พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่130 การแต่งตั้งและโยกย้ายตำแหน่ง
บทที่130 การแต่งตั้งและโยกย้ายตำแหน่ง
ห่างจากครั้งก่อนที่บริษัทบอกว่า เทคโนโลยีอี้ฉีจะเข้ามาโยกย้ายกลุ่มผู้บริหารกลุ่มหนึ่งไปก็ผ่านไปนานแล้ว ดังนั้นกลุ่มผู้บริหารในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียล้วนขยันทำงานทุกวัน และแสดงตัวอย่างขยันออกมาทุกวัน เพื่อที่จะได้ย้ายไปสำนักงานใหญ่
ใช่แล้ว ในสายตาของผู้บริหารบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียกลุ่มนี้ เทคโนโลยีอี้ฉีได้กลายเป็นสำนักงานใหญ่ของพวกเขาแล้ว
แต่ผ่านไปแล้วตั้งหนึ่งเดือน
ฝั่งสำนักงานใหญ่ยังไม่มีข่าวสารใดๆ นี้ทำให้ผู้บริหารของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียล้วนสงสันว่า สำนักงานใหญ่ลืมพวกเขาไปหรือเปล่า
ถ้าหากไม่ใช่เสี้ยจุนเน้นเรื่องนี้ในงานประชุมเป็นประจำ พวกเขาก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
“ประธานเสี้ย ฝั่งของประธานลู่ลืมพวกเราไปแล้วหรือเปล่า นี่ผ่านไปตั้งเดือนกว่าแล้ว ทำไมยังไม่มีข่าวใดๆเลย”ฟ่านหมิงถามเสี้ยจุน
เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ ฟ่านหมิงได้รับรู้ถึงตำแหน่งของตัวเองอย่างชัดเจน และได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ดีกับเสี้ยจุนกลับมาอีก
ฝั่งของเทคโนโลยีอี้ฉีฉันได้ไปดูในช่วงไม่กี่วันก่อน กำลังก่อสร้างอยู่ คนของเราไปแล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?ช่วยทำก่อสร้างหรือ?”เสี้ยจุนยิ้มแล้วถาม
“มันก็ใช่อยู่นะ แต่กลุ่มผู้บริหารล้วนไม่เข้าใจ นึกว่าประธานลู่ลืมพวกเราไปแล้ว”ฟ่านหมิงยิ้มแล้วพูด
“ประธานลู่เป็นคนใหญ่โต ทุกเรื่องที่จะทำล้วนต้องวางแผนก่อน จะลืมไปได้ยังไงล่ะ?แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำได้แค่นั้นเอง ไปบอกกับทุกคนว่าอย่าใจร้อน แถมแม้ว่าพวกเขาจะใจร้อนก็เปล่าประโยชน์ ฝั่งเทคโนโลยีอี้ฉีเป็นภาพลักษณ์ของเมืองหยูโจว คนที่ได้ไปทำงานที่นั่น ล้วนเป็นหนึ่งในหมื่น คนธรรมดาจะเข้าไปได้ยังไงล่ะ”เสี้ยจุนพูด
ฟ่านหมิงพยักหน้า เชื่อมั่นในคำพูดของเสี้ยจุน เทคโนโลยีอี้ฉีไม่ใช่บริษัทธรรมดา ข้อกำหนดต้องเข้มงวดอยู่แล้ว
พอดีในเวลานี้ เลขาเคาะประตูเข้าไปพูดว่า”ประธานเสี้ย นั่นคือประธานเสี่ยวของสำนักงานใหญ่หรือเปล่า”
เลขาชี้จากหน้าต่างไปที่ใต้ตึกแล้วพูด
เสี้ยจุนและฟ่านหมิงรีบลุกขึ้นมองไปดูนอกหน้าต่าง เห็นแต่สาวสวยคนหนึ่งเดินลงมาจากรถแลนด์โรเวอร์คันใหญ่ เป็นเสี่ยวซู่ถิงซึ่งเป็นหนึ่งในรองประธานของสำนักงานใหญ่
“ไป ลงไปต้อนรับกัน”เสี้ยจุนไม่ได้พูดอะไรมาก ก็ผลักประตูห้องทำงานออกแล้วเดินออกไป
ฟ่านหมิงและเลขาตามอยู่ข้างหลัง
ขณะที่ทั้งสามคนนั่งลิฟท์ลงมาถึงห้องโถงชั้นหนึ่ง ก็ได้เห็นเสี่ยวซู่ถิงกำลังยืนรอลิฟท์อยู่หน้าลิฟท์
“ประธานเสี่ยว”
“สวัสดีค่ะท่านประธานเสี่ยว”
“สวัสดีค่ะท่านประธานเสี่ยว”
ทั้งสามคนรีบยิ้มและทักทาย
เสี่ยวซู่ถิงสำรวจสถานการณ์ของห้องโถงชั้นหนึ่งคร่าวๆ ยิ้มและพูดว่า”ฉันมาอย่างกะทันหันแบบนี้ ประธานเสี้ยจะรังเกียจหรือเปล่า”
ตามจริงแล้ว เหตุที่เสี่ยวซู่ถิงที่มาในวันนี้ ก็เพราะเมื่อคืนลู่เฉินโทรมาหาเธอ ให้เธอมาโยกย้ายหลายคนไป พอดีหลายวันนี้ฝั่งนู้นขาดคนอยู่
เดิมทีเธอควรจะแจ้งเสี้ยจุนก่อน
แต่คนที่ลู่เฉินให้เธอโยกย้ายไปก็มีเสี้ยจุนอยู่ด้วย เธอเลยอยากจะดูว่าผู้จัดการใหญ่ในบริษัทเล็กๆคนนี้จะเหมือนมีความสามารถเหมือนที่ลู่เฉินพูดหรือเปล่า
ในฐานะที่เป็นนักเรียนยอดเยี่ยมที่ได้จบมาจากต่างประเทศ เสี่ยวซู่ถิงเป็นคนที่ทำงานอย่างรอบคอบตลอด ตั้งแต่เวลาที่ลู่เฉินมอบเทคโนโลยีอี้ฉีให้เธอกับวังเหว่ยสองคนร่วมกันบริหาร เธอก็คิดอยู่ในใจว่าห้ามทำให้ลู่เฉินต้องผิดหวัง
ดังนั้นแม้ว่าเสี้ยจุนเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย แต่เธอก็อยากจะมาสำรวจเอง
ดังนั้นเธอถึงมาอย่างกะทันหัน
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ประธานเสี่ยวเชิญข้างในครับ”ภายใต้แรงกดดันจากเสี่ยวซู่ถิง ผู้จัดการใหญ่อย่างเสี้ยจุนก็รู้สึกมีความขลาดใจอย่างไร้เหตุผล
อย่าไปพูดถึงอย่างอื่น เพียงดูจากเรื่องที่ลู่เฉินไว้ใจให้ผู้หญิงคนนี้และวังเหว่ยไปบริหารด้วยกัน ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาจะกล้าดูถูกได้ยังไงล่ะ
“ฉันอยากจะเดินดูในบริษัทได้ไหม”เสี่ยวซู่ถิงมองไปดูเสี้ยจุน ใบหน้ายังคงปรากฏรอยยิ้มอยู่
รอยยิ้มของเธอสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นรอยยิ้มปลอมๆ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นรอยยิ้มที่ยิ้มจากใจจริงๆ
“ได้ครับ ได้ครับ ฉันจะพาประธานเสี่ยวเดินดูกัน”เสี้ยจุนอึ้งไปก่อน จากนั้นก็หัวเราะพูดออกมา
ส่วนฟ่านหมิงและเลขายังไม่กล้ามองเข้าหาเสี่ยวซู่ถิงเลย
เพราะพวกเขาไม่เคยได้เห็นผู้หญิงที่มีรัศมีแบบนี้มาก่อน แถมผู้หญิงคนนี้ยังหนุ่มอยู่ด้วย
ภายใต้การนำพาของเสี้ยจุนทั้งสามคน เสี่ยวซู่ถิงได้เดินดูรอบๆบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียไปเที่ยวหนึ่ง ไม่ว่าเป็นบรรยากาศของบริษัท หรือเป็นฉากการทำงานของแต่ละแผนก โดยรวมแล้วเธอก็พอใจอยู่
สิ่งที่ทำให้เธอค่อนข้างจะประหลาดใจของคือ เธอได้เห็นความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาจากผู้บริหารและพนักงานส่วนใหญ่ของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย
แน่นอน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือช่วงนี้ทุกคนกำลังรอคอยสำนักงานใหญ่มาโยกย้ายคนมีความสามารถไป ดังนั้นถึงจะขยันทำงานเช่นนี้ ไม่นั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นฉากแบบนี้หรอก
และนี่ก็คือเหตุที่เสี้ยจุนกล้าพาเสี่ยวซู่ถิงไปเดินดูทุกแผนก
“ประธานเสี้ย ไม่ทราบว่าประธานลู่ได้โทรหาคุณหรือยัง การที่ฉันมาในวันนี้ เป็นเพราะว่าเขาสั่งให้ฉันมาโยกย้ายหลายคนไป”พอกลับมาถึงห้องทำงานของเสี้ยจุน เสี่ยวซู่ถิงก็ได้พูดตรงๆ
“ประธานลู่ยังไม่ได้โทรมาคุยกับฉัน แต่ในใจของประธานเสี่ยวมีคนจะเลือกไหมครับ?”เสี้ยจุนถาม
“นอกจากคนที่ชื่อว่าหลิวหยานฉี๋ ที่เหลืออีกห้าคนก็ต้องอาศัยประธานเสี้ยเสมอมา”เสี่ยวซู่ถิงพูด
“หลิวหยานฉี๋?”เสี้ยจุนและฟ่านหมิงล้วนรู้สึกตกใจ หลิวหยานฉี๋เป็นพนักงานธุรการเก่าของบริษัทแล้ว แถมวันก่อนหลินอี้จุนก็ได้เสนอหลิวหยานฉี๋ให้เขา และได้บอกว่าเธอมีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นผู้จัดการ แต่คิดไม่ถึงว่าประธานลู่จะโยกย้ายเธอไปสำนักงานใหญ่
“ใช่ เธอเป็นคนที่ประธานลู่ชี้เฉพาะว่าจะเอา”เสี่ยวซู่ถิงก็ไม่ทราบว่าหลิวหยานฉี๋เป็นใคร สามารถได้รับความดูแลพิเศษจากลู่เฉิน
ตามจริงแล้ว เหตุที่ลู่เฉินจะมอบโอกาสนี้แก่หลิวหยานฉี๋ ก็เนื่องจากครั้งก่อนเธอได้ช่วยหลินอี้จุนหนีพ้นจากมือของวังเหวินเสวี่ย
“คนที่ประธานลู่ชี้เฉพาะว่าจะเอา?”เสี้ยจุนและฟ่านหมิงยิ่งรู้สึกแปลกใจ พวกเขาจำได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลิวหยานฉี๋และหลินอี้จุนค่อนข้างดีอยู่ หรือเป็นเพราะเหตุของหลินอี้จุน?
“ยังไง?มีปัญหาหรือ?”เมื่อเห็นท่าทางที่แปลกใจของทั้งสองคน เสี่ยวซู่ถิงจึงขมวดคิ้วแล้วถาม
“ไม่ ไม่มีอะไร เอ๊ะ ประธานเสี่ยว ประธานลู่ไม่ได้บอกว่าจะย้ายหลินอี้จุนไปหรือ?”เสี้ยจูนถาม
“ไม่ได้บอก แต่ความหมายของประธานลู่คือจะเลื่อนตำแหน่งหลินอี้จุนเป็นรองผู้จัดการใหญ่ ส่วนฟ่านหมิงเลื่อนเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เอ๊ะ ลู่เฉินยังได้พูดถึงคุณ ให้คุณจัดการเรื่องของฝั่งนี้ให้เสร็จในวันนี้ แล้วตอนบ่ายไปหาเขา ฟังจากคำพูดของประธานลู่ อาจจะโยกย้ายคุณไปอยู่ตำแหน่งที่สำคัญของสำนักงานใหญ่”เสี่ยวซู่ถิงพูด
“เออ โอเค หลังจากฉันจัดการเรื่องฝั่งนี้เสร็จ ก็จะโทรไปหาประธานลู่”สำหรับการจัดเตรียมนี้ของลู่เฉิน เสี้ยจุนได้คาดเดาไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจ
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกใจก็คือ ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งให้หลินอี้จุนเป็นผู้จัดการใหญ่โดยตรง
แต่พอเขาคิดแล้วก็พบว่า หลินอี้จุนยังไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นผู้จัดการใหญ่ คงไม่ได้ให้เขาออกจากบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในระยะใกล้นี้หรอก
เสี่ยจุนเสนอชื่อของผู้บริหารหลายคนที่แสดงได้ดีในช่วงนี้ให้เสี่ยวซู่ถิงเสร็จ ก็ให้เลขาไปแจ้งคนพวกนั้นมาที่ห้องทำงานของเขา
“ฝั่งของหลิวหยานฉี๋ฉันจะไปแจ้งให้เธอทราบเอง”ฟ่านหมิงพูดกับเลขาของเสี้ยจูนเสร็จ ก็กลับไปที่ฝ่ายการตลาด
สำหรับลู่เฉินที่ไม่ได้โยกย้ายเขาไปสำนักงานใหญ่ กลับเลือกหลิวหยานฉี๋ แม้ว่าฟ่านหมิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่การที่ให้เขากลับมาในตำแหน่งผู้อำนวยการอีก เขาก็พอใจแล้ว
ดังนั้นเขาเลยคิดจะไปให้เซอร์ไพรส์แก่หลิวหยานฉี๋ด้วยตัวเอง