ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ - ตอนที่ 50 นางตายเพราะเจ้า
แผลบนใบหน้าของซูหว่านเอ้อร์เกือบหายหมดแล้ว บริเวณที่เกาจนเป็นแผลก็ตกสะเก็ดบางๆแล้ว นางยืนอยู่บนราวบันได เต็มไปด้วยความโกรธ แสงเทียนใต้ชายคาสะท้อนให้เห็นใบหน้าของนางซึ่งราวกับผีร้าย คนใช้ในเรือนไม่มีใครกล้าเอ่ยเสียงใดๆ ก้มหน้ามองเท้าของตัวเองอย่างเดียว
"พวกมึงนี่ก่าจะมาดูตลกของข้าใช่ไหม!พวกมึงเป็นนถสองหัวทั้งนั้น เรื่องสกปรกในเรือนข้าเห็นมาเยอะแล้ว ข้าแค่ไม่ระวังถูกกับดักของไอ้หญิงเลวคนนั้นเท่านั้น นึกว่าบ่าวทาสอย่างพวกมึงจะมาเหยียบย่ำข้าได้หรือ?"
ซูหว่านเอ้อร์ตะโกนอย่างแรง ทุกคำพูดล้วนโหดร้ายมาก
หยางโมโม่ยิ้มและโน้มน้าวใจว่า"คุณหนูเจ้าคะ แม้ว่ายังไงพวกนางก็ไม่กล้ามาเหยียบย่ำท่านหรอกเจ้าค่ะ!ท่านหายโกรธหน่อย คุณหญิงเป็นห่วงท่าน รู้ว่าท่านได้รับความไม่เป็นธรรม เลยให้บ่าวมาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ"
"ข้าได้รับความไม่เป็นธรรมจริงๆ ข้ารู้สึกน้อยใจ!บ่าวคนหนึ่งยังกล้าปาของต่อหน้าข้าเลย ให้นางไปกวาดพื้นยังกล้าใช้เศษแก้วมาขีดข้าอีก!"
ซูหว่านเอ้อร์ชี้ไปที่สาวใช้ที่เพิ่งถูกตีก้มไปห้าสิบทีบนเก้าอี้ยาวใต้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งหมดลมหายใจแล้ว
"นางสมควรโดนตี คุณหนูอย่าโกรธนะเจ้าคะ"หยางโมโม่ปลอบใจด้วยเสียงเบา"ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ท่านระบายความโกรธออกมาเสร็จก็กลับห้องไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่ปล่อยให้บ่าวมาจัดการเจ้าค่ะ"
"ข้ายังไม่ได้หายโกรธเลย"ซูหว่านเอ้อร์กระแทกพื้น"ข้าจะออกไป อยู่ที่นี่ทั้งวัน น่าเบื่อมาก!ตกลงแม่ข้าเป็นอะไร?ไปกลัวไอ้ซูหนานอีหรือ?ถูกนางรังแกถึงขั้นนี้ ไม่กล้าทำอะไรเลยหรือ!"
หยางโมโม่รู้สึกลำบากใจ นิสัยของคุณหนูรองนี่ก็ช่างหยิ่งจริงๆ พูดอะไรไม่คิดก่อนเลย
"คุณหนูเจ้าคะ ท่านอย่าโกรธเลยนะ หมอหูบอกแล้วว่า ร่างกายของท่านยังมีพิษเหลืออยู่ ต้องค่อยๆกำจัดไป ถ้าท่านโกรธขึ้นมาอีกพิษก็จะโผล่ขึ้นมาอีกแล้วนะเจ้าค่ะ"
"เฮ่อ"ซูหว่านเอ้อร์ยกมือจับใบหน้าของตัวเอง เรื่องเกี่ยวกับใบหน้า นางก็เลยต้องตระหนักถึงความสำคัญ"ซูหนานอี ไอ้หญิงเลว ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพราะนาง ถ้าให้ข้าเห็นนางอีกนะ……"
"เห็นข้าอีกแล้วจะทำอะไรล่ะ?"มีเสียงที่เย็นชาดังขึ้นมาจากหน้าประตู
ทุกคนหันไปมอง เห็นแต่สามคนค่อยๆเดินมา เสี่ยวเถาที่เดินอยู่ข้างหน้าในมือได้ถือโคมไฟอยู่ ซูหนานอีเดินเบาๆ นางได้ใส่ชุดกระโปรงที่เรียบง่าย ปล่อยผมอยู่หลังเอว บนศีรษะไม่ได้มีเครื่องประดับอันใดเลย แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด นางเหมือนมีแสงสว่างอยู่ในตัว ดึงดูดความสนใจของทุกคน
ซูหนานอีไม่มีสีหน้าใดๆปรากฏ กลิ่นเลือดในเรือนทำให้สายตาของนางลึกขึ้น พอเห็นสาวใช้ที่อยู่ใต้ต้นไม้ นางก็รีบเดินเข้าไป เอื้อมมือไปใต้จมูกของนาง คนไม่มีลมหายใจตั้งนานแล้ว
ซูหนานอีขมวดคิ้ว มองไปทางซูหว่านเอ้อร์ สายตาราวกับมีดที่แหลมคม"นางทำอะไรผิด?"
ความอิจฉาในสายตาของซูหว่านเอ้อร์ยากที่จะซ่อน ซูหนานอีที่เชื่องช้าในเมื่อก่อนทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?ทำให้คนรู้สึกไม่ยอมจริงๆ!เมื่อได้ยินเสียงสอบถามของซูหนานอี ซูหว่านเอ้อร์ก็เถียงขึ้นมา"เฮ่อ นางเป็นสาวใช้ในเรือนของข้า เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"
"นางเป็นคนของจวนซู"ซูหนานอีมองดูรอบข้าง"พวกนางล้วนเป็นคนของจวนซู ทำงานอยู่ในจวนซู ตั้งแต่เช้าถึงเย็น นี่ก็คือบ้านของพวกนาง พวกนางเป็นทาส ไม่ได้มีฐานะที่สูงศักดิ์อย่างเจ้า แต่พวกนางก็มีชีวิตก็เป็นคน!ไม่ใช่ของเล่นของเจ้า อยากจะทำอะไรก็ทำ!"
จู่ๆทุกคนก็รู้สึกซาบซึ้งใจ ดวงตาเริ่มเปียก
ซูหว่านเอ้อร์คดเคี้ยวฟัน บนใบหน้าโมโหยิ่งกว่าเดิม"ซูหนานอี ถ้าเจ้าอยากจะอวด ก็ไปที่เรือนของเจ้า ที่นี่เป็นเรือนของข้า อย่ามาที่นี่!ข้ารู้สึกว่าพวกนางต่ำต้อย ทำผิดก็สมควรตาย!ใครให้พวกนางโชคร้ายเกิดเป็นคนชั้นต่ำล่ะ!ช้าลงโทษทาส เจ้ายังไม่มีสิทธิ์มายุ่ง"
"เชอะ"ซูหนานอีไม่โกรธกลับหัวเราะออกมา"อยากจะมาเทียบฐานะใช่ไหม?ซูหว่านเอ้อร์ แล้วฐานะของเจ้ามันสูงศักดิ์ถึงไหนล่ะ?ในสายตาของข้า เจ้าก็เป็นแค่ลูกของเมียน้อยเท่านั้น กล้ามาตะโกนต่อหน้าข้าอีก ข้าจะสามารถลงโทษเจ้าได้ตามใจชอบใช่หรือเปล่า?"
"เจ้า……"ซูหว่านเอ้อร์ถูกแทงต่อมโมโห"เจ้ากล้าว่าข้าแบบนี้ได้ยังไง?"
"ข้าเป็นลูกสาวเมียหลวงของตระกูลซู มีอะไรไม่กล้าล่ะ?"ซูหนานอีหัวเราะออกมา"ซูหว่านเอ้อร์ เจ้าต้องรู้ฐานะของตัวเอง ถ้าจะทำอะไรตามใจอีก เชื่อไหมว่าข้าจะบอกท่านพ่อ ให้เจ้าย้ายจากที่นี่ไปอยู่ที่ชนบท ข้าว่าท่านพ่อจะเห็นด้วยแน่นอน"
สีหน้าของซูหว่านเอ้อร์ซีดขาว นางนึกถึงสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายบนชนบท ถ้านางไปต้องลำบากมากๆแน่นอน ไม่ได้!
"เจ้า……ข้าไม่เชื่อ!"
"ไม่เชื่อ?งั้นจะลองดูไหมล่ะ?"สายตาของซูหนานอีเย็นชามาก"พึ่งพาคุณนายเซี่ยเย่อหยิ่งมานานหลายปี ข้าว่าเจ้าลืมฐานะของตัวเองไปตั้งนานแล้ว!"
"จะมีสักวันหนึ่งแม่ข้าจะได้กลายเป็นเมียหลวง!"ดวงตาของซูหว่านเอ้อร์แดงก่ำ การเป็นลูกของเมียหลวงเป็นสิ่งที่นางเจ็บปวดใจที่สุด และก็เป็นสิ่งที่นางเลือกไม่ได้ด้วย นางบังคับตัวเองไม่ค่อยได้ วิ่งลงบันได"เจ้าอย่าดีใจเร็วเกินไป ข้าจะแต่งเข้าไปในตระกูลสูงศักดิ์ ให้เจ้ามากราบข้า!"
ซูหนานอีจับข้อมือของนางไว้ ลากยาวมาถึงหน้าศพของสาวใช้"อย่าเพิ่งฝันถึงอนาคต ดูนางก่อนดีกว่า นางตายต่อหน้าเจ้าจริงๆ ตายเพราะเจ้า!"
สาวใช้ไม่มีเสียงไม่มีลมหายใจใดๆ หน้าเอียงไปข้างหนึ่ง มีเลือดไหลออกมา และค่อยๆหยดลงไปตามกระโปรง และซึมเข้าไปในช่องว่างของพื้น ก่อนหน้านี้ในเรือนโวยวายอยู่ ตอนนี้เงียบสงบลงมา ราวกับว่าสามารถได้ยินเสียงเลือดหยดลงพื้นด้วยซ้ำ มีลมพัดมา ทำให้โคมไฟที่อยู่ไม่ไกลขยับ แสงไฟสว่างบ้างดับบ้าง ทำให้คนเกิดความกลัว ซูหว่านเอ้อร์ไม่เคยเห็นสถานการณ์ที่น่ากลัวแบบนี้ในระยะใกล้ จู่ๆนางก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา จึงกรีดออกมาเสียงหนึ่ง
ตอนนี้ซูหนานอีปล่อยมือแล้ว ซูหว่านเอ้อร์ยืนไม่มั่งคง ขาไปเหยียบเลือดเกือบจะล้ม มือทั้งคู่จึงรีบไปจับของเพื่อประคองตัวไว้ และกลับไปจับบนศพของสาวใช้ มือไปเปื้อนเลือด ดวงตาไปเผชิญกับใบหน้าที่ทรมานของสาวใช้ ซูหว่านเอ้อร์ยังไม่ทันได้ร้องออกมา ก็หลับตาสงบไปทันที
หยางโมโม่รีบเดินมาเรียก นางก็มีความกลัวเช่นกัน ไม่กล้าไปมองสาวใช้ ยิ่งไม่กล้าไปยั่วยุซูหนานอี
ซูหนานอีกวาดไปที่ซูหว่านเอ้อร์ที่สลบไผด้วยความรังเกียจ และถอนหายใจต่อศพของสาวใช้
"ซื้อโลงศพมา ให้นางหลับสบายเถอะ"
คนในเรือนล้วนว้าวุ่นใจ โมโม่สองคนมองหน้ากันแล้วเดินขึ้นมาทำความเคารพ
ซูหนานอีพูดกับเสี่ยวเถาว่า"เสี่ยวเถา เอาเงินให้พวกนางสิ"
"เจ้าค่ะ"เสี่ยวเถาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา และให้เงินพวกนางเป็นค่าซื้อโลงศพ จากนั้นก็หยิบเงินทองแดงออกมาอีกหลายเหรียญ"เงินทองแดงพวกนี้ไปซื้อกระดาษเงินกระดาษทองเผาให้นาง ถือว่าเป็นน้ำใจของข้า"
เสี่ยวชีก็เดินมา"ข้าก็อยากจะซื้อให้นาง พี่เสี่ยวเถา ยืมเหรียญหนึ่งให้ข้าได้ไหม?ข้าไม่มีเงิน"
ซูหนานอีเลิกคิ้วเล็กน้อย เสี่ยวเถาพยักหน้า"ได้"
เรื่องทำจบแล้ว แต่อารมณ์ของซูหนานอีไม่ได้ดีขึ้นมาตามเลย ไม่ใช่แค่เพราะการตายของสาวใช้ เป็นเพราะว่านางรู้สึกว่าชีวิตของคนเราอนิจจัง จะเป็นจะตายล้วนไม่ขึ้นอยู่กับตัวเอง
พวกทาสจะเป็นจะตายก็ล้วนขึ้นอยู่ที่เจ้านาย ส่วนนาง สตรีผู้สูงศักดิ์ของตระกูลซู ก็กลายเป็นเหยื่อในการขึ้นครองราชย์ของกู้ซีเฉิน
หลังจากเดินออกจากเรือนซูหว่านเอ้อร์แล้วก็ค่อยๆเดินกลับไป ตอนเดินผ่านสวนมืดมากๆ มีแต่แสงที่เกิดจากโคมไฟในมือของเสี่ยวเถาเท่านั้น ขณะเดิน ซูหนานอีสังเกตได้ว่าข้องหลังมีคนตามอยู่ แต่นางทำเป็นว่าไม่รู้ อยากจะดูว่าตกลงคนนี้จะทำอะไร
เลี้ยวเข้าไปในประตูรูปดวงจันทร์ จู่ๆเสี่ยวชีก็กระซิบว่า"คุณหนูเจ้าคะ มีคนตามพวกเราอยู่ เจ้าไปก่อน ข้าอยู่ที่นี่"
เสี่ยวเถาตกใจ"มีคนที่ไหนล่ะ?"
เสี่ยวชีไม่ได้ตอบ นางเม้มปากเอาไว้ กำมือทั้งคู่อย่างแน่น ดวงตากำลังส่องแสงออกมาในท่ามกลางความมืด