ตอนที่ 37
นอแมนได้กระโดดลงมาจากคฤหาสน์ผ่านทางหน้าต่าง
เกือบจะเรียกว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โชคยังดีที่กระโดดลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์
แถมยังตกลงมาบนพุ่มไม้พอดี
ดังนั้นนอแมนจึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย นอกจากแผลกระจกบาดนิดๆหน่อย
ถ้าให้ว่ากันตามตรงเลือดที่เปื้อนเต็มกระจกในตอนนั้นก็ทำเอาหวาดเสียวอยู่เหมือนกัน
พอลองถามออกไปว่า ทำไมตอนนั้นถึงพังหน้าต่างแล้วกระโดดออกไป นอแมนก็ยืดอกแล้วตอบกลับมาว่า–
‘กะ กะ ก็บอกไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วไงว่าปวดฉี่ ฉันก็แค่รีบวิ่งไปฉิ้งฉ่องข้างนอกก็เท่านั้นเอง ไม่ได้หนีอะไรทั้งนั้นแหล่ะ !!!’
‘หรอคะ….’
ฉันได้แต่พยักหน้ารับเงียบๆ พลางคิดว่านอแมนที่ปฏิเสธด้วยสีหน้าร้อนรนนั้นโกหกทั้งเพ
แต่ดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาก็คิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะผู้ชายคนนี้ก็เป็นพวกอึดตายยากอยู่แล้ว แถมยังเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย ถ้าบอกว่าไม่เป็นไร มันก็คงไม่เป็นไรจริงๆนั่นแหล่ะ ตราบใดที่ไม่กลัวไอรินน้อยของฉันที่แสนจะน่ารักจนฉี่ราด ฉันก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรกับการตัดสินใจที่ห่วยแตกของเขาซักเท่าไหร่
หลังจากนั้นเราทั้งสี่คนก็เลยหอบสังขารไปที่ห้องรับแขก
“ก็ตามที่พูดมา นอกจากพวกเราจะต้องมีคนแอบซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้แน่ๆ”
หลังจากที่นอแมนยืนยันคำพูดเดิมอีกครั้ง แม้หัวหน้าพ่อบ้านเอลวินจะไม่คลายความสงสัยไปจนหมด แต่ตัวเขาที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่งก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ออกมาเสียก่อน
“ด้วยการยืนยันจากตุ๊กตารับใช้ทั้งหมด ทีนี้ก็คงเชื่อแล้วสินะครับว่ากระผมคือตัวจริง”
“เข้าใจแล้ว ทางนี้ต้องขออภัยที่เข้าใจผิด”
“ทางนี้ก็เช่นกัน ขออภัยเป็นอย่างสูงขอรับ”
เพียงแค่พ่อบ้านเอลวินแสดงหลักฐานว่าตุ๊กตารับใช้ทั้งหมดต่างเชื่อฟังคำสั่งของเขา แล้วก็ลองให้นอแมนดึงๆหน้าของเขาดูว่ามีหน้ากากสวมทับอยู่รึเปล่า ในที่สุดก็เป็นอันสรุปว่าพ่อบ้านเอลวินคนนี้ไม่ใช่ตัวปลอมตามที่นอแมนโกหกเอาไว้
“ถ้าเช่นนั้น กระผมคงต้องขอตัวไปแจ้งให้นายท่านรับทราบเสียก่อน แล้วก็อยากจะขอรบกวนให้ทุกท่านอยู่รวมกันภายในอาคารหลังเดิมที่ห้องนั่งเล่น กระผมจะสั่งให้ตุ๊กตารับใช้ทั้ง 5 ตัว คอยเฝ้าระวังความปลอดภัยให้ทุกท่านเองครับ”
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”
“ส่วนเรื่องบาดแผล คงพาไปส่งโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้เช้า ”
“ไม่เป็นไร แผลก็ไม่ได้ใหญ่มาก ตอนนี้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปเรียบร้อยแล้ว”
พอได้รับการยืนยันว่าตัวเองสบายดีจากนอแมน พ่อบ้านเอลวินก็พยักหน้าให้ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
“หลังจากนี้ขอให้พวกท่านพักผ่อนรวมกันไปก่อน เดี๋ยวกระผมและพวกตุ๊กตาจะตามหาตัวคนร้ายเอง ไว้เจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้า”
เอี๊ยดดด…..ตึ้ง !
หลังจากที่พ่อบ้านเอลวินเดินออกไปและประตูได้ปิดลง ภายในห้องนั่งเล่นขนาดกว้างขวางซึ่งปูพื้นด้วยพรหมสีแดง และ มีโค้มระย้าราคาแพงเปล่งประกายระยิบระยับประดับบนเพดาน บัดนี้ก็เหลือเพียงแค่พวกเราสามคนและตุ๊กตารับใช้ 3 ตัว ส่วนอีก 2 ตัวที่ถูกวางทิ้งไว้หน้าห้อง
“ว่าแต่ ไม่นั่งห่างกันเกินไปหน่อยหรอ ?”
หลังจากที่คุยเรื่องจริงจังกันมาตั้งนาน ฉันก็ถามนอแมนถึงสิ่งที่คาใจมาโดยตลอด
“ไม่ล่ะ ระยะกำลังดีเลย”
นอแมนพูดเช่นนั้น โดยที่ตัวเขายืนพิงกำแพงห่างจากพวกเราไปประมาณ 10 เมตรได้
แน่นอนว่าระหว่างที่คุยกัน ฉัน ไอริน และ พ่อบ้านเอลวินต่างก็นั่งบนโซฟา มีเพียงนอแมนคนเดียวที่ยืนพิงกำแพงห่างออกไปไกลสุดถึงมุมห้อง ทว่า พวกเราก็สนทนากันตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นึกว่าพ่อบ้านเอลวินจะเชิญให้นอแมนไปนั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวฉัน ซึ่งในตอนนี้ไอรินก็กำลังนั่งตักของฉันอยู่และไม่ยอมลงไปเสียที
สาเหตุหลักๆก็คงมาจากน้องสาวที่น่ารักของฉันคนนี้ที่ค่อนข้างจะไม่พอใจ เหตุการณ์เมื่อกี้ที่ฉันไปพยุงตัวนอแมนขึ้นมาจนหน้าอกสัมผัสโดนหน้าของนอแมน
เรียกได้ว่า คุณพ่อบ้านเอลวินอย่างน้อยก็เอาใจใส่นอแมนตรงจุดนี้ล่ะมั้ง ?
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือไอรินที่ยึดตักของฉันไม่ปล่อยต่างหาก
อื้มๆ หึง ล่ะ ไอรินหึงด้วยล่ะ แบบนี้ก็ยิ่งรักเด็กคนนี้มากกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัวเลย ฮุๆ
“~ ♪”
ฉันสัมผัสเรือนผมนุ่มลื่นของไอรินน้อยอย่างเพลิดเพลิน ส่วนไอรินก็ฮัมเพลงอย่างมีความสุข
“— !!!”
“หยึย !”
ทว่า ไอรินก็มิวายทำตาขวางใส่นอแมนเป็นระยะๆ
“ช่วยเข้ามาใกล้หน่อยได้รึเปล่าคะ แบบนี้มันคุยกันลำบาก”
“มะ มะ ไม่ไหวหรอก”
“อย่ากลัวไปเลยค่ะ ไอรินของฉันไม่กัดหรอกเนอะ ! ใช่ไหมจ้ะ ?”
ได้ยินที่ฉันถาม ไอรินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแจ่มใส
“ค่ะ ! หนูไม่มีทางทำเรื่องโหดร้ายพรรคนั้นหรอกค่ะพี่ริซ แล้วอีกอย่าง—”
ไอรินส่งรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยสัมพันธไมตรีให้ทางนอแมนที่เขยิบไปไกลยิ่งกว่าเดิม
‘จะกัดทำไม มันต้องฆ่าทิ้งเลยต่างหาก’
“หยึย !!!”
ไม่รู้ทำไมนอแมนถึงสะดุ้งโหยงอีกรอบ แต่บางทีคงแปลกใจที่ไอรินส่งยิ้มที่แสนจะน่ารักให้เขาล่ะมั้ง อื้มๆ ไอรินนี่ก็มีสเน่ห์เหมือนกันนะเนี่ย ทำเอาผู้ชายที่เห็นตกอยู่ในมนตร์สะกดจนขยับไปไหนไม่ได้เลย ใช่เล่นนะเราน่ะ
“แต่ยังไงก็ตามช่วยเข้ามาใกล้ๆหน่อยเถอะค่ะ”
ฉันมองไปยังตุ๊กตาทั้งสามตัวที่กำลังจับตามองพวกเราอยู่
“แต่ว่า—”
“เฮ้อ….งั้นเอาแบบนี้”
“อ๊ะ ?”
ฉันเอามือปิดตาของไอริน จนไอรินที่เจอกับความมืดหลุดเสียงร้องประหลาดใจออกมา
“พี่ริซถ้าปิดตาหนูเอาไว้แบบนี้ หนูก็ฆ่าขยะแมนไม่ได้สิ”
“พอเลยเราน่ะ ขืนทำแบบนี้ก็ไม่ได้ไปไหนต่อกันพอดี เอ้า นอนบนตักพี่อยู่เงียบๆเป็นเด็กดีไปก่อนนะไอริน”
“อื้อออ ถ้าพี่ริซว่างั้นก็ได้ค่ะ…อรื้ออออ แต่พอมองอะไรไม่เห็นแล้ว สัมผัสของร่างกายของพี่ริซที่กำลังกอดหนูอยู่ มันก็มากขึ้นไปอีก…แฮ่กๆ”
ก่อนที่ไอรินจะเปิดประตูแปลกๆเข้า ฉันก็รีบดึงนอแมนที่เดินเข้ามาใกล้อย่างกล้าๆกลัวๆให้เข้าเรื่อง
“คิดว่าไง ?”
พอฉันถาม นอแมนก็พยักหน้าราวกับรู้ใจ
เขาเอ่ยกับฉันด้วยเสียงอันแผ่วเบาเพื่อไม่ให้พวกตุ๊กตาได้ยิน
“ดูเหมือนแผนจะล้มเหลวแฮะ”
“ใช่……คิดเหมือนกันเลย”
แม้ฝั่งนั้นจะบอกว่าเชื่อที่พวกเราพูดก็ตาม แต่อีกฝั่งก็ปลักใจเชื่อง่ายมากเกินจนน่าสงสัย
ซ้ำร้ายยังทิ้งตุ๊กตาไว้กับพวกราตั้ง 5 ตัว แม้ปากจะบอกว่าเอาไว้คุ้มกัน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง การเอาพวกเรามารวมกันไว้ที่นี่ไม่ให้ออกไปไหน มันก็ไม่ต่างจากการคุมขังกันทางอ้อม
“เอาไงต่อดี หนีเลยดีไหม ?”
“ถ้าหนีตอนนี้ ฉันก็ได้ตายเอาน่ะสิ !!!”
“แต่ถ้าอยู่ต่อแล้วฝั่งนั้นเรียกกำลังเสริมมาเพิ่ม แบบนั้นก็ตายเหมือนกันไม่ใช่หรอ ?”
พอเห็นนอแมนลังเลที่จะหนี ไอรินก็พูดเสริม
“ใช่….ถ้าอยู่ในห้องนี้ต่อไปอีกซักพัก เดี๋ยวขยะแมนก็ตายหรอก”
“…………………”
“…………………”
“ต้องตายแน่ๆเลย เราขอรับประกัน”
“……………….”
“……………….”
ไม่รู้ทำไมพอพูดออกจากปากไอรินแล้ว คำพูดนั้นถึงได้น่าเชื่อถือซ่ะจนทำเอานอแมนต้องรีบวิ่งกรูหนีไปยืนชิดอยู่ที่กำแพง
เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อตั้งสติ ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเดินกลับมาใหม่อีกรอบ
“คือ—”
“ตายแน่ๆ”
“หยึย !”
“ไอรินเลิกแกล้งคุณนอแมนได้แล้ว”
“อู้ๆๆๆ”
ว่าแล้วฉันก็ปิดปากไอรินก่อนที่จะขู่ฆ่านอแมนเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันนี้
“ฉะ ฉันมีแผน”
พอนอแมนกลับมายืนอยู่ใกล้ๆอีกรอบ เขาก็พูดออกมาด้วยท่าทางมั่นใจ
“แผนเยอะจังนะคะ”
“รับรองรอบนี้สำเร็จแน่”
“นี่ก็พลาดมาสองรอบแล้วนะ”
“อย่างน้อยขอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ขอโอกาสครั้งที่สามให้ฉันทีเถอะ”
“……………………”
“…………………..”
จะว่าไปแล้ว มันมีอยู่คำถามหนึ่งที่ฉันยังไม่ได้ถามคุณพ่อบ้านเอลวินเลยนี่นา
ถึงจะพอเดาคำตอบได้ แต่การยืนยันจากเจ้าตัวอีกที นั่นคงจะเป็นการดีที่สุด
ถ้าถอยกลับไปกระทันหันแบบนี้ คงไม่ได้คำตอบแน่ๆ
“เฮ้อ…..เข้าใจแล้วค่ะ”
“พี่ริซ ! ทำไมถึงตอบไปแบบนั้นอ่ะ ไม่เอา ! ไม่เห็นด้วย ขอคัดค้านค่ะ !”
“น่าๆ พี่สัญญาเลยว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”
“ถึงจะพูดแบบนั้น หนูก็ไม่เอาด้วยหรอก คราวนี้หนูขอทำตามใจตัวเองบ้างเถอะ ! เห็นยอมทำตามหมอนั่นมาตั้งสองครั้งแล้ว ไม่เห็นจะได้เรื่องเลยซักครั้งอ่ะ”
“แล้วแผนของไอรินคืออะไรละ ?”
“ทำให้พวกมันกลายเป็นปุ๋ยบำรุงหน้าดินไปให้หมดก็พอแล้วนี่คะ ? หรือ ถ้าพี่ริซกลัวความเสียหายมากนัก เดี๋ยวหนูจะใช้เวทย์ควบคุมจิตใจให้ก็ได้นะ”
“หรอ ? งั้นลองใช้กับนอแมนดูสิ”
ว่าแล้ว ฉันก็ยกมือที่ปิดตาของไอรินออก
“เอ้า ! จงมองตาของเราซ่ะ !”
ทว่า นอแมนที่รู้ว่าไอรินกลับมาลืมตาอีกครั้งกลับหันหลังให้โดยทันที
“— !!!”
“ดูท่าว่าทั้งหัวหน้าพ่อบ้านและนอแมนคงไม่กล้ามองตาของไอรินตลอดชีวิตแล้วล่ะ”
“ไหงเป็นงั้นอ่ะ !”
เพราะงั้นแผนการของไอรินจึงถูกยกยอดไปเป็นแผนสุดท้ายในกรณีที่รอบนี้แผนของนอแมนล้มเหลวอีกรอบค่ะ
“งั้นแผนของคุณคืออะไรหรอคะ ?”
“ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ เดี๋ยวจะแสดงให้ดูตอนนี้เลยก็ยังได้”
ว่าแล้ว นอแมนก็ชูนิ้วขึ้นมาแล้วขยิบตาให้
“แต่ก่อนอื่น ฉันคงต้องขอตัวไปทำธุระอย่างหนึ่งก่อน”
“ทำธุระ ?”
“พอดีตั้งแต่ช่วงดึกก็ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำ ตอนนี้ข้าศึกเริ่มจะประชิดประตูหลังแล้วล่ะ”
“อ่อ…ค่ะ”
ยังอุตส่าห์มีอารมรณ์ไปเข้าห้องน้ำได้อีกนะ อีตานี่
แถมไม่ใช่ว่า ก่อนหน้านี้ก็พูดเองว่าไปถ่ายเบาที่สวนมาแล้วหรอกเรอะ !?
“งั้นก็รีบไปรีบมานะคะ”
แต่ไม่แซะล่ะกัน เสียเวลามานานแล้วล่ะ
“โอ้ว ! ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างต้องราบรื่นดีแน่”
“……………”
นอแมนขยิบตาให้กับฉัน ก่อนจะเดินไปห้องน้ำข้างนอกโดยที่มีตุ๊กตาเดินตามหลังไปด้วย
“พี่ริซค่ะ”
“หืม ?”
พอนอแมนจากไป ฉันก็ยกมือที่ปิดตาและปิดปากไอรินออก
น้ำลายใสๆอุ่นๆไหลยืดออกมาจากนิ้วมือที่ฉันอุดปากของน้องสาวตัวน้อย
แน่นอนว่าฉันเอามือไปเช็ดกับกระโปรงหาได้เอานิ้วเข้าปากแล้วเลียต่อเพื่อจูบทางอ้อมตามที่ใครหลายๆคนคาดหวังแต่อย่างใด
“หนูไม่คิดว่าแผนของขยะแมนจะสำเร็จแม้แต่นิดเดียวค่ะ”
“อื้ม….พี่ก็–”
พอมองดูจากบุคลิกนิสัยและการกระทำของหมอนั่นจากที่ผ่านๆมาแล้ว
“อ่า….พูดยากจังแฮะ”
ฉันก็ไม่รู้จะตอบน้องสาวว่ายังไงดี เอาจริงๆแล้ว การไว้วางใจหมอนี่เป็นครั้งที่สามก็ดูจะสิ้นคิดจริงๆนั่นแหล่ะ
แต่ยังไงก็มีไอรินอยู่ทั้งคน ต่อให้ล้มเหลว ก็มีไอรินช่วยปิดเกมให้อยู่แล้ว
ไม่ว่านอแมนจะทำพังเละแค่ไหน ถ้าด้วยพลังของฉันที่ใช้น้ำแข็งสร้างวัตถุปลอมๆขึ้นมาและยังมีพลังของไอรินที่ช่วยเปลี่ยนแปลงความทรงจำ
แม้ นอแมนจะเล่นใหญ่ไฟกระพริบระดับระเบิดภูเขา เผาคฤหาสน์
นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่เกินความสามารถแต่อย่างใด
“แต่ว่ายังไงพี่ก็มีไอรินอยู่ทั้งคน ใช่ไหมละ ?”
“ฮึ ! แน่อยู่แล้ว คิดว่าหนูเป็นใครกันละ ?”
น้องสาวตัวน้อยเชิดหน้าอย่างมั่นใจ ทำเอาฉันอมยิ้มน้อยๆจนต้องลูบหัวของเธอเบาๆจนไอรินส่งเสียง ฮุๆ หลุดออกมาอย่างมีความสุข
ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่แสนจะน่ารัก แต่ยามคับขัน ลูกแมวตัวน้อยของฉันก็สามารถแปลงกายเป็นพญาราชสีห์ที่แสนจะน่ารักอยู่ดี
ใช่…สำหรับ ฉัน ไม่ว่าจะทำอะไร ไอรินก็น่ารักน่ากอดอยู่เสมอนั่นแหล่ะ
ความน่ารักย่อมชนะอธรรม เช่นนั้นแล้ว ผลลัพธ์ของการผจญภัยที่คฤหาสน์นี้จะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
ต้องรีบนำข่าวไปบอกให้นายท่านทราบ !
พ่อบ้านชรารีบก้าวเท้ายาวๆไปตามทางเดินที่ทอดยาวออกไปไกลแสนไกล
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ระยะเพียงแค่นี้สำหรับเขา มันไม่ได้ไกลเกินเพียงสองถึงสามก้าว
ทว่า วิกฤติที่ตนเผชิญก็ทำให้พ่อบ้านเอลวินรู้สึกว่าเวลาเดินช้าซ่ะเหลือเกิน
‘เรื่องพรรคนั้นใครจะไปเชื่อกัน’
แม้แผนของนอแมนจะทำให้เขว แต่พ่อบ้านเอลวินก็หาได้หลงกลแผนการมักง่ายพรรคนั้นแต่อย่างใด
‘จากพลังของเด็กสาวสองคนที่ตามพ่อหนุ่มนั้นมา หากพ่อหนุ่มคนนั้นจะมีความสามารถแฝงที่คาดไม่ถึงมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก’
คนแปลกย่อมอยู่ร่วมกับคนแปลก
เพราะเชื่อเช่นนั้น พ่อบ้านเอลวินจึงรีบตรงดิ่งไปยังห้องนอนของเจ้านายของตนอย่างมหาเศรษฐีบาเรนโดยไม่ลังเล
แน่นอนว่าเรื่องที่บอกให้พวกนอแมนพักรวมกลุ่มกันเพื่อความปลอดภัยนั้นโกหกทั้งเพ
‘ต้องเอามาอยู่รวมกันแล้วจับตาดูเอาไว้ ด้วยเวทย์วิญญาณของกระผม ตุ๊กตาแต่ล่ะตัวจะส่งผ่านข้อมูลผ่านทางกระแสจิตทำให้รู้การเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นตลอดเวลา’
“ไปห้องน้ำอย่างงั้นรึ ?”
แน่นอนว่าเหตุการณ์เมื่อซักครู่ที่นอแมนขอแยกตัวไปห้องน้ำ ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่เชื่อมกระแสจิตกับเขาก็ได้ส่งต่อข้อมูลมาให้หัวหน้าพ่อบ้านเอลวินผู้นี้รับรู้เรียบร้อยแล้ว
“จับตาดูต่อไป ส่งตุ๊กตาอีกตัวไปเฝ้าด้านล่าง เผื่อพ่อหนุ่มนั่นจะหนีไปทางหน้าต่าง”
แม้มองเผินๆจะดูเหมือนพ่อบ้านเอลวินพูดอยู่คนเดียว
แต่จริงๆแล้วด้วยความสามารถของผู้ใช้ภูติซึ่งสามารถติดต่อกับวิญญาณหรือพวกภูติรับใช้ได้ เขาก็กำลังออกคำสั่งกับพวกตุ๊กตาทั้งหมดในคฤหาสน์อยู่นั่นเอง
“เอาล่ะ…ต้องรีบแล้ว”
หลังจากเดินมาด้วยความเร็วสุดฝีเท้าจนใกล้เคียงกับการวิ่ง พ่อบ้านเอลวินก็ไปหยุดอยู่ที่ประตูบานใหญ่ซึ่งกรอบรอบข้างเปล่งแสงสีทองระยิบระยับยามแต่งแต้มด้วยแสงไฟจากโคมระย้า
โดยไม่รอช้า เขาก็เคาะประตูสองสามที แล้วพูดว่า
“ขออนุญาติครับท่าน–”
สิ้นเสียงนั้น มันก็มีเสียงแหบแห้งและทุ้มต่ำตอบกลับมา
“เข้ามาได้—”
“???”
พ่อบ้านเอลวินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายตอบกลับอย่างรวดเร็ว
ตามปกติแล้วนายท่านของตนจะเข้านอนไปนานแล้ว การมาขอพบตอนกลางดึกจึงมักจะใช้เวลาพักหนึ่งกว่าอีกฝ่ายจะตื่นขึ้นมา
การที่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้พ่อบ้านอดสงสัยไม่ได้ว่านายท่านของตนนั้นตื่นขึ้นมาด้วยเสียงโหวกเหวกจากภายนอก หรือ บางทีอาจจะยังตื่นอยู่ตั้งแต่แรกด้วยสาเหตุบางประการกันแน่ ?
“ขออนุญาตครับ—”
พ่อบ้านเอลวินเก็บความสงสัยเอาไว้ข้างในแล้วรีบเดินเข้าไปเพื่อแจ้งข่าวร้ายให้เร็วที่สุด
“ขออภัยขอรับนายท่าน กระผมมีข่าวด่วนที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบ ในตอนนี้แขกที่มารับภารกิจของท่าน—”
“สามคนนั้นใช่ไหม ?”
“สาม ?…..ครับ ถ้านับรวมไปด้วยก็เป็นสามครับ ”
“งั้นหรอ…….”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นจากเตียงหรูหราที่ปกคลุมด้วยผ้าม่านสีม่วงคล้ำ กลิ่นน้ำหอมแรงฉุนทำเอาปวดจมูก เช่นเดียวกับความอึมครึมภายในห้องที่ต่างจากทางเดินข้างนอกที่ปกคลุมด้วยแสงไฟ
ทว่า ในตอนที่บุคคลเจ้าของห้องค่อยๆยืนขึ้น แสงจันทร์ที่รอดผ่านผ้าม่านเข้ามาก็เผยให้เห็น ชายชราร่างผอมที่ใบหน้าซูบผอมจนแก้มตอบ ดวงตานั้นโปนออก อีกทั้งผิวหนังยังบางจนแทบจะเห็นเส้นโครงของกระดูก เส้นผมที่อยู่บนหัวก็ร่วงเกือบหมดมีเพียงเส้นผมสีขาวติดอยู่เป็นหย่อมๆ
ยามที่ร่างกายที่ผอมแห้งซึ่งสวมใส่ด้วยอาภรณ์สีมรกตยืนขึ้นมา มันก็ทำให้นึกถึงภาพลักษณ์ของกิ่งไม้ที่เอากระดาษทิซซู่มาห่อ
เพียงแค่มองก็รู้ว่าเป็นชายชราที่สุขภาพร่างกายดูแล้วไม่น่าจะแข็งแรง
กระนั้นแล้ว การเคลื่อนไหวของเขาก็หาได้เชื่องช้า และ คำพูดคำจาก็แจ่มชัด ต่างจากรูปลักษณ์ภายนอก
— ชายชราผู้นี้มีนามว่า ‘บาเรน’
มหาเศรษฐีซึ่งกลุ่มคนเบื้องหลังของประเทศนี้ต่างรู้กันดีว่า เขาเป็นหนึ่งในพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ของประเทศ
การที่สินทรัพย์ของเขามีมากมายถึงเพียงนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากธุรกิจเกี่ยวกับสงครามที่ครั้งหนึ่งเขาเคยดูแลอยู่ ในฐานะหัวหน้าบริษัท จนตอนนี้เขาก็ได้ส่งผ่านไปให้พวกรุ่นน้องดูแล ส่วนตนนั้นก็ปลีกวิเวกมาอยู่คนเดียวและกินเงินหุ้นส่วนที่ถือครองกว่า 50% ไปวันๆ โดยไม่ต้องแบกรับภาระอะไร
กระนั้นแล้ว ช่วงบั้นปลายชีวิตที่เหลืออยู่ของชายชราอายุกว่า100 ปีผู้นี้ก็หาได้เป็นไม้ใกล้ฝั่งที่รอความตายแต่อย่างใด
ซึ่งมันก็แน่นอนว่า เหตุผลดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับภารกิจที่เขาทำการจ้างวานอยู่ในตอนนี้นั่นเอง
“ขออภัยที่กระผมประเมินพลังของพวกนั้นต่ำเกินไป กระผมเกรงว่าพลังของทั้งสามคนนั้นจะอันตรายกับตัวท่าน ….ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะขอให้ท่านไปยังที่หลบภัย ระหว่างนั้นกระผมก็จะตามกำลังเสริมมาเพิ่ม”
พ่อบ้านเอลวินเสนอพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้หมายจะเชิญนายเหนือหัวของตนไปยังสถานที่อันปลอดภัยจากปีศาจร้ายในคราบเด็กมหาภัยที่แค่เผลอจ้องหน้าก็ถึงกับฉี่รดกางเกง
ทว่า แม้จะเป็นเช่นนั้น ชายชรานามบาเรนก็หาได้หวั่นเกรง
เขายกมือขึ้นมาห้ามแล้วชูกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาอ่าน
“ในกลุ่มคนพวกนั้นมีชายที่ชื่อว่า นอแมน อยู่ใช่หรือไม่ ?”
“ใช่ขอรับ ไม่ทราบว่าท่านทราบได้ยังไง”
ตั้งแต่มาถึงตนก็ยังไม่ได้แจ้งชื่อของแขกทั้งสามคนให้บาเรนทราบ เขาจึงอดแปลกใจไม่ได้ที่เจ้านายของตนจะรู้ชื่อของอีกฝ่าย
กระนั้นแล้ว พอเลื่อนสายตาไปเห็นกระดาษหรือก็คือจดหมายที่อยู่ในมือของบาเรนซึ่งประทับตราอันสูงส่งนั่นอยู่ พ่อบ้านเอลวินก็พอจะเดาได้แล้วว่าเจ้านายของตนทราบเรื่องได้ยังไง
ทว่า อีกใจหนึ่งเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่น เพราะตราที่ประทับอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นมันก็คือ—
“เฮ้อ…สหายของข้า…..ไม่คิดเลยว่าจะส่งตัวอันตรายพรรคนั้นมาให้”
ชายชราลูบไปบนสัญลักษณ์วงกลมสีแดงสามวงซ้อนทับกันและมีเส้นขีดสามเส้นผ่ากลาง โดยมีปีกสองข้างประดับอยู่ฝั่งซ้ายและขวา
สิ่งที่อยู่บนจดหมาย นั่นคือ สัญลักษณ์ของสาธารณรัฐยูเฟเซียอันสูงส่งแห่งนี้
การที่ตราดังกล่าวประทับอยู่บนจดหมาย นั่นหมายความว่า ผู้ที่ส่งมาต้องมีความเกี่ยวข้องที่ลึกซึ้งกับเบื้องบนของสาธารณรัฐ
“จงฟังให้ดีเอลวิน—”
ชายชราเอ่ยกับพ่อบ้านของตนด้วยน้ำเสียงอันเย็นยะเยือก
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนพวกนั้นจะทำอันตรายกับข้า เพราะ การมาเยือนในครั้งนี้เป็นไปตามการคาดการณ์ที่สหายของข้าบอกมา”
“แต่…..อึก ! เข้าใจแล้วครับ”
แม้ตอนแรกจะพยายามแย้ง แต่เมื่อเจ้านายของตนส่งสายตาอันคมกริบมาให้ พ่อบ้านเอลวินก็รับฟังอย่างว่าง่าย
“และที่สำคัญอีกอย่าง —-”
ชายชราเดินไปยังระเบียงแล้วเปิดม่านออก
แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าเหี่ยวย่นที่เฉยชาไร้อารมณ์
“ในฐานะที่เจ้าเป็นข้ารับใช้ผู้จงรักภักดีซึ่งอยู่เคียงข้างข้ามาหลายสิบปี ข้าจึงมีหนึ่งสิ่งที่อยากเตือนเอาไว้เกี่ยวกับแขกในครั้งนี้”
“ครับ !”
“จงระวังคนๆนั้นเอาไว้ให้ดีๆ”
“รับทราบครับ ถ้าหมายถึงพลังของเด็กสาวคนนั้น กระผมรู้ดีเลยว่าคงไม่อาจต่อกรกับนางได้แม้เพียงเสี้ยววิ”
“ไม่ใช่—”
ทว่า บาเรนกลับส่ายหัวปฏิเสธแล้วลูบไปบนตราสัญลักษณ์บนจดหมายของตนเบาๆ
“สิ่งที่เจ้าควรระวังที่สุด มันคือ ผู้ชายคนนั้นต่างหาก”
“ครับ ?”
“จงระวังชายที่มีชื่อว่า นอแมน เอาไว้ให้ดีๆ”
คำพูดที่ดูจริงจังกว่าปกติของบาเรนทำให้เอลวินกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่
“อย่าพูดกับมันเพียงเพราะมันเป็นมิตรที่ดี อย่าร่วมงานกับมันเพียงเพราะมันเป็นสหายที่น่าเชื่อใจ จงอย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกหลอกว่ามันเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา ”
ดวงตาอันคมกริบจับจ้องไปยังท้องฟ้าที่บัดนี้แต่งแต้มด้วยหมู่ดาว
เสียงที่คล้องจองราวกับร่ายกลอนทำให้พ่อบ้านตกอยู่ในมนตร์สะกดของวาจาอันศักดิ์สิทธิ์
“หากรักชีวิตจงอย่ายุ่งกับมัน หากรักตัวกลัวตายก็จงหนีไปให้ไกลและแสร้งทำเหมือนบุรุษผู้นั้นไม่มีตัวตน”
ชายชราถอนหายใจ ก่อนจะพูดออกไปด้วยเสียงอันทุ้มต่ำแต่กลับดังก้องกังวาน
“ผู้สืบทอดนามแห่ง ‘นอแมน’ มิเคยมีผู้เกี่ยวข้องใดที่ตายดี ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องจบชีวิตลงเพียงเพราะข้องเกี่ยวกับบุคคลอันเป็นที่รังเกียจของดวงดาว”
อึก !
พ่อบ้านเอลวินถึงกับกลั้นหายใจ ยามที่เห็นเจ้านายของตนเอ่ยคำๆหนึ่งขึ้นมา
“เดี๋ยวข้าจะไปพบแขกของข้าเสียหน่อย คงเป็นการเสียมารยาทหากไม่พบแขกคนสำคัญที่สหายของข้าส่งมาให้”
“ขอรับ….”
หลังจากที่เอ่ยเช่นนั้นขึ้น พ่อบ้านเอลวินก็เดินนำของตนออกไปพลางเก็บงำความรู้สึกขมุกขมัวที่เกิดจากความกังวลเอาไว้ข้างในไม่ให้แสดงออกมาทางสีหน้า
ในที่สุด เขาก็พึ่งนึกออกถึงความสำคัญของคำว่า ‘นอแมน’
สำหรับพวกเขาที่ข้องเกี่ยวกับการปกครองเบื้องหลังของโลกใบนี้ ไม่มีทางเลยที่จะไม่เคยได้ยินชื่อๆนี้ผ่านหูมาก่อน
แต่ใครมันจะไปคิดกันล่ะว่า นอแมน ที่ตนเจอในวันนี้ไม่ใช่แค่คนชื่อเหมือน
หากแต่เป็น ‘นอแมน’ คนนั้น ตัวจริงเสียงจริง
“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง…ต่อจากนี้ มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?”
ไม่มีใครตอบคำถามของพ่อบ้านเอลวินได้
แม้กระทั่งชายที่ใช้ชื่อว่า ‘นอแมน’ อยู่ในตอนนี้ก็ตาม
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
หลังจากที่นอแมนไปเข้าห้องน้ำ มันก็ผ่านมาตั้ง 30 นาทีได้แล้ว !
นี่มันนานมากๆเลย เข้าห้องน้ำนานไปป่าว ?
อดสงสัยไม่ได้เลยจริงๆว่า คนแบบหมอนั่นจะแอบหนีออกจากห้องน้ำทางหน้าต่างด้านหลังรึเปล่า ?
“ไปดูกันเถอะ”
“อ่า….ขี้เกียจอ่ะ แต่ถ้าพี่ริซว่างั้น หนูไปด้วยก็ได้”
สุดท้ายพวกเราก็พากันไปห้องน้ำที่นอแมนอยู่
ทว่า เมื่อเราไปถึงก็พบกับตุ๊กตาที่ยืนรออยู่หน้าประตูห้องน้ำเงียบๆ ไม่เคลื่อนไหวอะไร
“ฮือ ? เกิดอะไรขึ้น นอแมนยังไม่ออกมาจากห้องน้ำอีกหรอ ?”
พอฉันถามออกไปแบบนั้น ตุ๊กตาก็ส่ายหน้าขวับ
ฉันจึงยื่นมือไปที่ประตูห้องน้ำแล้วเคาะเบาๆ
ก้อกๆ
“คุณนอแมนอยู่รึเปล่า ?”
“…………………”
ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา บรรยากาศกลางดึกตอนนี้ช่างเงียบเชียบและวังเวง
ก้อกๆๆ
ฉันก็เลยเคาะประตูไปอีกรอบ
ก้อกๆ
กระนั้นแล้ว มันก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา
“ทำไมถึง ?”
ทว่า ก่อนที่ฉันจะตั้งข้อสงสัยมากไปกว่านี้ ทันใดนั้นเอง มันก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากในห้องน้ำ
“อุแว้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
หืม ?
“พี่ริซ ?”
“เสียงนี่มัน ? เด็กทารก !?”
ใช่ ทันใดนั้นเอง เสียงร้องไห้ของเด็กทารกก็ดังออกมาจากในห้องน้ำ
อะไรของหมอนี่กันเนี่ย ? จะเล่นเป็นเด็กทารกไปเพื่ออะไร ? ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“……………..”
ใช่….หมอนั่นจะทำไปเพื่ออะไรกัน ?
จะแกล้งเล่นเป็นเด็กทารกไปเพื่ออะไร
จะแสร้งร้องแบบนั้นแล้วได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
นอกเสียจากว่า—
“ไอริน ?”
“ไม่หรอกน่าพี่ริซ นอแมนจะกลายเป็นเด็กทารกไปได้ยังไง ไม่มีทางหรอกเนอะ !”
เราทั้งคู่มองตาแล้วพูดกันเช่นนั้น
หลังจากที่พยักหน้าให้กัน ฉันก็เลยร่ายเวทย์น้ำแข็งใส่ลูกบิดแล้วพังประตูห้องน้ำเข้าไปเสียเลย
ตึ้ง !!!
“เอาล่ะ เลิกเล่นได้ — !?”
ทว่า เมื่อฉันมองเข้าไปในห้องน้ำ ตรงตำแหน่งของชักโครกที่ถูกปิดฝาอยู่
สิ่งที่ฉันพบก็หาใช้ตูดของนอแมน หากแต่เป็นตะกร้าหวายเล็กๆตะกระหนึ่ง
“อุแว้ๆๆๆ”
ซึ่งภายในนั้น มันก็มีเด็กทารกหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังร้องไห้อยู่นั่นเอง
“……………….”
“………………..”
ฉันกับไอรินมองหน้ากันอีกครั้ง ในใจของพวกเราทั้งคู่ก็คงคิดเหมือนกันว่า
‘ ‘ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีกแล้วเนี่ย !? ’ ’
เหตุการณ์ประหลาดๆนี่ต้องเป็นฝีมือของนอแมนไม่ผิดแน่ๆ
ผู้เขียน :
อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามีนอเเมน เอาล่ะ ตอนหน้าเนื้อเรื่องก็คงจะขยับไปอีกนิดนึงล่ะมั้ง ?
ส่วนนอเเมนจริงๆเเล้วเป็นใคร จนจบเรื่องจะเคลียร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับไอ้หมอนี่ได้หมดรึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
เเต่จะว่าไปอุตส่าห์วางจุดจับผิดไว้เเล้วก็ขอใบ้อะไรนิดหน่อยล่ะกัน
สำหรับคนที่อ่านตอนที่ 25 ก่อนไปอ่านตอนที่ 26 อาจจะไม่เจออะไรเเปลกๆ
เเต่ถ้าอ่านย้อนจากตอนที่ 26 ไปตอนที่ 25 จะเจอว่ามีคนๆหนึ่งหลุดเรื่องที่ไม่น่าจะรู้ออกมา ซึ่งคำๆนั้นก็เเนบเนียนอยู่ในประโยคสนทนาซ่ะจนไม่เเน่ใจเหมือนกันว่าจะมีใครรู้สึกตัวรึเปล่าเพราะ หลังจากตอนที่ 26 เป็นต้นมา ไอริซก็ชอบหลุดปากออกมาตลอดตอนอยู่กับคนเยอะๆ
ช่างเป็นคุณพี่สาวที่ซุ่มซ่ามซ่ะเหลือเกิน…..
เเถมตัวร้ายเรื่องนี้ก็เป็นพวกนำหน้าพวกตัวเอกอย่างน้อยหนึ่งก้าวเสมอ ต่อให้ฝั่งตัวเอกจะเเข็งเเกร่งเเค่ไหน ถ้าตัวร้ายมีเเผนมารองรับล่ะก็ เคี้ยวกันยากเเน่นอน ถึงเอาจริงๆเเล้วในเรื่องนี้ทุกคนในเรื่องจะสามารถกลายเป็นตัวร้ายได้หมดนั่นเเหล่ะนะ
เอาเป็นว่าบ่นเท่านี้เเหล่ะครับ จะพยายามเข็นตอนใหม่ออกมาให้เร็วที่สุด
Chapters
Comments
- ตอนที่ 38 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 37 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 36 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 35 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 34 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 33 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 32 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 31 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 30 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 29 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 28 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 27 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 26 พฤษภาคม 13, 2022
- ตอนที่ 25 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 24 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 23 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 22 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 21 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 18 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 17 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 16: น้องสาวผู้น่ารักของฉันโดนดุ เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 15: พี่สาวของหนูตายซ่ะเเล้ว !? เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14: น้องสาวผู้น่ารักของฉันมีมากกว่าหนึ่งคน !? เมษายน 28, 2022
- ตอนที่ 13: น้องสาวผู้น่ารักของฉันฝึกทำอาหาร เมษายน 27, 2022
- ตอนที่ 12: การเดินทางของพวกเขาทั้งหลาย เมษายน 26, 2022
- ตอนที่ 11: พี่สาวของหนูต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป เมษายน 24, 2022
- ตอนที่ 10: พี่สาวของหนูพูดอะไรบางอย่างที่น่าจะสำคัญ เมษายน 23, 2022
- ตอนที่ 9: พี่สาวของหนูถูกพรากไป พร้อมๆกับพวกเพื่อนๆ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 8: น้องสาวผู้น่ารักของฉันยอมพูดเปิดใจนิดหน่อย เมษายน 20, 2022
- ตอนที่ 7: น้องสาวผู้น่ารักของฉันช่วยปกป้องคุณพี่สาวด้วยล่ะ ! เมษายน 19, 2022
- ตอนที่ 6: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเเสดงความเป็นห่วงด้วยล่ะ ! เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 5: เพื่อจบความขัดเเย้ง การเสียสล่ะคือสิ่งที่จำเป็น เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 4: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเข้าวัยต่อต้าน !? เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 3: ไม้ต่อ เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 2: เเยกจาก เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นภายในห้องขังอันอับชื้น เมษายน 18, 2022
MANGA DISCUSSION