ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ - ตอนที่ 35 ข้าฝากไว้ก่อนเถอะ
ที่แห่งนี้ซูหนานอีไม่เคยมา แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง
เรือบุปผาที่ลอยอยู่บนแม่น้ำนั่นก็ไม่ต่างกับหอนางโลม เพียงแค่ไม่ได้อยู่บนพื้นดินแต่อยู่บนน้ำ
บนเรือมีหญิงสาวขายสุราและยิ่งกว่านั้นมีร้องเพลงร่ายรำ บอกว่าขายศิลปะไม่ได้ขายตัว เพียงแค่จ่ายเงินแล้วใยจะขายตัวไม่ได้
เหล่าองค์ชายคุณชายพี่ชายต่างก็มาที่แห่งนี้ไม่น้อย แต่……หลงใหลหนานอีรู้คิดว่าหยุนจิ่งไม่ควรมา
จากที่ได้ยินเขาเล่า เขาก็ไม่ได้มาหาพวกสุรานารี แล้วใครกันที่พาเขามาแล้วมีจุดมุ่งหมายอะไรอันแน่จะต้องสืบหาให้รู้
ซูหนานอีกดไฟความโกรธเอาไว้ ระบายยิ้มออกมาแล้วเอ่ย: "จิ่งเอ้อร์ ผู้ใดกันที่พาเจ้ามาที่นี่"
"โจวเฉิง เขาบอกว่าที่นี่สนุก เขายังบอกอีกว่า เสด็จแม่จะต้องไม่ชอบใจที่ข้ามาที่นี่แน่ ทุกครั้งที่เขาไปหาข้าที่จวน ล้วนบอกว่าจะมายืมหนังสือกับท่านผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่าห้ามบอกคนอื่น" หยุนจิ่งกระซิบบอกใกล้กับหูของซูหนานอี "นี่เป็นความลับ แต่ข้าคิดว่าข้าบอกเหนียงจื่อได้ กับเหนียงจื่อข้าไม่มีความลับ"
น้ำเสียงของเขาเบาหวิว ลมหายใจอุ่นและสายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาในหูของนาง ซูหนานอีรู้สึกจั๊กจี้ที่ใบหู
ซูหนานอีเอียงหน้ามองเล็กน้อย "จิ่งเอ้อนางโลมทำถูกแล้ว โจวเฉิงนั่นเป็นใครกันหรือ"
"เป็นบุตรชายของโจวช่างชูไงล่ะ" หยุนจิ่งเอ่ยตอบ
"โอ๊ะ" ซูหนานอีใจกระตุก โจวช่างชู หัวหน้าเสนาบดีการคลัง ถุงเงินของกู้ซีเฉิน
ช่างบังเอิญจริงๆ หรือว่าจะมีอะไรอีก
ซูหนานอีเก็บความสงสัยเอาไว้ แล้วเดินตามหยุนจิ่งไป
"เหนียงจื่อ เจ้าดูนั่น! ที่นั่นไง!" หยุนจิ่งจูงมือนางพร้อมกับเล่าออกมาอย่างตื่นเต้น "เดินข้ามสะพานนั้นไป อีกฝั่งของสะพานมีเรืออยู่หลายลำ ล้วนเป็นเรือของเรือบุปผา อยากไปไหนก็ขึ้นลำนั้น"
"ดี" ซูหนานอีเดินไปพร้อมกับกระซิบกำชับ "จิ่งเอ้อร์ถึงนี่ที่แล้วห้ามเรียกข้าว่าเหนียงจื่อ ให้เรียนคุณชายหนาน"
"ทำไมล่ะ" หยุนจิ่งไม่เข้าใจ
"เพราะว่า……" ซูหนานอี ฉุกคิดชั่วครู่ "ข้าคิดว่าพวกเขาโง่ไง ล้วนไม่ฉลาดเท่าจิ่งเอ้อร์ ดูไม่ออกว่าข้าเป็นใคร งั้นเราก็ถือโอกาสนี้หลอกพวกเขาเลย จิ่งเอ้อร์คิดว่าจะสนุกไหม"
"สนุก!" นัยน์ตาของหยุนจิ่งสะท้อนเงาของไฟที่อยู่บนผืนน้ำ สว่างไสวจ้า
ซูหนานอีเดินข้ามสะพานด้วยภายในใจที่มีความแค้นโจวเฉิง คนสารเลว กล้าพาจิ่งเอ้อร์มาที่อย่างนี้ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ!
อีกฝั่งของสะพานก็มีเรืออยู่มากมายหลายลำ เรือทุกลำล้วนมีโคมไฟประดับเอาไว้ อย่างประณีตพร้อมทั้งเขียนชื่อร้านของแต่ละร้านค้าเอาไว้ เด็กรับใช้ประจำเรืออย่างก็ตะโกนเรียกลูกค้า
พอเห็นพวกเขาก็พร้อมกันขึ้นสะพานมา แววตาลุกวาว อา! คุณชายทั้งสองท่าน คุณชายที่สวมชุดสีฟ้าเข้มดุจสีของท้องทะเล ประดับเข็มขัดหยก มีหยกห้อยอยู่ข้างกายแถมยังมีรูปร่างสูงใหญ่ ดูมีสง่าราศี อีกท่านสวมชุดสีขาวในมือมีพัดหยกหนึ่งอัน ราวแสงจันทราสะท้อนคงคา ดุจต้นจือหลานยวี่
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ยิ่งมิอาจละสายตาได้ คุณชายชุดสีฟ้าเข้มรูปร่างสง่างาม เสริมสง่าราศียิ่งเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น อีกท่านที่ใบหน้าหวานแย้ม แววตาแสนซนพร้อมกับรอยยิ้มทีเล่นทีจริง
เหล่าเด็กรับใช้ที่เดินมาถึงพวกเขาถึงได้เรียกสติกลับมา ลอบกลืนน้ำลายก่อนเข้าไปทักทาย ต่างก็อยากให้พวกเขาขึ้นเรือของตน ทั้งกิริยามารยาท การแต่งกาย ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าถูกเหล่าสาวงามพบเข้าจะต้องยื้อแย่งกันเป็นแน่ และเบี้ยอัดก็คงจะมีไม่น้อยเลยทีเดียว
หยุนจิงที่หน้านิ่ง คิ้วเป็นปมคอยป้องกันซูหนานอีเอาไว้ตลอด กลัวว่าพวกเด็กรับใช้จะเข้ามาทำร้ายนาง
ซูหนานอีรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที และกระซิบข้างหูของเขา "โจวเฉิงเคยพาเจ้าไปที่ไหนบ้าง"
หยุนจิ่งที่สายตายังคงมองกลุ่มเด็กรับใช้พวกนั้นอยู่ ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบก็มีคนงานคนหนึ่งเดินเข้ามา "องค์ชายหยุน! ท่านยังจำผู้น้อยได้หรือไม่ ท่านเคยมาที่ร้านของแม่นางจิ่นของเรายังจำได้หรือไม่"
ซูหนานอีหันไปตามเสียง เป็นเด็กรับใช้ที่สวมชุดสีน้ำเงินเดินยิ้มเข้ามาทักทายหยุนจิ่ง
แววตาหยุนจิ่งวาวขึ้นมาเล็กน้อย "เป็นเขา เมื่อก่อนข้าเคยไปที่ร้านของพวกเขา"
ซูหนานอีพยักหน้า "ดี งั้นพวกเราไปร้านของเขากัน"
คนอื่นที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง อยากจะแนะนำร้านของตัวเองว่ามีอะไรดี แต่กลับถูกเด็กรับใช้คนนี้แยกออกเสียก่อน
ทั้งสามคนขึ้นไปบนเรือ เด็กรับใช้เอ่ย "คุณชายหยุน ท่านไม่ได้มาหลายวันแล้ว แม่นางจิ่นของเราเฝ้าคะนึงหาท่านอยู่ทุกวัน"
หยุนจิ่งไม่เข้าใจ "นางจะมาคิดถึงข้าทำไม"
เด็กรับใช้หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีจนเห็นฟัน "เมื่อครั้งก่อนที่ท่านมาท่านบอกว่าเหล้าผลไม้อร่อยไม่ใช่หรือ นั่นเป็นเหล้าที่แม่นางหมักเองกับมือ ที่อื่นก็หาดื่มไม่ได้ แขกหลายคนต่างก็ชื่นชอบ แต่แม่นางจิ่นเก็บเอาไว้ให้ท่านดื่ม ไม่ยอมให้ใครแตะต้องเลย"
หยุนจิ่งพยักหน้า ไม่ได้รู้สึกว่ามีคำไหนไม่เหมาะสม แล้วหันไปหาซูหนานอี : "เหนียง……คุณชายหนาน เหล้าที่ร้านนางอร่อยจริงๆ"
ซึหนานอีอือออรับรู้โดยไม่พูดอะไร
เสียงน้ำไหลที่สะท้อนกับแสงไฟและดวงดาว กลิ่นหอมเนื้อและสุราที่ลอยมาตามสายลมยามราตรีดูแล้วช่างงดงามเหลือเกิน
แต่ในใจซูหนานอีนั้นกลับกำลังเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้
"ถึงแล้ว!" คนงานร้องบอก "ท่านทั้งสองเชิญทางนี้"
บนเรือใหญ่นั้นมีบันได โดยมีเด็กรับใช้คอยถือไฟนำทาง และมีคนที่ยืนอยู่บนพื้นกระดานเอ่ยเสียงดังฟังชัด "มีแขกมาแล้ว!"
พอเขาร้องตะโกนเสร็จทุกคนต่างล้วนหันมาทางพวกเขา ซูหนานอีเกลียดสายตามีมองด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างนี้ยิ่งนัก เพียงแค่มือขยับก็เกิดเสียงดัง "พลั๊วะ" โคมไฟที่เด็กรับใช้ถืออยู่ก็ร่วงลงน้ำไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
สายตาโดยรอบล้วนแวววาวนัก บนเรือบุปผาก็มีโคมไฟที่ประดับประดาสว่างไสว แต่พอโคมไฟที่อยู่ในมือของเด็กรับใช้ดับลง ที่นี่ก็มืดสลัวลงไปไม่น้อย คนพวกนั้นก็ไม่หันมาสนใจมองอีก
เด็กรับใช้รีบเอ่ยขออภัยในทันที "องค์ชายหยุน ข้านำทางท่านไปที่ห้องบุปผารอแม่นางจิ่นดีกว่าขอรับ"
วันนี้หยุนจิ่งมากะทันหัน แม่นางจิ่นมีแขกอยู่จะออกมาพลการไม่ได้
หยุนจิ่งกับซูหนานอีถูกพามาที่หัวเรือทางทิศเหนือที่เป็นห้องบุปผา ที่นี่มีคนข้างสงบ
สายตาของซูหนานอีลอบมองทิศทางการเดินจากไปของเด็กรับใช้ เรือบุปผาแห่งนี้ไม่สามารถเทียบกับหอนางโลมได้แต่มีขนาดใหญ่เท่าไรกันนะ
นางนั่งอยู่ชั่วครู่ก็หันไปพูดกับหยุนจิ่ง: "จิ่งเอ้อร์ เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่นะ ข้าออกไปสักครู่เดี๋ยวข้าก็กลับมา"
"เจ้าจะไปไหน" หยุนจิ่งรู้สึกไม่อยากให้ไป เขาอยากดูดาวกับเหนียงจื่อนี่
"อืม ข้าจะไปหาอะไรเล็กน้อยมาให้เจ้า ครู่เดียวเดี๋ยวข้ากลับมา เชื่อฟังนะ ห้ามไปเถลไถลที่ไหน"
"ได้ จิ่งเอ้อร์จะเชื่อฟัง" หยุนนางโลมชอบใจพร้อมกับพยักหน้า เหนี่ยงจื่อจะมีของมาให้เขา
จากนั้นซูหนานอีก็เร่งฝีเท้าออกไปโดยมีพัดใช้บดบังใบหน้า เดินออกไปทิศทางที่เด็กรับใช้เดินออกไป
ใช้เวลาไม่นานนางก็มองเห็นห้องกลิ่นหอมหลายห้อง ทุกห้องนั้นล้วนมีดอกไม้แกะสลักประดับอยู่ ไม่รู้ว่าใช้กลิ่นหอมอะไรทาถึงได้หอมขนาดนี้ และดอกไม้แกะสลักด้วยไม้ของแต่ละห้องก็มีกลิ่นหอมที่ต่างกันด้วย
ซูหนานอีพ่นลมหายใจออกมา หยิบเอาก้อนยาเล็กๆ ออกมาจากแขนเสื้อแล้วกลืนเข้าคอไป พอถึงทางเลี้ยว ก็มองเห็นคนงานคนนั้นเดินออกมาจากห้องนั้น พร้อมทั้งโยนเศษเงินไปมา
นางจึงได้หลบ รอให้เด็กรับใช้เดินผ่านไปก่อน นางก็เดินไปทางห้องนั้น และหน้าประตูห้องก็เขียนด้วยตัวอักษร "จิ่น"
ในห้องเวลานี้มีเสียงหยอกล้อของชายหญิงดังออกมา
น้ำเสียงของผู้ชายนั้นเอ่ยออกมาด้วยความดูถูก "เจ้าโง่นั่นหลงใหลเจ้าแล้วจริงๆ วันนี้ถึงกลับมาด้วยตัวเอง"
เสียงของหญิงสาวพูดประจบ "ท่านจะยอมให้เขาไปหาเจ้าโง่นั่นจริงๆ หรือเจ้าคะ"
"ใครจะอยากให้เจ้าไปกัน" ผู้ชายหัวเราะออกมา "เขาไม่รู้รู้ชายหญิงเอาซะเลย ถ้าเจ้าไปก็เพียงดื่มเหล้าเป็นเพื่อนเขาเท่านั้น อย่าลืมว่าข้าให้เจ้าใส่ยาลงไปในเหล้าด้วยล่ะ"
"ได้ ข้าไม่ลืมหรอกเจ้าค่ะ" หญิงสาวหัวเราะเบาๆ "งั้นท่านก็อย่าลืมมาหาข้าอีกนะ อย่าให้ข้ารอท่านนานล่ะ"
"ข้าจะให้เจ้ารอนานได้อย่างไร วางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้ายังจะมาอีก ยอดดวงใจของข้า……"
เสียงของทั้งสองนั้นช่างไม่คุ้นเอาเสียเลย ซูนานอีนั้นไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็สามารถคาดเดาถูก
ไม่ว่าใครก็ตาม กล้าหลอกใช้หยุนจิ่ง มันจะต้องชดใช้!
ซูหนานอีใช้ผ้าบางสีขาวบดบังใบหน้าไว้ครึ่งเดียวแล้วค่อยเดินไปตรงทางเลี้ยว
เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตู ฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ซูหนานอียืนรออย่างเงียบๆ รอให้คนนั้นเดินเข้ามาใกล้ จากนั้นหล่อนก็ลงมือ!