ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ - ตอนที่ 41 กุมอำนาจ
ผู้จัดการเซี่ยคิ้วขมวด พิจารณาซูหนานอี
"ท่านเป็นผู้ใดกัน"
"นี่คือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลซูของเรา" เสี่ยวเถาตอบอย่างภูมิใจ "อีกทั้งยังเป็นว่าที่พระชายาท่านอ๋องเป่ยลี้"
นางมองไปที่เด็กพนักงานของร้านพร้อมกับกลอกตามองบน
เด็กพนักงานคนนั้นถึงกับหน้าซีด ทั้งตกใจและเกรงกลัว จนก้มหน้าไม่เอ่ยคำใดออกมา
ผู้จัดการเซี่ยเองก็ตกใจอึ้งพยายามยิ้ม "อ้อ คุณหนูซูนี่เอง จะว่ายังไงก็พวกเด็กพนักงานพวกนี้ไม่รู้จักท่าน ท่านก็อย่าถือสาเลย"
ซูหนานอีมองเขาที่ยิ้มตาหยี ด้วยน้ำเสียงสบายๆ "ข้ารู้แล้ว ว่าพวกเขาเป็นเพียงคนงานตัวเล็กๆ ไม่มีปัญญาทำอะไรหรอก ล้วนได้รับคำสั่งจากเบื้องบน ท่านว่าถูกต้องหรือไม่"
ผู้จัดการเซี่ยได้แต่เม้มปากอย่างประหม่า ซูหนานอีเอ่ยต่อ: "ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าสามารถดูบัญชีได้แล้วหรือไม่"
ผู้จัดการเซี่ยรู้สึกงง "บัญชีอย่างนั้นหรือ เมื่อคืนวันนั้นฮูหยินได้ส่งคนมาเอาสมุดบัญชีไปแล้ว"
ซูหนานอียิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย "ฮูหยินอย่างนั้นหรือ ฮูหยินตระกูลใดกันเล่า เซียจินเหลียนนั้นเป็นเพียงภรรยาอีกคนของบิดาข้า กล้าที่จะเรียกว่าฮูหยินหรือ"
ผู้จัดการเซี่ยได้แต่เงียบพูดไม่ออก
"พูดถึงเรื่องสมุดบัญชี" ซูหนานอีหัวเราะเบาๆ ออกมา "ผู้จัดการเซี่ยเห็นข้าโง่เขลาหรือ ดูไม่ออกว่าสมุดบัญชีของพวกท่านนั้นเละเทะเลยหรือ"
"คุณหนูซู" ผู้จัดการเซี่ยเอ่ยออกมาอย่างลำบากใจ พร้อมทั้งแบบมือออกมา "ท่านกำลังใส่ความข้า สมุดบัญชีของเรานั้นมีเพียงชุดเดียวมาแต่ไหน……"
"ผู้จัดการเซี่ย" ซูหนานอีเอ่ยแทรกเขา "อย่ามาใช้คำว่าพวกเรากับข้า ตอนนี้ร้านนี้เป็นของข้าแล้ว และตอนนี้คนพวกนี้จะสามารถทำงานที่นี่ต่อได้หรือไม่ ก็ยากที่จะบอกได้"
ตอนนี้ชายหนุ่มคนนั้นถึงกับเหงื่อชุ่มไปทั้งหัว แม้แต่หายใจยังไม่กล้า
ผู้จัดการเซี่ยก็ยิ่งตกใจจนไม่รู้จะทำหน้ายังไง ได้แต่อดทนไว้ "คุณหนูซู สะดวกไปคุยที่ด้านหลังหรือไม่"
ซูหนานอีพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เดินตามเขาเข้าไปเรือนหลังนี้ไม่ใหญ่ตกแต่งก็ถือว่าไม่เลวตรงมุมมีไม้ไผ่ประดับอย่างประณีต
"คุณหนูซู เชิญดื่มชา" ผู้จัดการเซี่ยรินน้ำชาพร้อมกับยกให้นาง
ซูหนานอีนิ่ง ของที่อยู่ข้างนอกนางจะแตะต้องง่ายๆ ไม่ได้
"ผู้จัดการเซี่ย พูดสั้นๆ นะว่านอกจากข้ามาวันนี้แล้วจะต้องได้ยาตามรายการนั้นแล้ว ยังมาเพื่อมาดูสมุดบัญชี รับช่วงต่อจากเจ้าของร้านเดิมก็ต้องสอบถามให้ได้ความโดยละเอียด ถือว่าเป็นหลักตามความเป็นจริงใช่หรือไม่"
"ใช่ขอรับ" ผู้จัดการร้านตอบพร้อมกับก้มหน้าลง "ท่านพูดถูกแล้ว แต่……สมุดบัญชีได้มีคนอื่นเอาไปแล้ว ตอนนี้อยู่กับข้าไม่มีแล้ว"
" จริงหรือ" ซูหนานอีระบายยิ้มออกมา อย่างใจเย็น "ไม่เป็นไรท่านไปเอามา ข้ามีเวลา ขอจะรอท่านอยู่ที่นี่"
"นี่……" ผู้จัดการยังคิดมาหาข้ออ้าง ซูหนานอีพูดดักเขาไว้ "เจ้าวางใจ เซี่ยชื่อตอนนี้ต้องอยู่ที่จวน เพราะนางถูกกักบริเวณอยู่ อย่าว่าแต่หน้าประตู แม้แต่หน้าประตูจวนยังออกมาไม่ได้"
ผู้จัดการเซี่ยตกใจ เขานั้นไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนั้นมีคนนำป้ายของเซี่ยชื่อกับลายมือมาว่าต้องการสมุดบัญชีกับใบโฉนดอะไร
ตอนแรกเขายังไม่เข้าใจ แต่เซี่ยชื่อกับลายมือเขียนอย่างชัดเจน นี่เป็นสิทธิของ……ให้เขาวางใจ
แต่ตอนนี้ มองดูซูคารวะอี ผู้จัดการเซี่ยรู้สึกใจคอไม่ดี
ตอนนี้จะทำอย่างไรดี ผู้จัดการคิดหาหนทางหลายวิธี เขานั้นก็ตัดสินใจอะไรไม่ได้
"คิดได้หรือยัง" ซูหนานอีเอ่ยถาม
ผู้จัดการเริ่มกระวนกระวาย ยิ้มแหยแล้วเอ่ย: "คุณหนูใหญ่ ตอนนี้มีเพียงข้าที่เป็นผู้จัดการร้าน สมุดบัญชีอะไรอยู่ที่ห้องบัญชี มิเช่นนั้นข้าจะเรียกนักบัญชีมาหาท่านดีหรือไม่"
ซูหนานอีรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยห้าม : "ได้ ทางที่ดีเรียกคนที่ทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายต่างๆ มาด้วย จะได้ไม่เสียเวลา"
"เวลานี้" ผู้จัดการเซี่ยแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา "ทุกคนล้วนกำลังยุ่งอยู่กับงานของตนเอง ถ้าหากเรียกมาหมด แล้วร้านจะเปิดทำการอย่างไร เหลือคนงานไว้ไม่กี่คนนี้จะทำงานไม่ทั่วถึงนะขอรับ!"
"ง่ายนิดเดียว" ซูหนานอีแววตาเย็นเยือก "ก็ปิดร้านเสียเลย"
"!!" ผู้จัดการเซี่ยถึงกับอึ้ง "เกรงว่าจะไม่เหมาะ แม้ว่าร้านนี้จะได้กำไรไม่เยอะ แต่ถ้าหากต้องปิดร้านเกรงว่า………."
"ผู้จัดการเซี่ย" แววตาของซูหนานอีแปลเปลี่ยนเป็นเย็นชาออกมาทันที "หรือว่าข้าที่เป็นเจ้าของร้านจำต้องฟังคำผู้จัดการร้านอย่างท่านกัน"
"ไม่ ไม่ใช่ขอรับ" ผู้จัดการเซี่ยรีบเอ่ยตอบทันที "คุณหนูใหญ่เข้าใจผิดแล้ว ได้ขอรับ ข้าจะไปเรียกคนมาประเดี๋ยวนี้"
เขาพูดจบก็ถอยร่นออกมาถึงกลางเรือนรอยยิ้มอย่างปลอมๆ ก็พลันหายไปทันที พร้อมกับส่งเสียงหึออกมา ยันเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม อยากจะมาเบ่งอำนาจ คอยดูละกัน!
เขาเดินออกมาข้างนอกเรือน เรียกให้คนงานรีบไปรายงานเซี่ยชื่อ พร้อมกับเรียกฝ่ายบัญชีและฝ่ายจัดซื้อมา ทั้งสามคนมาพร้อมหน้ากัน ให้คนคอยไปดูหน้าร้านเอาไว้แล้วถึงได้เดินไปหลังร้าน
ซูหนานอีให้เสี่ยวเถาเฝ้าหน้าประตูไว้ แล้วนางก็รีบค้นห้องอย่างรวดเร็ว นางที่มาอย่างกะทันหันเชื่อว่าผู้จัดการร้านจะยังไม่เตรียมตัว ป้องกันไว้
และตู้ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะนั้นมีช่องว่าง ข้างในมีสมุดบัญชีพร้อมทั้งรายการจัดซื้อ ที่บันทึกไว้ในนี้หมดแล้ว
พอเห็นหลักฐานเหล่านี้ซูหนานอีก็วางใจแล้ว
"คุณหนู พวกเขามาแล้วเจ้าค่ะ!" เสี่ยวเถาเอ่ยเรียกเบาๆ
ซูหนานอีก็จัดของให้เข้าที่แล้วกลับมานั่งเหมือนเดิม โดยมีเสี่ยวเถากลับมายืนข้างๆ นาง
พวกเขาทั้งสามคนเดิมตามกันเข้ามาโดยมีผู้จัดการเซี่ยเดินนำหน้า แล้วยืนเรียงรายกัน
"คุณหนูซู" ผู้จัดการเซี่ยผายมือไปทางชายแก่ที่อายุราวห้าสิบปี "ท่านนี้คือผู้ดูแลบัญชีแซ่อู"
"ท่านนี้คือผู้เฒ่าหลี่ เขาอยู่ฝ่ายจัดซื้อ"
นักบัญชีอูสวมชุดไหมพรมสีฟ้า ตรงคางมีไฝและมีขนงอกออกมาด้วย
ส่วนท่านผู้เฒ่าหลี่สวมชุดสีเทา ชายเสื้อพักขึ้นแล้วนำไปเหน็บไว้ที่เข็มขัดและฝ่ามือยังคงเหลือเศษฝุ่นอยู่แสดงว่าน่าจะกำลังทำงานอยู่ ดูท่าทางซื่อๆ
ผู้เฒ่าหลี่ทำมือคารวะ พร้อมทั้งเอ่ยขออภัย "ขออภัยคุณหนูซูด้วย ข้าพึ่งกลับมาจากข้างนอก ยังไม่ทันได้เปลี่ยนชุด"
เขาพูดพร้อมกับปล่อยชายแขนเสื้อออกมา
ซูหนานอีพยักหน้า "ไม่เป็นไร วันนี้ที่ข้าเรียกพวกท่านมา ก็ไม่มีอะไร เพียงแต่จะแจ้งว่าต่อไปนี้ข้าเป็นเจ้าของที่นี่ เกี่ยวกับการค้าขายของที่นี่ ข้าต้องการสอบถามให้รู้โดยละเอียด"
ผู้จัดการเซี่ยหันไปมองหน้านักบัญชีอู "เมื่อสักครู่คุณหนูซูได้ถามถึงสมุดบัญชี เรื่องนี้ท่านเป็นผู้รับผิดชอบ เจ้าพูดเลยละกัน"
นักบัญชีอูก็ตกใจงง "สมุดบัญชีงั้นหรือ ไม่ใช่เมื่อสองวันก่อนจวนซูให้คนมาเอาไปแล้วหรือ ที่อยู่กับข้าตอนนี้มีเพียงบัญชีสองวันมานี้เท่านั้น"
"นี่ขอรับ ……" ผู้จัดการเซี่ยนำไปให้ซูหนานอีดู
นี่มันปัดความรับผิดชอบกันชัดๆ
ซูหนานอีไม่ได้หลงกล "ผู้จัดการเซี่ย ข้าไม่ได้มาฟังคำพูดที่พวกท่านเตรียมกันไว้ ไม่ต้องมาพูดเหลวไหลมากความสมุดบัญชี รายการจัดซื้อ ล้วนเอาออกมาให้ข้าดูในวันนี้ ถ้าหากนำออกมาให้ข้าดูไม่ได้ พวกท่านก็คิดหาวิธี ใครเป็นคนเอาไป ก็ไปเอากับคนนั้นมา ข้าจะรออยู่ที่นี่"
ผู้จัดการเซี่ยถึงกับกระแอมหาเสียงไม่เจอ คิดไม่ถึงว่าซูหนานอีจะไม่ยอมรามือง่ายๆ ถึงเพียงนี้ แถมคำพูดยังตรงไปตรงมา ไม่มีอ้อมค้อมเลย
ทว่าเขานั้นถือว่าตัวเองเป็นคนเก่าคนแก่ทำงานมาหลายปี เลยยิ้มแล้วเอ่ย: "คุณหนูซู เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ มีรายการบัญชีของสองวันนี้กับรายการจัดซื้อครั้งนี้นำมาให้ท่านดูก่อน"
ซูหนานอีขมวดคิ้วคิดชั่วครุู่แล้วเอ่ย "ได้"
ผู้จัดการเซี่ยส่งสายตาให้กับนักบัญชีอูทันที นักบัญชีอูก็นำสมุดบัญชีส่งไปให้เสี่ยวเถา แล้วเสี่ยวเถาก็ส่งให้กับซูหนานอี
ผู้เฒ่าหลี่ก็นำรายการจัดซื้อที่เป็นกระดาษค่อนข้างยับยู่ยี่จากแขนเสื้อยื่นไปให้
ผู้จัดการเซี่ยมองท่าทางของซูหนานอีที่กำลังอ่านสมุดบัญชีอยู่ ด้วยสายตาเป็นประกาย
ภายในห้องที่เงียบสนิท มีเพียงเสียงหายใจกับเสียงซูหนานอีเปิดสมุดบัญชีเท่านั้น
ทว่าขณะที่ซูหนานอีเปิดหน้าสมุดอยู่นั้นก็มีเสียง "ฟึบ" ดังขึ้น เป็นเสียงสมุดบัญชีที่ถูกโยนลงบนโต๊ะนี่เอง
จากนั้นนางก็อ่านรายการจัดซื้อ แล้วก็โยนทิ้งไป
ทั้งสามคนต่างก็หายใจไม่ทั่วท้อง
และเวลานี้ ก็ได้ยินเสียงของคนเดินมา