เสียงกรีดร้องนี้ ดังและน่าสังเวช ปกปิดเสียงวุ่นวายบนท้องถนนลงไปหมด
แม้เจ้าเมืองจ้าวได้นั่งเกี้ยวราชการ แต่ไม่ได้ถือธงอะไรเลย เขาเป็นคนที่ทำตัวค้อมต่ำอยู่ตลอด และยังออกมาเพื่อทำธุระ จึงไม่อยากเสียเวลาในการเดินทาง
ยังไงเมืองซินเยว่ก็เป็นนครหลวง ได้เห็นเกี้ยวราชการได้ทุกที่ แต่คนที่ขวางทางร้องขอความช่วยเหลือนั้นยากที่จะเห็น
เจ้าเมืองจ้าวใจเริ่มสั่นเล็กน้อย นางรู้ได้ยังไงว่าตัวเองช่วยนางได้?
เกี้ยวจอดลง คนใช้เปิดม่านออก เจ้าเมืองจ้าวเห็นผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่ข้างนอก แม้ว่าเสื้อผ้าบนร่างกายสกปรกอยู่ แต่ก็มองออกว่าพอมีราคาอยู่
นางก้มหน้า ผมยุ่งเหยิงมาก คุกเข่าอยู่บนพื้นเริ่มสั่นเล็กน้อย
“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงขวางทางเกี้ยวของข้า”เจ้าเมืองจ้าวถาม
ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ได้ตอบ ก็มีคนรับใช้หลายคนวิ่งเข้ามาจากฝูงคน พับแขนเสื้อขึ้นมาเตรียมจะจับผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงตกใจ เงยหน้าขึ้นร้องขอความช่วยเหลือ”ท่านโปรดช่วยด้วยเจ้าคะ ข้าไม่ยอมกลับไปกับพวกเขา พวกเขาจะฆ่าข้าเจ้าค่ะ!”
เจ้าเมืองจ้าวเดินออกมาจากเกี้ยว ขมวดคิ้วและพูดอย่างโกรธ”หยุดมือเดี๋ยวนี้นะ!ข้าอยู่ที่นี่ใครกล้ามาบังอาจ!”
คนใช้หลายคนนั้นถือสังเกตเห็นเจ้าเมืองจ้าว ตกใจก่อน แล้วมองไปดูชุดราชการที่เขาใส่ แล้วก็ปรากฏความดูถูกออกมา
คนที่นำหน้าทำความเคารพอย่างไม่เต็มใจ”กราบทูลท่านขอรับ พวกบ่าวเป็นทาสในเรือนของเจ้ากรม ไอ้หญิงนี่เป็นทาสที่หนีออกมา พวกบ่าวกำลังจะพกนางกลับไปสั่นสอนให้ดีขอรับ!”
“นี่เป็นเรื่องภายในของจวนเจ้ากรม ท่านไม่จำเป็นต้องยุ่งหรอกขอรับ?”คนใช้อีกคนหนึ่งก็พูดตาม เขาได้เน้นถึงคำว่า”จวนเจ้ากรม”
เจ้าเมืองจ้าวหัวเราะเย็นชาออกมาเสียงหนึ่ง”จวนเจ้ากรม?ยังไงหรือ จะใช้จวนเจ้ากรมในการขู่ข้าหรือ?พูดมาสิ เป็นเจ้ากรมคนไหน ถึงมีอำนาจบารมีเช่นนี้?”
คนใช้คนนั้นมีความภูมิใจยิ่งนัก ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น”พวกเรามาจากจวนของโจว……”
คำพูดยังไม่ทันพูดเสร็จแล้ว คนที่นำหน้าก็ดึงเขาสักครั้งหนึ่ง คำพูดข้างหลังของเขาก็เลยกลืนเข้าไปหมด
เจ้ากรมโจวเป็นประพฤติตนเป็นข้าราชการที่ซื่อตรงและมีคุณธรรมอยู่ตลอด เน้นชื่อเสียงมาโดยตลอด หากเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ที่ปล่อยให้ทาสที่บ้านมาฆ่าคนตามท้องถนน ชื่อเสียงของเขาก็ต้องถูกทำลายสิ?
ผู้หญิงคนนั้นรีบฉวยโอกาสนี้พูดว่า”กราบทูลท่าน เดิมทีข้าเป็นนางระบำที่เรือ ถูกคนเรียกกันว่าแม่นางจิ่น เนื่องจากคุณชายโจวอยากจะแต่งงานกับข้า เพื่อสิ่งนี้พวกเราสองคนยังเคยฆ่าตัวตาย ตั้งแต่วันนั้นที่ถูกคนช่วยได้ คุณชายใหญ่โจวก็พาพวกเรากลับไปในจวน บอกว่าจะให้คำอธิบายกับข้าเจ้าค่ะ”
“ใครจะรู้ล่ะว่าเป็นเพียงแค่พูดอย่างน่าฟังหน่อยเท่านั้น หลังจากข้าเข้าจวนไป พวกเขาก็เปลี่ยนหน้าไปซะแล้ว ขังข้าขึ้นมาและยังปฏิบัติต่อข้าอย่างกับหมูหมา……”ระหว่างที่นางพูดก็ปิดหน้าและร้องไห้ขึ้นมา”ข้าเห็นว่าแต่งงานไม่สำเร็จ ก็อยากจะจากไป ถึงแม้คุณชายโจวกับจวนโจวผิดสัญญาไม่ยอมแต่งงาน ปล่อยข้าไปก็คงได้มั้ง?แต่ใครจะรู้ล่ะว่า……”
คนที่มาชมดูมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของคนใช้หลายคนก็ยิ่งแย่ลง คนที่นำหน้าตวาดว่า”หุบปาก!ถ้าเจ้ามาพูดมั่วซั่วอีก ก็จะถูกเฆี่ยนตายทันที!”
เจ้าเมืองจ้าวเห็นเช่นนี้ก็โกรธมาก”หุบปากซะ!ต่อหน้าต่อตาข้าพากทาสอย่างพวกมึงมีสิทธิ์อะไรมาบังอาจ?ข้าเป็นเจ้าเมืองของนครหลวง เสมือนกับผู้ปกครองของเมืองนี้ มีสิ่งไม่เป็นธรรมก็ควรร้องขอความยุติธรรม เจ้าในฐานะที่เป็นแค่ทาส ยังกล้ามาทำตัวเช่นนี้ ขู่ว่าจะเฆี่ยนคนให้ตายตามท้องถนน นี่เป็นสิ่งที่จวนเจ้ากรมสอนเจ้าหรือ?”
คนใช้ที่นำหน้าถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แต่ยังคงกัดริมฝีปากและพูดอย่างโกรธ”ท่านเจ้าเมืองขอรับ บ่าวว่าท่านคิดให้ดีก่อนค่อยพูดเถอะ เจ้าเมืองจ้าวจับเคราเอาไว้ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา”ขอให้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบริเวณเขตรับผิดชอบของข้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระบรมวงศานุวงศ์หรือเป็นเรื่องของประชาชนทั่วไป ขอให้ฟ้องมาถึงข้า ข้าจะได้ตัดสินให้!แม้ว่าข้าจะไม่มีสิทธิ์ ยังมีฝ่าบาท ยังมีราชสำนัก!”
คนรอบข้างล้วนพยักหน้า คนใช้หลายคนรู้สึกไม่ยอมแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เจ้าเมืองจ้าวหันไปสั่งคนใช้ของตัวเอง”เจ้าพาแม่นางคนนี้กลับไปในที่ว่าการก่อน เดี๋ยวข้ากลับไปแล้วค่อยมาสอบถาม”
“ขอบพระคุณท่านเจ้าเมืองเจ้าค่ะ”แม่นางจิ่นนีบกราบใส่”ขอบพระคุณบุณคุณของท่านเจ้าเมืองเจ้าค่ะ”
เจ้าเมืองจ้าวส่ายหน้า”เจ้าอย่าเพิ่งขอบคุณเลย เรื่องนี้ยังไม่ได้ตัดสิน ตอนนี้ข้ายังมีเรื่องต้องไปทำ เดี๋ยวกลับไปค่อยว่ากัน”
แม่นางจิ่นก้มหน้าไปตามคนของที่ว่าการนครหลวง
เจ้าเมืองจ้าวกวาดมองพวกเขาตาหนึ่ง”ยังไง?พวกเจ้าก็จะตามไปที่ว่าการหรือ?”
คนใช้หลายคนได้ยินคำพูดนี้ก็รีบวิ่งหนีไป
เจ้าเมืองจ้าวก็ขี้เกลียดสนใจพวกเขา ขึ้นเกี้ยวและไปที่ตระกูลหลี่ต่อ
ซูหนานอีกลับเรือนกำลังจะเตรียมของอยู่ และคิดจะแต่งหน้าแต่งตัวออกไปหาลู่ซือหยวน เสี่ยวเถาได้เข้ามายิ้มและทำความเคารพ”คุณหนูเจ้าคะ ท่านอ๋องมาแล้วเจ้าค่ะ”
“จริงหรือ?อยู่ที่ไหน?”ซูหนานอีพูดอย่างมีความสุข
“ภรรยา ข้าอยู่ที่นี่”หยุนจิ่งถือกล่องเดินเข้ามา”ข้านำผลไม้ให้!”
ซูหนานอียิ้มและเดินมาต้อนรับเขา”ร้อนหรือเปล่า?”
“ไม่ร้อน”หยุนจิ่งเปิดกล่องออก หยิบผลไม้แช่เย็นให้นาง”ตอนมาข้ายังได้ดูเรื่องสนุกๆด้วย”
“เรื่องอะไร?”ซูหนานอีถามอย่างแปลกใจ
หยุนจิ่งกระซิบอย่างลึกลับ”ตอนมาข้าเห็นว่ามีคนขวางทางเกี้ยวของเจ้าเมืองจ้าว เจ้าเมืองจ้าวคนนั้นทั้งดุทั้งเก่ง คนนั้นขวางทางเกี้ยวร้องขอความช่วยเหลือ ข้างหลังยังมีคนไล่นางอยู่ จะเฆี่ยนนางจนตาย”
ซูหนานอีรู้สึกสงสัย ปอกเปลือกผลไม้และวางเข้าปาก หรี่ตาถามว่า”คือคนอะไรโหดร้ายเช่นนี้?กล้าฆ่าคนตามถนน?”
“หลายคนนั้นบอกว่า……มาจากจวนเจ้ากรม ผู้หญิงที่ขวางทางบอกว่าเป็นแม่นางจิ่นบนเรือ”
“อะไรนะ?”ซูหนานอีแปลกใจ”เป็นนางได้อย่างไร?”
“ใช่ แถมนางยังแตกต่างกับเมื่อก่อนมาก หากไม่ใช่ว่านางพูดออกมาเอง ข้าก็จำไม่ได้”หยุนจิ่งขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ”สกปรกมาก นางยังบอกว่าจวนเจ้ากรมปฏิบัติต่อนางเหมือนหมูหมาเลย”
ซูหนานอีหายใจเข้าลึกๆ นางเดาได้ตั้งนานแล้วว่าแม่นางจิ่งคนนี้พอเข้าจวนเจ้ากรมไปแล้วก็คงไม่มีชีวิตดีๆอะไรหรอก ไม่ว่ายังไงตระกูลโจวก็ไม่มีโอกาสให้นางเป็นภรรยาเอก อย่างมากก็แค่เป็นอนุภรรยา ไม่ต่างกับบ่าวทาสในเรือนมากนักหรอก
แต่ว่า ซูหนานอีคิดไม่ถึงว่า ตระกูลโจวจะทำถึงขั้นนั้น
ตระกูลโจว รนหาที่ตายจริงเลย
“ภรรยา เจ้าเป็นไรหรือ?”หยุนจิ่งเห็นนางไม่พูดอะไร สีหน้าก็แย่ เลยถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร”ซูหนานอีฟื้นสติกลับมา”จิ่งเอ้อร์ ข้า……”
นางเพิ่งจะถามหยุนจิ่งว่าจะไปเรือนนั้นกับนางด้วยกันหรือเปล่า แต่อยู่ดีๆข้างนอกก็มีเสียงทะเลาะกันดังขึ้นมา
“ข้าบอกแล้ว คุณหนูของข้ากำลังยุ่งอยู่ ไม่มีเวลา เจ้ารีบไปเถอะ”เสี่ยวเถาพูดอย่างไม่ไว้หน้า
“เสี่ยวเถา เจ้านี่เป็นใหญ่ขึ้นมาแล้วสิ แค่เวลาไม่กี่วันเอง ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใครแล้วหรือ?ข้าก็เป็นสาวใช้ระดับหนึ่งเช่นกัน เจ้ามีสิทธิ์อะไรไม่ให้ข้าเข้าไป?”ชุนหลิงไม่ไว้หน้าเสี่ยวเถาแม้แต่นิด ท่าทางก้าวร้าวมาก”และอีกอย่างหนึ่ง ข้ามาถ่ายทอดคำพูดของนายท่าน หากเรื่องล่าช้าไป เจ้ารับผิดชอบได้หรือเปล่า?”
“เจ้าเป็นคนในเรือนของคุณหนูรอง นายท่านจะให้เจ้ามาได้อย่างไร อย่ามาโกหก”เสี่ยวเถาไม่เชื่อเลย
“นั่นเป็นเมื่อก่อน”ชุนหลิงยกมือจับผมของตัวเอง”ตั้งแต่เมื่อเช้านี้เป็นต้นไป ข้าก็เป็นคนของแม่นางหลิ่วแล้ว แม่นางหลิ่วกำลังอยู่กับนายท่าน ดังนั้น ข้าเลยมาถ่ายทอดคำพูดของนายท่าน”
“แม่นางหลิ่ว?”เสี่ยวเถารู้สึกงงไปเลย”แม่นางหลิ่ว……คนไหน?”
ชุนหลิงหัวเราะออกมา สังเกตเสี่ยวเถา”ข้าว่าเจ้าอยู่ในเรือนนี้จนงาไปแล้วหรือเปล่า?เรื่องข้างนอกไม่รู้เรื่องสักอย่างเลยหรือ?แม่นางหลิ่วก็คือแม่นางที่มาใหม่ในเรือนไง นายท่านเซี่ยเป็นคนพามาไง”
เสี่ยวเถาเบิกตากว้าง ถึงจะรู้ว่านางบ่งบอกถึงใคร กำลังคิดจะพูดอะไรอยู่ ซูหนานอีก็เดินออกมาจากข้างใน”ชุนหลิง จะพบข้าทำอะไร?”
ชุนหลิงใช้แขนชนเสี่ยวเถาออกและเดินหน้าขึ้นไป ทำความเคารพใส่ซูหนานอี”คุณหนูเจ้าคะ บ่าวได้รับคำสั่งจากนายท่าน ให้มาเชิญคุณหนูไปปรึกษาเรื่องการออกจากเรือนของคุณนายเซี่ยเจ้าค่ะ”
“เรื่องการออกจากเรือนของคุณนายเซี่ยเจ้าค่ะ?”ซูหนานอีรู้สึกสงสัย
“ใช่เจ้าค่ะ”ชุนหลิงตอบ
MANGA DISCUSSION