ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ - ตอนที่ 10 คู่ควรที่จะเป็นคนของตระกูลหยุนเรา
"ไท่เฟย ท่านว่าข้าคู่ควรหรือเปล่าเพคะ?"
เสียงมาจากซูหนานอี
จริงๆแล้วตั้งแต่ไท่เฟยกู้เข้ามา นางก็แน่ใจตัวตนที่แท้จริงของหยุนจิ่งแล้ว และยืนยันทางเลือกของตัวเองในขั้นต่อไปแล้ว
สายตาของไท่เฟยกู้ขยับเล็กน้อย มองไปที่ซูหนานอี
จริงๆแล้วตั้งแต่เมื่อกี้ สายตาของนางก็แอบมองซูหนานอีที่อยู่ที่มุมห้อง
เมื่อเทียบกับซูหว่านเอ้อร์ บุคลิกของตัวซูหนานอีถึงเหมาะที่จะเรียกว่าเป็นสตรีสูงศักดิ์ นางเป็นคนใจเย็น ไม่ได้ขยับแม้แต่นิดแต่ก็ปรากฏให้เห็นถึงความอ่อนโยนในตัว
"เจ้าคือ?"
ซูหนานอีทำความเคารพ แล้วพูดว่า"ลูกสาวคนโตที่ออกโดยภรรยาเอกตระกูลซู ชื่อซูหนานอีเพคะ"
ซูซืออวี้เห็นลูกสาวออกมาพูด ก็หน้าซีด"หนานอี อย่าเล่นสิ"
"ไท่เฟย ลูกสาวไม่มีมารยาท ไท่เฟยอย่ายึดเป็นจริง เรื่องนี้……"
ไท่เฟยกู้มองไปทางซูหนานอี"ข้าว่านะ คนที่มีมารยาทที่สุดในตระกูลซูก็คือนางแล้ว เหมาะที่จะเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลหยุนในอนาคต"
ซูหนานอีตะลึง เห็นได้ชัดว่านางถูกยอมรับแล้ว
"หนานอีใช่ไหม ชื่อดี คนก็ดี ดูขึ้นไปแล้วก็คู่ควรที่จะเป็นคนตระกูลหยุนของเรา ก็เอาเจ้านั่นแหละ"
ไท่เฟยกู้มองซูหนานอี ยิ่งมองยิ่งพอใจ นามที่เรียกก็เปลี่ยนไป
ในที่สุด นางมองไปที่ซูซืออวี้"ก็เอานางเลย วันจัดงานแต่งเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"
ซูซืออวี้ไม่รู้ว่าตัวเองควรโล่งใจหรือต้องห่วงอีกครั้งหนึ่ง"ไท่เฟยชอบหนานอี คือโชคของนาง เรื่องวันนี้ผิดอยู่ที่ตระกูลซูเรา ข้าขอประทานโทษนับที่นี้พ่ะย่ะค่ะ"
พูดจบก็มองไปที่ซูหนานอี ในสายตาเหมือนมีอะไรปนอยู่
ซูหว่านเอ้อร์กลัวจนซ่อยอยู่ข้างหลังของเซี่ยซื่อ
ซูหนานอีเลิกคิ้ว ไม่ได้ออกเสียง
"เห็นแก่หน้าของหนานอี สิ่งที่พวกเจ้าทำกับลูกข้า ข้าก็ไม่คิดบัญชีแล้ว และก่อนงานแต่งถ้าลูกสะใภ้ของข้าอยู่ที่ตระกูลซูถูกรังแก ข้าก็จะไม่รับประกันว่าเรื่องเก่าจะเอาออกมาคิดบัญชีรวมกันหรือเปล่า"
ซูซืออวี้ถึงโล่งใจลงหน่อย"ขอบพระทัยไท่เฟยพ่ะย่ะค่ะ"
ไท่เฟยกู้พยักหน้า แล้วก็จากไปอย่างเร็ว
หลังจากไท่เฟยกู้จากไปแล้ว ซูซืออวี้ก็มองคนในห้องนี้ รู้สึกว่าปวดหัวมาก
ส่วนซูหว่านเอ้อร์ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ร้องไห้อยู่เรื่อยและเดินออกมาจากหลังเซี่ยซื่อ ใช้สายตาดุร้ายมองไปที่ซูหนานอี
"พี่สาว เจ้าเป็นเพราะว่าอยากแต่งงานกับอีโง่นั้น ก็เลยคิดจะทำร้ายข้า ใส่ร้ายข้าใช่ไหม เจ้าทำไมทำข้าแบบนี้ ข้าเป็นน้องสาวเจ้านะ!"
เซี่ยซื่อปรับสติกลับมาทัน"หนานอี หว่านเอ้อร์เป็นน้องสาวเจ้าแท้ๆ ถ้าเจ้าอยากได้งานแต่งนี้ บอกตรงๆก็ได้แล้ว หว่านเอ้อร์ไม่แย่งกับเจ้าแน่นอน ให้เจ้าก็แค่นั้น เจ้าทำไมต้องทำแบบนี้ ผู้หญิงเขาเน้นความบริสุทธิ์ที่สุด เจ้าทำแบบนี้หวังอะไรเนี่ย?"
เสียงของเซี่ยซื่อมีเสียงร้องปนไปด้วย ฟังคำที่พูดแล้วเหมือนเป็นการตำหนิ
ซูหนานอีเอียงหน้าเล็กน้อย มองแบบเย้ยหยันไปยังลูกแม่สองคนที่กำลังแสดงอยู่
"ไม่รู้สึกหรือว่า การแสดงของพวกเจ้ามันแย่ไปหรือ?"
……
สองคนฟังแล้วตะลึง แม้ซูซืออวี้ก็คิดไม่ถึงว่านางจะพูดแบบนี้
"ซูหว่านเอ้อร์ตัวเองจะหาตาย ใส่ยาตี้เอ้อร์ชุนให้ท่านอ๋องเป่ยลี้ แล้วจับข้าไป เพื่ออะไร จะให้ข้าพูดชัดๆไหม?"
ตุ้ม
ซูหว่านเอ้อร์หน้าซีดขึ้นมา
เซี่ยซื่อก็หน้าเขียวไปเลย
"ใช่แล้ว คุณพ่อน่าจะยังไม่รู้ว่าตี้เอ้อร์ชุนนี้คืออะไร ต้องการให้ลูกสาวอธิบายว่าความเเรงของตี้เอ้อร์ชุนให้ไหมเจ้าคะ?"
หน้าของซูซืออวิ้เจ็บเหมือนถูกตบเลย
"พอแล้ว เจ้ายังคิดว่าวันนี้ขายหน้าไม่พอใช่ไหม?"
ซูซืออวี้รู้สึกว่าเจ็บปวดเหมือนถูกคนตบหน้า
ซูหนานอีปรากฏสายตาที่เย็นชา"พ่อคิดว่า วันนี้คือข้าเป็นคนทำให้ขายหน้าหรือ?"
ซูซืออวิ้ถูกพูดแบบนี้จึงไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี
ซูหว่านเอ้อร์หมุนลูกตา แล้วก็พูดว่า"พี่สาว เจ้าพูดกับพ่ออย่างนี้ได้อย่างไร พ่อก็หวังพี่ได้ดี เจ้า……"
ซูซืออวี้เงยหน้าจ้องไปที่ซูหว่านเอ้อร์ เจ็บใจที่ไม่สามารถหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าได้“เจ้าก็เงียบปากเถอะ วันนี้ยังคิดว่าขายหน้าไม่พอใช่ไหม?กลับบ้าน!"