พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - บทที่ 300 ฆ่าวิหาร
บทที่ 300 ฆ่าวิหาร
ทั้งสองได้มาถึงห้องก่อนหน้านี้ ไม่ช้าเซียวจ้างก็ได้พาทหารสิบกว่านายมา และนั่นซึ่งเป็นผู้บังคับกองพันสิบกว่านายของกองทัพมังกรดำ
ขณะนี้กองทัพมังกรดำและลูกน้องทั้งสามนายของเขาได้เสียชีวิตกันหมด ยศที่เหลือและใหญ่ก็เหลือเพียงสิบกว่าคนนี้
หลังจากที่เข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่ทุกคนเห็นคือศพที่เต็มไปทั่วพื้น
แน่นอน ลู่เฉินได้นำศพของกองทัพมังกรดำและลูกน้องทั้งสามของเขาวางอยู่ข้างบน พอคนเหล่านี้เห็นศพพวกนี้แล้ว ในที่สุดก็เลิกสงสัยเซียวจ้าง
“พวกเรายอมที่จะทำตามและรับคำสั่งของนายพล!” ผู้บังคับกองพันทั้งสิบห้ามองไปที่ลู่เฉินที่นั่งอยู่ในกองทัพมังกรดำ ต่างยืนระเบียบและเคารพ
“ดีมาก พวกคุณปฏิบัติกันอย่างดีมาก ฉันจะให้นายได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าตอนอยู่ในกองทัพมังกรดำสองเท่า พวกนายจำไว้ว่าต่อไปพวกเขาสองคนก็คือรองของฉัน คำสั่งของพวกเขาก็เท่ากับเป็นคำสั่งของฉัน” ลู่เฉินชี้ไปยังเซียวจ้างและตู้เฟยแล้วพูด
“ครับ!” ทั้งสิบห้าคนได้พยักหน้า แล้วมองไปยังตู้เฟย
“พวกนายลงไปก่อน บอกทุกคน ต่อไปค่าตอบแทนของทุกตำแหน่งจะเพิ่มขึ้นเป็น30%” ลู่เฉินพูด
“ครับ!” ทุกคนถวายคำนับทหารอีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
“รอก่อน หาคนให้มาเอาศพพวกนี้ไปจัดการซะ”ลู่เฉินพูดอีก
“ครับ!”
หลังจากที่ทั้งสิบห้าคนออกไป ไม่นานผู้บังคับกองพันคนหนึ่งก็นำทหารกลุ่มหนึ่งมาหามศพทั้งหมดในบ้านออกไป
“คุณเชื่อใจผมขนาดนั้นเลยเหรอ?” เซียวจ้างมองไปยังลู่เฉิน พูดความจริง ที่เขายอมออกมาช่วยลู่เฉิน ก็ตอนที่เขาจำตู้เฟยออก
ตอนแรก เขานึกว่าตู้เฟยจะควบคุมกองทัพมังกรดำ ลู่เฉินน่าจะเป็นลูกน้องของตู้เฟย ไม่คิดเลยว่าจะกลับกันพอดี
ลู่เฉินได้มองเซียวจ้าง พร้อมพูดจืดชืดว่า: “ก่อนที่คุณจะยืนออกมาช่วยผม ผมก็ดูออกจากสายตาคุณแล้วว่าคุณเองก็มีความคิดที่อยากจะควบคุมกองทัพมังกรดำ กล้าเล่นอีกเกมส์ที่ใหญ่กว่านี้กับพวกเรามั้ย?”
ลู่เฉินจ้องตาเซียวจ้าง
เซียวจ้างตกตะลึง ไม่คิดเลยว่าลู่เฉินยังไม่พอใจอีกที่ควบคุมกองทัพมังกรดำ เขาอยากจะทำอะไรอีกกันแน่?
“ใหญ่ขนาด?” สักพัก เซียวจ้างถาม
“สามารถเอาชีวิตคุณได้ตลอด และก็สามารถทำให้คุณมีชื่อเสียงดังไปทั่วโลกได้ มีความสุขความร่ำรวยที่ไม่จบไม่สิ้น คุณลองคิดดูก่อน เพียงคุณพยักหน้า จากวันนี้ไปกองทัพมังกรดำนี้นายกับตู้เฟยดูแลกันเอง แต่ถ้าคุณสะบัดหน้า ผมก็สามารถให้เงินกับคุณก้อนหนึ่งที่สามารถทำให้คุณพึงพอใจ คุณอยู่ช่วยผมสักเด่อนหนึ่ง” ลู่เฉินขมวดคิ้วแล้วพูด
เซียวจ้างจ้องลู่เฉินสักพัก จากนั้นก็หยิบบุหรี่ออกมามวนหนึ่งแล้วจุดไฟ เดินไปสูบตรงข้างหน้าต่าง
ลู่เฉินและตู้เฟยก็ได้หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบเหมือนกัน และไม่ได้เร่งรีบเซียวจ้าง
สำหรับลู่เฉินแล้วหากเซียวจ้างยอมช่วย นั่นมันก็คงต้องเป็นคนช่วยที่ฝีมือไม่เลวเลยหละ แล้วให้เขาพาพวกเราทำความคุ้นเคยกับกองทัพมังกรดำทั้วหมดแล้ว ให้คนอื่นมาทำงานควบคุมร่วมกับตู้เฟยก็ได้แล้ว
“ได้ ก็แค่หัวหลุด ผมเซียวจ้างตัวคนเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว ผมจะเชื่อคุณสักครั้ง เล่นเกมส์ที่ใหญ่” หลังจากที่เซียวจ้างคิดทบทวนดีแล้ว ก็ได้หันหน้า และดับก้นบุหรี มองหน้าลู่เฉินอย่างแน่วแน่
สาเหตุที่เขาเชื่อลู่เฉิน ก็เพราะว่าเขาเชื่อใจตู้เฟย
เขารู้จักกับตู้เฟยเมื่อสิบปีก่อนแล้ว ตู้เฟยเป็นคนยังไงเขารู้ดีแก่ใจ
ในเมื่อตู้เฟยเชื่อใจลู่เฉินขนาดนี้ เขายังมีเหตุผลอะไรไม่เชื่ออีกหละ
ลู่เฉินและตู้เฟยถ้าคิดแผนที่จะได้กองทัพมังกรดำ และยังได้กองทัพมังกรดำมาอีก
ความกล้าและกำลังนี้ สุดยอกไปเลยจริงๆ
และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเชื่อใจลู่เฉิน
“ยินดีกับคุณด้วย ที่คุณได้เลือกทางที่ถูกต้อง”ตู้เฟยตบไหล่เซียวจ้างแล้วพูดอย่างมีความสุข
ที่จริงก่อนหน้าที่ลู่เฉินจะเอาชนะกองทัพมังกรดำได้นั้น ตู้เฟยเองก็ตกใจมากเช่นกัน
เขารู้สึกว่าลู่เฉินบ้าไปแล้ว
แต่ไม่คิดเลยว่าเขาและลู่เฉินจะเอาชนะกองทัพมังกรดำได้จริงๆ
สำหรับความกล้าหาญและการตัดสินของลู่เฉินเขาเองมีความเชื่อมั่น
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทีมผม” ลู่เฉินยื่นมือออกไปหาเซียวจ้างพร้อมยิ้มอ่อนๆแล้วพูด
เซียวจ้างจับมือลู่เฉิน พูด: “ผมคิดว่าเราควรเปลี่ยนชื่อจากกองทัพมังกรดำเป็นชื่ออันใหม่นะ”
ลู่เฉินพยักหน้า พูด: ผมมีความคิดนี้พิดีเลย”
ชื่อมังกรดำหลุดโลกเกินไปแล้ว กองทัพกำลังใหญ่ขนาดนี้ กลับทำเอาเหมือนเป็นโจนเลยหละ
ตอนนี้กองทัพนี้ถูกเขาควบคุมแล้ว แน่นอนว่าจะไม่ใช้ชื่อกองทัพมังกรดำอีกแน่นอน
“ชื่อฆ่าวิหารว่าไง?”ตู้เฟยเสนอ
“พวกคุณชื่อชอบก็พอ”ลู่เฉินพยักหน้า ยังไงต่อไปคนที่ควบคุมกองทัพก็เป็นคนเหล่าตู้เฟยอยู่ดี พวกเขาชอบชื่อนี้ก็เอาชื่อนี้แล้วกัน
“อืม ผมว่าก็โอเคนะ งั้นก็ชื่อฆ่าวิหารเลยแล้วกัน” เซียวจ้างพยักหน้าหน้าพูด
“ได้ งั้นชื่อฆ่าวิหาร พรุ่งนี้พวกคุณเปลี่ยนแผ่นป้ายที่ประตูด้วย”
พูดเสร็จลู่เฉินก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเซ่ซูเจี๋ย
“นี่ นานคุ้นเคยกับสถานทูตในเมียนมาร์หรือไม่?” หลังจากที่โทรติด ลู่เฉินถาม
ลู่เฉินจะไปเจรจากับประธานาธิบดีเมียนมาร์ ดังนั้นจึงจะขอให้สถานทูตช่วยนัดพบกับประธานาธิบดีเมียนมาร์”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคนทางนั้นเป็นใคร เดี๋ยวถามให้ ทำไม นายต้องการไปพัฒนาตลาดในเมียนมาร์?” เซ่ซูเจี๋ย ถาม
เขาเคยเป็นพี่ใหญ่ในเมียหลวนก่อนจะย้ายไปในยวี่โจว แต่สถานทูตและสถานกงสุลของประเทศต่างๆเป็นเพียงเจ้าหน้าที่เล็ก ๆเท่านั้น เขาไม่ค่อยไปสนใจ โดยเฉพาะกงสุลของประเทศเล็ก ๆ อย่างเมียนมาร์
“อืม เตรียมพัฒนาตลาดในเมียนมาร์ อยากคุยกับประธานาธิบดีของพวกเขา” ลู่เฉินพูด
“ได้ ฉันไปติดต่อให้ ให้พวกเขากล่าวสวัสดี นายไปที่สถานกงสุลพวกเขา ให้เขาจัดเตรียมให้นาย” พูดเสร็จเซ่ซูเจี๋ยก็ตัดสาย
“พรุ่งนี้ผมจะไปเนปิดอ ไปหาที่นอนก่อนนะ พวกนายสองคนก็เฝ้าอยู่นี่ ตรวจเช็คอุตสาหกรรมต่างๆของมังกรดำ ให้อยู่ในกำมือเราก่อน” ลู่เฉินกล่าว
เพียงแค่ผู้คนรู้ข่าวมังกรดำเสียชีวิต คงต้องวุ่นวายไปหมดแน่ มังกรดำมีอุตสาหกรรมมากมาย โดยเฉพาะในRough mineสามที่นั้น
จุดประสงค์ที่ลู่เฉินมาเมียนมาร์ครั้งนี้ ก็เพราะหินหยาบแน่นอนว่าต้องคุมมันไว้ในกำมือ
“เราเร่งจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน” ตู้เฟยพยักหน้า เขาเป็นคนรีบร้อน เรื่องแบบนี้จัดการยิ่งเร็วยิ่งดี
หลังจากที่ลู่เฉินไปหาห้องเพื่อนอน เซียวจ้างและตู้เฟยก็ได้เรียกผู้บังคับกองพันสิบกว่าคนนั้นมาใหม่
“เขาไปเจรจากับประธานาธิบดีเมียนมาร์ อันตรายเกินไปไหม?” เซียวจ้างมองตู้เฟยอย่างกังวลใจ
“ไม่หรอกนา นายไม่ได้ยินเหรอว่าเขาติดต่อสถานทูตก่อน? เมียนมาร์เป็นเพียงประเทศเล็กๆ แน่นอนว่าประธานาธิบดีของพวกเขาต้องให้หน้ากับสถานทูตจีนอยู่แล้ว เขาปลอดภัยแน่นอน” ตู้เฟยพูดอย่างมั่นใจ
“ใช่แล้ว เขาชื่ออะไร? เขามีสถานะอย่างไรในประเทศ?”เซียวจ้างถามตู้เฟยด้วยความสงสัย
พูดตามความจริงนะ ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ถานะตัวตนที่แท้จริงจริงลู่เฉินเลย และไม่รู้ด้วยว่าลู่เฉินมีครอบครัวที่ใหญ่โตขนาดไหน