พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - ตอนที่ 79คนที่รู้จักมานาน
บทที่ 79คนที่รู้จักมานาน
งานประมูลในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่อาคารหวงจีน
คางเมิ่งตั้งใจแต่งหน้ามาเป็นอย่างดี แถมยังใส่ชุดราตรีที่ดูสวยงามมากด้วย
“พี่เจ็ด วันนี้พี่ดูสวยมากเลยครับ!”
เนี่ยเฟิงกล่าวชมออกมาอย่างไม่มีกั๊ก คางเมิ่งผังแล้วก็รู้สึกดีใจมาก
“งานประมูลในครั้งนี้จะมีดารากับระดับสูงมากมายมาร่วมงานเลยนะ เดี๋ยวแกก็อยู่เงียบๆ เลยนะ”
เนี่ยเฟิงคาดเข็มขัดให้ตัวเอง “พี่เจ็ดไม่ต้องเป็นห่วงผมจะไม่พูดอะไรทั้งนั้นครับ?”
พอคางเมิ่งเห็นเนี่ยเฟิงที่กำลังทำตัวน่าสงสาร เธอก็พูดด้วยความใจอ่อนว่า
“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันแค่ไม่รู้ว่าพวกระดับสูงพวกนั้นเขาคิดอะไรกันอยู่ ช่วงนี้เมืองจินไห่เองก็ค่อนข้างวุ่นวาย ผู้ทรงอิทธิพลทั้งสี่จู่ๆ ก็หายไปสอง คนนอกก็กำลังจับตามองเมืองจินไห่และได้ส่งคนเข้ามาแทรกแซงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ยังไงก็ระวังไว้หน่อยดีกว่า”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไม่สร้างปัญหาให้พี่เจ็ดแน่นอน! พี่ไม่ต้องเป็นห่วง!”
“เสี่ยวเฟิงของเรานี่เป็นเด็กดีที่สุดแล้ว! เดี๋ยวซื้อไก่ทอดให้เป็นราวัลให้!”
ทั้งสองคนมาถึงที่อาคารหวงจีน หลังจากที่คางเมิ่งจอดรถเสร็จเธอก็พาเนี่ยเฟิงเข้าไปในห้องโถงของอาคารหวงจีน
ที่นี่กว้างมาก งานทั้งหมดถูกจัดอยู่ในนี้ได้อย่างสบาย แถมยังตกแต่งได้อย่างหรูหราด้วย
“นี่คือตึกทองที่มีชื่อเสียงของอาคารหวงจีน และยังมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ตึกในตึก แกคงเห็นแล้วใช่มั้ย มันก็เหมือนกับตึกดูเพล็กซ์ที่ถูกตกแต่งแบบคลาสสิคนั่นแหละ ชั้นบนเป็นห้องพักที่ถูกแยกออกไป เดี๋ยวตอนสองทุ่มครึ่งชั้นล่างนี้ก็จะมีงานประมูลเกิดขึ้น ก่อนจะถึงตอนนั้นก็สามารถเดินเล่นได้ อาหารกับเครื่องดื่มบนโต๊ะก็สามารถลองชิมดูได้”
คางเมิ่งกลัวว่าการที่เนี่ยเฟิงมาที่แบบนี้ครั้งแรกเขาจะไม่รู้มารยาทพวกนี้ ถ้าเกิดไปทำอะไรขายหน้าเข้าเขาอาจสูญเสียความมั่นใจก็ได้ เธอจึงอธิบายให้เขาอย่างละเอียด
แต่สำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว ที่นี่มันแค่งานเล็กๆ เท่านั้น
สมัยที่อยู่เมืองนอก เขาก็มักจะไปร่วมงานเลี้ยงระดับประเทศอยู่บ่อยๆ นี่มันแค่งานเล็กๆ ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย
ถ้าเป็นปกติละก็ เนี่ยเฟิงไม่อยากจะไปด้วยซ้ำ แต่วันนี้เขาต้องไปกับคางเมิ่งมันก็จะแตกต่างออกไป
“ตรงนั้นเป็นคนในกองถ่ายฉัน เดี๋ยวฉันไปทักทายพวกเขาก่อนนะ! เสี่ยวเฟิง แกไปนั่งรอตรงนั้นก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปหา!”
เนี่ยเฟิงโค้งคำนับเบาๆ จากนั้นก็เดินไปนั่งรอที่มุมห้อง พร้อมกับหยิบทีรามิสุไปด้วยชิ้นหนึ่ง
“คารวะราชามังกร!”
ในตอนนั้นเอง ก็ได้มาคนๆ หนึ่งค่อยๆ เดินเข้ามา คนๆ นี้ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นจินไห่เวยที่เพิ่งเจอกันในวันนี้นี่เอง
เนี่ยเฟิงโบกไม้โบกมือ “อยู่ข้างนอกก็ไม่ต้องป่าวประกาศออกมาก็ได้ เรียกผมว่าคุณเนี่ยก็พอ”
“ครับ คุณเนี่ย” จินไห่เวยพยักหน้ารัวๆ
“ราชา……คุณเนี่ยคะ! ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะที่มีโอกาสได้พบคุณแบบนี้! ฉันเป็นทหารระดับปิ่น เสิ่นโจวค่ะ!”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
เนี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวค่อนข้างเหมาะสม เธอดูสวยเหมือนกับดอกโบตั๋นที่เลอค่า
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยที่เกิดจากกาลเวลา แต่ที่ว่าความงามเหนือกาลเวลานั้น เธอยิ่งแก่ยิ่งสวยจริงๆ
เนี่ยเฟิงยิ้มที่มุมปาก “ที่แท้ก็พี่เสิ่นนี่เอง”
เสิ่นโจวอึ้งไปแปบหนึ่ง นี่ราชามังกร ราชามังกรรู้จักเธออย่างนั้นเหรอ?!
ความจริงเธอรู้มาสักพักแล้วว่าราชามังกรได้มาที่เมืองจินไห่นี้ เธอจึงรู้สึกเป็นเกียรติมาก!
ตอนอยู่เมืองนอกราชามังกรนั้นเก่งกาจเกรียงไกร ทรัพย์สมบัติมีอยู่ทั่วโลก พวกเขาคิดว่าตอนที่ราชามังกรทำการปฏิวัติจะเริ่มจากเมืองหลวงซะอีก
ไม่นึกเลยว่าราชามังกรจะเลือกมาที่เมืองจินไห่นี่! มันจึงทำให้เหล่าทหารที่รักษาการณ์อยู่ที่นี่รู้สึกเซอร์ไพรส์มากเลย!
เดิมทีพวกเขาก็ตั้งใจที่จะทำการต้อนรับอย่างใหญ่โต แม้แต่ผู้ว่าของมณฑลก็เรียกมาแล้ว
แต่ราชามังกรกลับบอกว่า: เรื่องที่เขากลับมาในวันนี้ห้ามป่าวประกาศออกไปเด็ดขาด! เพราะเขามีเรื่องสำคัญต้องไปทำ
เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเขาจึงต้องยกเลิกความตั้งใจไป
แล้วราชามังกรก็บังเอิญมาร่วมงานประมูลนี้พอดี เหล่าทหารจึงแย่งกันเข้ามาทักทาย
เนื่องจากแขกที่มาร่วมงานในวันนี้มีแต่พวกระดับสูง ดังนั้นทหารที่มาก็มีแต่ระดับอี๋ขึ้นไปทั้งนั้น
เสิ่นโจวก็เป็นหนึ่งในนั้น
เธอเข้าวงการมาตั้งแต่สิบกว่าปีที่แล้ว จนตอนนี้เธอดังจนถูกเรียกว่าเป็นราชินีแห่งวงการบันเทิงไปแล้ว
แต่เมื่อมาอยู่ต่อหน้าราชามังกรแล้ว เธอก็แค่คนด้อยค่าคนหนึ่งเท่านั้น!
คนด้อยค่าอย่างเธอไม่มีค่าพอให้ราชามังกรต้องจดจำหรอก!
“พี่เสิ่นลืมผมไปแล้วเหรอครับ”
เนี่ยเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณน่าจะจำพ่อผมได้นะ พ่อผมชื่อเนี่ยเจิ้ง”
เสิ่นโจรรู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า! เธอยืนอึ้งอยู่กับที่ น้ำตาแห่งความตื้นตันก็ได้ไหลออกมา!
“ที่แท้ก็เสี่ยวเฟิงนี่เอง! ไม่สิ ราชามังกร! โปรดให้อภัยด้วย!”
ตอนนั้นเสิ่นโจรยังเป็นแค่ตัวประกอบ และได้เนี่ยเจิ้งนี่แหละที่เห็นแววของเธอ จนทำให้เธอมาถึงวันนี้ได้!
หลังจากที่ตระกูลเนี่ยล่มสลาย บริษัทการสื่อสารจินไห่เปลี่ยนแปลงผู้นำ แต่เธอก็ยังไม่ได้ไปไหน!
เพราะเธอคิดอยู่เสมอว่า สักวันหนึ่งเจ้าบ้านที่แท้จริงจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!
เธอไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าเด็กน้อยที่น่ารักคนนั้นจะกลายเป็นราชามังกรที่ใครๆ ต่างก็ยำเกรงแบบนี้!
“พี่เสิ่นสามารถเรียกผมว่าเสี่ยวเฟิงได้นะครับ พี่มีสิทธิ์ที่จะเรียกแบบนั้น หลังจากที่ตระกูลเนี่ยล่มสลาย พี่คงลำบากน่าดูเลยสินะครับ?”
เมื่อเนี่ยเฟิงมาพบกับคนที่เคยรู้จักตอนสมัยเด็กแบบนี้ มันก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่ใจ
“ไม่เลยค่ะ! ฉันเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าบ้านที่แท้มารุ่งโรจน์อีกครั้ง! ในที่สุดฉันก็ได้เห็นมันสักที!”
เสิ่นโจวเช็ดน้ำตาให้ตัวเองเบาๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเธอกำลังรู้สึกทราบซึ้งมาก
“ยังไงวันนี้ผมก็บังเอิญมาที่นี่แล้ว เดี๋ยวพวกคุณก็ช่วยไปบอกพวกทหารที่รักษาการณ์อยู่ที่นี่ที ว่าเหตุผลที่ผมมางานประมูลในวันนี้ก็เพราะวิลล่าซิงเยว่ แต่ผมไม่สะดวกที่จะออกหน้าเอง ดังนั้นเรื่องการประมูลวิลล่าซิงเยว่ก็ต้องรบกวนพวกคุณแล้ว”
“ครับ/ค่ะ! คุณเนี่ย!”
จินไห่เวยกับเสิ่นโจวรีบรับปากทันที
คนที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้มีประมาณสามร้อยคน ส่วนทหารระดับอี๋ของสำนักมังกรมีทั้งหมดยี่สิบคน ระดับเจี๋ยมีห้าคน
“บอกให้พวกเขาแยกย้ายไปได้ ไม่ต้องมาทักทายแล้ว ผมอยากอยู่เงียบๆ”
จินไห่เวยรู้สึกเป็นเกียรติมาก ถึงตัวเองจะอยู่แค่ระดับอี๋แต่ก็ยังมีโอกาสได้ทักทายราชามังกร
แม้แต่ระดับเจี๋ยยังไม่ได้รับโอกาสนี้เลย!
พวกเขาคงต้องรู้สึกเสียใจมากแน่ๆ
ก่อนการประมูลจะเริ่ม ก็ยังมีงานเต้นรำขั้นไว้อยู่ มันมีไว้เพื่อให้ผู้คนได้ทำความรู้จักกัน
ดังนั้นวันนี้คางเมิ่งจึงได้พาเนี่ยเฟิงมาด้วย
หลังจากเธอไปทักทายกับผู้กำกับและคนอื่นๆ ในทีมแล้ว เอเจนซี่ของเธอก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวเมิ่ง เราไปทักทายนายทุนกันหน่อยมั้ย?”
หุ้นส่วนใหญ่ของซีรี่ย์เรื่อง《ชิงผิงเลิก》นะเหรอ?
คางเมิ่งยังไม่เคยได้เจอเขาเลยจริงๆ เธอรู้สึกลังเลเธอกลัวจะปล่อยให้เนี่ยเฟิงรอนานเกินไป “ไม่ไปไม่ได้เหรอ?”
เธอยังเป็นแค่ตัวรองเท่านั้นเองนะ
เอเจนซี่ดูหน้าเสียไปในทันที “เธออย่าลืมนะว่ากว่าจะได้ตำแหน่งนี้มามันยากขนาดไหน! ถ้านายทุนเขาเกิดถูกใจเธอขึ้นมา ต่อไปซีรี่ย์ที่พวกเขาจะไปลงทุนก็จะมีเธออยู่ในนั้นด้วย!”
คางเมิ่งคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายเธอก็พยักหน้า “ก็ได้ งั้นเราไปกันเถอะ”
เอเจนซี่ยิ้มออกมา จากนั้นก็พาคางเมิ่งขึ้นชั้นสองไป
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้อยู่ในสายตาของเนี่ยเฟิงหมดแล้ว เขามองเห็นทุกอย่างชัดเจน
คางเมิ่งเดินตามเอเจนซี่ไปยังห้องรับรองที่อยู่ชั้นบน พอประตูเปิดออก อากาศภายในดูจะไม่ค่อยพึงประสงค์สักเท่าไหร่
คางเมิ่งไม่ค่อยชอบคนสูบบุหรี่เท่าไหร่ แต่เธอก็ยังฝืนขมวดคิ้วเข้าไป “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อคางเมิ่ง รับบทเป็นนางรองในเรื่อง 《ชิงผิงเลิก》ค่ะ”
ผู้ชายสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ พอได้ยินเสียงของคางเมิ่งพวกเขาก็เงยหน้าขึ้นมา ผู้ชายคนนี้อายุราวๆ สามสิบ ดูเป็นคนสุภาพ
เขาใส่แว่น ท่าทางเรียบร้อย
“ที่แท้ก็คุณนี่เอง!” เขายิ้มออกมา “มาครับ มานั่งตรงนี้ อย่าเอาแต่ยืนอยู่เลยครับ”
คางเมิ่งพยักหน้า จากนั้นก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ
“อย่าตื่นเต้นไปเลยครับ ผมชื่อหลัวปิน คุณชื่อคางเมิ่งใช่มั้ย? คุณเล่นบทนางรองได้ดีมาก! ดูแล้วผมรู้สึกอินมากเลย!”