ทังหยางรีบร้อนเดินเข้ามาในทันที พลันกล่าวว่า "ท่านอ๋องวางใจได้ ซวีอีและกู้ซือ พวกเขากำลังสืบหาหลักฐานอยู่พะยะค่ะ เกรงว่าอีกไม่นานก็จะได้รู้ตัวตนของนักฆ่าแล้วพะยะค่ะ"
"เปิ่นหวางต้องการจะรู้ความจริงทั้งหมด รวมไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังในครั้งนี้ด้วย !" สายตาของอวี่เหวินฮ่าวพลันฉายแววอาฆาตพาดผ่านในดวงตา
"พะยะค่ะ! " ทังหยางพลันหันไปมองพระชายาอยู่ครู่หนึ่ง มิรู้ว่าพระชายาจะสามารถข้ามผ่านไปได้หรือไม่ หากพระชายาไม่สามารถทนต่อไปได้แล้วละก็
ทังหยางมิกล้าจะคิดถึงมันเลย
ในยามนี้ ท่านอ๋องรู้ถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อพระชายาแล้ว พวกเขาเพิ่งจะผ่านเรื่องราวที่ดีไปไม่กี่วัน. เหตุใดทุกอย่างถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า? แม้ว่าจะสังหารพวกนักฆ่าไปหมดแล้ว หากแต่การจะสืบหาผู้บงการได้นั้น. เกรงว่าจะไม่ง่ายเลยทีเดียว
หลังจากที่รุ่ยชิงอ๋องได้เชิญหมอหลวงมาแล้ว ก็รั้งรออยู่แต่ภายในวัง หลังจากที่จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ตื่นขึ้นมา เขาก็รีบเข้าไปรายงานทันที
เมื่อจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ได้ยินข่าวว่าซุนอ๋องและหยวนชิงหลิงถูกลอบสังหารนั้น พลันตกใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกรุ่นโกรธอีกด้วย จึงสั่งให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด
เมื่อถึงยามเที่ยง จักรพรรดิหมิงหยวนตี้จึงได้เสด็จมายังจวนฉู่อ๋องด้วยตนเอง
หลังจากที่ได้มอบจวนแต่ละหลังให้ชินอ๋องทุกคนแล้วนั้น จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ก็มิเคยเสด็จไปที่จวนของชินอ๋องผู้ใดเลยสักคน
เมื่อมาถึงจวนฉู่อ๋องแล้วนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่จักรพรรดิหมองหยวนตี้เสด็จมาเลยทีเดียว "ท่านอ๋องพะยะค่ะ จักรพรรดิเสด็จพะยะค่ะ ! " ทังหยางพลันรีบร้อนวิ่งเข้ามารายงานในทันที " ท่านรีบออกไปรับเสด็จเถิดพะยะค่ะ"
รอบดวงตาของอวี่เหวินฮ่าวที่ปรากฏรอยแดงที่รอบดวงตานั้น กลับกล่าวออกมาว่า"ไม่ เปิ่นหวางต้องคอยดูแลนาง ทังหยาง เจ้าไปเตรียมคนมาคอยรับเสด็จพระองค์เสีย"
เสด็จพ่อจะลงโทษหรือไม่ เขามิได้สนใจมัน
จักรพรรดิหทิงหยวนตี้มิได้ลงโทษหรือตำหนิอันใด พระองค์เพียงเแค่เสด็จไปเยี่ยมเยียนซุนอ๋องก่อน
เมื่อได้ยินจากหมอหลวงกล่าวว่า. พวกเขาได้ถอดหัวธนูออกมาจากชั้นไขมันหนาๆของซุนอ๋องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. หมอหลวงยังกล่าวอีกว่า หากเป็นบุคคลธรรมดาโดนลูกธนูยิงเช่นนี้ ก็ยากที่จะมีชีวิตรอดไปได้
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พลันรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก! ทว่า แต่ก่อนเขามักจะดุด่าถึงบุตรชายคนนี้ว่ามิเอาการเอางาน หากแต่ ในครานี้ซุนอ๋องก็ได้กลายเป็นวีรบุรุษไปเสียแล้ว
องค์จักรพรรดิจึงได้สั่งให้หมอหลวงดูแลซุนอ๋องเป็นอย่างดี แล้วพระองค์จึงได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนหยวนชิงหลิง
หยวนชิงหลิงและซุนอ๋องยังอยู่ในอาการเดียวกัน คือยังไม่ฟื้นคืนจากอาการบาดเจ็บสาหัส
"เสด็จพ่อ! " อวี่เหวินฮ่าวพลันนั่งคุกเข่าลง ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมานั้น ภายในใจของอวี่เหวินฮ่าวนั้นตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา หากแต่เขาก็พยายามที่จะทำตัวให้เข้มแข็ง ทว่า เมื่ออวี่เหวินฮ่าวได้เห็นจักรพรรดิหมิงหยวนตี้นั้น ร่างกายของเขาพลันค่อยๆอ่อนตัวลง ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อคลอ "นางอาการมิดีเลย มิดีเลยพะยะค่ะ"
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ที่เห็นบุตรชายคนนี้มักจะเข้มแข็งตลอดเวลานั้น ในยามนี้กลับนั่งคุกเข่าด้วยน้ำตานองหน้า ภายในใจขององค์จักรพรรดิจึงรู้สึกหวั่นไหวยิ่งนัก พลางยื่นมือไปประคองอวี่เหวินฮ่าวแล้วกล่าวว่า "วางใจเถอะ นางจะผ่านไปได้อย่างแน่นอน"
"คำพูดขององค์จักรพรรดิถือศักดิ์สิทธิ์เป็นที่สุดพะยะค่ะ หากองค์จักรพรรดิกล่าวขึ้นมาเช่นนี้แล้ว. พระชายาจะไม่เป็นอันใดแน่นอนเลยพะยะค่ะ" มู่หยูกงกงพลันพูดอยู่ข้างกาย ราวกับว่ากำลังพูดจาปลอบใจอวี่เหวินฮ่าวอยู่เช่นกัน
"อื้ม เจิ้นมาที่นี่ก็เพื่อคอยปกป้องพวกเขาทั้งสองคน " จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พลันกล่าวขึ้นมา
"ขอบพระทัยเสด็จพ่อพะยะค่ะ!"
อวี่เหวินฮ่าวพลันยืนอยู่ข้างเตียง พร้อมกับหันไปมองหยวนชิงหลิงที่ร่างกายบอบช้ำเป็นอย่างมาก ภายในใจรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก จักรพรรดิหมิงหยวนตี้ยังอดที่จะรู้สึกเศร้าใจขึ้นมามิได้ ลูกสะใภ้คนนี้เป็นคนที่เขาชื่นชอบมากที่สุด อีกทั้งนางยังมีความสามารถมากมายอีกด้วย
"กู้ซือเล่า ? มิใช่ว่า เจิ้นเป็นคนสั่งเขาให้ไปรับส่งนางทุกเช้าเย็นงั้นหรือ ?" หลังจากที่จักรพรรดิหมิงหยวนตี้รู้สึกสงสารนางจับใจ ก็เริ่มที่จะสอบถามความเป็นมาของเรื่องในทันที
อวี่เหวินฮ่าวย่อมไม่โยนความผิดให้กู้ซือ จึงรีบร้อนกล่าวออกมาว่า "เสด็จพ่อ เป็นลูกที่มิได้สั่งให้เขามารับนางเองพะยะค่ะ เป็นลูกที่มารับนางทุกเช้าเย็นเอง"
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พลันเอ่ยตำหนิด้วยความกรุ่นโกรธ "นั่นถือเป็นเพราะ. เจ้าประมาทเลินเล่อเช่นนี้ เจ้าลูกคนนี้ เหตุใดถึงละเลยความปลอดภัยของนางไปได้เล่า"
อวี่เหวินฮ่าวพลันเหลือบมองไปที่หยวนชิงหลิงด้วยสายตากังวลเป็นอย่างยิ่ง เสด็จพ่อกล่าววาจาเสียงดังเช่นนี้ มิรู้ว่าจะเป็นการรบกวนนางหรือไม่ ? "เสด็จพ่อท่านรีบออกไปเสียเถอะ ท่านมิได้ช่วยอันใดได้มากนัก" ช่างน่ารำคาญจริงๆ
จู่ๆหยวนชิงหลิงพลันได้ยินเสียงฟ้าผ่าผ่านเข้ามาในกระแสน้ำวนที่นางถูกดูดอยู่ในทันที หูของนางที่ได้ยินฟ้าร้องนั้น พลันรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาในทันใด หยวนชิงหลิงในยามนี้ ความรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก! หากแต่ เสียงเมื่อครู่ ทำให้นางค่อยๆ เดินออกมาจากวังวนของสีดำนั้นได้แล้ว ความคิดความรู้สึกที่ลอยอยู่บนกระแสน้ำวนนั้น ก็ค่อยๆกลับเข้ามาในระบบความคิดของนางในทันที ราวกับว่า วิญญาณที่กำลังหลุดหายไปนั้น ค่อยๆทยอยกลับเข้ามาในร่างเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"พระชายาขยับตัวแล้วเพคะ!" ฉีมามาพลันตะโกนออกมาด้วยความตกใจ จึงทำให้อารมณ์ของจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ที่กำลังโมโหบุตรชายของตัวเองนั้น สงบลงได้ในทันควัน
อวี่เหวินฮ่าวพลางรีบหันหลังกลับมามองดูหยวนชิงหลิงในทันที มือของนาง ค่อยๆ ขยับขึ้นทีละนิ้ว ดวงตาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้า ๆ
อวี่เหวินฮ่าวค่อยๆนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมยื่มมือไปสัมผัสใบหน้าของหยวนขชิงหลิง พลางยิ้มออกมาด้วยความเศร้าใจเล็กน้อย "ตื่นแล้วหรือ ? เจ้าเจ็บหรือไม่ ?"
หยวนชิงหลิงร่างกายมิมีแรงเลยแม้แต่น้อย ทั้งสมองและร่างกายราวกับลอยตัวเหมือนปุยนุ่น แม้กระทั้งดวงตาของนางก็มิได้มีแรงที่จะขยับไปมามากนัก นางทำได้เพียงแค่มองเขาเท่านั้น แววตาพลันพล่ามัวไปหมด "พี่รอง"
"พี่รองมิเป็นอันใดแล้ว" อวี่เหวินฮ่าวรู้ได้ทันทีว่านางต้องการจะพูดถึงเรื่องอันใด จึงรีบร้อนตอบนางกลับในทันที
หยวนชิงหลิงพลันโล่งใจขึ้นมาในทันที แล้วจึงค่อยๆถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ "ยา หวายอ๋อง "
"เขามิเป็นอันใด เจ้าปวดหรือไม่ ? เจ็บมากหรือไม่ ?" อวี่เหวินฮ่าวพลันจับใบหน้าของนางเบาๆ มิกล้าลงแรงมากนัก
"เจ็บ" หยวนชิงหลิงเจ็บเป็นอย่างมาก นางอยากจะฉีดยาแก้ปวดให้ตนเองสักเข็ม หากแต่นางมิมีแรงเลยแม้แต่น้อย ขยับตัวมิได้อีก
ยามเมื่อถูกโบยในครั้งนั้น ก็มิได้เจ็บเท่าใดนัก หากแต่ครั้งนี้ นางมิเคยรับรู้ถึงความเจ็บปวดมากถึงขนาดนี้มาก่อนเลย น้ำตาพลันไหลออกมาอย่างอดมิได้
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวเห็นนางที่ร้องให้ทั้งพูดออกมาว่าเจ็บปวดนัก หัวใจของอวี่เหวินฮ่าวราวกับกำลังจะแตกสลายลง
เขามิรู้ว่าจะช่วยเหลือนางได้อย่างไร จึงหันกลับไปมองจักรพรรดิหมิงหยวนตี้เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากนั้นจึงไปตามหมอหลวงมาในทันที เนื่องจากจักรพรรดิหมิงหยวนตี้ยังอยู่ อวี่เหวินฮ่าวจึงไม่กล้าระบายความโกรธออกมา เพียงแค่พูดขึ้นมาว่า "นางเจ็บ เจ้าก็ให้ยาระงับความเจ็บปวดนางเสีย"
หมอหลวงพลันพูดออกมาอย่างหมดหนทาง "ท่านอ๋องพะยะค่ะ. เรื่องนี้ไม่สามารถทำได้พะยะค่ะ ความเจ็บนี้ทำได้เพียงแค่ต้องอดทนไว้เท่านั้น"
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พลันเดินเข้าไปกล่าวว่า "เด็กดี เจิ้นอยู่ที่นี้แล้ว เจ้าจะไม่เป็นอันใดไปแน่นอน"
หยวนชิงหลิงจึงได้รับรู้ว่าจักรพรรดิหมิงหยวนตี้เองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน หยวนชิงหลิงรู้สึกปราบปลื้มเป็นอย่างมาก หากแต่นางมิมีแรงที่จะพูดอันใดออกมา เพียงพูดได้แต่คำสั้นๆเพียงคำเดียวเท่านั้น "พ่อ"
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้พลันชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาพลันมีระลอกคลื่นขึ้นมา
เหตุใดผู้อื่นกล่าวเรียกพ่อของตนเองถึงได้น่าฟังขนาดนี้กัน?
"มิต้องพูดแล้ว ไม่ต้องพูดอันใดแล้ว" อวี่เหวินฮ่าวพลันยกนิ้วขึ้นไปจรดริมฝีปากของนาง ภายในใจรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขาอยากจะเป็นผู้ที่เจ็บปวดแทนนางเสียให้ได้
หยวนชิงหลิงในยามนี้ ไม่สามารถเอ่ยอันใดออกมาได้มากนัก ราวกับว่าความเจ็บปวดนั้นได้ครอบงำจิตใจของนางไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หยวนชิงหลิงในยามนี้ทำได้แค่เพียงเปิดปากเพื่อหายใจ และพยายามระงับความเจ็บปวดให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยังคงเจ็บปวดเสีย. ทั่วร่างพลันกระตุกขึ้มาอย่างสั่นเทา
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้อดทนมองต่อไปไม่ได้ จึงกล่าวกับอวี่เหวินฮ่าวว่า "เจ้าคอยอยู่เป็นเพื่อนนาง. เจิ้นจะไปดูพี่รองของเจ้าที่ห้องข้างๆ เสียหน่อย"
อวี่เหวินฮ่าวมิได้ยินเสียงที่จักรพรรดิกล่าวกับเขาเสียด้วยซ้ำ อวี่เหวินฮ่าวในยามนี้ ล้วนแต่พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่ร่างกายของหยวนชิงหลิง
จักรพรรดิหมิงหยวนตี้เมื่อเห็นเขาเป็นห่วงเป็นใยหยวนชิงหลิงเช่นนี้ จึงรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง หากแต่เขาก็โล่งใจยิ่งนัก
จึงได้หันกายเดินออกไปจาห้องในทันที
อวี่เหวินฮ่าวพลันนั่งคุกเข่าอยุ่ด้านหน้าของเตียง แล้วจึงยื่นมือออกไปโอบกอดที่ศรีษะของหยวนชิงหลิง แล้วจึงค่อยๆสัมผัสใบหน้าของนาง โดยมิสามารถเอ่ยคำปลอบใจอันใดออกมาได้เลย. บางครั้งอวี่เหวินฮ่าวก็ก้มหน้าลงมาจุมพิษที่ปากของนาง ทั้งหน้าผากนางเพื่อให้คลายกังวลลง
หยวนชิงหลิงพลันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความกังวลใจของอวี่เหวินฮ่าว นางจึงพยายามอย่างยิ่ง ที่จะไม่ส่งเสียงออกมา ทว่า นางก็ไม่สามารถอดทนต่อความเจ็บปวดได้มากนัก หยวนชิงหลิงจึงได้แต่อ้าปากเพื่อที่จะหายใจ หลังจากที่หยวนชิงหลิงพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดมานานนั้น สุดท้ายนางก็ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ ร่างกายพลันกระตุกขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด เนื่องจากความเจ็บปวดจากบาดแผล ทำให้ทั่วร่างของหยวนชิงหลิงพร้อมทั้งบริเวณบนหน้าผาก พลันมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาผสมเข้าด้วยกันพร้อมกับหยาดน้ำตาของความเจ็บปวด
"เจ็บจัง" หยวนชิงหลิงพลันกัดฟันพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด บาดแผลช่วงหัวไหลนั้น เป็นที่ที่นางเจ็บปวดที่สุด ลูกธนูปักเข้าไปทะลุกกระดูก ทำให้กระดูกราวกับจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้ง. ความเจ็บปวดนั้นก็เข้าหาหยวนชิงหลิงเป็นระลอกระลอกไม่ขาดสายอีกด้วย
อวี่เหวินฮ่าวพลันเช็ดหยาดน้ำตาของหยวนชิงหลิง เมื่อได้ยินว่านางกล่าวออกมาว่าเจ็บนั้น ในใจของเขาพลันเจ็บปวดยิ่งนัก จึงหันกลับไปถามหมอหลวงด้วยความกรุ่นโกรธว่า "เจ้ารีบคิดหาวิธีเสียสิ !"
"ยาเม็ดจื่อจิน" หมอหลวงไม่มีทางเลือก จึงคุกเข่าลงกล่าวว่า "ท่านอ๋องยังมียาเม็ดจื่อจินอยู่หรือไม่พะยะค่ะ ? หาเป็นยาเม็ดจื่อจินละก็จะสามารถระงับอาการนี้ไปได้"
"เปิ่นหวางมียาเม็ดจื่อจินที่ใดกัน?" อวี่เหวินฮ่าวพลันตะคอกออกมาราวกับราชสีห์ที่กำลังกรุ่นโกรธอยู่ก็มิปาน ยาเม็ดจื่อจินของจี้อ๋อง ยาเม็ดจื่อจินของรุ่ยชินอ๋องนั้น ก็เป็นเขาที่กินเข้าไปแล้ว พี่น้องคนอื่นนั้นอวี่เหวินฮ่าวมิคิดว่าจะมีใครกล้าให้เขามา
"เปิ่นหวางจะไปขอร้องเจ้าหก !" อวี่เหวินฮ่าวพลันนึกถึงหวายอ๋องขึ้นมาในทันใด. เมื่ออวี่เหวินฮ่าวกำลังจะลุกขึ้นยืนนั้น หยวนชิงหลิงจึงใช้แรงที่มีทั้งหมดในการคว้ามือเขาเอาไว้ พร้อมกล่าวออกมาด้วยท่าทีหวาดกลัวว่า "อย่า ไป อย่าทิ้งข้าไป"
ทังหยางรีบร้อนกล่าวขึ้นมาว่า "กระหม่อมจะไปขอเองพะยะค่ะ กระหม่อมจะไปเอง"
ทังหยางจึงรีบออกไปโดยไว ยาเม็ดจื่อจินนี้เป็นยาลูกกลอนที่ไว้ช่วยชีวิต หวายอ๋องคงจะให้ได้กระมัง หากแต่พระสนมหลู่ที่อยู่ในจวนนั้น นางจะอนุญาติหรือไม่ ?
ทังหยางพลันคิดได้ว่า ต้แงไปขอพระราชโองการจากจักรพรรดิหมิงหยวนตี้มาก่อนจะดีกว่า หากแต่. จักรพรรดิหมิงหยวนตี้นั้นเพิ่งจะกลับพระราชวังไป เมื่อครู่พระองค์ยังไปเยี่ยมซุนอ๋องอยู่ครู่หนึ่งก็จากไปแล้ว
หากเขาเข้าวังไปนั้น แค่ไปกลับ เกรงว่าจะกินเวลามากเป็นพอสมควร พระชายานั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขาจะมาเสียเวลาเช่นนี้ไม่ได้แล้ว
ดังนั้น ทังหยางจึงขี่ม้าพุ่งตรงไปยังจวนหวายอ๋องในทันที
MANGA DISCUSSION