พี่สาวเจ็ดคนที่สวยสง่าของผม - ตอนที่ 336 คลับ
ฝูยานหรงเห็นว่าเนี่ยเฟิงปฏิบัติตัวได้ไม่เลวนัก จึงพยักหน้า และก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย
“เอาล่ะ หยุดพูดพร่ำเพรื่อได้แล้ว ปู่ของฉันเร่งแล้ว นายยังอยากไปดูที่ไหนอีก?พูดมาตรงๆเลย!”
เนี่ยเฟิงลูบคาง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“เราไปสถานที่พลุกพล่านของเมืองหนานหูดีไหม?”
“เรื่องมากจริงๆ!”
ถึงแม้ฝูยานหรงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ยังคงขับรถออกไปอยู่ดี
เนี่ยเฟิงมองดูวิวทิวทัศน์ด้านนอก แล้วเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจไปว่า“ใครเป็นคนสอนศิลปะการต่อสู้ให้เธอเหรอ?”
“เกี่ยวอะไรกับนายด้วย?อย่าคิดว่านายจะเป็นวิชาแมวสามขา(คำอุปมาเปรียบกับคนที่ไม่มีความสามารถ)แล้วจะสั่งจะสอนฉันได้นะ”
“ผมไม่มีความกล้าพอที่จะสอนคุณหรอกครับ ผมแค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้นเอง ไม่รู้ว่าคุณบอกกับผมมาได้ไหม”
ฝูยานหรงเชิดคางขึ้น แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ“ฉันเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ ฉันฝึกฝนโดยไม่มีครูอาจารย์ เพราะฉะนั้นไม่มีใครสอนฉันทั้งนั้นแหละ”
เนี่ยเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็มีคนบางกลุ่มในโลกที่เรียนรู้ด้วยตัวเองเช่นกัน
“นี่มันสุดยอดจริงๆนะ ถ้าคุณมีคนคอยชี้แนะ จะต้องก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดแน่นอน”
ฝูยานหรงเบะปาก“คุณปู่ของฉันไม่ได้คิดแบบนี้หรอกนะ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือหาสามีที่ดีให้กับฉัน”
ฉะนั้นฝูยานหรงจึงเข้าใจผิดเนี่ยเฟิงตั้งแต่เริ่ม เพราะว่าฝูหลังตงมักจะหาคู่ให้เธอบ่อยๆ
“ฉันคิดว่าถ้าคุณไม่ชอบ ก็บอกกับคุณปู่ตรงๆสิครับ ถึงจะยังไงปู่ฝูน่ะก็เป็นคนที่มีเหตุมีผลมากเลยนะครับ”
“ฉันก็อยากพูดเหมือนกัน แต่ทำไม่ได้น่ะสิ”
ฝูยานหรงส่ายหัวไปมา ถึงเธอจะพูดไป ท่านฝูก็จะต้องให้เธอหา เพราะว่าปู่ของฝูยานหรงสงสัยว่าขืนถ้าฝูยานหรงใช้ความสามารถของตัวเองจะต้องหาแฟนไม่ได้แน่
อีกทั้งเพราะว่าพ่อแม่ของฝูยานหรงเสียชีวิตไปแล้ว ถ้าหากท่านฝูจากไป สมบัติอันล้ำค่าของพิพิธภัณฑ์ก็จะตกอยู่ในมือของฝูยานหรง
ดังนั้น ฝูยานหรงจึงเป็นที่หมายตาต้องใจของคนจำนวนมาก
“ช่างเถอะ อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย”
ฝูยานหรงรู้สึกถึงความรำคาญใจอย่างพูดไม่ถูก เธอขับรถเหมือนเหินบิน ผ่านไปไม่นานก็มาถึงใจกลางเมือง
ที่นี่เจริญรุ่งเรืองมาก ในอดีต พ่อแม่ของเนี่ยเฟิงเคยมาที่นี่ แต่ก็มาเพื่อพูดคุยธุรกิจ
พ่อแม่ของเขาเป็นอัจฉริยะด้านการทำธุรกิจ นำพาตระกูลเนี่ยมาสู่ตำแหน่งแนวหน้า พูดได้ว่าเป็นคนที่เก่งมากๆเลยทีเดียว
สมัยนั้น เงินไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น
หลังจากที่ตระกูลเนี่ยหาเงินได้ ก็นำเงินออกไปทำบุญทำการกุศล นี่ไม่ใช่เรื่องตลก มันคือเรื่องจริง
ดังนั้น ตระกูลเนี่ยจึงได้สร้างบารมีไว้มากมาย
เพียงแต่ อาจจะเป็นเพราะต้นไม้ใหญ่ไปจึงทำให้เรียกลมพายุฝนมากก็เป็นได้ มันจึงทำให้คนจำนวนมากอิจฉาตระกูลเนี่ย และทำให้ตระกูลเนี่ยต้องพบเจอกับหายนะ
ผ่านไปไม่นานรถก็แล่นมาจนถึงใจกลางเมือง ฝูยานหรงจอดรถไว้ที่ลานจอด ตบมือแล้วลงจากรถไป“ไปกันเถอะ!”
ในตอนที่เนี่ยเฟิงลงจากรถมานั้น ฝูยานหรงก็ใช้มือถือถ่ายรูปเขา ฝูหลังตงให้เงินฝูยานหรงมาเป็นพิเศษ“หนูไปเที่ยวเล่นเถอะ!อย่าละเลยคุณชายเนี่ยเฟิงล่ะ!รู้ไหม!”
ฝูยานหรงที่มองเห็นข้อความนี้ ถึงกับกลอกตามองบน เธอบ่นๆด่าๆพลางรับเงินมา ในใจของเธอกำลังคิดว่าไอ้หมอนี่เป็นคนตระกูลเนี่ยไม่ใช่หรือ หรือไม่มีเงินเลยแม้แต่แดงเดียวกันนะ?
ความเป็นจริงแล้ว เนี่ยเฟิงคือร่ำรวยเทียบเท่าประเทศเลย
เนี่ยเฟิงเข้าไปก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องไปเที่ยวที่ไหน พวกเขาเดินไปมาอยู่หนึ่งรอบ จากนั้นเนี่ยเฟิงก็รู้สึกเบื่อหน่ายมาก
“ผมคิดว่างานอดิเรกของเราคล้ายๆกัน ปกติคุณชอบไปฆ่าเวลาที่ไหนเหรอ?คุณพาผมไปดูหน่อยได้ไหม?”
ฝูยานหรงรู้สึกเบื่อหน่ายจริงๆนั่นแหละ เนื่องจากห้างนี้ไม่มีอะไรให้ช้อปปิ้งเลย
พอได้ยินเนี่ยเฟิงพูดมาแบบนั้น ฝูยานหรงจึงนึกถึงสถานที่แห่งหนึ่ง
“ได้สิ!งั้นฉันจะพานายไปสถานที่ที่ฉันชอบไปบ่อยๆดูก็ได้!”
ฝูยานหรงพูดจบ ก็พาเนี่ยเฟิงขึ้นรถ
ผ่านไปไม่นานรถก็พุ่งทะยานแล่นมาถึงถนนเปรี้ยวจี๊ดที่สุดแห่งหนึ่ง
มันเป็นเปรี้ยวจี๊ด เพราะถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยกราฟฟิตี้ ซึ่งมีสีสดใส และในสองข้างทางมีแต่นักสเกตบอร์ดวัยรุ่นชาย และหญิงเต็มไปหมด
ถึงแม้เนี่ยเฟิงจะอายุยังน้อย แต่หัวใจและความคิดของเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ท่าทางดูไม่เข้ากับคนที่นี่เลย
“ทำไมเหรอ?”
ฝูยานหรงอายุน้อยกว่าเนี่ยเฟิง มันเป็นปกติที่เธอชอบมาสถานที่แห่งนี้
“หรงหรง!เธอมาแล้วเหรอ?”
ในเวลานี้เอง มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่แต่งตัวทันสมัยเดินเข้ามา ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉง
“อืม!เป็นยังไงบ้าง?อุปกรณ์พวกนี้ยังดีอยู่ไหม?”
ฝูยานหรงมองหน้าเนี่ยเฟิง ด้วยสีหน้าที่ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนของตัวเองแล้ว ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก!ขอบใจนะ!”
เดิมที ถนนเส้นนี้เป็นกิจการของพวกฝูยานหรง ที่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ก็เพราะพวกกลุ่มของฝูยานหรงสร้างขึ้น
และที่นี่ก็เป็นคลับที่ฝูยานหรงสร้างขึ้น และมันมีชื่อว่าคลัปไวท์วูล์ฟ
“นี่ใครเหรอ?ทำไมดูเหมือนเด็กเนิร์ดเลยล่ะ?”
ชายผู้มีผมเปียสกปรกเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ในปาก มองไปที่เนี่ยเฟิงอย่างวิพากษ์วิจารณ์
เขาอิจฉามาก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฝูยานหรงถึงอยู่กับผู้ชายคนนี้ได้
“เหลยจ้าน นี่คือลูกชายเพื่อนของคุณปู่ฉัน ชื่อเนี่ยเฟิง”
ฝูยานหรงเหลือบตามองเนี่ยเฟิงแวบหนึ่ง แล้วยักไหล่“ช่วยไม่ได้ เป็นภารกิจที่คุณปู่ของฉันมอบหมายให้!”
คนที่นี่ต่างรู้เรื่องที่ฝูยานหรงถูกบังคับให้นัดบอด พวกเขาจึงเห็นใจฝูยานหรงเป็นอย่างมาก
แต่เพราะว่าพวกเขาแสวงหาความเป็นตัวของตัวเอง อิสระ เพราะฉะนั้นหลายคนจึงมีนิสัยเป็นของตัวเอง และมีความฝันของตัวเองกับความคิดของตัวเอง
พวกเขาดื้อรั้น และมีเทรนด์อื่นๆ
เนี่ยเฟิงไม่มีเวลาและกำลังที่ไล่ตามความเป็นอิสระที่ว่า เพราะว่าเนี่ยเฟิงรู้ดีว่า การเอาชีวิตรอดเท่านั้นที่จะสามารถมีอิสระลวงตาเหล่านั้นได้
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง!ฉันว่าแล้วไง หมอนี่ดูท่าจะไม่เข้ากับพวกเราสักนิดเลยนะ”
เหลยจ้านเบะปาก“นี่อย่าสนใจเขาเลย!พวกเรามาเล่นกันเถอะ!”
เนี่ยเฟิงมองดูสถานที่แห่งนี้ด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ สร้างปฏิรูปได้ไม่เลวเลย เพียงแต่ขาดอะไรบางอย่าง
“ถนนของเธอพอดูได้ แต่มารยาทของคนในคลับคุณดูจะไม่เท่าไหร่”
“นี่!นายหมายความว่าไงวะ?”
เดิมทีเหลยจ้านไม่พอใจที่เนี่ยเฟิงยืนอยู่ข้างหายฝูยานหรงอย่างสบายใจอยู่แล้ว ตอนนี้เนี่ยเฟิงยังคงเทศนาพวกเขา ซึ่งมันทำให้เหลยจ้านรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
“ก็นั่นน่ะสิ อะไรคือมารยาทไม่ดี?”
คนอื่นที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกโกรธขึ้นตามๆกัน
ฝูยานหรงรู้สึกตกใจ กำลังครุ่นคิดว่าไม่ควรพาเนี่ยเฟิงมาที่นี่ตั้งแต่แรก ทำให้คนอื่นๆไม่พอใจเขา
ตอนนี้ฝูยานหรงยังคงศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ พวกเขาล้วนเรียนคณะเดียวกัน และบังเอิญมีสถานที่แสดงศักยภาพของตัวเอง ถึงแม้ฝูยานหรงจะต่อสู้เก่ง แต่หัวใจและความคิดของเธอยังคงบริสุทธิ์อยู่
“ฉันพูดไม่ผิดเลยนะ พวกนายดูสิ ขยะบนพื้นพวกนายไม่ได้เป็นคนทิ้งอย่างนั้นเหรอ?”
เนี่ยเฟิงพูดจบ ก็มีคนคนหนึ่งที่สวมหมวกไหมพรมคายหมากฝรั่งลงพื้น
“นายจะไปเข้าใจอะไรเลย?คนที่ไล่ตามอิสระของตัวเองไม่จำเป็นต้องไปคิดอะไรมากอยู่แล้ว!”
เหลยจ้านทำเสียงหึอย่างเย็นชา
“ผมคิดว่า การแสวงหาอิสรภาพไม่ได้เกี่ยวกับการตามใจตัวเอง อิสรภาพสามารถบรรลุได้ด้วยการยับยั้งชั่งใจนะครับ”
เนี่ยเฟิงยักไหล่ เด็กในตอนนี้ไล่ตามหาในสิ่งที่คาดหมายไม่ได้จริงๆ
“หึ!พูดน่าฟัง!นายจะไปเข้าใจอิสรภาพได้ยังไง?รู้ไหมอะไรคือความเร็ว?นายเข้าใจพวกเราไหม?รู้ไหมอะไรคือการเล่นสเกตบอร์ด?”