ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ - ตอนที่ 63 ใครๆล้วนไม่ดีเท่าภรรยา
ซูหนานอีใจสั่นขึ้นมา มือจับผ้าเอาไว้อย่างแน่น พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็นๆ
“เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่?จิ่งเอ้อร์ลองเล่าให้ข้าฟังเถอะ”
หยุนจิ่งกระพริบตาครุ่นคิดขึ้นมา”ก็คือในฤดูร้อนของปีที่แล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในสวนของข้าเอง เป็นตอนที่ข้าไปเที่ยวภูเขาหลิ่งหนาน ได้พบงูพิษมากมายในตอนนั้น เสด็จแม่ยังกลัวจนสลบเลย”
ซูหนานอีรู้สึกไม่เข้าใจ”ภูเขาหลิ่งหนานห่างกับเราไกลขนาดนั้น แถมยังเป็นที่ร้อนชื้น มีควันพิษอยู่ตลอดปี ทำไมไท่เฟยถึงอยากไปเที่ยวนั่นล่ะ?”
หยุนจิ่งจับจมูกของตัวเอง”ภรรยารู้เยอะจังเลย ข้าก็คือถึงตอนนั้นแล้วถึงรู้ แต่ทำไมเสด็จแม่จะไป……ข้าก็ไม่รู้แล้ว”
ซูหนานอีรู้สึกว่าในนี้ต้องมีเหตุผลอยู่แน่นอน แต่หยุนจิ่งไม่ค่อยเข้าใจ นางก็ไม่ดีที่จะถามต่อ
“แล้วถุงหอมของเจ้า ก็คืออันนี้เจ้าให้ข้ามา ได้สวมใส่มาแต่เมื่อไหร่?นานขนาดไหนแล้ว?”
“ก็คือก่อนที่จะไปภูเขาหลิ่งหนานไง”หยุนจิ่งตอบอย่างไม่ได้คิด”หยุนหลิ่วบอกว่านางได้ใส่ยาที่กำจัดแมลงลงไป เพียงแต่สามารถกำจัดแมลงยังทำให้คนมีชีวิตชีวาด้วย”
“ภรรยา เจ้ายังอยากได้หรือ?”หยุนจิ่งมองไปที่ซูหนานอี”ถ้าเจ้าอยากได้ พรุ่งนี้ข้าให้นางทำอีกหลายอัน”
ซูหนานอีส่ายหน้า หยิบถุงหอมออกมา ยื่นให้หยุนจิ่ง”จิ่งเอ้อร์ อันนี้ให้เจ้า ภายนอกยังคงเป็นถุงหอมอันนั้น แต่ยาข้างในข้าได้เปลี่ยนไปแล้ว เจ้าเอาติดตัวไว้ ห้ามบอกให้คนอื่นทราบ เข้าใจไหม?”
“ได้”หยุนจิ่งรับมาอย่างทะนุถนอม ดมกลิ่นของมันแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข”ภรรยา กลิ่นนี้หอมมากเลย เหมือนกลิ่นบนร่างกายของเจ้าเลย ข้าจะติดตัวไว้อย่างดีแน่นอน”
ระหว่างที่เขาพูดก็ได้ผูกไว้ข้างเอว แถมยังใช้มือไปมือตบเบาๆ”ดีไหม?”
“ดี ข้ามองแล้วรู้สึกว่ามันดีอยู่”
“สิ่งที่ภรรยาให้ต้องดีแน่นอน”
ซูหนานอีได้คุยกับหยุนจิ่งอีกสักพักหนึ่ง เวลาพอประมาณแล้วนางถึงลุกขึ้นมาลากับเขา หยุนจิ่งดึงนางเอาไว้”ภรรยา เมื่อไหร่เจ้าถึงสามารถมาอยู่ที่จวนอ๋อง ข้าจะได้สามารถเจอเจ้าตลอดเวลา”
“รอถึงฤดูใบไม้ร่วงเราแต่งงานกันแล้วก็จะได้”ซูหนานอีพูดอย่างอ่อนโยน ปลอบใจเขาอย่างใจเย็น”จิ่งเอ้อร์อย่าเพิ่งรีบนะ”
“ได้ งั้นข้าส่งภรรยาออกไป”หยุนจิ่งพูดอย่างอาลัยอาวรณ์
“ไม่ต้อง ตอนที่ข้ามาไม่ได้บอกคนอื่น เรายังไม่แต่งงานกัน ห้ามให้คนอื่นรู้ว่าเราสองคนเจอกันในตอนกลางคืน ไม่อย่างงั้นจะมีคนห้ามเราแต่งงานกัน”
หยุนจิ่งขมวดคิ้ว ปรากฏความโกรธออกมา”พวกเขากล้าที่ไหน!”
“กล้าไม่กล้าเป็นเรื่องของคนอื่น ดังนั้นเราต้องทำให้ดี อย่าทำให้คนอื่นจับผิดได้”
ซูหนานอีค่อยๆปลอบใจ”จิ่งเอ้อร์อย่าโกรธนะ ข้าแค่บอกว่ามีความเป็นได้แบบนี้ ขอให้เราไม่ทำผิดคนอื่นก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”
“เออ จิ่งเอ้อร์จำได้แล้ว ภรรยาไม่ต้องห่วง”
ซูหนานอีมองไปที่แท่งไม้แล้วพูดว่า”จิ่งเอ้อร์รีบพักผ่อน อย่าทำกล่องน้ำแข็งนี้อีกเลย ไม่งั้นแม้ว่าข้าใช้อันนี้แล้วก็ไม่มีความสุข”
หยุนจิ่งพยักหน้าอย่างตั้งใจ ซูหนานอีลากับเขา เดินออกไปอย่างเร็ว และจากไปพร้อมกับเสี่ยวชี
หยุนจิ่งเห็นว่านางจากไปแล้วจริงๆ รู้สึกเสียใจมาก แล้วเริ่มเก็บของบนพื้นอย่างชักช้า
พอดีในเวลานี้ ได้ยินคนใช้พูดในลานว่า”แม่นางเชิญกลับก่อนเถอะ เสียงของหยุนหลิ่วอ่อนโยนมาก”ข้าเห็นว่าไฟยังสว่างอยู่ ทำไมถึงบอกว่าพักผ่อนแล้วล่ะ?และอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าพักผ่อนแล้วก็ไม่เป็นไร ข้าแค่เอาน้ำแข็งมาให้ท่านอ๋อง อากาศร้อนขนาดนี้ อย่าเป็นลมนะ”
คนใช้พูดว่า”แม่นางมีใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็เอาน้ำแข็งให้ข้าเถอะ มันก็หนักอยู่”
“ได้ยังไงล่ะ?”หยุนหลิ่วไม่ยอม”ข้าต้องเอาเข้าไปเอง ให้ท่านอ๋องใช้ถึงวางใจได้”
คนใช้ก้มหน้าไว้ ไม่ได้คิดจะหลบทางให้ หยุนหลิ่วปรากฏความแค้นขึ้นมา แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับลึกกว่าเดิม”ยังไง?เจ้ายังกลัวว่าข้าจะทำร้ายท่านอ๋องหรือ?เจ้าอย่าลืมนะ ข้าเป็นผู้มีบุญคุณต่อท่านอ๋อง”
คนใช้ยิ้มอย่างขมขื่น”บ่าวไม่กล้าขอรับ บ่าวไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น แค่ว่า หลังจากหลับแล้วห้ามเข้าไปรบกวนขอรับ”
หยุนหลิ่วใช้ผ้าปิดหน้าเอาไว้ ยิ้มเบาๆ”นี่มีอะไรไม่สะดวกล่ะ?ตอนนั้นที่ข้าช่วยท่านอ๋อง ก็……พอแล้ว ข้าจะเดินเบาๆ ไม่ทำให้ท่านอ๋องตื่นขึ้นมาหรอก”
คนใช้กำลังกังวลอยู่ ข้างนอกก็มีเสียงเดินส่งมา เหยียนโมโม่พาคนเดินเข้าไป
เขารีบขึ้นไปทำความเคารพ พอเหยียนโมโม่ได้เห็นหยุนหลิ่ว ก็พูดอย่างประหลาดใจ”แม่นางหลิ่วก็อยู่นี่เอง นี่คือ……”
หยุนหลิ่วทำความเคารพและพูดว่า”ข้าเอาน้ำแข็งมาให้ท่านอ๋อง”
เหยียนโมโม่ยิ้มและพูดว่า”บังเอิญจริงๆ ความคิดของแม่นางและไท่เฟยตรงกันเลย ไท่เฟยก็เป็นห่วงท่านอ๋อง เลยให้ข้าเอาน้ำแข็งมาให้”
นางมองไปดูคนใช้ผู้ชาย”มึงรู้แต่ขี้เกลียดอยู่อย่างนี้ ทำไมถึงให้แม่นางถือของหนักเช่นนี้?ยังไม่รีบไปรับอีก?อย่านึกว่าท่านอ๋องโปรดปรานเจ้า เจ้าก็กล้ามาขี้เกลียด!”
คนใช้รีบพยักหน้า”ขอรับ บ่าวรู้ผิดแล้วขอรับ”
หยุนหลิ่วไม่สามารถพูดอีกได้ มีแต่ต้องเอาของให้คนใช้ เหยียนโมโม่ยิ้มใส่หยุนหลิ่ว”แม่นาง เราไปด้วยกันเถอะ?เวบาก็ดึกแล้ว ควรกลับไปพักผ่อนแล้ว”
หยุนหลิ่วกัดฟันเอาไว้อย่างเงียบๆ”ได้เจ้าค่ะ”
คนใช้ยกน้ำแข็งเข้ามาในห้อง เห็นว่าหยุนจิ่งกำลังเก็บเศษไม้อยู่ สีหน้าไม่ค่อยดี เข้าใกล้และลองถามว่า”ท่านอ๋อง คำพูดเมื่อกี้นี้ ท่านล้วนได้ยินหรอ?”
“เสียงดังขนาดนั้น ข้าจะไม่ได้ยินได้ยังไง?”หยุนจิ่งถามกลับอย่างไม่พอใจ
น้ารำคาญจริงๆ นอกจากภรรยาแล้วผู้หญิงคนอื่นล้วนน่ารำคาญหมด
“ทีหลังห้ามหยุนหลิ่วเข้ามาในเรือน ข้าไม่อยากได้ยินนางพูด”หยุนจิ่งขมวดคิ้วทำหน้าบึ้งตึง
คนใช้รู้สึกลำบากใจ พึมพำว่า”คำพูดนี้ท่านพูดได้ แต่ข้าไม่กล้าพูดหรอก เมื่อกี้นี้ท่านก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยิน ข้ายังไม่พูดอะไรเลย เขาก็มาพูดเยาะเย้ยข้า”
หยุนจิ่งนอนลงไปบนเตียง ในมือจับถุงหอมที่ซูหนานอีให้เขา เอาไปดมใต้จมูก”ภรรยาดีที่สุดแล้ว ผู้หญิงคนอื่นล้วนเหม็นมาก”
“……”คนใช้
เหยียนโมโม่กับหยุนหลิ่วเดินออกจากเรือน พอถึงบริเวณประตูรูปดวงจันทร์ หยุนหลิ่วทำความเคารพใส่และพูดว่า”โมโม่ ข้ากลับก่อนนะเจ้าค่ะ ท่านระวังหน่อยนะเจ้าคะ”
“ได้ ท้องฟ้ามืดแล้วแม่นางก็ระวังด้วย”
หยุนหลิ่วยิ้ม พอเห็นว่าเหยียนโมโม่เริ่มเดินไปไกลแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็หายไปทันที ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธขรึม ไอ้แก่ เป็นแค่ทาสรับใช้เท่านั้น ยังนึกว่าตัวเองเป็นเจ้านายหรือ?
เหยียนโมโม่กลับมาถึงเรือน สั่งให้คนรอบข้างล้วนถอยลงไปก่อน และพูดกับไท่เฟยว่า”ไท่เฟย บ่าวกลับมาแล้ว”
ไท่เฟยลืมตาขึ้นมา”ฝั่งของจิ่งเอ้อร์เป็นยังไงบ้าง เป็นไรหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไรเพคะ คนใช้รอบข้างของท่านอ๋องใช้ได้อยู่ ไม่ได้ให้แม่นางหลิ่วเข้าไป บ่าวเห็นว่า แม่นางหลิ่วคนนี้มีสิ่งที่อยากได้มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว”
ไท่เฟยยิ้ม แต่รอยยิ้มไม่ค่อยจริงจัง”สิ่งที่นางอยากได้มีมากกว่านี้ตั้งเยอะตั้งแยะ เดิมทีข้าคิดว่า หาคนดีๆให้นาง เตรียมสินเดิมให้นางมากพอสมควร และให้นางแต่งออกไปจากจวนอ๋อง นี่ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของนางแล้ว แต่ดูจากตอนนี้แล้ว นางเหมือนอยากจะอยู่ต่อในจวนอ๋องนี้แล้ว”
เหยียนโมโม่ก้มหน้าทำความเคารพ”เพคะ ไท่เฟยใจดี วางแผนให้นางอย่างดี แต่นาง……จะให้บ่าวไปตักเตือนนางหรือเปล่าเพคะ?”
“ไม่ต้องแล้ว”ไท่เฟยถอนหายใจออกมา”ช่างมันเถอะ อายุดีๆของผู้หญิงก็มีแค่ปลายปีนั้นเอง นางไม่รักษาให้ดีเอง ทำไมข้าต้องรีบร้อนล่ะ ช่างเถอะ”
เหยียนโมโม่หยุดสักพักหนึ่ง น้ำเสียงลดต่ำลง”วันนี้นางได้ไปเรือนนั้นอีกแล้ว*
สีหน้าของไท่เฟยเย็นชาลงทันที”ใช่หรือ?ไอ้หญิงเลวคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?ดูให้ดีๆนะ อยากให้นางตายไป กล้าทำร้ายจิ่งเอ้อร์ของข้า จะให้นางตายไปง่ายๆได้ยังไง”
“เพคะ ไท่เฟยพูดถูกเพคะ*
ไท่เฟยหลับตาลง”ฝั่งของหยุนหลิ่วไม่ต้องไปสนใจ ขอให้นางไม่ทำเรื่องที่มันเกินไป เห็นแก่หน้าที่นางเคยช่วยจิ่งเอ้อร์ของข้า ก็ปล่อยนางเถอะ”
“เพคะ”
ค่ำคืนอันมืดมิด จวนอ๋องที่กว้างใหญ่ก็ค่อยๆกลับคืนสู่ความสงบ แต่อันที่จริงแล้วยังมีอันตรายซ่อนอยู่