พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - ตอนที่ 82 ที่ดินที่ราคาสูงลิ่ว
บทที่ 82 ที่ดินที่ราคาสูงลิ่ว
“แกไม่ต้องมาพูดจาเหลวไหลอะไร สาปแช่งพี่สองของฉัน!”
คางเมิ่งจ้องมองฟางซื่อเหา แต่จะว่าไปแล้วช่วงนี้พี่สองก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยในกลุ่มจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่! ยังไงก็ตามวันเวลาดี ๆ ของพวกแกใกล้จะจบลงแล้ว ฉันจะรอดูเมื่อตอนนั้นมาถึงพวกแกจะคุกเข่าขอร้องอย่างไร!”
ฟางซื่อเหาเดินออกไปภาคภูมิใจ จากนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็พูดมาอีกประโยค:
“อ้อ ใช่ล่ะ ถ้าหากว่าพวกแกมาเพื่อวิลล่าซิงเยว่แล้วละก็ งั้นฉันก็อยากจะแนะนำพวกแกสองคนว่าให้ดับความคิดนี้ไปซะ! ของสิ่งนั้นไม่ใช่ของของพวกแก อีกอย่างพวกแกก็ไม่มีเงินที่จะซื้อมัน!”
ฟางซื่อเหาพูดไปพลางเดินจากไปพลาง
“วะ คนคนนี้นี่มันมากเกินไปแล้วจริง ๆ ครั้งที่แล้วก็สั่งสอนเขาไปแล้ว หรือว่าเขาไม่รู้จักอับอาย?”
คางเมิ่งโมโหเป็นพิเศษทันที
“คนเช่นนี้จะมีความละอายใจได้อย่างไร ปล้นชิงสิ่งของของคนอื่น ก็คิดว่าเป็นของพวกเขาแล้ว ก่อนหน้าไม่ใช่ว่ายึดครองบ้านที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของตระกูลเนี่ย?”
“เสี่ยเฟิง ไม่งั้นพวกเราจากไปดีไหม……?”
คางเมิ่งกังวลใจในใจ เดี๋ยวถ้าฟางซื่อเหาประมูลวิลล่าซิงเยว่ไป ถึงตอนนั้นไม่ใช่ว่าเป็นการทำให้เนี่ยเฟิง เสียใจเพิ่มขึ้นไปโดยปริยายอย่างนั้นหรอ?
“ไม่เป็นไร พี่เจ็ดพี่ไม่ต้องห่วงไป ภายในใจของผมนั้นเข้มแข็ง ผมไม่ยอมให้เรื่องพวกนี้ทำให้เป็นทุกข์หรอก”
อีกอย่าง ฟางซื่อเหาไม่มีทางประมูลวิลล่าซิงเยว่ เพราะว่านั่นคือสิ่งของของเขา
ถ้าหากว่าคางเมิ่งรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เธอคงจะไม่พาเนี่ยเฟิงมาที่นี่
งานประมูลใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ของประมูลในตอนแรกนั้นราคาล้วนแต่ไม่ถือว่าสูงมาก แต่ว่าแม้ว่าจะเป็นอย่างนี้แต่คางเมิ่งก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงตื่นเต้น
สาเหตุที่คางเมิ่งได้มาที่นี่นั้น ที่จริงแล้วก็คือได้รับเชิญจากกองถ่าย ความจริงแล้วที่จัดการให้เขาเข้ามาก็เป็นเพราะว่าหลัวปิน
ไม่อย่างนั้นด้วยฐานะของคางเมิ่งก็ไม่มีทางที่จะได้เข้าร่วมการประมูลนี้
ตอนนี้หลัวปินก็ยังคงมองไปที่คางเมิ่งอย่างโกรธ ๆ
เขาหลัวปินจะว่าอย่างไรก็ถือว่าเป็นคนมีหน้ามีตา แถมยังไม่เคยที่จะได้รับความลำบากใจเช่นนี้
หลัวปินที่เห็นคางเมิ่งก็รู้สึกเพียงเคืองแค้นใจเป็นอย่างมาก ช่างน่าเสียดาย ตอนนี้คางเมิ่งเป็นคนของเสิ่นโจว เขายุ่งไม่ได้
“สิ่งของที่จะประมูลชิ้นต่อไปของชิ้นนี้ ก็คือวิลล่าซิงเยว่! ทุกคนล้วนรู้จักวิลล่าซิงเยว่ นั่นสร้างโดยท่านอาจารย์ใหญ่ แม้ว่าในตอนนี้จะราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว แต่ที่ดินของที่นั่นนั้นไม่ต้องให้พูดทุกคนก็ทราบว่าราคานั้นสูงเพียงใด วันนี้ตระกูลเว่ยนั้นหมดอำนาจการตัดสินใจ ที่ดินผืนนี้ได้ถูกกรมที่ดินเอาคืน ตอนนี้กรมที่ดินได้ไว้วานให้พวกเราจัดการประมูลที่ดินนี้ออกไป”
ในความเป็นจริงแล้วกรมที่ดินขายที่ดินผืนนี้ออกไปไม่ได้ อย่างไรเสียก็มีคนตายจำนวนมาก ทุกคนล้วนแต่หวาดกลัว
อีกอย่างก็คือคนมีเงินพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างงมงาย ก่อนหน้านี้ตระกูลเนี่ยครอบครองวิลล่าซิงเยว่ ต่อมาตระกูลเนี่ยก็ล่มสลาย
ตระกูลเว่ยก็ครอบครองวิลล่าซิงเยว่ ตระกูลเว่ยก็ล่มสลายเช่นกัน
ถ้าหากว่าพวกเขาประมูลวิลล่าซิงเยว่ งั้นคนต่อไปที่จะล่มสลาย จะเป็นพวกเขาหรือไม่? ในใจของพวกเขากังวลเป็นอย่างยิ่ง
“วิลล่าซิงเยว่ราคาเริ่มต้น อยู่ที่หนึ่งร้อยล้าน!”
พิธีกรเพิ่งจะพูดจบ ฟางซื่อเหาก็ยกแผ่นป้ายในมือขึ้น “หนึ่งร้อยสิบล้าน!”
ทุกคนต่างส่งเสียงดังอื้ออึง ราคาเริ่มต้นสูงมาก คิดไม่ถึงว่าฟางซื่อเหากลับเพิ่มไปอีกสิบล้าน เป็นคนรวยที่แท้
แม้ว่าตระกูลฟางกับตระกูลหลัวนั้นจะไม่ได้ทำธุรกิจเหมือนกัน แต่อย่างไรเสียก็ล้วนถูกยกเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลตัวพ่อ ดังนั้นหลัวปินก็ไม่อยากที่จะเสียหน้า
“หนึ่งร้อยยี่สิบล้าน!”
หลัวปินยกแผ่นป้ายในมือขึ้นประมูลตามไป
ฟางซื่อเหาจ้องหลัวปินอย่างไม่พอใจ คนคนนี้ทำไมถึงได้มาแย่งตัวเองหา?
“หนึ่งร้อยสามสิบล้าน”
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงแก่ ๆ ลอยมา คนที่พูดนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นจินไห่เวย
“ประธานกรรมการของอาคารตี้กั๋ว? เขาประมูลที่นั่นไปทำอะไร? หรือว่าคิดที่จะทำวิลล่าสำหรับพักผ่อน”
“แต่ทว่าที่นั่นมีคนตายเป็นจำนวนมากจะทำวิลล่าสำหรับพักผ่อนจะได้กำไรจริง ๆ หรอ?”
“นี่ก็พูดยาก บางคนก็ชื่นชอบเสาะหาความเร้าใจ”
“น่ารังเกียจ คนทำไมอะไรล้วนมายุ่งเกี่ยว?!” ฟางซื่อเหากัดฟันประมูลต่อ “หนึ่งร้อยสี่สิบล้าน!”
“สองร้อยล้าน”
คนที่เสนอราคากลับเป็นเสิ่นโจว!
“ไม่เสียทีที่เป็นดาราระดับนานาชาติ คาดไม่ถึงว่าจะเงินมากมายขนาดที่จะพอซื้อบ้านพักหรู ๆ!”
“ต่อจากนี้ไปแข่งขันก็ดุเดือดขึ้นแล้ว แต่ทว่าเปลี่ยนเป็นฉัน ฉันไม่มีทางที่จะซื้อที่ดินนี้ ช่างเคราะห์ร้าย!” “คุณจะไปเข้าใจอะไร? แปลงที่ดินวิลล่าซิงเยว่ดีจะตาย”
เมื่อกี้นี้ในใจของหลัวปินยังอัดอั้นใจ เสินโจวสู้ราคา เขาไม่คิดที่จะให้เธอได้ไปอย่างง่ายดายนัก!
“สามร้อยล้าน!”
“สามร้อยล้าน! ยังมีใครจะเสนอราคามากกว่านี้ไหม?”
ฟางซื่อเหาแสดงสีหน้าลำบากใจ เดิมทีคิดที่จะซื้อที่ดินผืนนี้ มาสร้างความอัปยศให้เนี่ยเฟิง แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเสนอสามร้อยล้าน…..นี่มันเกินราคานี่ดินของวิลล่าซิงเยว่ไปแล้ว เขายังต้องการที่จะเสมอต่อไป นั่นก็ขาดทุนเท่านั้น!
ฟางซื่อเหากำหมัดแน่น ในใจก็คิด อย่างไรก็ตามขอเพียงเนี่ยเฟิงไม่ได้ที่ดินนี้ไป งั้นเขาก็ดีใจแล้ว!
ฟางซื่อเหาคิดดังนั้น ก็มองย้อนแสงไป ก็พบเนี่ยเฟิงมองพิธีกรที่อยู่บนเวทีอย่างสงบ ก็หมายความว่าไม่มีความคิดที่จะสู้ราคา
“พันล้าน”
จินไห่เวยยกแผ่นป้ายในมือขึ้น
บ้าไปแล้ว? นั่นก็แค่ที่ดินผืนหนึ่ง แถมยังไม่ใช่ทำเลทองที่ต้องใช้ราคาพันล้านประมูลที่ดินนั่นมา สมองมีปัญหาจริง ๆ !
แรกสุด เป็นเพราะว่าวิลล่าซิงเยว่นั้นออกมาจากมือของอาจารย์ชื่อดัง ดังนั้นถึงได้มีราคาที่สูงเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นพิจารณาตำแหน่งของที่ดินไม่มีทางถึงร้อยล้าน
แม้แต่ในตอนนี้ ก็ประมูลด้วยราคาสูงขนาดนั้นไม่ออก อีกอย่างวิลล่าซิงเยว่ในวันนี้นั้นก็ถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง เหลือเพียงซากปรักหักพัง ที่ดินโกร๋น ๆ นั่นสามารถทำอะไรได้?
แม้ว่าที่ดินผืนนั้นจะกินพื้นที่ไปเกือบถึงยอดเขา แต่ก็ไม่ได้แสดงถึงอะไรนี่นา!
ตอนนี้ยังมีคนตายเป็นจำนวนมาก คนอื่นล้วนแต่พูดอย่างลับ ๆ ว่าที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินต้องสาป ใช้เงินพันล้านซื้อไป ?
หลัวปินลังเลใจ ราคานี้มันสูงเกินไปจริง ๆ ถ้าเขายังประมูลต่อไป พ่อเขาต้องฟาดแน่นอน!
แต่ว่าในใจกลับคิดว่าถ้าไม่ใช่เสิ่นโจวสู้ราคาได้ไป งั้นก็ไม่ได้เรียกว่าอะไร
“พันล้าน! ยังมีคนที่ต้องการเสนอราคาอีกไหม?”
“ไม่มีใครเสนอราอีกแล้วใช่ไหม? ดี! ปิดการประมูล!”
งานประมูลใกล้ที่จะจบ ในตอนนั้นเองฟางซื่อเหาก็เดินเข้ามา ยิ้มเล่นหูเล่นตา “เป็นอย่างไรบ้าง? ในใจทุกข์อย่างมากใช่ไหม บ้านของพวกแกถูกประมูลออกไปแล้ว!”
“ไม่รู้จักพูดก็หุบปากไป!”
คางเมิ่งโกรธมาก ตั้งแต่เริ่มต้นเธอก็สังเกตอารมณ์ของเนี่ยเฟิงอย่างระมัดระวัง
ต้องรู้ว่าพันล้านสำหรับพวกเขาแล้วไม่มีทางที่จะรับไหว ราคานี้มันสูงมากจริง ๆ
คางเมิ่งอดหงุดหงิดใจไม่ได้ ถ้ารู้อย่างนี้แต่แรก เธอก็ควรจะขยันถึงจะถูก แม้แต่บ้านของเสี่ยวเฟิงก็ยังเก็บไว้ไม่ได้
“พาลโกรธแล้ว? มองของที่เป็นของตัวเองลอยจากไป ถ้าหากว่าฉันเป็นแก ฉันคงโมโหตายแน่ ๆ ! แต่ว่ามันก็ช่วยไม่ได้ ถึงอย่างไรคนจนอย่างพวกแก จะมีเงินที่ไหนมาซื้อที่ดินที่ราคาแพงล่ะ?”
“แกก็ไม่ได้ประมูลได้นี่?”
เนี่ยเฟิงที่ไม่เปล่งเสียงมาตลอดทันใดนั้นก็พูดออกมา
“ฮ่าฮ่า! ฉันประมูลไม่ได้? ฉันก็แค่ไม่ได้อยากจะประมูลได้! พันล้านสำหรับฉันก็ไม่นับว่าเป็นอะไรได้!”