พี่เขยคลั่งสวาท - ตอนที่ 50
ในเวลาต่อมา
สิงหาทั้งตื่นเต้นและดีใจ วิ่งหน้าตื่นออกมาตะโกนโหวกเหวกที่หน้าบ้าน บอกป้าชื่นซึ่งเป็นคนรับใช้ที่จ้างมาทำงานบ้านได้สองเดือนกว่า ให้รีบทำมะม่วงน้ำปลาหวานให้ภรรยาในทันที
“นายคะ…เอาแค่น้ำปลาหวานหรือกะปิหวานด้วยคะ”
ป้าชื่นร้องถาม แกพลอยตื่นเต้นดีใจไปกับเจ้าของบ้าน ด้วยรู้ว่าสิงหาอยากมีลูก
“จัดมาสองอย่างเลยครับป้า…เร็วๆ นะครับ”
สิงหาเร่งด้วยความใจร้อน ไม่อยากให้ภรรยารอนาน
“ค่ะนาย…เดี๋ยวป้ารีบจัดให้นะคะ อุ๊ย…ดีใจด้วยค่ะนาย เมื่อวานตอนขึ้นไปทำความสะอาดบนเรือน ป้าก็แอบได้ยินเสียงคุณผึ้งอาเจียน ยังนึกสงสัยว่าแบบนี้ท้องแน่ๆ”
สีหน้าของป้าชื่นออกอาการตื่นเต้นดีใจไม่แพ้คนเป็นนาย รีบตรงเข้าครัวทำมะม่วงน้ำปลาหวานด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี
ในเวลาต่อมา
ไม่ถึงชั่วโมง มะม่วงอ่อนและน้ำปลาหวานพร้อมกะปิหวานก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้ถึงที่
“อร่อยจ้ะพี่สิงห์”
น้ำผึ้งค่อยๆ หยิบมะม่วงจิ้มน้ำปลาหวานกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ดูท่าน่าจะเปรี้ยวมากนะจ๊ะที่รักจ๋า”
สิงหานั่งมองเมียรักจัดการกับมะม่วงในจานด้วยความรู้สึกเข็ดฟันแทนคนท้อง
“ไม่เปรี้ยวจ้ะ…อร่อย ผึ้งชอบ”
“พี่ช่วยฝานมะม่วงให้นะจ๊ะ”
สิงหาคว้ามีดในจานนำมาฝานมะม่วงลูกสีเขียวอ่อนเป็นแว่นบางๆ จิ้มน้ำปลาหวานแล้วป้อนใส่ปากภรรยาอย่างเอาอกเอาใจ
“อร่อยดีนะคะพี่สิงห์”
ท่าทางของน้ำผึ้งเอร็ดอร่อยเหลือหลาย สิงหาหยิบมะม่วงในชามอีกชิ้นมาจิ้มกะปิหวาน
“อ้ำ…”
พะเน้าพะนอป้อนเข้าปากเมียรัก ขณะอีกมือรองไว้ใต้ริมฝีปากจิ้มลิ้มด้วยกลัวว่าน้ำตาลจะหยด
“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วเราไปหาหมอกันนะจ๊ะ…ตรวจให้รู้แน่ชัด”
สิงหาใจร้อนจนแทบทนรอไม่ไหว ลูบท้องของน้ำผึ้งเบาๆ เหมือนทักทายอีกชีวิตที่อยู่ในครรภ์ เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันนูนขึ้นมาน้อยๆ จนอยากจะพาภรรยาสุดที่รักไปหาหมอ เพื่อตรวจดูให้แน่ใจ ว่าอาการเปรี้ยวปากอยากมะม่วงของหล่อนนั้นเกิดจากการแพ้ท้องแน่ๆ
ในเวลาต่อมา
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง สิงหาก็ขับรถพาน้ำผึ้งเดินทางมาถึงคลินิกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง
“เดี๋ยวพี่รออยู่ข้างนอกนะจ๊ะผึ้งจ๋า
เสร็จจากพยุงร่างเอิบอิ่มของน้ำผึ้งเข้ามาส่งในห้องตรวจซึ่งมีคุณหมอนั่งรออยู่ข้างใน
“ค่ะ…” น้ำผึ้งตอบ สิงหาจับมือเมียรักขึ้นมากุมให้กำลังใจ ก่อนจะก้าวออกมาจากห้องตรวจ ทรุดร่างสูงใหญ่ลงนั่งรออยู่ที่เก้าอี้หน้าห้อง
‘ขอให้ท้องทีเถอะ…’
สิงหาแอบภาวนา จิตใจเอาแต่จดจ่อว้าวุ่นกระวนกระวาย รอฟังข่าวดีจากปากของคุณหมอว่าภรรยาจะท้องหรือเปล่า กระทั่งน้ำผึ้งเดินออกมาจากห้องตรวจ
“ผึ้ง…”
สิงหารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ตรงรี่เข้าประคองร่างของภรรยาสุดที่รัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นคุณหมอหน้าตี๋ถือแฟ้มเดินตามออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ภรรยาของคุณกำลังตั้งครรภ์ครับ ยินดีด้วยนะครับคุณพ่อ”
คุณหมอบอกข่าวดี
“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ”
สีหน้าของสิงหาบ่งบอกความดีใจจนเนื้อเต้น สิ่งที่เขาหวัง สิ่งที่เขารอคอย ‘ลูก’ ที่จะเป็นสายใย เป็นดั่งโซ่ทองคล้องใจ เป็นสายเลือดรัดร้อยหัวใจสองดวงของคนเป็นพ่อเป็นแม่เข้าด้วยกัน วันนี้สิ่งที่ฝันเป็นจริงแล้ว
อีกหนึ่งปีต่อมา
ตอนเช้าตรู่ ที่โต๊ะรับแขกบริเวณเทอเรซหน้าบ้านของสิงหา ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายสีขาว อ่านหนังสือพิมพ์และจิบกาแฟไปพลางอย่างอารมณ์ดี
“วันนี้นายไม่ออกไปทำงานหรือคะ”
ป้าชื่นแปลกใจ ถามขณะกำลังยกขนมปังปิ้งสองแผ่นในจานกระเบื้องสีขาวมาวางลงตรงหน้าผู้เป็นนาย ปกติสิงหางานยุ่งมาก บางครั้งวันหยุดก็ต้องไปตรวจงาน แต่วันนี้สายแล้วเขายังนั่งดื่มกาแฟอ้อยอิ่ง
“วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันครอบครัวครับป้า ผมอยากอยู่กับลูกกับเมียครับ”
เจ้าของบ้านตอบ
“คุณผึ้งช่างโชคดี…ที่ได้เป็นภรรยาของนาย”
ป้าชื่นกล่าว มองสิงหาด้วยสายตาชื่นชมในความเป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้ชายคนนี้รักลูกรักเมีย
เพราะว่าหลังๆ มานี้สิงหาติดลูกติดเมียเหลือเกิน ทุกวันนี้เขาแทบไม่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูง พอเลิกงานก็กลับถึงบ้านตรงเวลา ช่วยเมียเลี้ยงลูกจนน่าจะได้รางวัลคุณพ่อดีเด่นแห่งปี
“น้องธันน์กำลังน่ารักเชียวค่ะ…ตัวอ้วนจ้ำม่ำ หน้าตาก็หล่อเหมือนคุณสิงห์เป๊ะเลยค่ะ”
ป้าชื่นกล่าวถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้เป็นนาย ก็คือ ‘ธันวา’ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ‘ธันน์’ เป็นชื่อที่สิงหาตั้งให้ตามเดือนเกิดของลูก
“ตอนนี้อาหารเช้าพร้อมแล้วนะคะ ประเดี๋ยวป้าขึ้นไปตามคุณผึ้งลงมาทานข้าวกับคุณสิงห์นะคะ”
ป้าชื่นกล่าว
“ไม่ต้องครับ…เดี๋ยวผมไปตามเอง”
เจ้าของบ้านบอกพลางวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ หยัดร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง
“ผึ้งจ๋า…อาบน้ำเสร็จหรือยังครับที่รัก ลงไปกินข้าวได้แล้วนะจ๊ะ”