ไอรินน้อยเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อปีก่อนอย่างชัดเจน
แม้รูปร่างจะคล้ายๆเดิม แต่ก็มีส่วนสูงที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แถมผมสีทองของเธอก็กลายเป็นสีเงิน ในขณะที่ดวงตาซึ่งแฝงแววซุกซนกลับกลายเป็นดวงตาขวางโลกที่มองทุกอย่างด้วยท่าทางเย็นชา
อืมๆ น่าจะผ่านอะไรมาเยอะแน่ๆ แต่ก็เก่งมากที่ทนมาได้ถึงขนาดนี้
ลูบๆๆๆๆ
ฉันลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู ในขณะที่ไอรินกอดอกแล้วทำตาขวางใส่
“เลิกทำเหมือนหนูเป็นเด็กจะได้ไหม !?”
“อ๊ายยย ไอรินเข้าวัยต่อต้านแล้วล่ะ !”
“ไม่ใช่วัยต่อต้านซ่ะหน่อย ! ทำไมกันนะ !? ทำไมเวทย์ควบคุมจิตใจถึงใช้กับพี่ไม่ได้กัน !?”
“ก็เพราะเป็นพี่สาวยังไงล่ะ !”
“อย่ามายืดอกภูมิใจแล้วให้เหตุผลแปลกๆแบบนี้นะ !”
พอโดนไอรินปัดมืออกก็รู้สึกเสียดาย อยากลูบมากกว่านี้เพื่อชดเชยกับช่วงเวลาที่สูญเสียไปจัง
“อืม แต่แค่ 8 ขวบเองจะทำตัวเป็นม้าพยศแบบนี้ไม่ดีเลยนะ แถมอายุน้องยังเร็วเกินไปที่จะย้อมสีผมล่ะมั้ง”
“ไม่ได้ย้อมผมซักหน่อย !!!”
“ฮุๆ ล้อเล่นๆ เดี๋ยวนี้ขี้โมโหมากขึ้นนะเรา”
แม้จะเย็นชาและโวยวาย แต่ไอรินที่ทำแก้มป่องแล้วหันหน้าหนีดูซ้อนทับกับตัวเธอเมื่อสมัยก่อนไม่มีผิด
“อืมๆ คงผ่านอะไรมาเยอะสินะ เก่งมากที่ทนมาได้ พี่สาวน่ะดีใจมากๆเลย”
“ฮึ !”
แม้ไอรินจะเบือนหน้าหนี แต่เธอก็ไม่ได้ปัดมือของฉันออก คงเพราะรู้ว่าถึงปัดไปก็โดนลูบใหม่อยู่ดี
“ว่าแต่ทำไมอยู่ๆถึงไล่พี่ให้ไสหัวไปกันล่ะ อุตส่าห์เจอหน้ากันทั้งที ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยหรอ ?”
“ฮึ ! ต่อให้พี่ไม่มาช่วย หนูก็หนีออกมาเองได้อยู่แล้ว”
“อ่อ……….”
“แล้วอีกอย่าง ช่วยเลิกทำมาเป็นตีสนิทซ่ะที เรื่องของพวกเราทั้งคู่มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว การต้องมาคลุกคลีกับมนุษย์อย่างพวกแก แค่คิดก็คลื่นไส้จะแย่แล้ว”
จะว่าไป เหมือนตอนที่หนีออกมา ตามข้อมูลที่ฉกมาจากศูนย์วิจัยมันก็ระบุเอาไว้ทำนองนี้นินะ
ชื่อ : ไอริน
รหัส : 1375
ฉายา : จอมมารดัดแปลงลำดับที่ 0
แก่นมนตรา : แก่นแท้แห่งความมืด , แก่นกลางแห่งความชิงชัง , แก่นผลึกแห่งความว่างเปล่า
คำอธิบายเพิ่มเติม : ด้วยผลของการทดลองฉีดสารเคมี X ซึ่งมีฤทธิ์แรงกว่า สารเคมี Y ซึ่งใช้กับคนทั่วไปเข้าไปทำให้เกิดปฏิกิริยากับเม็ดสีในเส้นผมทำให้สีผมเกิดการเปลี่ยนแปลง และทุกครั้งที่ใช้เวทมนต์ สารเคมี x ซึ่งร่างกายได้รับจนปรับตัวและผลิตขึ้นมาเองได้ก็จะไปรวมกันที่ดวงตาส่งผลให้ดวงตากลายเป็นสีแดง ในขณะเดียวกันแก่นกลางแห่งความชิงชังก็จะทำให้อารมณ์ของผู้ทดลองแปรปรวนกลายเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แก่นแท้แห่งความมืดจะดึงบุคลิกหยิ่งผยองให้โดดเด่นมากขึ้น ส่วนผลของแก่นผลึกแห่งความว่างเปล่าก็จะช่วยรักษาสมดุลทางอารมณ์ทำให้กลายเป็นคนที่มีจิตใจเย็นชาและโหดเหี้ยมอัมหิต เมื่อประกอบกับปัจจัยกระตุ้นซึ่งเป็นความเจ็บปวดมาเป็นเวลานาน ความแค้นที่ก่อตัวขึ้นก็ทำให้บุลคลิกเปลี่ยนไป จากการเก็บข้อมูลที่ครั้งก่อนเป็นเด็กร่าเริงสดใส ในปัจจุบันจึงกลายเป็น ปีศาจในคราบมนุษย์ที่มีนิสัยหยิ่งหยองและรังเกียจมนุษย์เป็นอย่างมาก เป็นตัวทดลองที่มีบุคลิกชื่นชอบการทำลายล้างและความรุนแรง เมื่อพิจารณาดูโดยถี่ถ้วน สามารถนำไปใช้ในฐานะไพ่ตายของกองทัพ แต่จำเป็นจะต้องใช้เวลาอีกซักพักสำหรับการผ่าตัดสมองเพื่อทำให้อยู่ในการควบคุมของผู้ใช้งาน
ในโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยดาบและเวทมนต์ เรื่องอัศจรรย์และเรื่องลี้ลับมีมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะปริศนาของเขาวงกตยักษ์อย่างดันเจี้ยน หรือแม้กระทั่ง ต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งมีขนาดสูงและแตกกิ่งก้านออกไปถึงอวกาศ ทว่า หนึ่งในปริศนาเหล่านั้นซึ่งค้นพบเมื่อหลายปีก่อน มันก็มีเรื่องๆหนึ่งซึ่งในปัจจุบันยังไขความลับไม่ได้เช่นเดียวกัน
ใช่แล้ว นั่นก็คือเรื่องเกี่ยวกับ ‘แก่นมนตรา’ แร่ปริศนาที่ถูกขุดพบใต้พื้นพิภพ
มันเป็นวัตถุปริศนาไม่รู้ที่มาที่ไป บ้างก็ว่าเป็นฟอสซิลจากยุคโบราณ แต่บ้างก็ว่าเป็นแร่ที่เกิดจากการควบแน่นของพลังเวทย์ในพื้นพิภพมาอยู่ในก้อนหิน
มันเป็นแร่ปริศนาที่อัดแน่นด้วยพลังเวทย์มหาศาลถึงขั้นเทียบเท่ากับจอมเวทย์นับพันคน ทว่า มนุษย์กลับไม่สามารถนำมันมาใช้งานได้ เพราะไม่สามารถหาวัตถุที่ใช้รองรับพลังเวทย์อันมหาศาลที่อยู่ข้างในได้ ลงท้ายส่วนมากอุปกรณ์ที่บรรจุแร่ชนิดนี้ มักจะจบลงด้วยการระเบิด
ทว่า ด้วยการฉีดสารเคมี X Y Z ที่ถูกพัฒนามากว่า 8 ปีเข้าไปในร่างกาย ร่างกายของมนุษย์ก็สามารถปรับสภาพและฝังแก่นมนตราเข้าไปได้และทำให้คนๆนั้นมีพลังเวทย์มหาศาลเทียบเท่าจอมเวทย์ทั้งกองพัน ทว่า มันก็มีข้อเสียตรงที่ แก่นมนตรา ทุกๆชิ้นมักจะมีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้ใช้ และก็มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ทนรับแก่นมนตราเข้าไปในร่างได้ โดยส่วนมากมักจะตายกันกว่า 99% หรือถ้ารอดมาได้ บางคนถึงขั้นเสียสติเลยก็มี
เรียกได้ว่า ไอรินที่ยัดเข้าไปตั้งสามชิ้นเก่งมากๆเลย ต่างจากตัวฉันที่ยัดเข้าไปแค่ชิ้นเดียวก็เดธสะมอเล่ ~ ♪
สมแล้วที่เป็นน้องสาวของฉัน ไอริน เก่งมากๆจ้า ถึงสุดท้ายจะโดนแก่นมนตราเปลี่ยนบุคลิกไปพอสมควรเลยก็เถอะ แต่แค่รอดกลับมาได้ พี่สาวคนนี้ก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้วจ้า
“วัยต่อต้านจริงๆด้วย”
เพราะแก่นมนตราแท้ๆ ไอริน เลยเข้าวัยต่อต้านเร็วเกินไปเยอะเลย
“ก็บอกว่าไม่ใช่วัยต่อต้านไงเล่า ! ฮึ่ย ! ทำไมพอเห็นหน้าเธอ มันถึงทำให้เราหงุดหงิดขนาดนี้กันนะ”
เดี๋ยวแทนตัวเองว่า ‘เรา’ เดี๋ยวแทนตัวเองว่า ‘หนู’ บางครั้งก็เรียกฉันว่า ‘พี่’ แต่บางครั้งก็เรียกฉันว่า ‘เธอ’ ไม่ก็ แก
อืม…ภาวะทางอารมณ์ไม่เสถียรมากๆ วัยต่อต้านนี่จัดเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนจริงๆเลย
“งั้นสรุปที่ไล่พี่ออกไป เป็นเพราะไม่ชอบพี่งั้นหรอ”
“นั่นมันก็….แหงอยู่แล้วสิ !”
“เพราะเห็นเป็นมนุษย์ก็เลยไม่ชอบงั้นหรอ ?”
“ใช่ ! พวกมนุษย์มันก็แค่ปรสิตของโลกใบนี้ ทุกๆคนต่างก็เห็นแก่ตัวและทำอะไรตามอำเภอใจกันทั้งนั้น ขยะโสโครกอย่างพวกมนุษย์มันน่าจะหายๆไปให้หมด”
เท่าที่จำความได้ ตามเนื้อเรื่องของเกม ไอริน จะมีแก่นเวทย์แค่สองชนิด ไม่มีแก่นแท้แห่งความมืด บางทีเพราะมีเจ้าสิ่งนี้เพิ่มเข้ามา มันเลยมิกซ์กันทำให้ไอรินกลายเป็นภัยอันตรายต่อมวลมนุษยชาติไปซ่ะแล้ว
ถ้าจะตีความให้ง่ายๆเลยก็คือ—
“เพราะงั้นเลิกมาวุ่นวายแล้วจะไปไหนก็ไป ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ซ่ะให้พอ ซักวันเราจะล้างบางพวกมนุษย์โสโครกให้หมดด้วยมือคู่นี้เอง !”
“เรียกง่ายๆก็จูนิเบียวนี่เอง….”
“ทำไมถึงตีความเป็นงั้นไปล่ะ !? ไม่ใช่ๆ ! ไม่ใช่จูนิเบียวซ่ะหน่อย ! บ้าๆๆๆๆ ยัยโง่ ! ยัยบ้า ! อย่ามาล้อหนูนะ !!! ”
“จูนิเบียว…น้องของฉันกลายเป็นจูนิเบียวที่เพ้อเจ้อคิดว่าตัวเองเป็นจอมมารที่กำลังวางแผนทำลายโลกซ่ะแล้ว อืม….เอาไงดีน๊า จะตามน้ำดีไหมหว่า..อืมๆๆ ดีล่ะๆ งั้นพี่สาวขอเล่นเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของจอมมารล่ะกัน”
“มะ มะ มะไม่ได้เล่นซักหน่อย !”
“เอาล่ะ ! ท่านจอมมารค่ะ วันนี้พวกเรามาวางแผนเปลี่ยนมนุษยชาติทุกคนให้กลายเป็นบล็อคโคลี่กันดีกว่า !”
“อุก ! ไม่เอา ! หนูเกลียดบล็อกโคลี่ ! แล้วก็เลิกล้อเลียนหนูได้แล้ว !”
“งั้นเปลี่ยนมนุษยชาติให้กลายเป็นพุดดิ้งกันเถอะ ถ้ามีพุดดิ้งให้กินทั้งวัน มันจะต้องวิเศษแน่ๆเลย”
“อ๊ะ ! น่าสน เอ๊ย ! ไม่ใช่แย้ว !”
“ไอรินเผลอกัดลิ้นตัวเองซ่ะแล้ว น้องสาวของพี่น่ารักที่สุดเลย”
“ฮึก !”
พอโดนฉันขยี้หัวด้วยความเอ็นดู ไอรินที่ก้มหน้าลงก็สะอื้น
“อุ๊ ! แงๆๆๆๆๆๆๆ”
ก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอย่างไร้เหตุผลราวกับเด็กๆ ไม่สิก็เป็นเด็กอยู่นี่นา
ไม่น่าเลย แกล้งเพลินไปหน่อย ทำไอรินร้องไห้ซ่ะแล้ว
อืม…ถึงจะเป็นจอมมารแต่ก็เป็นจอมมารตัวน้อยอ่ะนะ ยังไงก็น่ารักนั่นแหล่ะ น้องสาวของฉันน่ารักที่สุดในโลกอยู่แล้ว
“อืม ~ ♪ นี่แน่ะ !”
ว่าแล้วก็ร่ายเวทย์เปลี่ยนแปลงอุณหูภูมิแล้วเสกน้ำแข็งออกมาจากความว่างเปล่า
สิ่งที่ปรากฏในมือของฉันก็คือมงกุฎลวดลายวิจิตรที่ทำขึ้นจากน้ำแข็ง
“อ๊ะ ! นี่คือ ?”
ไอรินมองมงกุฎน้ำแข็งในมือของฉันด้วยความสนใจ เธอหยุดร้องไห้เพราะอยู่ดีๆก็มีวัตถุสวยๆงามๆมาเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ
“มงกุฎนี้พี่ให้นะ สำหรับองค์หญิงตัวน้อยของพี่”
ว่าแล้วก็สวมมงกุฏน้ำแข็งลงบนผมของไอริน อืมๆ เด็กสาวผมเงินที่สวมมงกุฎทำจากน้ำแข็ง น่ารักมากๆค่ะ
พอฉันเสกน้ำแข็งมาทำเป็นกระจกแล้วยื่นให้ไอริน น้องสาวตัวน้อยของเราก็มองภาพสะท้อนในกระจกด้วยตาเป็นประกาย
“สวยจัง !?”
“ใช่ไหมล่ะ ? ถ้าอยากได้อย่างอื่นอีกพี่ก็เสกขึ้นมาได้นะ”
“จริงหรอคะ ?”
“อื้ม ! ถ้าอยากได้อะไรก็ขอมาได้เลย พี่จัดให้ได้ทุกอย่าง แต่ว่านะ—”
คงเพราะมัวแต่อ้อยอิ่งกันอยู่นาน ก็เลยได้ยินเสียงใบไม้ดังมาจากข้างหลัง
พวกทหารคงกำลังไล่ตามมา ดูท่าคงได้เวลาหนีต่อแล้ว
“ฮึบ ! ไว้ถึงที่หมายแล้วค่อยทำเพิ่มดีกว่า”
“อ๊ะ !”
ฉันอุ้มไอรินขึ้นมาอีกครั้งแล้วก้าวเดินต่อไปข้างหน้า ก่อนที่เธอจะรู้ตัว
“เจ้านี่จะละลายรึเปล่าคะ ?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง น้ำแข็งที่พี่สร้างขึ้นมามีอายุการใช้งานถึง 5 ปี ต่อให้โดยความร้อนหรือตากแดดทั้งวัน มันก็ไม่ละลายหรอกนะ ตราบใดที่ยังไม่ครบกำหนด”
“จริงหรอคะ ?”
“อื้ม ! ใช่แล้วล่ะ”
“ดีจัง….”
พอเห็นไอรินกลับมายิ้มอย่างยินดีกับของขวัญเล็กๆน้อยๆ ภาพของเธอก็ซ้อนทับกับตัวเธอในอดีตที่ตื่นเต้นทุกๆครั้งว่าจะได้อะไรตอนวันเกิด
ทว่า ด้วยความที่บ้านของเรายากจน อย่างมากก็ทำได้แค่ ทำมงกุฎดอกไม้มาให้เธอ ทว่า ถึงจะเป็นแค่ของง่ายๆ แต่ไอรินก็มักจะยิ้มอย่างยินดีเสมอทุกครั้งที่ฉันสวมมันลงไปบนหัวของเธอ
“นั่นสินะ…ยังไงพวกเราก็เป็นอิสระแล้วด้วย”
มองน้องสาวที่ถือมงกุฎในมือแล้วเอาไปส่องกับแสงอาทิต์จนเปล่งแสงระยิบระยับ จากนั้นก็ส่งเสียงว้าวด้วยความประทับใจออกมา ท่าทางราวกับลูกแมวที่ได้ของเล่นใหม่ มันช่างน่าเอ็นดูและชวนให้จักกะจี้หัวใจซ่ะเหลือเกิน
เฮ้อ..ให้ตายสิ ไว้หาเงินได้เยอะๆเมื่อไหร่ คงต้องให้ของขวัญอะไรดีๆกับเด็กคนนี้ซ่ะแล้วสิ
หลังจากนี้ฉันวางแผนไว้เยอะเลยเกี่ยวกับหนทางต่อจากนี้
เดินทางไปยังดินแดนซึ่งห่างไกลจากสงคราม จากนั้นก็ทำงานหาเงินเยอะๆ เลี้ยงดูไอรินจนโต ส่งเสียให้เล่าเรียน แล้วคอยดูว่าเธอจะก้าวเดินไปในทิศทางไหน แม้อาจจะอยู่ไปไม่ถึงปลายทาง แต่ช่วงเวลาระหว่างนั้น มันคงวิเศษน่าดู
“ฮุๆ”
อนาคตจะมีอะไรรอคอยอยู่กันนะ ฉันล่ะอยากรู้จริงๆเลย
MANGA DISCUSSION