ตอนที่ 8: น้องสาวผู้น่ารักของฉันยอมพูดเปิดใจนิดหน่อย
“อย่างน้อยการไว้ชีวิตพวกนั้นก็มีประโยชน์ใช่ไหมละ ?”
หลังจากที่ตัดสินใจจะไว้ชีวิตคนพวกนั้น ฉันก็ทำการปล่อยม้าทั้งห้าตัวให้วิ่งไปคนล่ะทางเพื่อสร้างความสับสนให้กับพวกที่กำลังไล่ตามพวกเรา
ในขณะที่เราทั้งคู่ต่างมุ่งหน้าเดินเข้าป่าแล้วใช้ทางอ้อมเพื่อหลีกหนีการติดตามของพวกนักวิจัย ทางด้านกลุ่มชายร่างท้วมและคณะ ฉันก็ขอให้ไอรินล้างสมองคนพวกนั้นทำให้พวกเขาเข้าใจผิดว่าพวกเราไปอีกทาง รวมถึงฝังคำสั่งว่า ‘ห้ามทำเรื่องชั่วๆ’ เข้าไปในหัวของพวกเขา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเขาจะต้องไม่ทำเรื่องชั่วร้ายเหมือนที่จะทำกับพวกเราอีก
ทว่า นิยามของคำว่าชั่วร้ายของแต่ล่ะคนก็คงต่างกันมากเกินไป ฉันเลยขอให้ไอรินฝังคำสั่งอีกอย่างก็คือ นับแต่นี้ไปพวกเขาจะต้องทำตามคำสอนของ ศาสดาอัลเฟอุส ….ศาสนาซึ่งแม้จะล่มสลายไปแล้ว แต่คำสอนก็แพร่หลายในปัจจุบันเพื่อความสะดวกในการจัดระเบียบทางสังคม
ฉันคิดว่าอย่างน้อยมีกฎที่เป็นลายลักษณ์อักษระบุจะช่วยลดโอกาสที่พวกเขาจะใช้ช่องว่างหาทางทำเรื่องไม่ดีๆจากคำสั่งที่กำกวมอันแรกของไอริน นี่คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะคิดได้ แม้ว่าไอรินจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
ทว่า ถึงจะบ่น แต่เธอก็ยอมทำตามที่ฉันพูดทุกอย่าง
ขอโทษนะที่ทำอะไรแกมบังคับ แล้วก็ขอบคุณมากที่เข้าใจพี่
หลังจากสร้างข้อมูลเท็จเสร็จ ก็ตามที่ได้พูดเอาไว้ว่า เราทั้งคู่ต่างหนีเข้าป่า โดยที่พวกเราก็ได้เอาทรัพย์สมบัติบางส่วนของพวกเขาติดตัวมาด้วย ถือซ่ะว่าเป็นค่าทำขวัญและค่าเสียโอกาสล่ะกัน
ในตอนนี้ไอรินกำลังเดินอยู่ข้างฉัน โดยสวมรองเท้าผ้าใบและมีผ้าคลุมสีม่วงคลุมทับเสื้อผ้าขาดๆอีกที มงกุฎที่ทำให้ในวันแรกไอรินก็ยังสวมเอาไว้อยู่ ไม่ยอมถอดออกยกเว้นตอนนอน และในตอนที่กำลังเดินชมนกชมไม้ด้วยกัน ไอรินก็ลูบกิ๊ปติดผมรูปดวงดาวที่ฉันสร้างให้ไปพลางๆ
ดีจริงๆที่เธอชอบมัน ครั้งหน้าจะทำอะไรให้ไอรินดีนะ ?
จะว่าไป มันก็น่าเสียดายจัง ถ้าในรถขุนนางนั่นมีเสื้อผ้ามากกว่านี้ ฉันคงหามาเปลี่ยนให้ไอรินได้แล้วแท้ๆ
เราทั้งคู่ก็เลยได้เครื่องแต่งกายเพิ่มมาแค่ผ้าคลุมสีแดงสำหรับฉัน ผ้าคลุมสีม่วงสำหรับไอริน และรองเท้าผ้าอย่างล่ะคู่ ซึ่งสีก็ดูฉูดฉาด และ ราคาน่าจะแพง
ฉันคิดว่า ควรจะหาโอกาสเอาไปขายในเมืองถัดไป เพื่อลดความน่าสงสัยดีกว่า มันดูคล้ายของชนชั้นสูงมากเกิน ไม่ค่อยเข้ากับพวกเราเท่าไหร่
ของนอกเหนือจากเครื่องแต่งกายก็มี ไอเท็มบอกซ์รูปแบบถุงผ้า(ไอเท็มเวทมนต์ที่ร่ายเวทย์มิติทำให้สามารถจุของได้เป็นจำนวนมากกว่าถุงผ้าเท่าๆไปเป็นสิบเท่า) อาหารแห้ง พวกเครื่องครัวเช่นหม้อหรือจานชามหน้าตาดูหรูหรา รวมไปถึงเงินจำนวนมากซึ่งทั้งชีวิตไม่เคยจับมาก่อน
ประมาณ หนึ่งแสนโกล ได้ล่ะมั้ง..ถ้าเทียบกับตอนอยู่บ้านเก่าที่ยากจนและมีเงินเก็บปีล่ะสามพันโกล นี่ก็ถือว่าเป็นเงินที่ถ้าใช้อย่างประหยัดก็อยู่ได้เป็นปีๆเลย
จะเรียกว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายก็ได้ อยากให้มีโจรโผล่มาบ่อยๆ…ว่าไปนั่น
ถ้าโผล่มาบ่อยๆ ไอรินคงได้ใช้พลังพร่ำเพื่อแน่ๆ
สำหรับเด็กคนนี้ พลังที่อยู่ในมือตอนนี้ มันยิ่งใหญ่มากเกินไป
พลังที่ขาดการคิดอย่างรอบคอบ ในท้ายที่สุดแล้วมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง
พูดง่ายๆก็คือ พลังย่อมมาพร้อมกับภาระอันยิ่งใหญ่…
ทว่า ฉันกลับคิดว่าคำพูดดั่งกล่าว มันช่างเห็นแก่ตัวซ่ะเหลือเกิน
เพราะมีพลังก็เลยต้องแบกรับปัญหามากมาย
เพราะแข็งแกร่งกว่าใครๆก็เลยต้องเสียสล่ะอย่างช่วยไม่ได้
แต่ถ้าผู้มีพลังคือคนที่มีอายุแค่ 8 ขวบ อย่างไอรินล่ะ พวกเราควรจะใช้คำพูดทำนองนี้กับเธอด้วยหรอ ?
การโยนภาระให้เด็กๆน่ะ มันก็คือความมักง่ายของพวกผู้ใหญ่ก็เท่านั้นเอง คนพรรคนั้นที่ใช้คำๆนี้กับเด็กๆน่ะ ไม่สมควรเรียกว่าผู้ใหญ่หรอกนะ
แต่พอคิดถึงตรงนี้แล้ว สิ่งที่ฉันจะทำให้ไอรินได้คืออะไรกันแน่ ?
เพราะถึงจะทำเป็นบอกว่าการโยนภาระให้เธอเป็นเรื่องที่ผิด แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ฉันก็ทำได้เพียงแค่ชี้นำและโยนให้เธอเลือกตอนจบด้วยตัวเองอยู่ดี
เอาเข้าจริงๆแล้ว ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจะทำยังไงถึงจะชี้นำเส้นทางที่ถูกต้องให้ไอรินได้กันแน่ แล้วเส้นทางที่ฉันแสดงให้เธอเห็น แน่ใจแล้วนะ ว่ามันไม่ได้เป็นเส้นทางที่ฉันยัดเยียดให้กับเธอ
บางครั้งก็กังวลใจและรู้สึกสับสนเหมือนกัน การเป็นพี่ที่ดีให้ใครซักคนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
‘ถึงจะทำเป็นเข้าใจหนู แต่สุดท้ายพี่ก็แค่มนุษย์ที่หยิ่งผยองคนหนึ่งนั่นแหล่ะ’
นึกถึงคำพูดไอรินเมื่อตอนนั้น มันก็ใช่ว่าฉันจะกลัวว่าตัวเองจะยัดเยียดแนวคิดที่ผิดๆให้กับเธอ
ฉันพยายามเลือกตัวเลือกที่คิดว่าจะดีที่สุดและยื่นให้เธอ โดยไม่รู้ว่าตัวเลือกที่ฉันยื่นให้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดจริงรึเปล่า และในท้ายที่สุดแล้วคนที่ต้องรับผลกระทบจากตัวเลือกที่ฉันพยายามยัดเยียดไปให้ มันก็คือตัวไอรินเองนั่นแหล่ะ
ยากจังนะ การดูแลใครสักคนเนี่ย
พอคิดไปคิดมา ฉันก็ไม่ใช่คนที่เก่งกาจหรือเข้มแข็งเลยซักนิด
“…………”
กลับกันแล้วไอรินที่เดินอยู่ข้างๆฉัน ลึกๆแล้ว เธออาจจะมีความกล้าหาญมากกว่าฉันก็ได้ล่ะมั้ง ?
ระหว่างที่เราเดินจูงมือกันไปตามป่าลึก สัมผัสนุ่มนิ่มและอบอุ่นที่กุมมือของฉันอยู่ก็ชวนให้รู้สึกมีความสุขซ่ะเหลือเกิน
แซ่กๆๆๆ
แมกไม้สั่นไหวเบาๆจนเกิดเสียงไพเราะราวกับดนตรี
ฟู่วววว
ลมเย็นๆที่พัดผ่านก็ชวนให้รู้สึกสบายตัวอย่างน่าประหลาด
ต้นไม้ที่ให้ร่มเงากับพวกเรา มันก็ทำให้แดดส่องลงมาน้อยลงจนรู้สึกอุ่นอย่างพอดีๆ
ซ่าๆๆๆ
ได้ยินเสียงแม่น้ำลำธารดังใกล้เข้ามา
หลังจากนี้ถ้าจะไปชะล้างตัวซักหน่อยก็คงไม่เลวเหมือนกัน
“แม่น้ำล่ะ !?”
“อืม….ไปล้างเนื้อล้างตัวกันเถอะ”
เดินทางมานาน โดยหยุดเป็นช่วงๆ แต่ยังไม่ได้อาบน้ำซักครั้งนับตั้งแต่หนีออกมาจากศูนย์วิจัย
ไอรินที่น่าจะรู้สึกเหนียวตัวเหมือนกันก็เลยดูดี๊ด๊าเป็นพิเศษ
เธอวิ่งตรงไปยังลำธารที่ใสสะอาดจนมองเห็นหินที่อยู่ที่พื้นและปลาที่ว่ายอยู่ข้างล่าง
“ฮึบ !”
ไอรินลอกคราบ…เอ่อ น้องสาวของฉันถอดเสื้อคลุ้มและผ้าขี้ริ้วเก่าๆทิ้ง จากนั้นก็กระโดลงไปในน้ำ
ตู้มมมมม
น้ำสาดกระเซ็นไปทั่ว…แล้วก็กระเด็นใส่เต็มหน้าฉันเลยอ่ะ….
เสื้อคลุมเปียกหมดเลย จริงๆเลยนะเด็กคนนี้
ซ่าๆๆๆ
ไอรินว่ายน้ำไปมาอย่างสนุกสนาน พอฉันมองรอบข้างไม่พบมอนสเตอร์หรือพวกสิ่งมีชีวิตที่น่าจะเป็นอันตราย ฉันก็ถอดผ้าคลุมพาดตากไปบนกิ่งไม้ โดยไม่ลืมเอาของไอรินที่ตกพื้นขึ้นมาตากด้วย
จากนั้นก็ถอดชุดเก่าที่น่าจะเป็นผ้าขี้ริ้วออกมา
“อ่า….”
บิดขี้เกียจเล็กน้อยยืดเส้นยืดสาย จากนั้นก็หยิบสบู่สองก้อนที่เจออยู่ในก้นๆของไอเท็มบอกซ์ขึ้นมา ก้อนหนึ่งส่งให้ไอริน ส่วนอีกก้อนฉันหยิบมาใช้เอง
“ก่อนอื่นก็ทำความสะอาดก่อน–”
ฉันหยิบเสื้อผ้าของไอรินที่ตกอยู่ไปชุบน้ำ จากนั้นก็เอาไปถูกับสบู่ก้อน
พอเกิดฟองสีขาว ฉันก็เริ่มถูไปถูมาจนเกิดฟองมากกว่าเดิม
“พี่ริซทำไรนะ ?”
“ซักผ้าอยู่น่ะ พวกเราใส่ชุดนี้มาเป็นสัปดาห์โดยไม่ซัก พี่ก็เลยคิดว่ากลิ่นมันคงจะเหม็นน่าดู ถึงจะเห็นสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว แต่ก็น่าจะต้องใช้ไปอีกซักสองถึงสามวัน อุตส่าห์อาบน้ำแล้วทั้งที ก็ไม่อยากจะให้ตัวเปื้อนใหม่เพราะเสื้อที่ใส่เท่าไหร่”
“แต่นั่นมันเสื้อของหนูไม่ใช่หรอ ?”
“อื้ม ก็ในเมื่อจะซักแล้วก็ซักรวมกันทีเดียวเลยสิ”
“งั้นหรอคะ…..”
ไอรินมองเสื้อของฉันที่วางอยู่ข้างๆเท้าของฉัน ก่อนที่เธอจะเข้ามานั่งยองๆใกล้แล้วหยิบเสื้อของฉันไป
แซ่กๆๆ
เธอเอาสบู่ที่ฉันวางทิ้งไว้ไปถูกับเสื้อของฉันที่ชุบน้ำหมาดๆ พอฟองขึ้นก็ถูๆๆๆ จนคราบสีดำสกปรกค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
“???”
ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“มีอะไรคะ ?”
ไอรินที่รู้สึกถึงสายตาของฉันก็ถามกลับด้วยท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย
“เปล่า…พี่ก็นึกว่าไอรินจะไปว่ายน้ำต่อซ่ะอีก”
“พูดอะไรแปลกๆ เมื่อก่อนเราสองคนก็ช่วยกันทำงานบ้านด้วยกันไม่ใช่หรอ ?”
“ฮึก !”
“อึ๋ย ! จะ จะ จะร้องไห้ทำไมเนี่ย”
“ปะ ปะ เปล่า ก็แค่สบู่มันเข้าตานะ”
“ตะ ตาแดงหมดแล้ว ! เป็นอะไรของพี่ริซกันเนี่ย ?”
“ฮือออ พี่ก็นึกว่า ไอรินจะพูดทำนองว่า ‘ฮึ ! ทำไมเราต้องทำงานชั้นต่ำพรรคนั้นด้วยซ่ะอีก’ ”
“เดี๋ยวเถอะ ! นี่พี่เห็นหนูเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย !?”
“น้องสาวที่น่ารักที่สุดในโลก”
“ไม่ต้องเลย ! ถึงมาชมทีหลัง หนูก็ไม่ดีใจหรอก”
“แก้มแดงใหญ่แล้ว”
“ไม่ได้เขินซักหน่อย !”
ไอรินที่พวงแพ้มไปด้วยสีชมพูระเรื่อ แถมยังมีไหล่เนียลขาวรวมไปถึงต้นขาขาวๆที่ดูโดดเด่นยามจับต้องด้วยแสงแดด ซ้ำยังหยดน้ำที่ประดับอยู่บนเส้นผมของเธอและผิวกายของเธอ…อ่า นี่มันช่างงดงามราวกับเทพธิดาแห่งลำธารไม่มีผิด
ระหว่างที่ฉันกำลังเห่อไอริน เจ้าตัวก็กอดอกแล้วโวยวาย
“พี่ริซ หนูน่ะไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ กะอีแค่เสื้อผ้าน่ะหนูซักเองได้อยู่แล้ว หนูไม่ได้ต้องให้พี่มาช่วยดูแลในทุกๆเรื่อง”
“อื้มๆ”
“เลิกทำเหมือนกับหนูเป็นเด็กได้แล้ว ! พี่นั่นแหล่ะที่ควรจะหัดห่วงตัวเองบ้าง”
“อื้มๆ”
“นี่ฟังหนูอยู่ไหมเนี่ย ?”
“ไอรินของพี่น่ารักที่สุดในโลกเลย !”
“ไม่ได้ฟังกันซักนิดเลยนี่นา !?”
ไอรินส่งเสียงฮึดฮัด ก่อนจะกลับไปซักผ้าต่อ
“ขอบคุณนะที่เป็นห่วง”
“หนวกหูๆๆๆ ก็บอกไปแล้วว่าหนูทำเองได้ หนูก็แค่รับผิดชอบเรื่องของตัวเองต่างหาก ไม่ได้เป็นห่วงพี่ริซซักหน่อย !”
ไอรินปิดหูแล้วส่ายหน้าปฏิเสธรัวๆ…น่ารักจัง
“เหมือนคุยกันคนล่ะภาษาเลยอ่า”
“อืม ~ ♪ ลำบากหน่อยนะ”
“อย่ามาพูดเหมือนเป็นเรื่องของคนอื่นสิยะ !”
ไอรินลุกขึ้นจากนั้นก็ชี้หน้าของฉันอีกแล้ว
“จะขอบอกอีกครั้ง ! หนูน่ะไม่ใช่เด็กๆที่ต้องให้พี่มาปกป้องมาตลอดหรอกนะ”
“จ้าๆ”
“นี่ไง ! ไอ้ท่าทางเหนือกว่าแบบนี้ หนูล่ะเกลียดที่สุดเลย !”
สุดท้ายไอรินก็กลับไปซักผ้าต่อคนเดียวพลางบนอุบอิบทำนองว่า ‘ชอบทำตัวเหนือกว่าตลอด ไม่ชอบใจเลยจริงๆ’ ไม่ก็ ‘รู้สึกหงุดหงิดจัง’ อะไรทำนองนั้น
อืม…จะว่าไปเราโอ๋ไอรินมากไปงั้นหรอ ?
คิดไปคิดมา บางส่วนอาจจะจริงล่ะมั้ง
บางทีคงติดนิสัยจากเมื่อก่อนจนลืมไปว่า ไอริน สูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อยแล้วด้วย
ถึงความคิดบางอย่างจะดูขวางโลกไปบ้าง แต่ระหว่างที่ห่างกัน ความคิดบางอย่างของเด็กคนนี้ก็คงโตขึ้นด้วยล่ะมั้ง
“……………..”
“……………..”
“…………….”
“มะ มะ มีอะไรอีกละ ?”
“เปล่า….ก็แค่คิดว่า ไอรินน่ารักจังนะ”
“พะ พะ พอเถอะ ชมบ่อยไปมันน่ารำคาญน่ะ”
“อืม…ฮุๆ นั่นสินะ”
“ถ้าเข้าใจก็ดีแล้วค่ะ !”
“รักไอรินที่สุดเลย…..”
“—- !!!”
ไอรินเบือนหน้าหนีแล้วก้มหน้าก้มตาซักผ้าต่อโดยไม่พูดอะไร แต่ใบหูของเธอที่มีสีแดงขึ้นก็ทำให้พอเดาได้ว่าเธอกำลังอายอยู่
ฉันเลยไม่แกล้งมากไปกว่านี้ ฉันกลับไปซักผ้าต่อเงียบๆดีกว่า
“…………..”
“………….”
แซ่กๆๆๆ
ความเงียบคั่นกลางระหว่างเราทั้งสอง แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
บางทีการได้มีเวลาอยู่เงียบๆ ก็ช่วยให้เราได้มีเวลาคิดอะไรหลายๆอย่าง
“นี่ไอริน—”
“พี่ริซ—-”
““ อ๊ะ ! ””
แต่อยู่ดีๆ เราทั้งคู่ก็ใจตรงกันเฉยเลย
“เชิญไอรินก่อนเลย มีอะไรหรอ ?”
“พี่ริซก่อนดีกว่า”
“……………..”
“……………..”
“……………”
“……………”
เงียบอีกจนได้
แถมไอรินยังมองหน้าฉันสลับกับผ้าในมือเหมือนกับอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่กล้า
บรรยากาศเริ่มจะกระอักกระอ่วน ฉันเลยกระแอมไอ แล้วลดเสียงลง
พูดกับไอรินด้วยเสียงค่อย ระหว่างนั้นก็เฝ้ามองปฏิกิริยาของเธอ
“ขอโทษนะ—”
“คะ ?”
ไอรินขานรับด้วยเสียงประหลาดใจ
“ถ้าทำให้อึดอัดหรือรำคาญบ่อยๆต้องขอโทษด้วยนะ..โดยเฉพาะเรื่องก่อนหน้านี้”
“เรื่องนั้นมัน…………..”
“พี่เข้าใจดีว่าบางครั้งพี่ก็มีความเห็นไม่ตรงกับน้อง จนบางครั้งกลายเป็นกดดันให้น้องทำตามพี่แทน แต่ถึงอย่างงั้นในฐานะพี่แล้วพี่ก็ยังต้องทำแบบนั้นอยู่ดี….แล้วก็บางทีพี่ก็ชอบทำเป็นสอนนู่นสอนนี่ทั้งๆที่จริงแล้วโลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่และพี่ก็มีอายุมากกว่าน้องแค่ 5 ปีเองด้วยซ้ำ”
“……………”
“ถ้าทำอะไรพลาดตรงไหนต้องขอโทษด้วยนะ….ถ้าอึดอัดจนทนไม่ไหวก็บอกพี่ได้เสมอเลยนะ”
“……………..”
กึกๆๆๆ
ในระหว่างที่ฉันรอคำตอบ ดูเหมือนว่าจะไอรินจะตัวสั่นเพราะอะไรบางอย่าง
ไอรินเป็นอย่างงั้นประมาณหนึ่งนาที จนกระทั่ง เธอตัดสินใจลุกพรวดขึ้นมา
“นั่นแหล่ะ ทนไม่ไหวแล้ว !”
ไอรินโวย พลางต่อว่าฉันอีกรอบ
“เลิกทำตัวเป็นแม่พระแบบนั้นซ่ะที แบบนี้หนูก็มีแต่ต้องตอบตกลงไม่ใช่รึไง ? อีหรอบนี้ มันทำให้หนูดูเหมือนคนไม่ดีเลยนะ”
“ขอโทษ….”
“อย่าขอโทษในเรื่องที่พี่ไม่ผิดสิคะ ! โธ่ ! นี่มันจะน่าหงุดหงิดเกินไปแล้ว !!!”
ไอรินหอบหายใจแรงจนร่างเล็กๆสั่นกระเพื่อม สุดท้ายเธอก็ลงไปแช่น้ำเพื่อทำให้หัวเย็นลง
เธอจุ่มหน้าลงไปในน้ำซักพักหนึ่ง ก่อนที่จะโผล่ขึ้นมา
ซ่าๆๆๆๆ
ไอรินจ้องหน้าฉัน ก่อนที่จะสูดหายใจแล้วพูดออกมา
“หนูเกลียดมนุษย์—”
เป็นคำพูดสั้นๆที่ไม่มีความหมายอะไรพิเศษ
“มนุษย์ดีแต่สร้างความเกลียดชังและทำร้ายแม้กระทั่งมนุษย์ด้วยกันเอง พวกมนุษย์น่ะมันทั้งงี่เง่าและหยิ่งยโส ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ทำแต่เรื่องที่ผิดพลาดซ้ำๆต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้ที่สิ้นสุด ถ้าโลกนี้มีสิ่งไหนที่ผิดพลาด มันก็คงเป็นเรื่องที่มนุษย์ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้”
“……………………”
“เพราะงั้นหนูไม่เชื่อหรอกคะว่ามนุษย์อย่างพี่จะทำถูกทุกอย่าง เรื่องที่พี่คิดมันไม่มีทางถูกต้องทุกอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเรื่องเมื่อกี้”
“ยังไงน้องก็ไม่เห็นด้วยสินะ….”
“แน่นอนค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนูก็ไม่คิดจะปล่อยให้พวกสารเลวพวกนั้นกลับไปเป็นๆเด็ดขาด พวกคนพรรคนั้นไม่มีวันเรียนรู้ข้อผิดพลาดได้หรอก กลับกัน มันก็มีแต่จะสร้างความเจ็บปวดให้ผู้อื่น..เหมือนอย่างพวกเรา”
ไอรินยังคงไม่ให้อภัยพวกคนที่ทำให้เธอกลายมาเป็นแบบนี้ แน่นอนว่าถ้าถามฉัน ฉันก็คงไม่ให้อภัยเป็นอันขาด ความจริงแล้วฉันก็อยากจะฆ่าพวกมันทิ้งด้วยมือคู่นี้อยู่เหมือนกัน แต่เพราะรู้ดีว่าทำไป คนที่ตายไปแล้วก็ไม่ฟื้นกลับคืนมา และสิ่งสำคัญที่ฉันต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกก็คือไอริน ฉันเลยลืมความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้วทำทุกอย่างเพื่อไอริน ต่างจากตัวไอรินที่ตอนนี้ยังคงอัดแน่นความแค้นเอาไว้เต็มเปี่ยม
“หนูก็เข้าใจเหมือนกับที่พี่เข้าใจนั่นแหล่ะว่าพี่ปรารถนาดีกับหนู แต่ความปรารถนาดีนั่น ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หนูไม่ต้องการ”
“ไอริน…..”
เป็นคำพูดที่ทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดที่กลางอกเลยแฮะ
เจ็บปวดจัง….
“แต่ว่า—”
ไอรินกำหมัดแน่น พลางจ้องมองก้อนหินที่อยู่ในน้ำ
“ทำไมพี่ริซถึงต้องเป็นมนุษย์ด้วยล่ะ”
“…………”
“ถ้าเป็นแบบนั้น….ถ้าหนูเกลียดมนุษย์ก็หมายความว่าหนูเกลียดพี่ริซไปด้วยน่ะสิ”
“………….”
“ตอนนี้หนูสับสนไปหมดแล้ว….แล้วก็หงุดหงิดมากเลยด้วยที่พี่ริซเอาแต่ทำอะไรเพื่อหนูอยู่ฝ่ายเดียว ความรู้สึกแบบนั้นหนูไม่ชอบมากๆเลย”
“ไอริน….”
อ่า….อย่างงี้นี่เอง มีความคิดบางอย่างของเราที่คาดเคลื่อนไปสินะ
ฉันได้แต่มองไอรินที่ขยำอกของตัวเองด้วยใบหน้ายับยู่ยี่ จะว่าไปไหงภาพที่เห็นมันถึงพร่ามัวขึ้นล่ะเนี่ย ? ฝนตกรึไงกัน ?
“มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก..หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ว่า—”
ไอรินช้อนตาขึ้นมอง บนขอบตาของเธอมีหยดน้ำใสๆพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
“ขอโทษค่ะ……”
“ไอริน ?”
“ขอโทษที่ว่าพี่ขี้ขลาด ขอโทษที่ดูถูกพี่ ขอโทษที่บอกว่า…หนูเกลียดพี่…ฮึก ! หะ หนู หนูไม่ได้อยากจะพูดแบบนั้นกับพี่เลย ? แต่ข้างในนี้มันตีกันไปหมด หนูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ฮึก ! ขอโทษค่ะ…หนูขอโทษ”
“อ่า…..ไอรินนี่ขี้แยจังนะ”
“ฮึก ! พี่ก็…ร้องไห้เหมือนกันไม่ใช่หรอ ?”
“ไม่ใช่..สบู่เข้าตาต่างหาก”
“โกหก…..”
“ฮึก ! นั่นสินะ ฮุๆ”
ว่าแล้วฉันก็กวักมือเรียก ไอรินก็ตรงมาแล้วนั่งลงข้างๆฉัน
จากนั้นเธอก็ค่อยๆเอนตัวแล้วพิงไหล่ของฉัน
“หนูก็อยากเป็นฝ่ายปกป้องพี่เหมือนกัน…”
“นั่นสินะ….ขอโทษนะที่พี่ไม่ทันรู้สึกตัว…พวกเราเป็นพี่น้องกันนี่เนอะ”
ไม่ได้มีใครที่โดดเด่นกว่าใคร หรือ เหนือกว่าใคร
พวกเราที่มีข้อดีต่างกันคอยปกป้องแผ่นหลังของกันและกัน
พวกเราเป็นแบบนี้เสมอ มาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนี่นา
“หลังจากนี้…..พวกเราทั้งคู่คงเจอปัญหาอีกมากมายและเรื่องราวนับไม่ถ้วน…จะต้องมีอีกหลายครั้งที่ความเห็นของเราทั้งคู่ไม่ตรงกัน”
“ค่ะ…”
“แต่เมื่อเวลานั้นมาถึง เราทั้งคู่ก็จะทะเลาะกันอีกแล้วพูดเปิดใจด้วยกันอีกเหมือนวันนี้ ค่อยๆเรียนรู้เรื่องที่ผิดพลาดและเรื่องที่ถูกไปพร้อมๆกัน ………………………………………….จากนั้นก็เติบโตไปด้วยกัน”
“คราวหน้าพี่ต้องฟังหนูบ้างนะ….”
ได้ยินที่น้องสาวของฉันพูดด้วยเสียงออดอ้อน ฉันก็พิงหัวของฉันลงข้างหัวของเธอด้วยความเอ็นดู
“พี่พร้อมฟังเสียงน้องเสมอ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากตามใจน้องเหมือนกัน อาจจะเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวก็ได้ ไม่สิ เห็นแก่ตัวมากๆเลยต่างหาก….แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ถ้ามีครั้งไหนที่น้องจะเดินไปในทางที่ผิด พี่ก็คงต้องห้ามน้องสุดความสามารถ”
“งั้นหนูจะดื้อไปให้สุด ไม่ยอมทำตามพี่ริซเด็ดขาด”
“อืม…ไม่เป็นไร…ถึงจะเป็นอย่างงั้นก็ไม่เป็นไร”
ฉันใช้มือสองข้างจับแก้มของน้องสาวของฉัน
ค่อยๆดันหน้าของเธอขึ้นมา แล้วมองตาของเธอตรงๆ
ดวงตาสีฟ้าสดใสของเราทั้งคู่จึงประสานกันในระยะประชิด
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น น้องก็ยังเป็นน้องสาวสุดที่รักที่พี่ภาคภูมิใจเสมอ นั่นคือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“ฮือออออ !”
หลังจากที่พูดความรู้สึกทั้งหมดออกไป ไอรินก็ร้องไห้ออกมา
“แงๆๆๆ”
“โอ๋ๆๆๆ”
ฉันดึงไอรินน้อยเข้ามากอด
“แงๆๆๆๆ”
“ขี้แยจังนะไอรินน้อยของพี่”
“มะ มะ ม่ายช่าย”
ไอรินผลักตัวฉันออก ก่อนจะเอาหน้าจุ่มหน้าอย่างรวดเร็วแล้วกวักน้ำใส่หน้าของตัวเองเป็นสิบๆรอบ
ตอนนั้นเองที่ฉันพึ่งสังเกตุถึงฟองสบู่ที่ฟูฟ่องเต็มสองมือ
“แสบตาไปหมดแย้ว ! เกลียดพี่ริซที่สุดเลย !!!”
ให้ตายสิ พูดยังไม่ทันขาดคำก็วนลูปอีกแล้ว ไม่ไหวเลยเด็กคนนี้..แล้วก็ไม่ไหวเลยนะตัวฉันเนี่ย ฮ่าๆๆ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
หลังจากนั้น เราทั้งคู่ผลัดกันสระผมให้อีกฝ่าย
เริ่มจากไอรินก่อนจากนั้นก็ค่อยถึงตาของฉัน
ซ่าๆๆๆๆ
หลังจากที่ฉันจุ่มหัวลงไปในน้ำเพื่อล้างสบู่รอบชุดท้ายเสร็จ ฉันก็สะบัดผมนิดหน่อย
ก่อนจะมองไปรอบข้าง พลางคิดว่าหลังจากนี้จะทำอะไรต่อดี
หมับ !
ทว่า ทันใดนั้นเอง ฉันก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างนุ่มนิ่มและอบอุ่นที่โอบกอดฉันจากข้างหลัง
“ไอริน ?”
แม้จะมองไม่เห็นหน้า แต่สัมผัสของมือสั่นๆที่กอดเอวของฉันอยู่ มันก็ทำให้ฉันพอจะเดาสีหน้าของเธอได้ไม่ยาก
“อย่าไปนะคะ—”
เป็นเสียงที่แผ่วเบาและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่มากมายซึ่งพรั่งพรูออกมา เธอกอดฉันแน่นแล้วถูหน้าไปมากับแผ่นหลังของฉันราวกับจะอ้อนวอน
“พี่ริซจะต้องอยู่กับหนูตลอดไป ห้ามทิ้งหนูไปเด็ดขาดเลยนะคะ”
“……………..”
ไอริน…….
กะอีแค่คำว่าอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่รู้ทำไมสำหรับตัวฉันในช่วงเวลานี้มันช่างยากลำบากซ่ะเหลือเกิน
ทว่า แม้จะรู้สึกขมขื่น แต่คำตอบของฉันก็มีแค่ตัวเลือกเดียวตั้งแต่แรก
“พี่ไม่มีวันทิ้งไอรินไปไหนอยู่แล้ว ต่อให้ต้องตายก็ตาม”
ฉันหมุนตัวกลับไปแล้วดึงไอรินเข้ามากอด
“พี่ขอสาบานเลยจ้ะ”
ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลผ่าน เราทั้งสองก็กอดกันแล้วแบ่งปันความอบอุ่นให้อีกฝ่าย
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องแสดงท่าทางอะไรออกมา ร่างกายของเราทั้งคู่ต่างรู้ดีถึงความรู้สึกที่มีให้กันและกัน
เวลาที่ช่างอบอุ่นและหอมหวานดำเนินอยู่นานแค่ไหน ตัวฉันและไอรินก็คงไม่ทราบ ทว่า สำหรับตัวฉันแล้วเวลาที่ได้อยู่กับไอริน มันช่างวิเศษและยาวนานราวกับเป็นนิจนิรันดร์เลยทีเดียว
Chapters
Comments
- ตอนที่ 38 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 37 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 36 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 35 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 34 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 33 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 32 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 31 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 30 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 29 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 28 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 27 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 26 พฤษภาคม 13, 2022
- ตอนที่ 25 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 24 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 23 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 22 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 21 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 18 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 17 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 16: น้องสาวผู้น่ารักของฉันโดนดุ เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 15: พี่สาวของหนูตายซ่ะเเล้ว !? เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14: น้องสาวผู้น่ารักของฉันมีมากกว่าหนึ่งคน !? เมษายน 28, 2022
- ตอนที่ 13: น้องสาวผู้น่ารักของฉันฝึกทำอาหาร เมษายน 27, 2022
- ตอนที่ 12: การเดินทางของพวกเขาทั้งหลาย เมษายน 26, 2022
- ตอนที่ 11: พี่สาวของหนูต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป เมษายน 24, 2022
- ตอนที่ 10: พี่สาวของหนูพูดอะไรบางอย่างที่น่าจะสำคัญ เมษายน 23, 2022
- ตอนที่ 9: พี่สาวของหนูถูกพรากไป พร้อมๆกับพวกเพื่อนๆ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 8: น้องสาวผู้น่ารักของฉันยอมพูดเปิดใจนิดหน่อย เมษายน 20, 2022
- ตอนที่ 7: น้องสาวผู้น่ารักของฉันช่วยปกป้องคุณพี่สาวด้วยล่ะ ! เมษายน 19, 2022
- ตอนที่ 6: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเเสดงความเป็นห่วงด้วยล่ะ ! เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 5: เพื่อจบความขัดเเย้ง การเสียสล่ะคือสิ่งที่จำเป็น เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 4: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเข้าวัยต่อต้าน !? เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 3: ไม้ต่อ เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 2: เเยกจาก เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นภายในห้องขังอันอับชื้น เมษายน 18, 2022
MANGA DISCUSSION