่หนึ่งและมองไปที่นาง "เจ้าหมายความว่าเสด็จพ่อมิได้อยากแต่งตั้งข้า แต่ท่านทำตามสิ่งที่ไท่ซั่งหวงต้องการหรือ?"
"เป็นไปได้ ไม่ว่าเสด็จพ่อจะเป็นองค์รัชทายาท หรือว่าเป็นฝ่าบาท แต่ทั้งชีวิตของท่านชินกับการทำตามสิ่งที่ไท่ซั่งหวงต้องการ ตราบใดที่ไท่ซั่งหวงยังคงมีชีวิตอยู่ ท่านก็จะเคารพไท่ซั่งหวงเสมอ นี่เป็นความเคยชินทางจิตใจที่สะสมมาเป็นเวลานาน"
อวี่เหวินฮ่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "สิ่งที่เจ้ากล่าวมาก็มีเหตุผล"
หยวนชิงหลิงเอามือยันคางไว้ "ตอนนี้ข้าสามารถพูดได้ว่าเสด็จพ่อมีแนวโน้มที่จะเลือกเจ้า ฉะนั้นท่านจึงได้ถามข้าเรื่องการให้กำเนิดบุตรชาย"
อวี่เหวินฮ่าวมองไปที่นาง "เรามีลูกชายด้วยกันเป็นเพราะเราต้องการมีลูก แต่ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่น"
ทันใดนั้นหยวนชิงหลิงก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้นางลืมกินยาหลังทำเช่นนั้นเสร็จ แต่ก็ถือว่าอยู่ในช่วงปลอดภัยกระมั้ง จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหันว่า นางมาที่นี่เป็นเวลานานมาแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นมีประจำเดือนเลยนิ? นางมาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว? นางนับด้วยนิ้วอย่างน้อยเดือนครึ่งแล้วกระมั้ง
นางหัวเราะไม่ออกในทันที เป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าของร่างเดิมยังไม่มีประจำเดือน? ผู้หญิงสมัยโบราณมีการเติบโตช้า เป็นเรื่องปกติที่ประจำเดือนมาช่วงอายุสิบเจ็ดถึงสิบแปด แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?
โอ้พระเจ้า เจ้าของร่างเดิมอายุเท่าไหร่กัน? ดูเหมือนจะสิบเจ็ดใช่หรือไม่? อายุสิบเจ็ดก็จะเป็นแม่คนแล้วหรือ? แม้ในยุคนี้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก แต่นางรับไม่ได้!แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าไท่ซั่งหวงกล่าวว่าจะต้องมีลูกสามคน นางมีความรู้สึกอยากจะเสียชีวิตในทันทีจริงๆ
อวี่เหวินฮ่าวไม่ทันสังเกตว่านางเหม่อลอย เขาพลิกตัวแล้วทับนางเอาไว้ "นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควบคุมมิได้หรอก นี่เป็นชะตากรรมระหว่างเราและลูก
เขาดึงม่านเตียงลงมาแล้วสะบัดแขนเสื้อให้เทียนดับลง
"วันนี้พักผ่อนได้หรือไม่?" ในความมืด ได้ยินเสียงอ้อนวอนของหยวนชิงหลิง
"อีกสองปีค่อยพักผ่อนแล้วกัน" อวี่เหวินฮ่าวประทับริมฝีปากลงไป ไม่ปล่อยให้นางมีโอกาสบอกกล่าวกระไรทั้งสิ้น
บรรยากาศในห้องร้อนแรงอย่างมาก!
วันรุ่งขึ้น ซุนอ๋องและภรรยามาเยี่ยมที่จวนท่านอ๋อง
อวี่เหวินฮ่าวกลับมาหลังจากเสร็จธุระ จากนั้นก็พูดคุยกับซุนอ๋องอยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนหยวนชิงหลิงนั้นเดินเล่นอยู่ในลานบ้านพร้อมพระชายาซุนอ๋อง
ดูท่าทีพระชายาซุนอ๋องกำลังกังวลบางสิ่งอยู่
"พี่สะใภ้เป็นกระไรไปหรือ?" หยวนชิงหลิงถาม นางเอื้อมมือไปตบหลังเบาๆ ปวดหลังจังเลย!
"ไม่เป็นกระไรหรอก" พระชายาซุนอ๋องกล่าวอย่างเฉยแล้วมองดูนาง "เอวเจ้าไม่เป็นกระไรใช่หรือไม่? เอาแต่ตบมันทำไม?"
"ไม่เป็นกระไร!" หยวนชิงหลิงดึงมือกลับ และตอบกลับอย่างเฉยเมยเหมือนนาง
พระชายาซุนอ๋องหัวเราะออกมา "เอาเถิด ใครไม่เคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาบ้างล่ะ?"
หยวนชิงหลิงกล่าว "พี่สะใภ้คิดมาก ข้าแค่เหนื่อย"
"ข้าเข้าใจ" พระชายาซุนอ๋องกล่าวแล้วชี้ไปที่เก้าอี้หินตรงหน้า "นั่งพักกันหน่อยเถิด ข้าไม่อยากเดินและเดินไม่ไหวแล้ว"
หยวนชิงหลิงเดินไปพร้อมนาง
หลังจากนั่งลง พระชายาซุนอ๋องก็ถามหยวนชิงหลิงว่า "ข้าได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เจ้าไม่ยอมให้ชายห้าแต่งกับฉู่หมิงหยางใช่หรือไม่?"
ใส่ร้ายกันชัดๆ "ใช่ ข้าไม่ยอมให้แต่ง"
พระชายาซุนอ๋องมองนางด้วยความประหลาดใจ "เจ้ากล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?"
หยวนชิงหลิงนึกขึ้นได้ว่านางเคยได้ยินมาว่าพระชายาซุนอ๋องจะหานางสนมให้กับซุนอ๋อง จึงกล่าวว่า "นี่เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ ใครจะอยากแบ่งสามีของตัวเองกับผู้หญิงคนอื่นๆล่ะ?"
"เขาทำอย่างนี้กันหมดนี่นา!" พระชายาซุนอ๋องกล่าวพึมพำ
"แต่ข้าไม่ยอม"
พระชายาซุนอ๋องมองมาที่นาง "จะมีประโยชน์กระไรหากเจ้าไม่ยอม? เจ้าไม่ยอมทำสุดท้ายก็จะมีคนหาให้เขา เช่นนี้สู้เราหาเองเสียดีกว่า"
หยวนชิงหลิงมองไปที่นาง "ฉะนั้นเจ้าจึงจะหานางสนมให้พี่รองหรือ?"
พระชายาซุนอ๋องพยักหน้าเงียบๆ "ข้ากำลังหาอยู่"
นางถอนหายใจอย่างเศร้าๆ "ข้าแต่งเข้าจวนซุนอ๋องมาตั้งหลายปี จนตอนนี้ก็ยังไม่มีบุตรชายเสียที หากว่าเป็นคนอื่นก็คงมีนางสนมมากมายไปแล้ว"
หยวนชิงหลิงจำได้ว่าพระชายาซุนอ๋องมีลูกสาวเพียงคนเดียว
"พี่รองร้องขอหรือ?" หยวนชิงหลิงถาม
พระชายาซุนอ๋องส่ายหน้า "ไม่ใช่"
นางมองไปที่หยวนชิงหลิง "ข้าได้ยินมาว่า ตอนนี้ฝ่าบาททรงรอดูว่าท่านอ๋องคนไหนสามารถมีบุตรชายก่อน ก็จะแต่งตั้งผู้นั้นให้เป็นองค์รัชทายาท ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใดมีท่านอ๋องมากมายหลายท่าน แต่กลับไม่มีใครมีบุตรชายเลย"
หยวนชิงหลิงนึกถึงคำพูดของฝ่าบาท สิ่งที่พระชายาซุนอ๋องกล่าวมานั้นมีบางส่วนเป็นสิ่งที่ฝ่าบาทคิดเสียจริง เพียงแต่ว่าหากว่าแต่งตั้งจากการที่ใครบุตรชายก่อน โดยไม่เลือกจากองค์ชายใหญ่ บุตรชายฮองเฮา องค์ชายมากความสามารถแล้ว ฝ่าบาทคงไม่คิดกระมั้งว่าเหล่าท่านอ๋องไม่สามารถมีบุตรชาย แล้วประโยคนั้นที่ฝ่าบาทกล่าวต่อนางเพียงผู้เดียวหมายความว่าอย่างไร?
ความคิดของผู้ชายเดายากจัง!
นางกล่าวกับพระชายาซุนอ๋องว่า "หากไม่มีใครบังคับให้เจ้าไปหานางสนมให้ซุนอ๋อง เจ้าก็อย่าได้หาเกาใส่หัว ผู้ชายนั้นเป็นของตน หากว่ามีนางสนมแล้วเจ้าคิดว่าเจ้าเสียเขาไปแค่ครึ่งเดียวหรือ? ไม่ใช่ เจ้าจะเสียเขาไปทั้งคน หากว่าของสิ่งนั้นมิได้มีเพียงหนึ่งเดียวก็ไม่เอา"
พระชายาซุนอ๋องมองดูนางอยู่นานก่อนจะเอ่ยอย่างช้า ๆ ว่า "บอกตามตรง เมื่อก่อนข้าไม่ชอบเจ้าอย่างมาก"
"ข้าไม่ชอบตัวเองในอดีตเช่นกัน" หยวนชิงหลิงกล่าวจากใจจริง
พระชายาซุนอ๋องยิ้ม "แต่ว่าช่วงนี้ข้าชอบเจ้ามาก สิ่งที่เจ้ากล่าวมานั้นมีเหตุผล แม้ว่าข้าจะทำไม่ได้ แต่แค่ฟังข้าก็รู้สึกสบายใจแล้ว"
หยวนชิงหลิงรู้ว่าไม่สามารถโน้มน้าวใจนางได้ และความคิดบางอย่างก็ฝังรากแน่นแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน
หลังจากส่งสองสามีภรรยาซุนอ๋องออกไปแล้ว อวี่เหวินฮ่าวก็พอหยวนชิงหลิงไปที่จวนหวายอ๋อง
และทำเช่นเดิม ตรวจอาการก่อนแล้วให้ยา พูดคุยกันครู่หนึ่งก็สามารถกลับได้แล้ว
MANGA DISCUSSION