ตอนที่ 32
‘ขยะแมนโดนไอรินดีดนิ้ว จนกลายเป็นฝุ่นไปซ่ะแล้ว’
ในตอนที่เห็นฝุ่นทรายกองอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆและไอรินที่นิ่งเงียบกว่าปกติ
ความคิดที่น่าสยดสยองก็แล่นเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว
ภาพของขยะแมนที่เดินมาเจอตัวฉันที่กำลังนั่งหลับอยู่และไอรินที่ช่วยเฝ้าฉันเอาไว้ให้
พอเห็นท่าทางหลับเป็นตายของฉัน ขยะแมนก็ลงทุนไปหาหมึกและพู่กันมาเพื่อที่จะเอามาแกล้งฉันซ่ะหน่อย
เสียงบทสนทนาและบรรยากาศอึมครึมระหว่างคนสองคน จินตนาการได้ไม่ยาก
‘ฮึ ! นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมกล้ามากที่บังอาจดูหมิ่นฉันคนนี้มาโดยตลอด คราวนี้แหล่ะฉันจะสอนให้เธอรู้เองว่าผู้ใหญ่น่ะเขาแก้ปัญหากันยังไง !?’
‘ขยะแมน จะทำอะไร ?’
‘ก็ใช้พู่กันและหมึกนี่ละเลงบนใบหน้าของนังหนู เพื่อให้มันรู้ซึ้งถึงสิ่งที่เรียกว่า บทเรียนยังไงละ !!!’
‘งี้นี่เอง—’
‘เอาละ ส่วนเธอก็นั่งๆเงียบอย่าปลุกพี่สาวของเธอล่ะ ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะใช้อาวุธชีวภาพชิ้นนี้ละเลงหน้าของเธอให้กลายเป็นเปาบุ้นจิ้นไปด้วยเลย !’
‘เข้าใจแล้ว….จะไม่ปลุกละกัน’
‘ฮ่าๆๆ วันนี้เข้าใจง่ายผิดคาด นึกว่าจะห้ามซ่ะอีก แต่ก็ดีแล้ว ทางนี้จะได้ละเลงหน้าของนังนี่ง่ายๆ’
‘ถ้าพี่ริซรู้เข้าล่ะก็ ขยะแมนโดนโกรธแน่ๆ คงเตรียมใจไว้แล้วสินะ’
‘ฮึ ! ก็แค่มือลื่นน่ะ ไม่ได้ตั้งใจซักหน่อย ข้ออ้างก็ประมาณนี้ละกัน’
หงึกๆ
ไอรินได้ยินดังนั้นก็หยักหน้าด้วยใบหน้าเฉยชา
‘เป็นเหตุผลที่ไม่เลวเลย’
‘หืม ?’
ว่าแล้ว ไอรินก็ยื่นนิ้วมาที่ใบหน้าของขยะแมน
‘มีอะไรหรอ ?’
‘ไม่มีอะไรหรอก….เราก็แค่’
เด็กสาวที่ใบหน้าเย็นชาราวเครื่องจักรและมีดวงเนตรสีแดงคมราวกับใบมีดจับจ้องไปยังชายหนุ่มผมทองที่ทำหน้างงโดยไม่ปกปิดรัศมีสีดำที่แผ่ออกมารอบกาย
พริบตาที่ชายหนุ่มกำลังจะเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพราะสัมผัสถึงอันตราย เด็กสาวผมเงินก็เอ่ยต่อด้วยเสียงราบเรียบไร้อารมณ์
‘พอดีมือลื่นนิดหน่อย ขอโทษนะ—’
เป๊าะ !
สิ้นเสียงดีดนิ้วเบาๆ นอแมนที่เคยอ้าปากพูดจ้อก็กลายร่างเป็นฝุ่นทรายกองถมกันอยู่ที่พื้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“กรี๊ดดดดดดด ไม่จริงๆๆ ไอริน แค่พี่โดนเขียนหน้า ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลยนี่นา !”
“หะ หะ เหวออออ”
ทันทีที่ฉันรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ ฉันก็รีบคว้าไหล่ของคุณน้องสาวแล้วเขย่ารัวๆ
“ทำไมๆๆๆ นี่มันผิดพลาดตรงไหนกัน ? ก็เข้าใจว่าเป็นห่วงพี่ แต่ไม่คิดว่าจะทำถึงขนาดนี้เลยนะ !?”
“ดะ ดะ เดี๋ยว จะ จะ ใจเย็นๆก่อน”
“ไม่เย็นแล้วจ้ะ ! อีแบบนี้ใครจะไปเย็นลงได้กัน น้องสาวของพี่พึ่งฆ่าคนตายไปหมาดๆเลยนะ !”
“ฆ่า ? เพ้ออะไรของพี่ริซอีกแล้วเนี่ย ?”
“อย่าปฎิเสธความจริงสิไอริน ! พี่เข้าใจนะว่าหมอนั่นมันขยะชั้นสว่ะที่ห่วยแตกโหลยโท่ยจนขยะก็ยังอาย แต่ถึงมันจะเป็นสวะจนไม่น่าคิดว่าเป็นมนุษย์ แต่โดยกฎหมายก็ถือว่าเมื่อกี้ไอรินพึ่งฆ่าคนตายไปหมาดๆเลยนะ ถึงจะตีความได้อีกแง่ว่าการดีดนิ้วปิ้วๆใส่ขยะแมนไม่ถือเป็นการฆ่าคน เพราะขยะแมนเป็นขยะไม่ใช่มนุษย์ แต่ยังไงการฆ่าขยะแมนก็ถือเป็นการฆ่าคนไม่ใช่การฆ่าขยะอยู่ดี แม้ว่า สำหรับหมอนั่นคำว่าขยะหรือคนจะมีความหมายใกล้เคียงกันจนถึงขั้นน่าสิ้นหวังก็ตาม แต่ถ้าไอรินฆ่าขยะแบบนั้นมันก็ทำให้ไอรินตกต่ำยิ่งกว่าคนกวาดขยะที่ฆ่าขยะเสียอีก ถึงจะไม่รู้ว่าคนกวาดขยะที่ฆ่าขยะหมายความว่ายังไง แต่ขยะไม่ได้มีไว้ฆ่า แต่มีไว้เก็บกวาดต่างหาก ! เข้าใจที่พี่จะสื่อใช่ป่ะ ถึงตอนนี้พี่จะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ เพราะข้อมูลในหัวพี่มันตีกันเละไปหมดแล้ว แต่พี่ว่าน้องต้องเข้าใจแน่ว่าพี่จะสื่อว่าอะไร”
“พี่ริซควรไปให้คุณหมอโยฮันตรวจสมอง”
“ตรวจไปก็เจอแต่ไอรินอยู่ข้างในสมองพี่อยู่ดี ไม่เจออะไรอย่างอื่นหรอก ! เลิกนอกเรื่องแล้วเฉไฉได้แล้ว รู้รึเปล่าว่าที่ตัวเองทำมันผิดแค่ไหน”
“ผิดที่น่ารักเกินไปจนทำให้เซลล์สมองพี่ริซมีแต่หนู และเนื้อสมองพี่ริซก็ขาดกระบวนการประมวลผลในหัวไปงั้นหรอคะ ?”
“ไม่ใช่ ! ไอรินไม่ใช่ไอ้หน้าโง่แบบขยะแมนซักหน่อย แบบนั้นต่างหากถึงทำให้พี่กลายเป็นคนโง่ไร้สมองได้ ถ้าพี่มีไอรินแทนเซลล์สมองพี่ต้องกลายเป็นคนที่น่ารักอันดับต้นๆของโลกแน่ๆ ”
“รู้สึกว่า ถ้ากลับไปตอนนี้น่าจะทันคุณหมอโยฮันออกตรวจตอนเช้านะคะ”
“ก็บอกว่าเลิกเฉไฉได้แล้ว ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นซักที”
“สรุปจะให้หนูยอมรับเรื่องอะไรงั้นหรอคะ ?”
โธ่ ! ไอริน ทำไมถึงได้ดื้อดึงขนาดนี้กันนะ
“ก็เรื่องที่ไอรินทำให้ขยะแมนกลายเป็นฝุ่นด้วยเวทย์เสื่อมสลายยังไงละ !!!”
“—- !!!”
ได้ยินดังนั้น ไอรินก็เบิกตากว้างไปชั่วขณะ
ก่อนที่วินาทีถัดมา ไอรินจะหรี่ตาลงแล้วทำหน้าเฉยชาใส่ฉัน
“นี่พี่ริซคิดว่าหนูทำแบบนั้นจริงๆดิ”
“ก็เมื่อกี้บอกเองไม่ใช่หรอว่า ขยะแมนไม่อยู่ที่นี่แล้ว แถมยังมีฝุ่นที่กองเต็มเก้าอี้อีก จะคิดเป็นอื่นไปได้ยังไง ?”
“นั่นมัน—”
ทว่า ก่อนที่ไอรินจะตอบ เสียงน่ารำคาญก็ดังที่ข้างหูของฉัน
“อ้าว…ตื่นแล้วหรอ น่าเสียดายชะมัด”
“หืม ?”
เมื่อฉันมองไปด้านข้าง ก็พบกับชายหนุ่มผมทองที่ฉีกยิ้มอย่างร่าเริง
เสียงน่ารำคาญแบบนี้
ใบหน้าน่าหมั่นไส้แบบนี้
รอยยิ้มกวนโอ้ยแบบนี้
แล้วก็ขันในมือขวาที่พึ่งใช้ไปขอทานมาไม่นานมานี้
นี่มันขยะแมนที่ยังไม่ตายนี่หว่า
“เอ๋ ?”
ฉันมองฝุ่นทรายที่กองอยู่บนเก้าอี้ที่วางอยู่สลับกับขยะแมนที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ยากจะหลุดสีหน้าตกใจและน้ำเสียงสับสนเอาไว้ได้
“อาเร๊ะ ? ยังไม่ตายอีกหรอ ?”
“เฮ้ย !?”
ในขณะที่ขยะแมนสะดุ้งเฮือกและเขม่นใส่เพราะอยู่ๆก็โดนทักทายอย่างมีอัธยาศัย ฉันก็หันไปมองไอรินที่จ้องฉันด้วยใบหน้าตายด้านไร้อารมณ์
“หนูไม่ลดตัวไปกำจัดขยะพรรคนั้นหรอกค่ะ มือเปื้อนเปล่าๆ”
“แล้วที่พูดเมื่อกี้ ?”
“หนูกำลังจะบอกว่า ขยะแมน….ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เมื่อกี้มีคนแบกกระสอบทรายผ่านไปแล้วทำทรายหล่นใสหัวของเขา ขยะแมนก็เลยไปล้างตัวที่ห้องน้ำค่ะ”
“แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่า ! ว่าแต่คนแบกกระสอบทรายไหงถึงได้มาเดินผ่านร้านแถวนี้กัน !? อีแบบนี้ใครมันจะไปเดาถูกกันได้ล่ะ !”
“พี่ริซไม่ฟังหนูพูดให้จบเองต่างหาก สรุปว่าพี่ริซคิดว่าหนูเป็นคนที่ตัดสินทุกอย่างด้วยความรุนแรงทุกอย่างเลยสินะคะ”
“มะ มะ ไม่ใช่แบบนี้ไอริน พี่ขอโทษ ! พี่ไม่ได้ตั้งใจจะว่าแบบนั้น ! กะ กะ กะ ก็หลักฐานมันชัดขนาดนั้นพี่ก็เลย”
“สรุปว่า…พี่ฟังที่หนูพูดไม่จบก็เลยคิดว่าหนูฆ่าขยะแมนเนี่ยนะ ?”
“นั่นมัน….”
“ไม่เป็นไร..หนูเข้าใจว่า มันเป็นอุบัติเหตุ….หนู…ยกโทษให้ก็ได้”
“ทะ ทะ ทำไมบทพูดมันดูคุ้นๆจังอ่ะ”
“ช่างเถอะ..ก็แค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อยนั่นแหล่ะ”
“อะ อะ เอ่อ…”
ไอรินเอามือม้วนเส้นผมสีเงินแล้วนั่งไขว่ห้างก่อนจะดัดเสียงเหมือนพูดตามใครบางคน
“ใช่ไหมล่ะ ยังไงหนูมันก็เป็นตัวหายนะเดินได้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้นิเนอะ !”
“อ่อก ! ”
ใครก็ได้ เอามีดมาฆ่าฉันที
จริงๆบทสนทนามันเริ่มด้วยความกาว และก็ควรจบลงด้วยความกาวสิ
จะตาย…จะโดนไอรินประหารด้วยคำพูดซ่ะแล้วอ่า
ใครก็ได้เอามีดมาฆ่าฉันที
“ก็ที่ผ่านมาหนูเอาแต่สร้างปัญหามาโดยตลอด พอมีหลักฐานอยู่คาตาและคำพูดกำกวม มันก็เป็นความเข้าใจผิดที่ช่วยไม่ได้”
“เอ่อ…..”
“ตัวหนูที่อดทนไม่ขยี้หมอนี่ที่คิดจะแกล้งพี่ริซ ตัวหนูที่พยายามปรับตัวแล้วอยู่กับพี่ริซให้ได้ ความตั้งใจของหนูที่อยากจะเป็นน้องสาวที่พี่ภาคภูมิใจ….ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเป็นน้องสาวที่ดีของพี่ริซ แต่ทั้งหมดที่ว่ามามันกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า นั่นก็คงช่วยไม่ได้”
“แอ่ก !”
“ใช่…พี่ไม่ได้เชื่อในตัวหนูและไม่ได้คาดหวังในตัวหนูจริงๆด้วย หนูมันเชื่อไม่ได้ขนาดนั้นเลยสินะ ทุกๆอย่างที่ทำมาล้มเหลวไม่มีสิ้นดี ตัวหนูที่เป็นได้แค่กับระเบิดเดินได้และสร้างปัญหาไปวันๆ จะโดนเข้าใจผิดไปแบบนั้นไปตลอดชีวิต นั่นก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้”
“อึก !”
“ไอริน…โกรธพี่หรอ ?”
เวรแล้ว บทพูดนี้ มันคือบทพูดที่ฉันเคยพูดกับไอรินเป๊ะเลยนี่หว่า !
“ทำร้ายจิตใจหนูไปตั้งขนาดนั้น ยังกล้าถามอีกอย่างงั้นหรอคะ ?”
ฟู่ววววววว
ไม่ๆๆๆ น้ำตา
ไม่สิ ! เกล็ดหิมะมันทะลักออกมาจากดวงตาแล้วอ่าาาาา
“พี่…ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษ”
“ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี..แต่ว่าคำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่ว่าใครก็พูดได้ ถ้าคิดจะให้พี่ยกโทษให้ก็จงพิสูจน์ด้วยการกระทำซ่ะ”
“ด้วยการกระทำ ? นี่ไอรินเคืองเรื่องเมื่อตอนนั้นอยู่หรอเนี่ย ? บทพูดนี่จะเอามาใช้ซ้ำแบบนี้ไม่ได้นะ ฮึก ! ไม่งั้นคุณพี่สาวจะร้องไห้แล้ว ยะ ยะ หยุดก่อน นะๆๆ ไอริน พี่สำนึกผิดแล้ว พี่ก็แค่กาวตามบทที่ส่งมาก็เท่านั้นเอง …นะ นั่นไง บางครั้งการเดินทางก็ต้องมีเรื่องเฮฮาเป็นสีสันต์บ้าง”
“พี่ริซค่ะ”
“จ๋าาาาา”
เพราะอยู่ๆไอรินก็ยิ้มกว้าง ฉันก็ยิ้มตาม
“หนูไม่ตลกค่ะ…”
“………………..”
“………………..”
“………………..”
เวรแล้วไง มุขไม่ฮาพาเครียดเจ้าค่ะ
อ่าๆๆๆ ตายๆๆๆ
อยากตายจังเลย
นี่ฉันสงสัยน้องสาวคนนี้ไปได้ยังไง
อ่า….ฉันมันล้มเหลว
คนที่ไม่เชื่อใจน้องสาวเพียงคนเดียวและสงสัยแบบนี้ มันเลวร้ายเป็นยิ่งกว่าขยะแมนเสียอีก
วิถีพี่สาวได้กล่าวเอาไว้ว่า
หากคนที่ไม่เชื่อใจในนอแมนคือคนปกติ ไอริซที่ไม่เชื่อใจในไอรินมันก็เป็นขยะยิ่งกว่านอแมนเสียอีก
ล้มเหลวในการเป็นพี่โดยสิ้นเชิง
ก็แค่จะเอาฮาเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ
ลืมไปเลยว่าบางครั้ง เรื่องตลกของใครบางคนก็สามารถสร้างบาดแผลให้กับผู้อื่นได้
“เอ่อ…ทำไมบรรยากาศของพวกเธออยู่ๆถึงได้หดหู่ขนาดนี้กันเนี่ย”
“ทำไมคุณนอแมนถึงยังมีชีวิตอยู่กันนะ”
“อะไรของเธอเนี่ย ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย !”
คุณนอแมนทำหน้างง ต่อไปนี้ขยะอย่างฉันไม่สามารถว่าคุณนอแมนว่าเป็นขยะได้อีกแล้ว
ใช่…คนที่ทำร้ายจิตใจของไอรินอย่างฉัน ไม่หน้าด้านไปว่าขยะแมนหรอก
“……………………..”
“…………………….”
ฉันลงไปนอนคว่ำอยู่ที่พื้น ปล่อยให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างมองมาที่พวกเราด้วยสายตางงงวย
“พี่ริซจะทำอะไรอีกคะ ?”
“ช่างพี่เถอะไอริน…ปล่อยให้พี่เน่าตายอยู่ตรงนี้เถอะ”
ขยะอย่างฉันนอนบนพื้นยังสูงเกินไปด้วยซ้ำ จะว่าไปควรขุดหลุมไปถึงแกนโลกแล้วฝังตัวเองลงไปดีไหมนะ
ไม่สิ ถ้ามีคนอย่างฉันอยู่ โลกใบนี้คงตกต่ำลงน่าดู แต่ถ้าโยนตัวเองออกไปนอกโลกก็กลัวว่าจะสร้างความบัลลัยให้โลกโดยการดึงดูดดาวหางนั่นมาอีก
จะตายที่ไหน มันก็มีแต่ปัญหา แต่ถ้ามีชีวิตอยู่ต่อ ก็รังแต่จะสร้างความอับอายให้นามแห่งไอริซ
อ่า….ชีวิตนี่มันช่างน่าสิ้นหวังซ่ะเหลือเกิน
“ฮึ ! ไม่ได้เรื่องเลย….โดนว่าแค่นี้ก็รับความจริงไม่ได้ พี่ริซนี่เปราะบางจังเลยเนอะ”
“ขอโทษค่ะๆๆๆ พี่สาวผิดไปแล้ว เพราะงั้นปล่อยให้พี่สาวเน่าตายตรงนี้แทนการคว้านท้องขอขมาทีเถอะ”
ฉันนอนคว่ำหน้าต่อไปโดยไม่สนสิ่งรอบข้างอีกต่อไป
ทว่า มือเล็กๆของนางฟ้าผมเงินกลับพยุงร่างของฉันขึ้นมา
“ฮึ ! เอาเถอะ หนูจะให้อภัยล่ะกัน…ก็แหม หนูไม่ได้ใจแคบเหมือนพี่ริซนี่นา”
“ฮึก ! ไอริน…นี่น้องให้อภัยพี่จริงๆหรอ”
“แน่อยู่แล้วค่ะ…ก็เราเป็นพี่น้องกันนี่นา หนูรู้ว่าพี่ริซจริงๆแล้วไม่ได้คิดแบบนั้น พี่ริซที่มีแต่หนูอยู่ในหัวไม่มีทางคิดร้ายต่อหนูแน่ๆ ที่พูดมาเมื่อกี้ทั้งหมดน่ะก็แค่คิดว่าเป็นการต่อมุขขำๆเท่านั้นเองค่ะ”
“อะ อะ เอ๋ ?”
“เป็นไงค่ะ พี่ริซ หนูก็แค่ตบมุตามบทเท่านั้นเอง ตลกดีใช่ไหมละ ?”
ไอรินเอียงหัวและยิ้มกว้างอย่างน่ารักน่าเอ็นดู แต่ช่างน่าแปลกที่วาจาของเธอกลับเชือดเฉือนตัวฉันถึงกระดูกเลยทีเดียว
“ขอโทษ…พี่จะไม่ทำพลาดแบบนี้อีกแล้ว พี่จะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่ไม่ทำให้ไอรินต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก”
“เข้าใจก็ดีแล้วค่ะ”
“เริ่มจากทำลายกล่องเสียงก่อนจะได้ไม่พูดพล่อยๆแบบนี้อีก”
“คะ ?”
“บางทีเพราะดวงตานี่เห็นฝุ่นทรายพวกนั้นก็เลยเข้าใจผิด เพราะงั้นไอ้ลูกกลมๆพวกนี้ควรควักทิ้งออกมาให้หมด”
“เอ่อ..พี่ริซค่ะ”
“ถึงจะเป็นคนพิการ แต่ตราบใดที่หัวใจยังเต้นอยู่ พี่ขอสัญญานะว่าจะไม่ทำพลาดแบบนี้อีก เอาล่ะเริ่มจากตาก่อนเลยล่ะกัน”
“เดี๋ยว ! ไม่ใช่แย้ววววววว หยุดก่อน พี่ริซหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
ไอรินคว้ามือของฉันที่วางมือลงบนใบหน้าของตัวเองโดยที่อุณหภูมิที่มือกำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ
“ถ้าทำแบบนี้พี่ริซจะไม่สามารถมองเห็นความน่ารักของหนูได้อีกแล้วนะ !”
“ถ้าเป็นตามปกติพี่คงตบมุขแล้วพูดว่าจริงด้วยจากนั้นก็ปล่อยมุขเหมือนพล็อตเรื่องตามปกติ แต่ครั้งนี้พี่สาบานแล้วว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
“อุหวาาาาาา หยุดก้อนนนน พี่ริซ อย่าทำแบบน้านนนนนนน”
“เอาล่ะ…ถ้าในเมื่อดวงตานี่ไม่เห็นในสิ่งที่ควรจะเห็น ฉันก็ไม่ควรจะมีมัน”
วิถีพี่สาวได้กล่าวเอาไว้ว่า
ถ้าการที่เธอมีมันไม่ได้ทำให้เธอเห็นน้องสาวอยู่ในสายตา ดวงตาคู่นั้นของเธอก็ไม่ควรมีมันอีกต่อไป
“กรี๊ดดดด พี่ริซหนูล้อเล่นๆๆๆ ทั้งหมดที่ผ่านมาหนูล้อเล่นนนนน หยุดก่อนค่าาาา ขยะแมน ! จะยืนนิ่งอีกนานไหม มาช่วยห้ามพี่ริซเร็วเข้า”
“โทษที ฉันโดนไล่ให้ไปตายตั้งสองรอบแล้ว เพราะงั้นคนตายแล้วคงช่วยคนเป็นไม่ได้หรอก”
“ไปตายซ่ะ ขยะแมน !”
“นี่ไง ! แบบนี้ใครจะไปช่วยกันฟร่ะ ถ้าฉันช่วยพวกเธอ ฉันควรจะเอาตูดไปไถนาแทนควายยังจะดีซ่ะกว่า !…รวมทั้งวันโดนไล่ไปตายรอบที่สามของวันแล้วน่ะเฮ้ย ! ….เฮ้อ….เด็กๆอย่างพวกเธอนี่มันนิสัยเสียจริงๆ พาลใส่คนอื่นมั่วซั่วไปหมดเลยแฮะ”
ชายหนุ่มได้แต่มองคู่พี่สาวน้องสาวที่หยอกล้อกันด้วยท่าทางสบายๆโดยหารู้ไม่ว่าคุณพี่สาวคนนี้จะควักลูกตาออกมาจริงๆแน่ถ้าไม่มีคนห้าม
“ไอริน…ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ถึงตาจะมองไม่เห็น แต่หัวใจของพี่จะมองเห็นน้องแทนเสมอ”
“เป็นประโยคบอกรักที่ขยะแขยงที่สุด ก็บอกว่าให้หยุดไงเล่า !? ไม่งั้นหนูจะเกลียดพี่ริซแล้วนะ !!!”
หลังจากนั้นก็ยื้อแย้งกันพักหนึ่ง สุดท้ายพี่สาวยอมใจอ่อนกับน้องสาวเสมอ
ผลสุดท้าย ไอรินและไอริซต่างก็เข็ดกันทั้งคู่ ไอริซประเมินการเติบโตทางจิตใจของไอรินผิดไปจากที่คำนวณ ส่วนไอรินก็คำนวณความคลั่งรักของพี่สาวผิดจากที่เธอคาด หากจะว่าไอรินเป็นกับระเบิดเดินได้แล้ว ไอริซก็คงเป็นระเบิดมนุษย์เดินได้ที่พร้อมพลีชีพเพื่อเกียรติภูมิของน้องสาวเช่นเดียวกัน
เรื่องราวเอื่อยๆไร้แก่นสารของสองสาว ในวันนี้ก็คงเรื่อยเปื่อยเฉกเช่นทุกวัน
๐๐๐๐๐๐๐๐๐
“เอาล่ะ….นอกเรื่องกันมามากพอแล้ว ในวันนี้พวกเราจะได้ทำภารกิจให้เสร็จๆเสียที”
หลังจากที่เตี๊ยมแผนกันในร้านอาหารเสร็จ นอแมนที่เดินนำพวกเราออกมาก็ยืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่เป็นโครงเหล็กสีเงินวาว
ข้างต่อประตู มีป้ายหินสีน้ำตาลขนาดใหญ่ติดอยู่บนกำแพงสีขาว อักษรที่สลักไว้บนนั้นเขียนไว้ว่า ‘บาเรน แอนโลเซ่’
ใช่…เพราะวันนี้ฝนตก แผนการขั้นแรกที่วางเอาไว้ก็เลยสำเร็จ
แผนแกล้งเป็นนักผจญภัยจากต่างเมืองที่มาถึงคฤหาสน์ท่ามกลางสายฝน แล้วไม่มีที่ไปจนต้องขอพักอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์
บอกตามตรงว่าเป็นแผนที่ไม่น่าคาดหวังเท่าไหร่ แต่ฟ้าฝนก็เป็นใจเอาดื้อๆ
ด้วยเหตุนี้ฉันและไอรินที่กลมเกลียวกันมากขึ้นหลังทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆ(กระซวกกล่องเสียง ควักดวงตา) ก็ต้องมาตากฝนกับนอแมนอยู่หน้าคฤหาสน์ของมหาเศรษฐีบาเรน
“พูดจาเหมือนไม่ได้เต็มใจทำงานนี้เลยนะ”
“ถ้ามีทางเลือกอื่น ใครมันจะไปอยากทำงานเสี่ยงตายแบบนี้กันล่ะ ?”
“นั่นมันก็จริง……..”
ฉันมองนอแมนที่ยืนตากฝนพลางส่ายหัว
“แต่ไม่เห็นต้องตากฝนเลยนี่นา”
“เพื่อความเหมือนจริงไง ! เอ้า ! พวกเธอก็ทิ้งร่มนั่นแล้วมาตากฝนเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“ไม่เอาอ่ะ ”
ไอรินที่ใช้ร่มคันเดียวกับฉันตอบปฏิเสธแทนฉันที่มองเขาด้วยสายตาเอือมระอา
ตรงหน้าประตูบานใหญ่ มันคงเป็นภาพที่ดูพิลึก เพราะมีชายหนุ่มผมทองยืนเท้าสะเอวตากฝนอยู่ ในขณะที่พี่น้องผมชมพูกำลังกางร่มมองดูผู้ชายคนนั้นยืนเบ่งอยู่ตรงหน้า
ทว่า นอแมนก็ไม่ได้ตากฝนนานมากนัก เพราะหลังจากนั้นก็มีพ่อบ้านคนหนึ่งถือร่มเดินออกมา
“ขอโทษครับ ? ไม่ทราบว่าทั้งสองท่านคือ ?”
ผู้ที่ยื่นตัวออกมานอกประตู คือ ชายสูงวัยผมหงอกสีขาวโพลน ที่มีใบหน้าเรียวแหลมซึ่งมีรอยเหี่ยวย่นเต็มใบหน้า และ มีแว่นสายตากลมๆชิ้นหนึ่งสวมไว้ที่ตาขวา
ท่าทางดูสุขุมช่วยขับเน้นบรรยากาศน่ายำเกรงของชุดสูทสีดำ
ท่ายืนตรงอันสง่าผ่าเผย และ น้ำเสียงสุขุมนุ่มลึกน่าค้นหา
“พวกเรามาเพื่อรับภารกิจ ตามหาโครงกระดูกของท่านบาเรนครับ !”
ได้ยินดังนั้น พ่อบ้านก็พยักหน้า
“รับทราบครับ ขอแสดงความขอบคุณที่ลำบากลำบนมาเยือนถึงที่แห่งนี้ในเวลาวิกาลเช่นนี้แม้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจ เช่นนั้น ถ้าไม่ว่าอะไร กระผมขอเชิญพวกท่านเข้ามาข้างในและพักผ่อนที่นี่ซักคืนก่อน เพราะตอนนี้นายท่านได้นอนหลับไปแล้ว ถ้าทำให้เสียเวลาต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง”
พ่อบ้านโค้งหัวอย่างมีมารยาทและก้มหัวขอโทษจนนอแมนต้องยกมือห้าม
“กระผมเป็นหัวหน้าพ่อบ้านมีชื่อว่า เอลวิน หลังจากนี้ขอฝากตัวด้วยครับ”
“ทางนี้ก็ฝากตัวเช่นเดียวกัน ฉันชื่อนอแมน ส่วนผู้ติดตามสองคนนี้—”
นอแมนขยิบตาให้พวกเราก่อนจะเอ่ยกับคุณเอลวินด้วยเสียงดังฉะฉาน
“เป็นน้องสาวของฉันเอง คนโตชื่อ ริซ ส่วนคนเล็กชื่อ ริน ขอรบกวนด้วยล่ะ”
“หะ !?”
“ อ๊ะ !?”
ที่คุยๆกันไว้ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่หว่า ~ ♪
ในใจของฉันแทบจะร่ำร้องออกมาเป็นเพลงโบราณ ในขณะที่นอแมนส่งยิ้มน่าหมั่นไส้มาให้
จากสายตาที่ส่งมาให้พวกเรา ตีความได้เพียงแค่อย่างเดียว
‘หลังจากนี้เวลาปลอมตัวก็ให้เรียกฉันว่า ‘โอนี่จัง’ ด้วยล่ะ !!!’
เพล้ง !
ท่ามกลางสายฝน ทันใดนั้นเองก็มีเสียงบางอย่างที่แตกหักดังกลบเสียงสายฝนที่โหมกระหน่ำ
เมื่อมองไปด้านข้างฉันก็พบกับไอรินที่ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำและไหล่ที่กำลังสั่นกึกๆด้วยอารมณ์ซึ่งใกล้จะระเบิดออกมา
“ฆ่ามันได้ไหมคะ พี่ริซ ?”
ฉันมองน้องสาวของฉันสลับกับโคมไฟเหนือประตูรั้วที่แตกกระจายกลายเป็นฝุ่น
นอแมนและเอลวินมัวแต่มองโคมไฟที่อยู่ดีๆก็แตก เลยไม่ทันสังเกตสีหน้าหงุดหงิดของไอรินในตอนนี้
ฉันก็ได้แต่ลูบหัวแล้วบอกว่าไม่ได้จ้ะ พลางคิดว่า นอแมนนี่กวนโมโหได้เสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ
ด้วยเหตุนี้เอง จนกว่า ภารกิจนี้นะจบลง ฉันและไอรินต้องเรียกไอ้คุณนอแมนว่า โอนี่จัง ค่ะ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 38 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 37 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 36 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 35 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 34 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 33 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 32 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 31 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 30 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 29 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 28 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 27 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 26 พฤษภาคม 13, 2022
- ตอนที่ 25 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 24 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 23 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 22 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 21 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 18 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 17 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 16: น้องสาวผู้น่ารักของฉันโดนดุ เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 15: พี่สาวของหนูตายซ่ะเเล้ว !? เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14: น้องสาวผู้น่ารักของฉันมีมากกว่าหนึ่งคน !? เมษายน 28, 2022
- ตอนที่ 13: น้องสาวผู้น่ารักของฉันฝึกทำอาหาร เมษายน 27, 2022
- ตอนที่ 12: การเดินทางของพวกเขาทั้งหลาย เมษายน 26, 2022
- ตอนที่ 11: พี่สาวของหนูต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป เมษายน 24, 2022
- ตอนที่ 10: พี่สาวของหนูพูดอะไรบางอย่างที่น่าจะสำคัญ เมษายน 23, 2022
- ตอนที่ 9: พี่สาวของหนูถูกพรากไป พร้อมๆกับพวกเพื่อนๆ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 8: น้องสาวผู้น่ารักของฉันยอมพูดเปิดใจนิดหน่อย เมษายน 20, 2022
- ตอนที่ 7: น้องสาวผู้น่ารักของฉันช่วยปกป้องคุณพี่สาวด้วยล่ะ ! เมษายน 19, 2022
- ตอนที่ 6: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเเสดงความเป็นห่วงด้วยล่ะ ! เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 5: เพื่อจบความขัดเเย้ง การเสียสล่ะคือสิ่งที่จำเป็น เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 4: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเข้าวัยต่อต้าน !? เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 3: ไม้ต่อ เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 2: เเยกจาก เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นภายในห้องขังอันอับชื้น เมษายน 18, 2022
MANGA DISCUSSION