พระสนมหลู่มิใช่คนโง่ นางก็แค่กระวนกระวายใจเพียงชั่วครู่ ประกอบกับความไม่ไว้วางใจในตัวหยวนชิงหลิง จึงให้นางสงสัยไปสักทุกอย่าง แต่ทว่าคำคำนี้ของหยวนชิงหลิงทำให้นางได้สติคืนมา หากว่าทำร้ายหวายเอ๋อร์ ไม่ส่งผลดีกับนางเลย แต่ทางกลับกัน หากช่วยหวายเอ๋อร์เอาไว้ได้ ฝ่าบาทก็คงให้ความสำคัญกับนางและอวี่เหวินฮ่าวมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะคิดเช่นไร นางก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปองร้ายหวายเอ๋อร์
ทางกลับกันพระชายาจี้อ๋องเอาเรื่องหน้ากากมากล่าวหลายต่อหลายครั้ง หากว่ามาคิดยอ่างถี่ถ้สนแบ้ว ก็ดูเหมือนพยายามยั่วยุให้เกิดเรื่อง อีกทั้งหยวนชิงหลิงพูดเช่นนี้แล้ว นางก็ยังจะรอดูอยู่ตรงนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เหตุใดเหล่าท่านอ๋องจึงมาที่จวนหวายอ๋องบ่อยครั้ง นางทราบเหตุผลนี้ดี หวายเอ๋อร์ป่วยมาสามปีแล้ว คนที่มาบ่อยจริงๆ มีเพียงอวี่เหวินฮ่าวเท่านั้น แต่ช่วงที่ผ่านมานี้จู่ๆ ก็มีคนมากมายเดินทางมา อีกทั้งจี้อ๋องก็ย้ายเข้ามาอาศัยด้วย ที่แท้ก็เพราะอยากได้ชื่อเสียงว่าเป็นพี่ชายที่แทนดีกระมั้ง พระสนมหลู่คิดเช่นนี้จึงกระจ่างมากขึ้น นางยืนอยู่หน้าพระชายาจี้อ๋องเพื่อที่จะบังนางเอาไว้
หยวนชิงหลิงไม่ทราบว่าพระสนมหลู่คิดเช่นนี้อยู่ นางหยิบสเต็ตโทสโคปมาฟังปอด หัวใจ นางมีเครื่องตรวจอาการ และนี่ก็คือข้อเสียเปรียบที่ใหญ่ที่สุด นางไม่มีประสบการณ์ในการรักษาวัณโรค หยวนชิงหลิงเก็บสเต็ตโทสโคปกลับไป แล้วกดตรงจุดปอดและท้อง แล้วถามหวายอ๋องว่าปวดหรือไม่ หวายอ๋องกล่าวว่า ก่อนหน้านี้กระเพาะเคยปวดอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ช่วงนี้ไม่เป็นกระไรมากแล้ว
หวายอ๋องกล่าวว่า "ปวดกระเพาะมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคของข้าหรือ?"
หยวนชิงหลิงกล่าวว่า "ข้าต้องการตัดข้อสงสัยของการติดเชื้อวัณโรคที่กระเพาะอาหารหรือที่อื่น ๆ ครึ่งแรกของเดือนเป็นจุดสำคัญในการรักษา ท่านอ๋องจำเป็นต้องเชื่อฟังข้าและทำตาม สิ่งที่ข้าต้องการคือให้ความร่วมมือในการรักษา ห้ามหยุดยาเอง ห้ามเด็ดขาด หากว่าท่านอ๋องหยุดใช้ยา ข้าเองก็ไม่สามารถช่วยท่านได้แล้ว"
"แล้วตอนนี้…" ดวงตาของหวายอ๋องเริ่มหนักหน่วง "เจ้ามีวิธีช่วยข้าหรือ?"
"เทคนิคการรักษาไม่มีคำว่าได้ผลอย่างแน่นอน และโรคนี้อยู่กับเจ้ามาค่อนข้างนาน ข้าจะพยายามแล้วกัน" หยวนชิงหลิงกล่าว
"หมอหลวงกล่าวว่า ข้ามีชีวิตต่อได้อีกไม่ถึง10วัน ตอนนี้ข้ามาลองนับวันดูแล้ว เหลือเวลาอีกแค่สามวัน" หวายอ๋องกล่าวอย่างสงบ
หยวนชิงหลิงส่ายหัวและปฏิเสธคำพูดของหมอหลวง "การทำงานของหัวใจและปอดของเจ้ามิได้เสียหายไปทั้งหมด อาการไอเป็นเลือดจะควบคุมได้ภายในหนึ่งสัปดาห์…ประมาณเจ็ดวัน แม้แต่อาการไอตอนกลางคืนก็อาจจะดีขึ้นใสคืนนี้ นี่เป็นการรักษาระยะยาว ขอแค่ท่านอ๋องไม่ยอมแพ้ ข้าก็จะไม่ยอมแพ้เช่นกัน"
เมื่ออวี่เหวินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่หยวนชิงหลิง ช่วงนี้ผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์นะเนี่ย
หวายอ๋องกล่าวเบาๆ ว่า "ขอบคุณพี่สะใภ้ห้า"
"ตอนนี้พักผ่อนเถิด" หยวนชิงหลิงหันหลังไปมองพระสนมหลู่ "พระสนมหลู่ออกไปก่อนเถิด ให้ท่านอ๋องได้พักผ่อน"
พระสนมลู่พยักหน้า เหลือบมองลูกชายของตน จากนั้นก็เดินออกไปอย่างมีเยื่อใย
นางค่อย ๆ มีความหวังในใจ แต่ความหวังนี้ไม่ได้มาจากหมอหลวง แต่มาจากหยวนชิงหลิง ซึ่งทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ
หยวนชิงหลิงก็ออกไปเช่นกัน อวี่เหวินฮ่าวอยากจะอยู่พูดคุยกับน้องชายในห้อง แต่หยวนชิงหลิงดึงเขาออกไป "ญาติมิตรต้องออกไป อย่างได้รบกวนคนไข้พักผ่อน"
"ดึงกันไปดึงกันมามันดูไม่ดี" อวี่เหวินฮ่าวเดินตามนางออกไปอย่างไม่เต็มใจ นางหมิ่นตนอย่างมาก พอได้คทาหลวงมาก็เริ่มวางมาดเลยนะ
ผู้คนมากมายยืนอยู่ข้างนอก แม้แต่ฉีอ๋องและฉู่หมิงฉุ่ยที่มิได้ปรากฏตัวเมื่อสักครู่ก็มาแล้วเช่นกัน
เมื่อฉีอ๋องเห็นอวี่เหวินฮ่าวก็เข้าไปดึงเขาไปที่อื่น
อวี่เหวินฮ่าวหมดคำจะพูด ทำไมคนสมัยนี้ชอบดึงแขนเสื้อจัง?
สองสามีภรรยาฉีอ๋องมาถึงที่นี่สักพักแล้ว เมื่อได้ข่าวว่าหยวนชิงหลิงรักษาคนไข้อยู่ข้างใน ฉะนั้นทุกคนก็รอพวกนางออกมา แต่มิได้หมายความว่าเขาลืมเรื่องที่ฉู่หมิงฉุ่ยตกน้ำไป
เขาดึงอวี่เหวินฮ่าวออกไปและถามว่า " พี่ห้า เรื่องมันผ่านไปหลายวันแล้ว เรื่องตกน้ำต้องคืนความเป็นธรรมให้ฉุ่ยเอ๋อร์ใช่หรือไม่?"
อวี่เหวินฮ่าวมองเขาแล้วอยากตบแรงๆ เสียจริง
"น้องเจ็ด เจ้าต้องการความเป็นธรรมแบบไหน?"
ฉีอ๋องเบิกตากว้าง "แน่นอนว่าให้นางขอโทษฉุ่ยเอ๋อร์ มิเช่นนั้นข้าจะไปฟ้องเสด็จพ่อ"
อวี่เหวินฮ่าวหัวเราะ "เสด็จพ่อทราบเรื่องนี้มานานแล้ว"
"ทราบแล้วอย่างนั้นหรือ?" ฉีอ๋องครุ่นคิด วันนั้นมีคนมากมาย แน่นอนว่าเรื่องต้องถึงหูเสด็จพ่อแน่ๆ "แล้วเสด็จพ่อว่าอย่างไรบ้างหรือ?"
"เสด็จพ่อให้นางมารักษาพี่หกของเจ้า หากว่ารักษาหายแล้วจะพ้นความผิด"
ฉีอ๋องพึมพำ "เสด็จพ่อมิได้สั่งให้นางมากขอโทษฉุ่ยเอ๋อร์หรือ? พี่ห้าบอกกับนางให้หน่อยเถิด ให้นางไปขอโทษ"
อวี่เหวินฮ่าวผายมือ "ข้าไม่กล้า"
ฉีอ๋องตกใจ ไม่กล้าอย่างนั้น? เขาฟังผิดไปรึเปล่า? พี่ห้ากลัวหยวนชิงหลิงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
อวี่เหวินฮ่าวอธิบายว่า "เสด็จปู่ของข้ามอบคทาหลวงให้นาง ในพระราชฎีกาเขียนคำสั่งไว้ว่า หากว่ามีใครทำให้นางไม่พอใจ นางสามารถใช้คทานี้ลงโทษได้"
ดวงตาของฉีอ๋องแทบจะหลุดออกจากเบ้า "เช่นนี้จริงหรือ?" เหตุใดเสด็จปู่จึงต้องทำเรื่องอับอายเช่นนี้ด้วย?
"ใช่หรือไม่เจ้าก็ไปลองเอาเองเถิด อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ข้าโดนมาแล้ว" อวี่เหวินฮ่าวถอนหายใจเมื่อนึกถึงเมื่อคืนนี้
ฉีอ๋องเห็นว่าสีหน้าของเขาเหลืองซีด ราวกับว่าได้รับความอับอายอย่างยิ่ง ดูท่าทีเหมือนกำลังอนทน เห้อ พี่ห้าก็ช่างน่าสงสัยเสียจริง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ฉีอ๋องก็หันกลับมาปลอบเขาแทน " พี่ห้า เช่นนั้นก็ช่างมันเถิด พี่อย่าถือสากับนางเลย ผู้หญิงมักไม่มีเหตุผล และไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะมีเหตุผลอย่างฉุ่ยเอ๋อร์"
อวี่เหวินฮ่าวกล่าวว่า "ใช่แล้ว ฉุ่ยเอ๋อร์เป็นคนมีเหตุผล เจ้าบอกกับนางว่า เรื่องนี้ก็ปล่อยไปเช่นนี้เถิด หากว่าไปทำให้นางขุ่นเคืองขึ้นมาล่ะก็ ไม่แน่อาจจะโดนตี นี่นางเพิ่งจะตกน้ำไปแล้วอยากจะโดนกระทืบอีกทีหรือ? ไม่คุ้มหรอก ไม่คุ้มที่จะมีความขันแย้งกับผู้หญิงแบบนี้" เขากล่าว แต่หางตาก็คอยๆ มองไปทางอื่น
ฉีอ๋องประหลาดใจ "พี่ห้า ข้ารู้สึกว่าพี่มีความสุขกับมันอย่างมากเลยนะ?"
อวี่เหวินฮ่าวยับยั้งอารมณ์ไว้แล้วมองจ้องเขา "เจ้าจะให้ข้าร้องไห้หรือ? มีคนอยู่ที่นี่เยอะแยะ จะให้คนอื่นรู้ได้อย่างไรว่าข้าโดนภรรยาซ้อมมา"
มีเหตุผล!
"ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็จบเช่นนี้แล้วกันนะ?"
"เห็นแก่คทาหลวงที่นางถืออยู่ อดทนไว้!" หลังจากอวี่เหวินฮ่าวกล่าวจบ เขาก็กลับไปหาหยวนชิงหลิงแล้ว
ช่วงนี้จะปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ละสายตาไปมิได้ เอะอะก็ทะเลาะกับเขาไปทั่ว ชักจะเริ่มเหิมเกริมแล้ว
หยวนชิงหลิงอยู่ที่ไหน? อวี่เหวินฮ่าวมองดูแต่ก็ไม่พบนาง เขาเดินออกไปแค่ครู่เดียว นางก็หายตัวไปแล้ว?
หยวนชิงหลิงถูกองค์หญิงฉางผิงอวี่เหวินหลิงและองค์หญิงเหวินจิ้งนำตัวไปแล้ว
สองพี่น้องนี้เป็นห่วงอาการของพี่ชายจริงๆ ฉะนั้นเมื่อฉีอ๋องนำตัวอวี่เหวินฮ่าวไปแล้ว สองคนนั้นก็รีบพาหยวนชิงหลิงไปที่ด้านนอกลานบ้าน และถามถึงอาการของหวายอ๋อง
หยวนชิงหลิงกล่าวคร่าวๆ องค์หญิงเหวินจิ้งถอนหายใจ "หวังว่าเขาจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ ข้ามิได้นอนพักมาหลายวันแล้ว"
หยวนชิงหลิงเห็นขอบตาของนางดำ ผิวหน้าแห้งไม่นุ่มนวล ดูเหมือนคนพักผ่อนไม่เพียงพอ นางจึงปลอบใจ ขณะที่คุยกับองค์หญิง หางตาของนางเห็นฉู่หมิงฉุ่ยเดินเข้ามา
อวี่เหวินหลิงพูดด้วยความเกลียดชังว่า " นางมาอีกแล้ว? ครั้งที่แล้วน่าจะจมน้ำไปเสีย? วันๆ เอาแต่ทำตัวน่ารำคาญ"
หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าอวี่เหวินหลิงเป็นคนตรงๆ พูดจาไพเราะมีมารยาท นางชอบมาก
แต่องค์หญิงเหวินจิ้งกลับขมวดคิ้วขึ้นมา "หลิงเอ๋อร์ อย่างพูดจาเหลวไหล พระชายาฉีอ๋องก็เป็นคนที่อยู่"
นางมองไปที่หยวนชิงหลิง "เรื่องครั้งที่แล้ว เจ้าก็ขอโทษนางเสีย ข้าเป็นพยาน จากนั้นก็ปล่อยเรื่องนี้ไป ดีหรือไม่?"
หยวนชิงหลิงอมยิ้ม "ให้ข้าขอโทษหรือ? นางรับไหวหรือ? ไม่กลัวฟ้าผ่าหรือ? นางตกน้ำได้อย่างไรนางรู้ตัวเองดี"
นางตั้งใจรอให้ฉู่หมิงฉุ่ยเดินเข้ามาใกล้แล้วจึงพูดเช่นนี้
นางมิได้สนใจเรื่องความบริสุทธิ์หรือชื่อเสียงใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรื่องนี้นางมิได้ทำ นางไม่อยากรับความผิดนี้ไว้
และไม่อยากเห็นนางแสร้งทำตัวน่าสงสาร ทำตัวเหมือนผู้ถูกกระทำ
MANGA DISCUSSION