พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - ตอนที่ 498 เมืองกู่ปา
เห็นได้ชัดว่าอะเดค่าท้องหิวมากๆแล้ว เธอนั่งลงไปอย่างไม่เกรงใจสักนิด ถอดหน้ากากที่อยู่บนใบหน้าออก จากนั้นกินอย่างคำใหญ่ขึ้นมา
ต้องบอกว่าหน้าตาอะเดค่าสวยมากๆจริงๆ
เมืองจันทร์ทองคำเป็นสถานที่ที่มีราคาที่ดินสูง คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนที่ร่ำรวยมั่งคั่งอยู่ทุกหนแห่งทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีดารา,เน็ตไอดอลมากมายล้วนรีบมายังที่นี่
สาวสวยเพื่อที่จะสามารถได้รับโอกาสดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มักจะวนเวียนอยู่บริเวณนี้ ก็เพื่อที่จะตกเอาลูกเขยที่มีฐานะร่ำรวย แน่นอนในนั้นก็มีผู้ชายเช่นกัน
คนที่มีเงินอยู่ที่นี่เยอะมาก ก็เป็นเพราะว่าเช่นนี้นั่นเองอะเดค่าจึงคิดว่าในกระเป๋าของเนี่ยเฟิงมีเงิน
อะเดค่ากินแฮมเบอร์เกอร์ต่อกันไปสองชิ้น ทั้งดื่มโค้กไปแก้วหนึ่ง ต่อจากนี้ยังกินเฟรนช์ฟรายส์ไปไม่น้อย จึงค่อยๆถอนหายใจออกมาหนึ่งที
“เยี่ยมมากเลย ฉันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว ฉันหิวแทบตายแล้ว!”
อะเดค่าลูบท้องของตนเองลูบแล้วลูบอีก เธอรู้สึกอายเล็กน้อยจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ในเวลานี้เนี่ยเฟิงกำลังกินอยู่อย่างช้าๆ
“เมื่อกี้เป็นความผิดของฉัน ฉันขอโทษ! ขอบคุณที่เลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ฉัน แต่ว่าฉันยังอยากจะถามคุณสักหน่อย ตกลงว่าคุณทำได้ยังไงกัน แป๊บเดียวก็ทำให้เท้าของฉันหายได้?”
ตาทั้งคู่ของอะเดค่าเปล่งแสง
“ผมพูดไปแล้ว นี่เป็นความลับอย่างหนึ่ง”
“คุณเป็นหมอเลยเชียวเหรอ? งั้นทั้งหมดนี้ก็พูดได้สมเหตุสมผลแล้ว ฝีมือการรักษาโรคของคุณจะต้องเลิศล้ำมากแน่นอน นึกไม่ถึงคุณเยาว์วัยขนาดนี้ถึงขนาดเก่งมากเช่นนั้น!”
เมื่อกี้อะเดค่ายังเป็นศัตรูต่อกันกับเนี่ยเฟิง แต่หลังจากเนี่ยเฟิงให้ของกินเธอสักหน่อย เห็นได้ชัดว่าเธอเชื่อเนี่ยเฟิงไปแล้ว
เนี่ยเฟิงจนใจยิ้มแล้วยิ้มอีก ในใจคิดอยู่ว่าสาวน้อยคนนี้ช่างไม่มีความระวังตัวสักนิดจริงๆเลย หน้าตาสวยขนาดนั้นกับสิ่งที่ใส่อยู่ในสมองล้วนไม่รู้ว่าเป็นอะไรบ้าง
“คุณเพิ่งมาถึงที่นี่ใช่หรือไม่ล่ะ? คืนนี้มีสถานที่ซุกหัวนอนหรือไม่? ถ้าหากไม่มีละก็งั้นก็มาที่นี่ของพวกเราเถอะ! ฉันเห็นคุณน่าจะเป็นคนยากจนคนหนึ่งเช่นกัน บนกายไม่มีเงินอะไร”
ลักษณะท่าทีของอะเดค่าคล้ายดั่งมองเนี่ยเฟิงทะลุอย่างนั้น
“ในคลินิกแพทย์แผนจีนของพวกคุณน่าจะมีคนไม่น้อยล่ะ” พอเนี่ยเฟิงพูดคำนี้ออกมาตาสีเขียวคู่นั้นของอะเดค่าค่อยๆเบิกโพลง เธอเลียริมฝีปากที่แห้งๆเลียแล้วเลียอีกอย่างลำบาก ยากที่จะเชื่อจ้องมองไปยังเนี่ยเฟิง
“คุณ คุณรู้ได้ยังไงล่ะ? คุณไม่ใช่หมอคุณเป็นพ่อมดคนหนึ่งเลยเชียวเหรอ!”
อะเดค่าลุกขึ้นมา พรึ่บ เสียงหนึ่ง เพราะว่ารีบเร่งเกินไปแล้ว ดังนั้นเก้าอี้ก็ตีลังกาไปข้างหลัง ดึงดูดความสนใจของคนในร้านอาหารไม่น้อย
เธอถึงขนาดแส่หาเรื่องกับพ่อมดคนหนึ่ง นี่ช่างแย่แล้วจริงๆ นี่จะต้องนำความซวยมาแน่!
“พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่! ฉันสำนึกผิดแล้ว ขอร้องคุณปล่อยฉันไปเถอะ วันหลังฉันล้วนไม่กล้าอีกแล้ว! ขอร้องคุณอย่าใช้เวทมนตร์ฆ่าฉันเลย!”
อะเดค่าสั่นระริกทั้งตัวจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่
“บางทีผมสงสัยจริงๆว่าสิ่งที่ใส่อยู่ในสมองของคุณเป็นกาวแป้งเปียกใช่หรือไม่ คุณจับเก้าอี้ไว้ให้ตรงก่อนเถอะ ผมไม่ใช่พ่อมด ผมเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง”
อะเดค่ากลืนน้ำลายหนึ่งทีอย่างลำบาก แต่ก็ยังจับเก้าอี้ขึ้นมาอย่างเป็นเด็กดี นั่งตัวสั่นงั่นงกอยู่ฝั่งตรงข้ามของเนี่ยเฟิง
“แต่ฉันไม่เคยบอกกับคุณมาก่อน ฉันก็อยู่ในคลินิกแพทยแผนจีน…..ฉัน คุณ คุณรู้ได้ยังไงล่ะ?”
ถ้าหากไม่ใช่มีเวทมนตร์พยากรณ์ล่วงหน้า เขาจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเธอเองอยู่ในคลินิกแพทย์แผนจีนอีกล่ะ?
“เมื่อกี้ออกจากบาร์ บนกายคุณมีกลิ่นที่สลับซับซ้อนมากอย่างหนึ่ง กลิ่นเหล่านี้อาจจะติดมาจากในบาร์ แต่หลังจากคุณเดินมากับผมถึงที่นี่ ผมวิเคราะห์ออกมาได้แล้ว บนกายคุณมีกลิ่นยาสมุนไพรอย่างหนึ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีกลิ่นฉุนของน้ำมันนวดคลายกล้ามเนื้อ บ้างเล็กน้อย ดังนั้นผมแน่ใจว่าคุณน่าจะพักอยู่ในคลินิกแพทย์แผนจีน”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่ดื่มโค้กไปคำหนึ่ง ต่อจากนี้ชี้ไปยังเนื้อผ้าที่อยู่บนเสื้อผ้าของอะเดค่าชี้แล้วชี้อีก “เสื้อผ้าของคุณเคยซ่อมแซมมาก่อน ข้างบนมีผ้าหลายชิ้นเป็นเสื้อผ้าของเด็กทารก ดังนั้นผมคิดว่าคลินิกแพทย์แผนจีนของพวกคุณน่าจะไม่ใช่เพียงแค่คนคนเดียว”
อะเดค่าก้มหัวจ้องมองเสื้อผ้าของตนเองหนึ่งที จากนั้นตาสองข้างเปล่งแสงจ้องมองเนี่ยเฟิงอยู่ “คุณช่างเก่งมากจริงล่ะ อาศัยเพียงไม่กี่ข้อนี้คุณก็สามารถวินิจฉัยว่าฉันมาจากที่ไหนได้!”
“เพียงแค่ละเอียดอ่อนสักหน่อยล้วนสามารถมองออกได้”
“งั้นฉันรู้แล้วว่าคุณเป็นใครแล้ว คุณย่อมเป็นนักสืบที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งแน่นอน เหมือนโฮลมส์เช่นนั้น! เก่งมากเลย มิน่าล่ะคุณจึงสามารถหาฉันเจอ!”
เมื่อกี้อะเดค่ายังคิดอยู่ล่ะ หลังจากหยิบกระเป๋าเนี่ยเฟิงได้ทั้งๆที่ถูกนักเต้นระบำเปลื้องผ้าหญิงขวางทางออกไว้อยู่ เธอก็หลุดจากเนี่ยเฟิงไปได้ เนี่ยเฟิงมองไม่เห็นตนเองเลยสักนิด แต่กลับสามารถหาเจอได้ นี่ย่อมเป็นเรื่องของนักสืบที่มีชื่อเสียงจึงจะสามารถทำได้
เนี่ยเฟิงคิดก่อนว่าวงจรสมองของอะเดค่าช่างเหนือกว่าคนธรรมดาจริงๆ แต่ว่าเธอชอบคิดอย่างนี้ก็ให้เธอคิดไปเถอะ
เนี่ยเฟิงยังหาสถานที่ซุกหัวนอนไม่ได้จริงๆ พูดได้อีกว่า วันนี้ยังหาเจ้าหน้าที่ข่าวกรองไม่ได้ พรุ่งนี้เขายังต้องไปบาร์ไป๋ตี้อีกรอบ
“ได้ งั้นวันนี้ผมก็ไปคลินิกแพทย์แผนจีนของพวกคุณสักครั้ง”
อะเดค่ารีบพยักหน้า เธอนั่งรอเนี่ยเฟิงกินอาหารเสร็จอยู่ข้างๆอย่างเป็นเด็กดี จากนั้นเธอมีความเขินอายเล็กน้อยพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณห่อแฮมเบอร์เกอร์ให้ฉันอีกหลายอันได้หรือไม่?”
เนี่ยเฟิงรู้ว่าอะเดค่ากินจนอิ่มมากแล้ว ดังนั้นแฮมเบอร์เกอร์หลายชิ้นนี้น่าจะห่อกลับไปให้เพื่อนฝูงของเธอ
“กินเพียงแฮมเบอร์เกอร์หนึ่งชิ้นน่าจะยังไม่พอล่ะ สั่งไก่ทอดมาอีกหลายตัว” เนี่ยเฟิงพูดอยู่ควักบัตรออกมา แป๊บเดียวรูดไก่ทอดสิบตัว แฮมเบอร์เกอร์ยี่สิบชิ้น
ตาทั้งคู่ของอะเดค่าเปล่งแสง ในใจคิดอยู่ว่าเนี่ยเฟิงยังมีเงินเล็กๆน้อยๆอยู่นะ!
“หิ้วของมากมายขนาดนั้น ย่อมไม่สะดวกแน่นอน พวกเราเรียกรถไปเถอะ”
เนี่ยเฟิงพูดอยู่กวักมือแล้วกวักมืออีกไปยังข้างนอก กวักเรียกแท็กซี่คันหนึ่งอะเดค่าพอเห็นแท็กซี่ในชั่วพริบตาเดียวสีหน้ารู้สึกดูแย่มากเล็กน้อย “คุณผู้ชาย แท็กซี่ที่นี่แพงมากนะ!”
“ก็ไม่ได้ให้คุณออกเงิน” เนี่ยเฟิงพูดอยู่นั่งเข้าไปกวักมือแล้วกวักมืออีกกับอะเดค่า อะเดค่ามีความกระสับกระส่ายเล็กน้อยนั่งอยู่ข้างๆ เธอเหลือบตามองเนี่ยเฟิงหนึ่งที ในใจมีความลังเลเล็กน้อย
ไม่นานรถก็มาถึงเมืองกู่ปา
ถึงแม้ว่าเมืองจันทร์ทองคำดูแล้วร่ำรวยมั่งคั่งมากๆ แต่นี่เพียงแค่พุ่งเป้าไปยังคนที่มีอำนาจมีอิทธิพลมีเงินเป็นพิเศษจึงร่ำรวยมั่งคั่งแต่อยู่ในสถานที่ที่แสงเงินทองสาดส่องไม่ถึงยังมีคนมากมายเนื่องเพราะสงครามต้องพลัดจากที่อยู่ไปอย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว
พวกเขาลำบากยากแค้น ได้เพียงแต่หดตัวอยู่ในสลัม และเมืองกู่ปาก็คือสลัมหนึ่งในนั้นที่อยู่ฝั่งนี้
ที่นี่กับเมืองหลักที่มีราคาที่ดินสูงช่างเทียบกันไม่ได้จริงๆเลย ความเสื่อมโทรมที่เนื้อตาสามารถมองเห็น
ที่นี่แม้แต่ไฟก็ไม่มี เพียงแค่เห็นก็ทำให้คนรู้สึกถึงความหวาดกลัว
“คุณผู้ชาย พวกเราลงรถที่นี่เถอะ!”
อะเดค่าพูดจบตบประตูรถตบแล้วตบอีก คนขับรถแท็กซี่จอดรถไว้ข้างๆ หลังจากเนี่ยเฟิงจ่ายเงินแล้วหิ้วของเดินลงจากรถ
เขามองเห็นคนขับรถแท็กซี่ใช้สายตาที่หัวเราะเยาะจ้องมองตนเองอยู่
“ไอ้หนุ่ม มาหาความสุขที่นี่ ไม่ต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น! คราวหน้าถ้าคุณมาถึงที่นี่ แค่ใช้ไม่กี่เหรียญก็เพียงพอแล้ว!”
เห็นได้ชัดว่าอะเดค่าได้ยินคำพูดที่คนขับรถพูด ชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของเธอซีดไปหมด เธอแอบมองเนี่ยเฟิงหนึ่งที เห็นเนี่ยเฟิงไม่ได้พูดอะไรเลย
บนหัวของพวกเขามีเพียงแสงดวงจันทร์ ที่นี่เทียบกับเมืองหลักไม่ได้ พื้นดินมีความขรุขระไม่เรียบเล็กน้อย ถ้าหากเดินไม่ทันระวังล่ะก็ เป็นไปได้มากที่อาจจะหกล้ม
ตลอดทางในใจของอะเดค่าเต้นตุ้มๆต๋อมๆอยู่ เมื่อกี้เธอมัวแต่ดีใจ ลืมสถานการณ์ของตัวเธอเองไปหมดเลย