ภายในวังเฉียนคุน
อดีตจักรพรรดิพูดคุยกับจักรพรรดิหมิงหยวนตี้และรุ่ยชินอ๋องอยู่สักพักก็เริ่มหมดแรงจึงให้พวกเขากลับไป แม้แต่หมอหลวงเขาก็ไล่ออกไป เหลือหยวนชิงหลิงไว้คนเดียวในตำหนัก
ก่อนที่ฮ่องเต้หมิงหยวนจะออกไป เขามองไปที่หยวนชิงหลิงอย่างมีความหมาย แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในตำหนักเงียบมาก ม่านก็ปิดมิดชิดจนแม้แต่ลมก็ไม่สามารถเข้าไปได้
หยวนชิงหลิงยืนอยู่ข้างเตียงสักพัก ไม่รู้ว่านางจะต้องทำอะไร
อดีตจักรพรรดิที่เดิมทีหลับตาลงอย่างแผ่วเบากลับลืมตาขึ้น ดวงตาของเขาก็กวาดมองอย่างเย็นชาและกล่าวเสียงเข้ม "คุกเข่าลง!"
หยวนชิงหลิงค่อยๆคุกเข่าลง ท่าคุกเข่านี้สำหรับนางแล้วมันง่ายกว่าการนั่งลงเสียอีก อย่างไรตอนนี้น้ำแกงจื่อจินก็หมดฤทธิ์ไปแล้ว ทุกอณูร่างกายของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
"เจ้ารู้ความผิดตัวเองหรือไม่?" อดีตจักรพรรดิถามเสียงเย็น
หยวนชิงหลิงรู้ดีว่าอดีตจักรพรรดิจะไม่ลงโทษนางจริงๆ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ตราบใดที่เขายังมีความอาลัยต่อโลกนี้ นางก็เป็นความหวังแห่งชีวิตเพียงอย่างเดียวของเขา
ดังนั้นนางจึงเงยหน้าขึ้นและกล่าวอย่างตรงไปตรงมา "ข้ารู้เจ้าค่ะ"
"ความผิดอะไร?"
"ฝีมือแพทย์ข้าไม่ดีแต่กลับอวดรู้" หยวนชิงหลิงพยายามผ่อนหนักผ่อนเบา
อดีตจักรพรรดิกล่าวอย่างเย็นชา "ฝีมือการแพทย์ไม่ดีงั้นหรือ เจ้าทำให้แพทย์หลวงทั้งสำนักกลายเป็นหมอไร้ความสามารถไปหมดแล้ว"
เมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินประโยคนี้ หัวใจที่ถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายก็เบาลง อดีตจักรพรรดิยอมรับฝีมือของนางแล้ว เช่นนั้นทุกอย่างก็คงเป็นไปได้ดี
แน่นอนว่าอดีตจักรพรรดิกล่าวอย่างเย็นชา "มานั่งตรงนี้ คุยกันเรื่องโรคของข้า ข้าจะตายเมื่อไหร่และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?"
หยวนชิงหลิงลุกขึ้นอย่างช้าๆและกล่าวว่า "เรื่องนี้หม่อมฉันยังไม่กล้าตัดสิน ขอทรงอนุญาติให้หม่อมฉันตรวจร่างกายดูหน่อย"
"แล้วจะยังรออะไรอยู่? มาจับชีพจรสิ"
อดีตจักรพรรดิมองดูหยวนชิงหลิงและไม่รู้ว่านางเอาเครื่องมือแปลกๆออกมาจากไหน ห้อยไว้ที่หูของนาง นางยิ้มบางๆและพูดว่า "ทีนี้เรามาฟังเสียงหัวใจกันเถอะเพคะ… "
ครู่หนึ่งมุมปากของอดีตจักรพรรดิก็กระตุกและพูดอย่างโมโหว่า "นี่เจ้าล้อเล่นอะไรกัน? คิดจะให้ข้าหนาวตายหรือย่างไร?"
หยวนชิงหลิงถอดหูฟังออกแล้วใส่เข้าที่หูของอดีตจักรพรรดิ "ชู่ว์ เสด็จปู่ลองฟังดูสิเพคะ"
สีหน้าโกรธเคืองของอดีตจักรพรรดิค่อยๆคลายลง ดวงตาของเขางงงวยและเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง "นี่เป็นเสียงหัวใจของข้า!"
หยวนชิงหลิงพยักหน้า "เพคะ ฟังดูแล้วไม่ค่อยแข็งแรงนัก แต่เกรงว่าท่านยมบาลคงจะยังไม่มารับพระองค์ไปในเร็วๆนี้"
"บังอาจ!" อดีตจักรพรรดิถลึงตามองนาง
หยวนชิงหลิงรีบทำท่าคุกเข่า "หม่อมฉันขออภัยเพคะ!"
"เอาเถอะ คุกเข่าทำไมกัน? นั่งลง!" อดีตจักรพรรดิทำเสียงขึ้นจมูก ขอโทษอะไรกัน?
หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างขมขื่น "หม่อมฉันไม่กล้านั่งเพคะ"
อดีตจักรพรรดิเหลือบมองนางอย่างเฉยเมย "อาการบาดเจ็บนี่เกิดขึ้นได้อย่างไร?"
หยวนชิงหลิงตกตะลึง
ดูออกว่านางได้รับบาดเจ็บ?
"เจ้าหายใจเข้าเพื่อกลั้นความเจ็บปวด คิดว่าข้าหูหนวกหรือไง? มือของเจ้าที่จับหน้าผากข้าก็ร้อนมาก มีไข้อยู่หรือ เกิดอะไรขึ้น?" อดีตจักรพรรดิกล่าวอย่างนิ่งๆ
หยวนชิงหลิงนึกถึงเรื่องมืดมนที่เกิดขึ้นในจวนอ๋องแล้วก็รู้สึกทั้งเศร้าโศกและขุ่นเคือง สุดท้ายก็สงบจิตใจลงและกล่าวว่า "หม่อมฉันหกล้มและแผลก็อักเสบจึงมีไข้"
"เจ้าไม่รู้วิธีรักษาตัวเองหรือ?" น้ำเสียงของอดีตจักรพรรดิไม่ดุดันเช่นเคย
หยวนชิงหลิงพยักหน้า "หม่อมฉันมียา"
อดีตจักรพรรดิขมวดคิ้ว เหตุใดบุตรสาวของจิ้งโหวจึงได้ไม่รู้ความเช่นนี้?
แต่ก็ช่างเถอะ ในวังแห่งนี้ใช่ว่าจะขาดคนเคารพกฏเกณฑ์?
"กินยาและพักผ่อนเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว!" อดีตจักรพรรดิหลับตาลงและถอดเครื่องฟังเสียงออก
หยวนชิงหลิงเก็บหูฟังและหลบไปด้านข้างค้นกล่องยา ทันทีที่เปิดกล่องยานางก็ตะลึงอีกครั้ง ทำไมยังมีขวดน้ำเกลืออยู่อีก?
นางยิ้มอย่างขมขื่นและไม่คิดเรื่องนี้ต่อ นางกลืนยาแก้ไข้และยาแก้อักเสบลงไป จากนั้นก็เปิดขวดน้ำเกลือแล้วหยิบไป
อดีตจักรพรรดิยังไม่ได้หลับสนิท เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นเขาก็ขมวดคิ้ว "ทำไมเจ้ายังมาที่นี่อีก? ไม่ได้ให้เจ้าพักผ่อนหรือไง?"
"ให้น้ำเกลือก่อน อีกเดี๋ยวค่อยนอนเพคะ" หยวนชิงหลิงถือขวดน้ำเกลืออย่างระมัดระวัง กลัวว่าเขาจะคิดว่าขวดนี้แปลกประหลาดและจะไม่ยอมให้นางให้น้ำเกลือ
อดีตจักรพรรดิก็รู้สึกแปลกจริงๆ เพียงแต่เขาไม่มีแรงที่จะถามอีก เขาเหลือบมองมันอย่างนิ่งเฉยและพูดว่า "ให้มันคล่องแคล่วหน่อย"
หยวนชิงหลิงไม่ค่อยมีความชำนาญในการให้น้ำเกลือ อย่างไรก็ตามเส้นเลือดของอดีตจักรพรรดิไม่ได้หายากนัก นางเจาะและให้น้ำเกลือแก่เขาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากให้น้ำเกลือแล้ว หยวนชิงหลิงเงยหน้าขึ้นก็เห็นอดีตจักรพรรดิจ้องมาที่นาง
นางหัวเราะเบาๆกลบเกลื่อน "รอท่านหายดีแล้วข้าจะอธิบาย"
หากให้นางหาข้ออ้างตอนนี้นางคงพูดไม่ออก
อดีตจักรพรรดิกล่าวว่า "มันจะเป็นการดีถ้าเจ้าจะอธิบายได้อย่างมีเหตุผล"
หยวนชิงหลิงยังคงยิ้มอย่างขมขื่น นางจะพยายามอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน
ขวดน้ำเกลือไม่ได้ถูกแขวนไว้นาน หยวนชิงหลิงก็กลัวว่าจะมีคนมา ดังนั้นหลังจากให้หมดขวดนึงแล้วนางจึงเก็บของ
อดีตจักรพรรดิส่งเสียงกรนเล็กน้อยและหลับไปแล้ว
หยวนชิงหลิงก็รู้สึกทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งเจ็บปวด แต่นางกลันั่งลงไม่ได้ นอนลงก็ไม่ได้ ไม่มีอะไรกินแม้แต่น้ำก็ไม่ได้ดื่ม
นางแอบมองดูแล้ว ในตำหนักไม่มีใคร อดีตจักรพรรดิคงจะไม่ตื่นมาในเร็วๆนี้ นางจึงยืนอยู่ที่โต๊ะ เอนตัวไปนอนคว่ำบนโต๊ะ เอามือหนุนหัวของนางขดตัวราวกับกระรอกดิน
เดิมทีนางคิดว่านอนลงแบบนี้สักหน่อยเพื่อคลายความเมื่อยล้าและเจ็บปวด แต่นางคิดไม่ถึงว่านางจะเผลอหลับไป
เมื่อฉางกงกงกลับไปพักผ่อนสักพัก เขาก็รู้สึกไม่วางใจอดีตจักรพรรดิ เมื่อได้ยินว่ามีพระชายาของฉู่อ๋องเพียงคนเดียวที่คอยรับใช้อดีตจักรพรรดิ เขาก็รีบมาทันที
ทันทีที่เขาเข้ามา เขาก็เห็นหยวนชิงหลิงนอนคว่ำอยู่ด้วยท่าทางแปลกๆ เขาขมวดคิ้ว มาดูแลแบบนี้ก็ได้หรือ? พระชายาฉู่อ๋องคนนี้พึ่งพาไม่ได้จริงๆ อีกทั้งท่านอนนี้ก็น่าเกลียดเป็นอย่างมาก
เมื่อเขากำลังจะพูด แต่ก็กลับได้ยินเสียงอดีตจักรพรรดิกระแอมและกระซิบเบาๆ "อย่าส่งเสียงดัง"
ฉางกงกงย่องไปห่มผ้าห่มให้อดีตจักรพรรดิด้วยความข้องใจเล็กน้อย
อดีตจักรพรรดิตรัสเบาๆ "ออกไปหาอะไรให้นางกินหน่อยเถอะ"
ฉางกงกงยิ่งรู้สึกประหลาดมากขึ้นไปอีก พระชายาฉู่อ๋องปรนนิบัติเขาแบบนี้ ไม่เพียงแต่อดีตจักรพรรดิจะไม่โกรธ แต่เขายังประทานอาหารแก่นางด้วย?
เขาไม่ได้ถามและเดินออกไปอย่างเงียบๆ
หยวนชิงหลิงนอนจนแขนชาก่อนจะค่อยๆตื่นขึ้น
เมื่อตระหนักได้ว่านางเผลอหลับไป นางรู้สึกหนาวสั่นที่หลังของนาง ทันใดนั้นก็รีบมองไปที่เตียงข้างหลังและโล่งใจที่เห็นว่าอดีตจักรพรรดิยังคงหลับอยู่
นางหยิบกล่องยาออกมา หยิบปรอทวัดไข้มาอมไว้และได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก นางตกใจรีบเก็บกล่องยาและซ่อนไว้ในแขนเสื้อ เมื่อนางหันกลับไปก็เห็นฉางกงกงเข้ามาพร้อมอาหาร
ฉางกงกงเห็นหยวนชิงหลิงอมอะไรอยู่ในปากก็อึ้งไปเล็กน้อย "พระชายา ท่าน… "
หยวนชิงหลิงไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จะเอาออกก็ไม่ใช่ ไม่เอาออกก็ไม่ใช่จึงทำได้เพียงแต่มองฉางกงกงอย่างอึดอัด
แต่กลับเป็นอดีตจักรพรรดิที่เดิมที่ "นอนหลับสนิท" แก้สถานการณ์ให้นาง "ยังไม่รีบเอาอาหารวางบนโต๊ะอีก? หากช้าลงอีกนิดเกรงว่าแม้แต่รองเท้าของข้านางก็คงกินเข้าไปแน่"
"โอ้!" ฉางกงกงยิ้มและวางอาหารไว้บนโต๊ะ "เป็นเพราะหิวหรือพ่ะย่ะค่ะ? พระชายารีบเสวยเถอะ"
หยวนชิงหลิงหิวจริงๆ นางหิวมากจนหน้าอกของนางแทบจะติดกับหลัง และไม่เพียงแต่หิวเท่านั้น นางยังกระหายน้ำจนคอแห้งจนแทบจะเป็นผุยผงอยู่แล้ว
เมื่อเห็นฉางกงกงนำชามซุปมาด้วย นางก็ไม่สนใจเรื่องมารยาทอีก นางหยิบปรอทวัดไข้ออก แล้วหยิบขึ้นมาซดอึกๆลงท้องไปทันทีพร้อมกับอ้าปากพ่นไออย่างผ่อนคลายแล้วรีบกินข้าวต่อ
เมื่อดังนั้นฉางกงกงก็ขมวดคิ้ว แม้จะหิวแต่ก็ไม่น่าจะเสียมารยาทขนาดนี้? มิหนำซ้ำนี่ยังอยู่ต่อหน้าต่อตาอดีตองค์จักรพรรดิอีก
MANGA DISCUSSION