พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - ตอนที่ 383 เงินสดสิบคันรถ
หลินซูอินถามด้วยความสงสัย “นายหมายถึงซื้อบ้านเหรอ? อย่าบอกนะว่านายหมายถึงการซื้อบ้านที่นี่?”
นี่มันเรื่องเหลวไหลจริงๆ เพราะบ้านที่นี่มีมูลค่าหนึ่งพันล้าน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อไหว!
“ใช่ ผมตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อบ้านที่นี่! เพราะการรักษาความปลอดภัยที่นี่ดีมาก!”
เนี่ยเฟิงพูดเช่นนี้ พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นอนอยู่บนพื้นต่างก็รู้สึกถึงการประชดประชันที่รุนแรง
ถ้าการรักษาความปลอดภัยที่นี่ดี ตอนนี้พวกเขาจะมานอนบนพื้นอย่างนี้ได้อย่างไร
แม้ว่าพวกเขาจะโกรธมาก แต่ก็ไม่มีแรงทำอะไรได้
หลินซูอินไม่รู้ว่าเนี่ยเฟิงคิดจะทำอะไรกันแน่ เพราะเนี่ยเฟิงดูท่าทางไม่เหมือนกำลังพูดเล่นเลย…
และในขณะนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ประตูอย่างกะทันหัน
“คุณชาย เงินสดที่คุณต้องการมาถึงแล้ว”
คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เขาคือเนี่ยเหล่าสี่
ดวงตาของเนี่ยเฟิงเป็นประกาย!
“ดี! พวกคุณยังมัวทำอะไรอยู่บนพื้น? รีบลุกขึ้นไปขนเงินสิ”
เนี่ยเฟิงพูดพลางเตะหัวหน้ารปภ.ที่อยู่บนพื้น
หัวหน้ารปภ.ยังคงรู้สึกว่าตัวเองหายใจไม่ออก เจ้าหมอนี่เป็นจอมเผด็จการเหรอไง? ไม่งั้นเขาจะกดขี่คนอื่นแบบนี้เหรอ?
แต่พวกเขาก็กลัวเนี่ยเฟิงอย่างอธิบายไม่ถูก ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนนักศึกษาวิทยาลัยทั่วไป
นักศึกษาวิทยาลัยคนหนึ่งจะมีรัศมีที่น่ากลัวเช่นนี้หรือ?
หัวหน้ารปภ.ก็เคยออกไปสู้รบ เขาปลดประจำการจากกองทัพเพราะได้รับบาดเจ็บ
ท่ามกลางห่ากระสุนปืนเขายังไม่รู้สึกกลัวเช่นนี้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัว
เขาจำต้องลุกขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบาก แล้วเดินกะโผลกกะเผลกออกไป
พอออกไป เขาก็ตกตะลึง!
เพราะมีรถบรรทุกสิบคันจอดอยู่ข้างนอก!
รถบรรทุกประเภทนี้เป็นรถบรรทุกที่บรรทุกสินค้าที่ท่าเรือ! พวกมันเข้ามาในชุมชนได้อย่างไร?!
เนี่ยเหล่าสี่พยักหน้าให้พวกเขา ก่อนจะบอกให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูรถ ข้างในมีกล่องสีเงินมากมาย
เงินหนึ่งพันล้านนั้นไม่ใช่จัดหามาได้ง่ายๆ หากไม่ได้นัดหมายไว้ ทางธนาคารก็ไม่สามารถจ่ายเงินได้มากขนาดนี้
บวกกับเงินหนึ่งพันล้านนี้ ยังเป็นธนบัตรมูลค่าหนึ่งหยวนทั้งหมดด้วย
กล่องสีเงินจำนวนมาก ภายในล้วนมีธนบัตรหนึ่งหยวนเป็นปึกๆ อยู่
ธนบัตรนี้นั้นมีน้ำหนักมากอยู่แล้ว หัวหน้ารปภ.หยิบมันลงมา เมื่อเปิดออกดู ก็ต้องตกตะลึง
“นี่…นี่มัน!”
“พวกคุณนับสิ! หนึ่งพันล้าน อ้อ ใช่แล้ว ต้องนับด้วยมือนะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเนี่ยเฟิงคือแสงอาทิตย์ แต่สิ่งที่เขาพูดออกมาเหมือนปีศาจ
เมื่อผู้จัดการเห็นเงินจำนวนมาก ก็ถึงกับหน้าเขียวทันที เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ยังมัวยืนอึ้งอยู่ทำไมล่ะ? รีบมานับเงินสิ! เวลาของผมมีจำกัดนะ พวกคุณควรนับให้เสร็จก่อนที่ความอดทนของผมจะหมดลง ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไม่ซื้อบ้านอีก”
เนี่ยเฟิงหาที่นั่งแล้วนั่งลง เขาเงยหน้ามองทีมรักษาความปลอดภัย “พวกคุณอย่ามัวแต่อึ้ง ขนเงินลงมาสิ”
ทีมรักษาความปลอดภัยมองไปที่รถบรรทุกทั้งสิบคัน ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการขนกล่องจำนวนมากขนาดนี้!
“พวกเราไม่ขายแล้ว!”
แน่นอนว่าผู้จัดการต้องการขายคฤหาสน์ราชาให้หมด แต่เนี่ยเฟิงทำแบบนี้มันแกล้งกันเกิดไป? เขาจะตอบตกลงได้อย่างไร?
“ไม่ขายเหรอ?”
เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วขึ้น “ไม่ได้ พวกคุณนี่ดื้อจัง ตราบใดที่ผมต้องการ ผมต้องได้มันมาให้ได้ ถ้าคุณไม่นับเงินดีๆ ผมไม่ติดอะไรที่จะต้องหักมือคุณในตอนนี้”
เนี่ยเฟิงไม่ได้พูดเล่น ดวงตาของเขาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง เย็นจนทำให้คนต้องตัวสั่น
ผู้จัดการนึกถึงเมื่อครู่ที่เนี่ยเฟิงจัดการได้ทั้งทีมตามลำพัง จึงนึกกลัวขึ้นมา เขาเลียริมฝีปากอันแห้งผาก ดูท่าทางว่าจำเป็นต้องนับจริงๆ แล้ว…
เนี่ยเฟิงกำลังแกล้งเขาอยู่แน่ๆ!
แต่ถึงเขารู้ก็ไม่กล้าปฏิเสธ!
อสุรกายเนี่ยเฟิงยังยืนอยู่ข้างๆ!
หลินซูอินก็ตกใจมากเช่นกันเมื่อเห็นเงินสดจำนวนมาก “เสี่ยวเฟิง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“พี่สาม พี่รีบมาตรงนี้เร็ว เมื่อกี้ตกใจเหรอ? ไม่มีอะไร ผมแค่เล่นสนุกนิดหน่อย!”
เนี่ยเฟิงแสยะยิ้ม “จะว่าไปแล้ว เจ้าหมอนี่น่ารังเกียจมาก ยังคิดจะมาตบพี่อีก ต้องสั่งสอนบทเรียนให้เขาเสียหน่อย มิฉะนั้นวันหลังเขาจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาอีก!”
เนี่ยเฟิงพูดถูก
แม้ว่าหลินซูอินจะรู้สึกไม่ค่อยดีนัก แต่หลินซูอินและพี่สาวคนอื่นๆ ของเนี่ยเฟิงก็เชื่อมั่นในตัวเนี่ยเฟิงอย่างไม่มีเงื่อนไข
แม้ว่าหลินซูอินจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะถามเนี่ยเฟิงอย่างไร เธอจึงต้องนั่งลงข้างเนี่ยเฟิง มองดูผู้จัดการและคนอื่นๆ นับเงินอย่างเหน็ดเหนื่อย
ชั่วชีวิตนี้ผู้จัดการไม่เคยคิดว่าตัวเองจะรังเกียจธนบัตรมากขนาดนี้!
เพราะมันมีมากจนเกินไป เขานับไม่ไหวจริงๆ!
ทีมรักษาความปลอดภัยยังรู้สึกสุดจะบรรยาย พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขนเงินสดจำนวนสองคันออกจากรถ
เขารู้สึกว่ามันเหนื่อยมากกว่าการฝึกทหารเสียอีก ตอนนี้เขาเสียใจมาก หากโลกนี้มียารักษาความเสียใจ เขาจะกินสักร้อยขวด
เนี่ยเฟิงกับหลินซูอินกลับไม่ต้องทำอะไรเลย แต่หลินซูอินนั่งอยู่ตรงนี้ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก
“เสี่ยวเฟิง พี่กลับไปบอกพวกพี่ๆ ก่อนดีไหม?”
เนี่ยเฟิงพยักหน้า “ผมจะให้ลุงสี่ไปส่งพี่! แล้วค่อยพวกพี่ๆ มาที่นี่เพื่อดูบ้านใหม่ของเรา!”
หลินซูอินเห็นกล่องเงินที่อัดแน่นอยู่ในห้องนั่งเล่น ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
หลังจากที่เธอกลับไป เนี่ยเฟิงก็นั่งไขว่ห้างแล้วพูดว่า “เงินในแต่ละกล่องไม่เท่ากัน คุณต้องนับให้ดี ถ้านับผิดไปแม้แต่สตางค์เดียว ผมจะให้คุณนับใหม่”
ผู้จัดการตัวสั่น กลืนน้ำลายดังเอื๊อก!
นี่มันปีศาจตนใดกัน! ทำไมช่างน่ากลัวอย่างนี้?
ผู้จัดการยังรู้สึกว่ามันไม่มีเหตุผลเลย เขามักจะมองคนได้อย่างแม่นยำ ทำไมครั้งนี้เขามองพลาดไป? ทำไมถึงมองไม่ออกว่าเนี่ยเฟิงเป็นคนมีเงิน?
ถ้าเขารู้ว่าเนี่ยเฟิงรวยมาก เขาจะทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?
ในเวลานี้เขาเสียใจหนักมากถึงมากที่สุด!
เนี่ยเฟิงถือโอกาสสั่งอาหารมากินอย่างมีความสุข กินไปมองดูพวกเขานับเงินอย่างเหน็ดเหนื่อยไป
หลินซูอินกลับมาถึงบ้านด้วยท่าทางหนักใจ เมื่อเห็นชิวมู่เฉิง เธออยากจะพูดแต่ก็ยั้งไว้
“เธอเป็นอะไรไป?”
ชิวมู่เฉิงสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างของหลินซูอิน จึงวางแฟ้มเอกสารลงแล้วถามขึ้น
“เสี่ยวเฟิงซื้อห้องชุดแล้ว”
ชิวมู่เฉิงพยักหน้า “เท่าไหร่เหรอ? ฉันจะได้โอนไป”
“หนึ่งพันล้าน”
คางเมิ่ง “…”
เย่หรูเสว่ “…”
บรรดาพี่น้อง “…”
ชิวมู่เฉิงขมวดคิ้วบางๆ “รอแป๊บหนึ่ง ฉันจะให้คนไปจัดการเรื่องเงินเดี๋ยวนี้”
คางเมิ่งเปิดโทรศัพท์ดูเงินที่อยู่ในมือของตัวเองอย่างเงียบๆ
หมิงอี๋หานได้เตรียมขายหุ้นแล้ว
“เขาเอาเงินไปซื้อทั้งหมด”
ในห้องเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ราวกับว่าต่อให้เข็มร่วงหล่นก็ยังได้ยิน
“ไม่ใช่…ทำไมเสี่ยวเฟิงถึงมีเงินถึงพันล้าน? หรือว่าเขาจะขาย Victoria’s Tears ไปแล้ว?”
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้
“ฉันไม่รู้”
หลินซูอินกัดริมฝีปากล่าง “ตอนนี้เขาอยู่ในคฤหาสน์ราชาของอ่าวหยกเขียว ผู้จัดการกำลังนับเงินอยู่”
“บ้าไปแล้วเหรอ? ธนบัตรจำนวนหนึ่งพันล้าน?”
เย่หรูเสว่เบิกตากว้าง!
“ใช่ ฉันรู้สึกว่ามันแปลกมาก เขาเอาเงินสดจำนวนหนึ่งพันล้านมาจากไหน”
หมิงอี๋หานอดทอดถอนใจไม่ได้ เจ้าเด็กบ้านี่ทำอะไรไม่เคยไม่อลังการเลย