เมื่ออวี่เหวินฮ่าวก้าวเข้าไปในหอเซียวเยว่ก็ได้กลิ่นฉุนของแป้งและน้ำหอม เขาขมวดคิ้ว เมื่อกำลังจะเรียกฉีโหลวก็มีหญิงสาวดวงตามีเสน่ห์เย้ายวนสวมชุดสีชมพูสองคนเดินออกมาจากทางซ้ายและขวาฉากกั้น อาภรณ์ของพวกนางไม่มิดชิดนัก คอเสื้อคว้านลึกจนถึงหน้าอกเผยให้เห็นหน้าอกยื่นออกมาครึ่งหนึ่ง บนผิวเนินอกอันละเอียดยังวาดภาพดอกกุหลาบแดงแต้มไว้ พวกนางก้าวเข้ามาข้างหน้า บิดตัวไปมา กลิ่นฉุนของน้ำหอมก็กระจายออกมา ก่อนที่เขาจะตั้งสติได้พวกนางทั้งสองก็มาถึงคอของเขาแล้ว ทั้งซ้ายและขวาเขย่งตัวขึ้นมาหอมแก้มเขา
"ท่านอ๋อง หม่อมฉันมาปรนนิบัติท่านอ๋องเพคะ!" เสียงเย้ายวนดังขึ้นข้างหู
พวกนางพยายามนำหน้าอกเข้ามาเสียดสีกับร่างกายของเขา ทั้งร่างเข้ามาเบียดชิด ทันใดนั้นอวี่เหวินฮ่าวก็รู้สึกได้ถึงลมปราณจากทุกทิศทุกทางไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาพุ่งขึ้นไปที่ศีรษะ เขาตวาดด้วยเสียงดังกัมปนาท "ซวีอี!"
ซวีอียืนยิ้มร่าอยู่ที่หน้าประตูรอรางวัลจากเขา เมื่อได้ยินเสียงคำรามของท่านอ๋องยังคิดว่านั่นเป็นเสียงฟ้าร้องและรีบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
ฉีโหลวที่ยืนอยู่ข้างเขากลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที นางเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ซวีอีจึงได้สติขึ้นและรีบตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว เกิดอะไรขึ้น?ท่านอ๋องไม่ชอบหรือ?แต่แม่เล้าบอกว่าสองคนนี้อยู่ในระดับนางคณิกาชั้นเลิศแล้ว เขาพยายามอย่างมากที่จะสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ท่านอ๋อง
หลังจากพายุรุนแรงในห้องสงบลง ซวีอีก็ได้นำสองสาวนางคณิกาที่มีเสื้อผ้าน้อยชิ้นออกไปด้วยท่าทางสิ้นหวัง
เมื่อก้าวขึ้นไปบนทางเดิน กู้ซือและหยวนชิงหลิงก็เดินเข้ามาพอดี
หยวนชิงหลิงมองไปที่ผู้หญิงสองคนที่ซวีอีนำมา พวกนางไม่เหมือนสตรีจากตระกูลที่ดี พวกนางแต่งหน้าหนาเตอะ เครื่องหอมฉุนจมูก กิริยาหยาบกระด้าง แล้วจึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแต่บอกไม่ถูก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ…
หยวนชิงหลิงถอนสายตาออกจากหน้าอกของพวกนางด้วยความยากลำบาก ขนาดนี่มันออกจากเหลือเชื่อไปหน่อยไหม คิดไม่ถึงเลยว่าซวีอีที่ดูเหมือนกับคนไม่รู้เรื่องรู้ราวกลับล้ำลึกในด้านนี้! แต่จะมีผู้ชายที่ไหนกันที่จะไม่ชอบหน้าอกใหญ่ๆ?
นางกระแอมครั้งหนึ่ง เป็นการเตือนกู้ซือที่จ้องมองตรงไปที่หน้าอกของพวกนาง
กู้ซือรีบถอนสายตาและถามซวีอีด้วยใบหน้าเคร่งขรึม "ซวีอี นี่เป็นจวนอ๋อง เจ้านำคนกลับด้วยได้อย่างไร?"
ซวีอีกำลังจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว "เป็นคำสั่งของใต้เท้าทังขอรับ บอกว่าให้เอามาปรนนิบัติท่านอ๋อง"
เมื่อคืนเขาถามใต้เท้าทังแล้วและเขาก็เห็นด้วย เงินนี่ใต้เท้าทังก็เป็นผู้ให้ข้า ทำไมท่านอ๋องจึงได้ด่าข้าเพียงคนเดียว? ครั้งนี้ข้าต้องถูกไล่ออกแน่ๆ
หยวนชิงหลิงมองไปที่ซวีอี "ทังหยางบอกให้นำมาปรนนิบัติท่านอ๋องหรือ?"
ใต้เท้าทังโผล่หัวออกมาดูเหตุการณ์อยู่ในระยะไกลจากด้านหลังต้นไม้ เขากระทืบเท้าสาปแช่งซวีอีหน้าโง่ ใครใช้ให้เขาพูดเช่นนี้กัน?
ซวีอีพยักหน้า "พ่ะย่ะค่ะ เฮ้อ กระหม่อมต้องพาพวกเขากลับไป ช่วงนี้ท่านอ๋องช่างเอาใจยากเสียจริง"
ว่าแล้วเขาก็นำคนออกไป นางคณิกาทั้งสองเดินผ่านกู้ซือพร้อมโบกผ้าเช็ดหน้าและทิ้งรอยยิ้มเย้ายวนให้เขา
กู้ซือแค่นเสียง "หญิงต่ำช้าสามานย์!"
"ใต้เท้ากู้ ถอนสายตากลับมาได้แล้ว" หยวนชิงหลิงมองกู้ซือที่มองสาวงามอย่างหลงใหลด้วยท่าทางว่างเปล่า
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสาวงามทั้งสองนั้นมีเสน่ห์เย้ายวนเป็นอย่างยิ่ง เมื่อชายคนใดพบเข้าก็คงต้องมีปฏิกิริยาอย่างเช่นกู้ซือ นางหัวเราะและเดินไปข้างหน้าช้าๆ
หยวนชิงหลิง เจ้านี่โง่จริง! ที่เขาอยู่ใกล้นางมีความเป็นไปได้อื่นอีกมากมาย แต่เจ้ากลับคิดเข้าข้างตนเองไปว่าเขาอาจจะชอบเจ้าบ้าง?
เมื่อเห็นเงาด้านหลังอันไร้เรี่ยวแรงของนางก็รู้สึกว่าเขาไม่เข้าไปหาท่านอ๋องจะดีกว่า เกรงเรือนในของจวนฉู่อ๋องกำลังจะลุกเป็นไฟ
แต่กู้ซือคิดผิดแล้ว เรือนในของจวนฉู่อ๋องนั้นสงบมาก
หยวนชิงหลิงกลับมาที่ห้องและให้ลู่หยาเตรียมน้ำร้อนให้นางอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำ นางก็รับประทานอาหารมื้อดึกและกินมากเสียด้วย หลังจากมื้อเย็น นางก็พาตัวเป่าไปเดินเล่นที่สวน ตัวเป่ามีความสุขมาก มันวิ่งไปรอบๆ ตัวนาง บาดแผลบนร่างกายของนางหายประมาณแปดเก้าส่วนในสิบส่วนแล้ว
หยวนชิงหลิงนั่งลงและเอามือกุมศีรษะ "ตัวเป่า หัวใจของข้ารู้สึกเจ็บนิดหน่อย"
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวระบายโทสะในห้องเสร็จแล้ว เขาก็กินอาหารไม่ลง วันนี้เขาดูศพที่กรมการพระนครทั้งวันและฟังข้อมูลเกี่ยวกับการจัดระเบียบคดีสังหารล้างตระกูลมาทั้งวัน แต่กลับไม่พบเบาะแสอะไรเลย ในใจทั้งร้อนรนและหงุดหงิด เมื่อกลับมาก็พบกับปัญหาที่ซวีอีก่อไว้ ความโกรธก็ปะทุออกมาโดยปราศจากการยับยั้งชั่งใจ
"ทังหยางล่ะ?" หลังจากที่เขาระบายอารมณ์เสร็จแล้วก็ถามฉีโหลวอย่างไม่สบอารมณ์
ฉีโหลวตอบเขาอย่างระมัดระวัง "ทูลท่านอ๋อง ใต้เท้าทังออกไปข้างนอกตั้งแต่ยามพลบค่ำเพคะ"
เขาคิดว่าทังหยางคงจะไปรับหยวนชิงหลิงจึงได้กล่าวว่า "เจ้าไปบอกคนเฝ้าประตูว่าให้เขาบอกใต้เท้าทัง หากกลับมาแล้วให้มาที่หอเซียวเยว่"
"เพคะ!" ฉีโหลวรีบออกไปเสมือนนางได้รับการนิรโทษกรรมปล่อยตัวออกมา
หลังจากที่อวี่เหวินฮ่าวอาบน้ำเสร็จ เขาก็นั่งดื่มชาอยู่ในห้อง
มองออกไปด้านนอกตลอดเวลา ทำไมทังหยางยังไม่กลับมาอีก?ทังหยางยังไม่กลับมาก็แปลว่านางยังไม่กลับมาเช่นกัน เมื่อผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป ทังหยางก็รีบเข้ามา "ท่านอ๋อง ท่านกำลังหาข้าอยู่หรือ?"
"เจ้าไปไหนมา?" อวี่เหวินฮ่าววางถ้วยน้ำชาลง เขาเงยหน้าขึ้นมอง แสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้คิดว่าทังหยางจะไปรับหยวนชิงหลิงและถามออกมา
ทังหยางกลับตอบว่า "วันนี้หม่อมฉันไปที่ที่นามา ใกล้จะถึงฤดูเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วงแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
อวี่เหวินฮ่าวรับคำและกล่าวว่า "ไปที่นามาหรือ ไม่เป็นไร เจ้าไปพักเถอะ"
ทังหยางไม่กล้าอยู่นาน เขาใช้ประโยชน์จากตอนที่เจ้าสารเลวซวีอียังไม่กลับมาหลบออกไป
อวี่เหวินฮ่าวเรียกฉีโหลวเข้ามาถาม "พระชายากลับมาแล้วหรือยัง?"
"ทูลท่านอ๋อง พระชายากลับมาแล้วเพคะ ตอนนี้อยู่ที่หอเฟิ่งอี๋เพคะ"
"กลับมาแล้วหรือ? กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ฉีโหลวตอบอย่างระมัดระวัง "คิดว่าคงเพิ่งกลับมาได้ไม่นานเพคะ"
อวี่เหวินฮ่าวไล่นางออกไป "เอาเถอะ เจ้าไปเถอะ"
ฉีโหลวผ่อนลมหายใจออกอย่างโล่งอกแล้วหันออกไป ช่วงนี้ท่านอ๋องอารมณ์แปรปรวนยิ่งนัก! อวี่เหวินฮ่าวนั่งลงดื่มชา แต่กลับไม่สามารถสงบใจลงได้ เขาควรไปที่หอเฟิ่งอี๋สักหน่อยหรือไม่?ไปหรือไม่ไป?ไปหรือไม่ไป?ไปหรือไม่ไป?
เขาลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก ฉีโหลวที่อยู่ด้านนอกประตูจึงรีบถามทันที "ท่านอ๋องจะไปไหนหรือเพคะ?"
"ข้ากินไปมาก จะไปเดินเล่นย่อยอาหารเสียหน่อย" อวี่เหวินฮ่าวเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ฉีโหลวชะงักไป เพื่อย่อยอาหารงั้นหรือ?ท่านอ๋องไม่แม้แต่จะกินอาหารเลย
อวี่เหวินฮ่าวเดินไปรอบๆ ลานบ้าน ในที่สุดก็ไปที่หอเฟิ่งอี๋
หยวนชิงหลิงกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ใต้แสงตะเกียง ลู่หยาเข้ามารายงานว่า "พระชายา ท่านอ๋องมาเพคะ"
หยวนชิงหลิงวางหนังสือลง ยืนขึ้นและเดินออกไปพร้อมกับลู่หยา
อวี่เหวินฮ่าวเพิ่งเข้ามาในลานและเผชิญหน้าอยู่กับตัวเป่า
เมื่อเห็นหยวนชิงหลิงออกมาเขาก็รีบพูดว่า "เจ้ารีบพามันไป"
หยวนชิงหลิงจึงหันไปพูดกับตัวเป่า "ไปเล่นเถอะ อย่าทำตัวหยาบคายกับท่านอ๋อง"
ตัวเป่ากระดิกหางและเดินจากไป
อวี่เหวินฮ่าวสาวเท้าก้าวยาวๆ เข้ามา แต่หยวนชิงหลิงกลับก้าวเข้ามายอบกายทำความเคารพ "ถวายพระพรเพคะ ท่านอ๋อง!"
อวี่เหวินฮ่าวมองดูนางอย่างขบขัน "วันนี้เป็นอะไร?ย่อกายเคารพเชียวหรือ? แต่ก่อนไม่เห็นเจ้าจะมารยาทดีเช่นนี้"
หยวนชิงหลิงตอบอย่างเรียบเฉย "แต่ก่อนข้าผิดไปแล้ว ท่านอ๋องโปรดอภัยให้ข้าด้วย"
อวี่เหวินฮ่าวเก็บสีหน้ามองดูนาง เขายื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของนาง "เป็นอะไรไป?"
หยวนชิงหลิงก้าวถอยหลังเพื่อหลีกมือนั้นและยังคงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ไม่มีอะไร"
มือของอวี่เหวินฮ่าวจับได้เพียงอากาศ เขาตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วจึงชักมือกลับมาและมองดูนางอย่างสำรวจ "ข้าทำให้เจ้าขุ่นเคืองหรือ?"
หยวนชิงหลิงส่ายหัวและไม่มองเขา "มิกล้าเพคะ เพียงแค่คิดว่าคงจะดีกว่าถ้าข้ากับท่านอ๋องรักษามารยาทต่อกันไว้เสียจะดีกว่า"
อวี่เหวินฮ่าวมองนางอย่างผิดหวัง นางรู้หรือไม่ว่าเขาต้องรวบรวมความกล้ามามากเพียงใดเพื่อมาที่นี่? เขาถึงกับต้องเดินไปรอบจวน นางถึงขนาดต้องทำกับเขาเช่นนี้เลยหรือ?
น้ำเสียงของเขาเย็นชา "เอาตามที่เจ้าชอบเถอะ!"
แล้วเขาก็หันหลังเดินจากไป
เสียงนอบน้อมของหยวนชิงหลิงดังขึ้นที่ด้านหลังเขา "น้อมส่งท่านอ๋อง!"
ริมฝีปากของอวี่เหวินฮ่าวสั่นเท่าด้วยความโกรธและเดินก้าวยาวๆ นี่มันอะไรกัน?ข้าต้องเสียดายเจ้าหรืออย่างไร?
หยวนชิงหลิงยืนอยู่บนขั้นบันไดหินมองเงาด้านหลังของเขา ที่นางไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัวนางเพราะนางงรู้สึกว่าเขาสกปรก
เห็นว่านางเป็นอะไรกัน? เมื่อครู่เพิ่งจะรื่นรมย์กับหญิงทั้งสองคนนั้น จากนั้นก็มาเยาะเย้ยนางงั้นหรือ นางไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของเขาเสียหน่อย
นางกลับเข้าห้องอย่างเชื่องช้า ฉีมามาเอ่ยขึ้นเบาๆ "พระชายา เหตุใดจึงทำกับท่านอ๋องเช่นนี้เพคะ?"
หยวนชิงหลิงมองฉีมามา "เมื่อกี้ข้ามีมารยาทไม่พอหรือ?"
ฉีมามาพูดไม่ออก
พอแล้ว นี่มันมากเกินไปแล้ว!
MANGA DISCUSSION