ตอนที่ 18
— ความเดิมตอนที่แล้ว
เพราะไอรินตกน้ำไปตั้งหลายรอบ ไอรินก็เลยเป็นหวัดเข้าจนได้
ด้วยความที่อยู่กลางป่าเขาและไข้ไม่ลงซ่ะที ไอริซที่เป็นห่วงจึงพาไอรินมาหาหมอ
โชคดีที่เธอพบเข้ากับคุณหมอโยฮัน ตัวละครภายในเกม‘World End Fantasy’ ซึ่งมีนิสัยขาวสะอาดและเป็นมิตรกับผู้เล่นทุกคน เธอจึงฝากให้เขาช่วยรักษาไอรินระหว่างที่เธอไปซื้อข้าวของและสำรวจเมือง
ไอริซหารู้ไม่ว่า ไอรินที่ตื่นขึ้นมาจะยังมีไข้อ่อนๆอยู่ เมื่อร่วมเข้ากับประสบการณ์ชีวิตที่น้อยมากๆ ไอรินก็ดันเมากาวคิดว่าคุณหมอโยฮันคือนักวิจัย และมโนว่าไอริซได้ตายไปแล้วเพราะทนแก่นมนตราไม่ไหว จากการที่ไอรินหลับไปนานหลายปีเพราะพิษไข้ เรียกได้ว่า โคตรของโคตรกาว
ด้วยเหตุนี้เอง ไอรินจึงตั้งใจจะใช้เวทย์สลายสสารเพื่อทำลายเมืองทั้งเมืองเพราะคิดว่าไอริซที่โผล่เข้ามาคือตัวปลอม
ทว่า พอเจอพลังของไอริซตัวปลอมเข้าไป ไอรินก็ถึงกับตรัสรู้ว่าตัวเองกำลังเมากาวอยู่นี่หว่า ที่อยู่ตรงหน้าตัวเองคือพี่สาวตัวจริงเสียงจริงที่กำลังจะเตรียมเอามือฟาดก้นตัวเองชัดๆเลย
แม้ว่าไอรินจะก้มกราบเบญจางคประดิษฐ์หรือส่งสายตาวิ้งๆอ้อนว้อน แต่ยักษ์มารตรงหน้าก็ไม่ยอมอภัยให้เธอเลยแม้แต่น้อย
ผลสุดท้าย ไอรินที่ถูกทิ้งให้สำนึกผิดจึงน้อยใจแล้วหนีออกจากบ้าน
ซ้ำร้ายเพราะพิษไข้ ! เธอเลยเมากาวแล้วควบคุมจิตใจให้คนในเมืองบางส่วนให้ลืมเรื่องที่เธอทำลายโรงพยาบาลไปกว่าครึ่งหลัง และก็เพราะคิดว่าพี่ริซของเธอควรมีน้องสาวที่ดีกว่าตัวเอง ไอรินก็เลยสแปมน้องสาวรุ่นผลิตจำนวนมากที่เจออยู่ข้างทางแล้วประเคนให้พี่ริซสุดที่เธอรักของเธอซ่ะอย่างงั้น !?
ผลสุดท้ายก็เลยกลายมาเป็นการโยนระเบิด C4 เข้าไปในกองไฟ ไอริซที่กลายร่างเป็นไททันบุกทะลวงก็เริ่มทำการปูพรมไล่ล่าไอรินอย่างบ้าคลั่งด้วยความช่วยเหลือของเมอลิน..จอมเวทย์สาวซึ่งสนิทกับคุณหมอโยฮัน
การตามล่าไอรินได้เริ่มขึ้นแล้ว เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เชิญรับชมต่อได้เลยจ้า ~ ★
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
นี่มันอะไรกันเนี่ย !!!!!
น้องสาวของฉันกินอะไรผิดสำแดงเข้าไปรึไง ทำไมมันถึงได้ลงเอยกลายเป็นแบบนี้ !
โชคดีที่เมอลินสามารถใช้เวทมนต์สลายผลของเวทย์ล้างสมองที่ไอรินใช้กับคนพวกนั้นได้ ไม่อย่างงั้นฉันคงต้องเผชิญกับนรกที่ถูกน้องสาวตั้งแต่วัยเลขหลักเดียวจนถึงวัยตาลุงไล่ล่าไปแล้วแน่ๆ
ไอ้เรื่องที่แก้ไขความทรงจำเกี่ยวกับโรงพยาบาลที่ถูกพังไปก็พอจะเข้าใจได้ แต่ไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าทำไมต้องล้างสมองให้คนพวกนั้นคิดว่าตัวเองเป็นน้องสาวของฉันด้วย
ไม่เข้าใจๆๆๆ ไม่เห็นเข้าใจเลยซักนิด !
แล้วก็หงุดหงิดมากๆเลย !
เล่นบ้าอะไรของน้องกันไอริน !
นี่มันไม่ตลกเลยนะ
อยู่ดีๆก็มาหายตัวไปตามใจชอบ ไม่บอกกล่าว แล้วก็มาทิ้งปัญหาเอาไว้แบบนี้
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่น่าปล่อยให้อยู่คนเดียวเลยจริงๆ
บ้าชะมัด บ้าๆๆๆ ไอรินบ้าที่สุด !
ไปอยู่ไหนกัน ?
หนีไปไหนไอริน ?
ทำไมอยู่ๆถึงทิ้งพี่ไปแบบนี้ละ ?
เพราะโดนว่าก็เลยน้อยใจแล้วหนีไปอย่างงั้นหรอ ?
หรือว่า รู้สึกผิดมากเกินจนตัดสินใจออกห่างจากฉัน ?
โธ่เว้ย ! ผิดพลาดตรงไหนกัน ฉันทำพลาดตรงไหนกันนะ ?
หรือบางทีฉันว่าแรงเกินไปหน่อย ? ฉันดุไอรินแรงเกินไปอย่างงั้นหรอ ?
แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา ไอรินเกือบฆ่าคนทั้งเมืองไปแล้วนะ เรื่องแบบนี้ปล่อยผ่านไปได้ที่ไหน
แถมดูเหมือนว่าตอนแรกเธอจะไม่สำนึกผิด ฉันก็เลยต้องกระตุ้นซักหน่อย
แต่ใครมันจะไปคิดกันล่ะว่า มันจะมาลงเอยแบบนี้
“อึก ! เร็วๆเข้าสิ”
แกร๊กๆๆๆๆ
ฉันใช้เวทย์น้ำแข็งสร้างผีเสื้อน้ำแข็งขึ้นมาจากความว่างเปล่าเป็นจำนวนหลายร้อยตัวแล้วส่งกระจายออกไปทั่วเมือง การเชื่อมประสาทของฉันกับผีเสื้อเหล่านั้นทำให้เห็นภาพเมืองทั้งเมืองในหลายมุมอย่างคร่าวๆ ทว่า การแยกประสาทสัมผัสที่มากเกิน มันก็สร้างภาระให้สมองของฉันไม่ใช่น้อย
“กรอด…..”
พั่บๆๆๆ
ทว่า แม้จะรู้สึกปวดหัวรุนแรงราวกับมีบางอย่างมาเสียดแทงอยู่ข้างใน แต่ฉันก็ยังคงมองเมืองทั้งเมืองผ่านภาพนับหลายร้อยภาพที่ปรากฎขึ้นมาในหัว ฉันยังคงปล่อยผีเสื้อออกไปเพิ่ม แม้จะรู้ว่าเป็นอันตรายต่อตัวฉันก็ตาม
ถึงจะเสี่ยงเกินไปหน่อย แต่ปล่อยให้ไอรินอยู่คนเดียวแบบนี้ มันอันตรายทั้งต่อตัวเธอเองและคนรอบข้าง
ไม่รู้ว่าจะมีพวกนักวิจัยตามมาเจอเมื่อไหร่ แล้วก็ไม่รู้ว่าไอรินจะเผลอลงมือทำอะไรบ้าๆอีกรึเปล่า
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ น้ำตาของเธอที่เห็นเมื่อชั่วโมงก่อน
‘หนู…ผิดไปแล้วค่ะ’
‘ถ้าเข้าใจแล้วก็ดี..แต่ว่าคำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่ว่าใครก็พูดได้ ถ้าคิดจะให้พี่ยกโทษให้ก็จงพิสูจน์ด้วยการกระทำซ่ะ’
แม้ว่าไอรินในตอนนั้นจะพูดออกมาด้วยความรู้สึกสำนึกผิดจากใจจริง น้ำตาที่เห็นในตอนนั้น ไม่ใช่เรื่องโกหกอย่างแน่นอน
ทว่า ฉันก็ไม่ยอมให้อภัยยัยน้องสาวจอมซนคนนี้
ในฐานะผู้ปกครองชั่วคราว ฉันไม่สามารถรับแค่คำขอโทษปากเปล่าแล้วปล่อยผ่านไปเฉยๆ
ทว่า ไอรินในตอนนี้ เอาเข้าจริงยังมีอายุแค่ 8 ขวบ ถึงจะเป็นจอมเวทย์ระดับสูงที่ครอบครองแก่นมนตราถึงสามชิ้นจนเปรียบเสมือนร่างอวตารของทวยเทพ แต่ยังไงลึกๆแล้วจิตใจข้างในก็ยังคงเป็นน้องสาวตัวน้อยอายุแค่ 8 ขวบอยู่ดี
สำหรับน้องสาวอายุเพียงเท่านี้ที่เกือบจะฆ่าพี่สาวของตัวเองไปหมาดๆ ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นย่อมต้องสร้างรอยแผลให้กับหัวใจของเธอเป็นธรรมดา
“อึก ! ถ้าฉันกอดเธอเอาไว้ตอนนั้นล่ะก็—”
บางทีไอรินอาจจะไม่หนีไปจากฉันก็ได้
ทว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว มันเป็นความผิดของฉันเอง
ฉันตัดสินใจพลาดเองแหล่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือพาไอรินกลับมาให้ได้
“ไอริน…ไอริน….”
ไม่อาจอดกลั้นความร้อนรน แม้ว่าจะต้องเพ่งสมาธิไปรอบทิศทาง
ทั้งความอึดอัด ความหวาดกลัว และ ความเศร้าใจ
แค่คิดว่าเด็กคนนั้นจะหนีไปร้องไห้อยู่คนเดียว เพียงแค่นี้หัวใจก็บีบรัดจนจุกอกจะแย่อยู่แล้ว
ยิ่งพอจินตนาการว่าพวกนักวิจัยมาเจอเธอเข้า ถึงจะรู้ว่าไอรินมีพลัง แต่แค่นึกถึงภาพตัวเธอในวันนั้นที่ถูกพรากไปจากอกของฉัน ฉันก็ไม่อาจคุมมือที่สั่นเทาของตัวเองได้
“ไอริน….ไอริน…..ไปอยู่ที่ไหนกัน….รีบกลับมาเถอะ”
อยากจะจับมือของเด็กคนนั้นให้นานขึ้น…แม้เพียงซักเสี้ยววิก็ยังดี
รู้ดีว่าคงไม่มีวันเดินเคียงข้างเด็กคนนั้นได้ตลอดไป
แต่ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น….ช่วงเวลาที่ฉันยังอยู่ในร่างๆนี้
“ไอริน……ไอริน…อึก ! ไอริน……”
— ได้โปรดอย่าได้มาพรากเด็กคนนั้นไปจากฉันอีกเลย ขอร้องล่ะ
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
หลังจากนั้นหนูก็วิ่งหนีมาโดยตลอด
ร่ายเวทย์ควบคุมจิตใจเท่าที่จะทำได้ ทำการล้างสมองให้ทุกคนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปทั้งหมด
แล้วก็สร้างความทรงจำปลอมให้พวกคนที่ดูเข้าท่าคิดว่าพี่ริซคือพี่สาวของพวกเธอ
ถ้าหนูหายไปซักคนพี่ริซจะต้องเหงาแน่ๆ
แต่ถ้ามีน้องสาวคนอื่นที่ไม่ดื้อไม่ซน และ ถ้ามีน้องสาวคอยปรนนิบัติเอาอกเอาใจมากๆ พี่ริซจะต้องมีความสุขมากกว่านี้แน่ๆ
ไม่ต้องมาปวดหัวกับเรื่องแย่ๆที่หนูทำ
แล้วก็ไม่ต้องเจ็บปวดเวลาที่หนูทำเรื่องร้ายๆใส่
พี่ริซเป็นพี่สาวที่ดี เพราะงั้นก็ควรจะมีน้องสาวที่ดี
แน่นอนว่า น้องสาวที่ดีที่ว่า ก็คือใครก็ได้ที่ไม่ใช่หนู
หนูมันแย่ นิสัยเสีย ชอบพูดทำร้ายจิตใจพี่ริซอยู่บ่อยๆ
หลังจากนี้ก็จะต้องสร้างปัญหาให้อีกหลายเรื่องอย่างแน่นอน
เพราะงั้นแบบนี้แหล่ะดีแล้ว….ดีแล้วล่ะ
เลิกจากกันตั้งแต่ตอนนี้ไป นี่คงดีที่สุดแล้ว
‘จะเอาไงต่อ ?’
เสียงในหัว…พวกลูกบ้านถามหนู
‘แบบนี้จะดีแล้วหรอ ?’
“ดีแล้วละ ?”
‘แล้วจะทำอะไรต่อ’
“หาทางช่วยพี่ริซ”
จะต้องรีบเอาแก่นมนตราออกมา หนูต้องออกเดินทางเพื่อหาวิธีเอาแก่นมนตราที่จะฆร่าชีวิตของพี่ริซในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
‘แล้วเรื่องทำลายพวกมนุษย์ล่ะ ?’
“ไว้พี่ริซแก่ตาย…จะอีก ห้าสิบ หกสิบปีต่อจากนี้ มันก็ไม่สาย”
‘เข้าใจแล้ว ถ้างั้นจะให้ยืมพลัง’
“ขอบคุณ”
แม้จะน่ารำคาญ แต่ลูกบ้านเหล่านี้ต่างพึ่งพาได้ตั้งแต่เมื่อก่อน
‘แต่ว่า—’
อยู่ๆ ลูกบ้านคนหนึ่งก็ถามหนูขึ้นมา
‘แบบนี้ จะไม่เสียใจทีหลังแน่นะ ?’
“………………..”
ไม่รู้เหมือนกัน
ก็หนูไม่เห็นอนาคตซักหน่อย แล้วแบบนั้นจะไปรู้ได้ไงว่าทางเลือกไหนคือทางเลือกที่ดีที่สุด
แต่ถึงจะไม่รู้ว่าทางเลือกไหนดีกว่ากัน แต่สิ่งที่หนูรู้ก็คือ หนูเป็นตัวอันตรายสำหรับพี่ริซ
อยู่ด้วยกันกับพี่ริซต่อไป มันก็มีแต่จะถ่วงแข้งถ่วงขาแย่งชิงความสุขของเธอไปเปล่าๆ
ถ้าต้องทำให้พี่ริซเจ็บปวดและรู้สึกเสียใจ หากการคงอยู่ของหนูมันทำให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น สู้ให้หนูหายไปเลยยังจะดีซ่ะกว่า
พี่ริซทำเพื่อหนูมามากมาย บุญคุณของพี่ริซ ไม่ว่าจะตอบแทนมากเท่าไหร่ก็คงไม่หมด
เพราะงั้นพอแล้วล่ะ…พอแค่นี้ดีกว่า
ถึงแม้จะเศร้าใจ….แม้ว่าจะจวนเจียนจะร้องไห้ออกมาอีกแล้วก็ตาม
หนูจะไม่กลับไปหาพี่ริซแล้วแยกจากกันตั้งแต่ตอนนี้
ใช่…แยกจากกันตลอดไป
“อึก !”
รู้สึกปวดแปล๊ปที่กลางอก ร่างกายเย็นลงและสั่นระริก
ดวงตาร้อนผ่าว พยายามฝืนกลั้นแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว
“ฮึก !”
ร้องไห้ออกมา
ได้แต่นั่งกอดเข้าแล้วร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ
ท่ามกลางดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะตกดิน
ช่วงเวลาก่อนที่ราตรีจะมาเยือนและเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูจะได้เห็นใบหน้าของพี่ริซ
มันช่างเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวและน่าอึดอัดซ่ะเหลือเกิน
ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันตั้งขนาดนี้
ทั้งๆที่แค่กระโดดเข้าไปหา พวกเราก็จะได้เจอกันอีกแล้วแท้ๆ
แต่ระยะทางใกล้ๆแค่นี้ ตัวหนูกลับรู้สึกว่า มันช่างห่างไกลกันราวกับอยู่คนล่ะโลกซ่ะเหลือเกิน
นั่นสิ…พวกเราทั้งสองคนก็คงอยู่กันคนล่ะโลกจริงๆนั่นแหล่ะ
พี่ริซที่กำลังมุ่งตรงไปสู่อนาคต….
ตัวหนูที่ไม่อาจปล่อยวางอดีตและจะทำทุกอย่างเพื่อให้พวกมนุษย์มันชดใช้ในสิ่งที่พวกมันทำกับพวกเรา
เส้นทางของเราทั้งสองมันต่างกันมากเกินไป แม้จะอยู่ข้างๆกัน แต่เส้นทางที่หนูกำลังเดินหน้าไป มันไม่จำเป็นต้องมีพี่ริซ แม้ว่าเส้นทางที่พี่ริซเดินไป จะต้องมีหนูอยู่ก็ตาม
นั่นทำให้เราสองคนจะต้องทะเลาะกันอีกหลายครั้งในอนาคต แล้วก็ไม่รู้เลยว่า หากหนูควบคุมพลังไม่ได้จะเผลอทำอันตรายใส่พี่ริซอีกรึเปล่า ?
“……………….”
แค่คิดก็รู้สึกหวานสั่นไปทั่วตัว
มันมากพอแล้วล่ะ แค่หนูเกือบฆ่าพี่ริซไปหนึ่งครั้ง มันก็มากพอที่ยืนยันให้หนูรู้ว่า เราสองคนไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้จริงๆหรอก
ช่วงเวลาที่หัวเราะกันก่อนหน้านี้
ความรู้สึกที่มีให้กันระหว่างการเดินทาง
สุดท้าย มันก็ต้องสลายไปและไร้ความหมาย ในยามที่เราทั้งคู่แยกจากกันอยู่ดี
ถ้าตายทุกอย่างก็จบ นั่นแหล่ะคือสัจธรรมของโลกใบนี้
ใช่…..ดังนั้นจะไม่ให้ตายเด็ดขาด
จะกำจัดอุปสรรคทุกอย่างที่ทำให้พี่ริซตกอยู่ในอันตราย แม้ว่านั่นจะหมายถึงตัวหนูเองก็ตาม
ดีแล้วล่ะ
แบบนี้ดีแล้วล่ะ
ถึงจะเจ็บปวด แต่นี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่หนูทำได้แล้ว
“……………..”
หนูหลับตาแล้วปล่อยให้แสงแดดที่ส่องลงมาค่อยๆเลื่อนผ่านใบหน้าของหนูไปอย่างช้าๆ
ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไป นี่เป็นอีกวันหนึ่งที่สิ้นสุดลงและจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก
หนูเกือบจะหลับตาไปทั้งๆแบบนั้น ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังมืดลงอย่างช้าๆ
แต่ทว่า—
“มาอยู่ตรงนี้เองงั้นหรอ…..เลือกวิวได้ไม่เลวเลยนะ นี่น่ะคือจุดที่สวยที่สุดของเมืองเลยล่ะ”
“—–!!!”
เมื่อมองไปตามเสียง หนูก็พบกับชายในชุดขาว ผู้มีผมขาวๆ หน้าแก่ๆ และหัวที่มีรูปทรงคล้ายกับมันฝรั่ง
เพราะผ่านมาเป็นเวลาไม่นาน หนูเลยจำได้ว่าไอ้หมอนี่มีชื่อว่าอะไร
“นี่แก ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ !!!”
ผง่ะถอยหลัง โดยไม่คลายความระแวง
โยฮัน….ไอ้เจ้านี่คือหมอที่ชื่อว่าโยฮัน
ผู้ชายที่พี่ริซพาเรามารักษา
ทำไมหมอนี่ถึงได้มาอยู่ตรงนี้ได้ หาหนูเจอได้ยังไงกัน !?
หนูจ้องชายคนนี้ไม่วางตาพลางคิดว่าจะจัดการมันยังไงดี ?
๐๐๐๐๐๐๐๐๐
เราได้หนีมาซ่อนบนกังหันลมยักษ์ที่สูงที่สุดในเมือง…..สถานที่ซึ่งสามารถมองลงไปข้างล่างแล้วเห็นเมืองได้ทั้งเมือง
แม้จะผ่านเข้ามาไม่ได้เพราะมียามอยู่ แต่แค่ร่ายเวทย์ควบคุมจิตใจใส่ เราก็แอบขึ้นมาซ่อนบนนี้ได้ง่ายๆ แน่นอนว่าจะต้องไม่ลืมที่จะบอกให้ยามที่อยู่ด้านล่างโกหกเผื่อในกรณีที่พี่ริซตามมาที่นี่
ตอนแรกคิดว่าพี่ริซจะมาตามหาเราจากที่นี่ซ่ะอีก เพราะถ้ามองจากตำแหน่งที่สูงที่สุดในเมืองก็จะช่วยในการตามหาให้ง่ายขึ้น ดังนั้นเราก็เลยไปซ่อนตัวอยู่ในชั้นรองของชั้นบนสุด เผื่อว่าพี่ริซจะอาศัยความสูงของชั้นบนสุดเพื่อตามหาเรา
เราคิดว่าสถานที่ซึ่งปลอดภัยจากการตามหาของพี่ริซมากที่สุดคือตำแหน่งที่อยู่ใต้จมูกของพี่ริซแท้ๆ
ทว่า พี่ริซกลับไม่ได้มาที่กังหันลมนี่ตามที่หนูคิด พี่ริซกลับไปยืนอยู่บนหลังคาของโรงพยาบาลแล้วส่งผีเสื้อน้ำแข็งออกมาตามหาเรา
แน่นอนว่า เราเลยเอาผ้ามาคลุมตัวอีกชั้นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว แสงสว่างที่รอดผ่านผ้าที่คลุมตัวเราเอาไว้เลยทำให้ทัศนวิสัยแคบลงจนเห็นพี่ริซเป็นแค่จุดเล็กๆที่ยืนอยู่บนหลังคา
ทั้งๆที่ซ่อนดีขนาดนั้นแท้ๆ แต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่าจะถูกเจอตัวเข้าจนได้
แถมคนที่เจอตัวเราก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอีตาหมอที่พึ่งโดนหนูควบคุมจิตใจไปหมาดๆ ไม่ใช่พี่ริซ
“สมแล้วที่เป็นกังหันลมยักษ์ที่ใหญ่สุดเป็นอันดับสามของประเทศ…เป็นวิวที่กว้างสุดลูกหูลูกตาเลย”
เขาเข้ามาพูดกับเราอย่างเป็นกันเอง ทั้งๆที่เป็นแค่มนุษย์แท้ๆ ช่างไม่เจียมตัวเอาซ่ะเลย
ฆ่าทิ้งเลยดีไหม ?
ถ้าจะเอาไปบอกพี่ริซล่ะก็ เราต้องฆ่าปิดปากไปก่อน
แต่ถ้าพี่ริซรู้ว่าผู้ชายคนนี้ตายไปด้วยฝีมือของเรา..พี่ริซจะต้อง….เสียใจมากแน่ๆเลย
“กลบจิตสังหารไม่อยู่เลยนะคุณหนู”
“ต้องการอะไร ? ทำไมถึงหาเราเจอได้ !?”
เอาไงดีๆ จะทำไงกับมนุษย์คนนี้ดี ?
ปล่อยไว้ คุมตัวไว้ก่อน หรือ ฆ่าทิ้ง ?
แต่ยังไงก็ควรหาจุดประสงค์ให้ได้ก่อนสินะ
เราเว้นระยะห่างพลางจับตามองผู้ชายคนนี้ไม่วางตา
“เฮ้อ…ไม่ต้องระแวงกันขนาดนั้นหรอก หมอก็อายุปู่นนี้แล้วด้วย”
ผู้ชายคนนี้ทุบหลังตัวเองเบาๆ ก่อนจะนั่งหย่อนขาลงที่ริมหน้าต่าง
“ไม่มีทางทำอะไรคุณหนูได้อยู่แล้ว แค่มานั่งอยู่ตรงนี้ หมอก็ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือของคุณหนูแล้วล่ะ”
“ต้องการอะไร ?”
เราถามเสียงแข็ง
“ก็ไม่อะไรทั้งนั้นแหล่ะ พอดีเลิกงานแล้วเลยมานั่งมองพระอาทิตย์ตกดินตรงนี้เฉยๆ”
“โกหก นี่มันได้เวลาปิดให้บริการที่นี่แล้ว ยามไม่มีทางปล่อยให้ขึ้นมาแน่ๆ เป้าหมายคืออะไร ต้องการอะไรกันแน่ ?”
คราวนี้เราใช้เวทย์ควบคุมจิตใจอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเราก็เปล่งแสงสีแดง
“บอกมาเดี๋ยว ! เราขอสั่ง !!!”
“………………………..”
“อะ…เอ๋ ?”
“………………….”
ทำไมกัน ? ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงไม่ฟังที่คำสั่งของเรา
“เวทมนต์ก็เหมือนมายากล มายากลที่ใช้ซ้ำสองจะถูกนักมายากลดูออกด้วยกันฉันใด เวทมนต์ที่ใช้ซ้ำอีกรอบก็จะถูกมองออกด้วยจอมเวทย์ด้วยกันฉันนั้น….คุณหนู ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับเวทมนต์ที่ต้องให้คุณหนูเรียนรู้อีกเยอะนะ”
ไม่สิ…จะไม่ฟังคำสั่งของเราก็ไม่แปลก
นั่นก็เพราะว่าผู้ชายคนนี้…ชายที่ชื่อโยฮัน
“แก……”
เขากำลังปิดตาอยู่นั่นเอง !
“เวทย์ควบคุมจิตใจที่คุณหนูใช้ น่าจะถูกเรียกว่า ‘เนตรสะกดใจ’ เป็นเวทย์ควบคุมจิตใจระดับสูงที่มีผลแรงขึ้นกับผู้ใช้ ใครก็ตามที่สบตาเข้ากับผู้ใช้ในระยะเวลาหนึ่งจะถูกเวทมนต์ก่อกวนการมองเห็นผ่านทางแสงสีที่ปรากฎขึ้นในดวงตา จากนั้นคลื่นพลังเวทย์ที่เกิดขึ้นจะก่อกวนสารสื่อประสาทในสมอง จากนั้นจึงตามมาสู่การกระตุ้นปลายประสาทของระบบการฟังซึ่งสืบเนื่องไปถึงระบบสั่งการของสมอง ทำให้หลังจากที่ถูกจ้องตาในระยะเวลาหนึ่ง ผู้ตกเป็นเป้าหมายจะรับฟังคำสั่งของผู้ใช้เวทย์ในทุกกรณี”
ผู้ชายคนนี้รู้ได้ยังไงกัน ?
“ตามปกติแล้วเป็นเวทย์ที่สลัดได้ง่ายๆ เพราะความสามารถในการควบคุมสารสื่อประสาทในสมองตามธรรมชาตินั้นมีพลังในการรักษาสมดุลมากกว่าการก่อกวนของพลังเวทย์ บนโลกนี้คนที่ใช้เวทย์ชนิดนี้ได้จริงๆก็คงมีไม่ถึงสิบคน เพราะส่วนมากแล้วเวทย์บทนี้คลายออกได้ง่ายมากๆ แล้วต่อให้เก่งกาจแค่ไหน ก็คงไม่ได้มีผลมากเท่ากับที่คุณหนูใช้อยู่ดี บางทีคุณหนูอาจจะเป็นผู้ใช้ ‘เนตรสะกดใจ’ ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ แต่ว่า— ”
ผู้ชายที่กำลังปิดตาคนนั้นพูดต่อ
“มีอยู่สามกรณีที่เวทย์ชนิดนี้ใช้ไม่ได้ผล หนึ่งคือใช้กับคนที่มีพลังเวทย์มากกว่าตนไม่ได้ สองคือไม่สามารถใช้กับคนที่ตามองไม่เห็น และสามคือจะไม่สามารถใช้กับคนที่ไม่ได้ยินในสิ่งที่เราพูด เพราะมีข้อเสียมากมายหลายอย่าง ‘เนตรสะกดใจ’ จึงถูกลืมเลือนไปจากวงการเวทมนต์เป็นเวลานานหลายสิบปี คุณหนูเป็นคนแรกเลยที่ใช้ได้จริงมากขนาดนี้…เพียงแค่สบตาไม่ถึงวิก็โดนควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ คงดูถูกเวทย์ชนิดนี้ไม่ได้อีกแล้ว ”
“ไม่เห็น……รู้มาก่อนเลย”
‘อ่าว ไม่รู้หรอเนี่ย ?’
‘นึกว่ารู้แล้วซ่ะอีก !?’
‘ทางนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ’
เรื่องที่ผู้ชายคนนี้พูด ดูเหมือนว่าพวกลูกบ้านบางคนก็พึ่งรู้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน
ความจริงแล้วการที่เราร่ายเวทย์สายควบคุมจิตใจชนิดนี้ได้ เราไม่ได้เข้าใจทฤษฎีกลไกของมันเลยแม้แต่น้อย จะว่าไงดีล่ะ…มันก็เหมือนกับนกที่บินได้เองโดยไม่ต้องรู้ว่าบินได้เพราะอะไร มันเป็นเวทย์ที่เกิดขึ้นมาเองโดยสัญชาติญาณ แน่นอนว่า ชื่อ ‘เนตรสะกดใจ’ มันก็เป็นชื่อที่เราได้ยินเป็นครั้งแรกเหมือนกัน ทั้งๆที่ผ่านมาเราเรียกมันว่า เวทย์ควบคุมจิตใจ ซึ่งจริงๆแล้ว เวทย์ควบคุมจิตใจ ไม่ได้เป็นชื่อของเวทย์ที่เราใช้ หากแต่เป็นเวทย์สาขาใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมจิตใจซึ่งแตกแขนงออกมาเป็นเวทมนต์อีกหลายชนิดต่างหาก ซึ่ง ‘เนตรสะกดใจ’ ก็เป็นหนึ่งในสาขาของ เวทย์ควบคุมจิตใจ นั่นเอง
วินาทีที่ผู้ชายคนนี้พูดให้เราฟังถึงจุดอ่อนของตัวเอง นั่นเป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกตัวว่า ความรู้ คือ สิ่งที่เราในตอนนี้ยังมีไม่พอ
“อ้อ ! เกือบลืมไปอีกอย่าง”
“???”
“แล้วก็เวทย์บทนี้น่ะ ใช้ได้กับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น กับเครื่องจักรหรือว่าตุ๊กตาเวทมนต์ซึ่งไม่มีกลไกระบบประสาทเหมือนกับมนุษย์ เนตรสะกดใจ จะใช้ไม่ได้ผล แน่นอนว่าอันเดดที่สมองเน่าไปแล้วก็ไม่รับผลเหมือนกัน”
“ไม่ต้องบอกให้รู้เรื่องที่เรารู้อยู่แล้ว…”
“หืม ? มันก็อาจจะจริงที่คุณหนูอาจจะรู้เรื่องที่หมอบอกไว้บ้างเรื่องแล้ว แต่ดูจากการกระทำที่ผ่านมา การที่คุณหนูรู้ นั่นก็ไม่ได้แสดงว่า คุณหนูเข้าใจความจริงที่อยู่ตรงหน้าเลยนะ”
อะไรของมัน ?
มาเพื่อโชว์ภูมิรึไง ?
เกะกะ หายไปซ่ะ
ร่ายเวทย์สลายสสารใส่เลยดีไหม
“อ่า..โทษทีพูดแรงไปหรอ อืมๆ….เป็นวัยที่กำลังอารมณ์ร้อนอยู่นี่เนอะ จิตสังหารน่ะแรงกว่าเมื่อกี้เยอะเลย”
ผู้ชายคนนี้นั่งปิดตาแล้วรับสายลมอยู่เงียบๆ ยากจะเข้าใจว่ามันต้องการอะไรจากเรา
“ไสหัวไปซ่ะ ! อย่าให้เราต้องพูดซ้ำสอง ! ”
“อ่าว ? ไม่ฆ่าแล้วหรอ ?”
อะไร ? พูดอย่างงี้อยากตายมากนักรึไง ?
หนวกหู น่ารำคาญ หายไปซ่ะ !
พวกมนุษย์ทั้งเข้าใจยาก และ เกะกะ
น่ารำคาญๆๆๆๆๆๆๆ
หายไป ! หายไป เดี๋ยวนี้ !
ขอเราอยู่เงียบๆไม่ได้รึไง !?
กระทั่งเวลาแบบนี้ก็ยังมาเกะกะเราอีก !
ทำไมกัน ? หรือว่ายังแค้นที่เราร่ายเนตรสะกดใจใส่ก่อนหน้านี้ ก็เลยตามมาล้างแค้น ?
ฮึ ! เราไม่ขอโทษหรอกนะ ไม่ใช่ความผิดของเราซักหน่อย ที่ผิดน่ะมันคือพวกแก…พวกแกผิดตั้งแต่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วล่ะ
“อืม…..ต่อให้มองหมอทั้งวันก็ไม่มีอะไรให้หรอกนะ”
“ไสหัวไปซ่ะ ! ถ้าไม่ฟังที่เราสั่งก็ตายไปซ่ะตรงนี้ !!!”
“แบบนี้คนที่เสียใจที่สุดก็จะเป็นพี่สาวของคุณหนูนะ”
“อึก !”
น่ารังเกียจ
ใช้พี่ริซเป็นข้ออ้างอย่างงั้นเรอะ
น่ารังเกียจที่สุด
“???”
ผู้ชายคนนั้นเผยอตาจ้องมองเราที่กัดฟันกรอดๆ ก่อนจะหลับตาลงไปใหม่แล้วถอนหายใจ
“คุณหนูน่ะ…..ทำไมถึงเกลียดมนุษย์ขนาดนั้นอย่างงั้นหรอ ?”
ได้ยินอีกฝ่ายถามเช่นนั้น เราเลยตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว
“ก็เพราะพวกมันแย่งชิงทุกอย่างไปจากเรายังไงล่ะ !”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 38 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 37 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 36 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 35 มิถุนายน 9, 2022
- ตอนที่ 34 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 33 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 32 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 31 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 30 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 29 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 28 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 27 มิถุนายน 7, 2022
- ตอนที่ 26 พฤษภาคม 13, 2022
- ตอนที่ 25 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 24 พฤษภาคม 12, 2022
- ตอนที่ 23 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 22 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 21 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 20 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 19 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 18 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 17 พฤษภาคม 9, 2022
- ตอนที่ 16: น้องสาวผู้น่ารักของฉันโดนดุ เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 15: พี่สาวของหนูตายซ่ะเเล้ว !? เมษายน 29, 2022
- ตอนที่ 14: น้องสาวผู้น่ารักของฉันมีมากกว่าหนึ่งคน !? เมษายน 28, 2022
- ตอนที่ 13: น้องสาวผู้น่ารักของฉันฝึกทำอาหาร เมษายน 27, 2022
- ตอนที่ 12: การเดินทางของพวกเขาทั้งหลาย เมษายน 26, 2022
- ตอนที่ 11: พี่สาวของหนูต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป เมษายน 24, 2022
- ตอนที่ 10: พี่สาวของหนูพูดอะไรบางอย่างที่น่าจะสำคัญ เมษายน 23, 2022
- ตอนที่ 9: พี่สาวของหนูถูกพรากไป พร้อมๆกับพวกเพื่อนๆ เมษายน 21, 2022
- ตอนที่ 8: น้องสาวผู้น่ารักของฉันยอมพูดเปิดใจนิดหน่อย เมษายน 20, 2022
- ตอนที่ 7: น้องสาวผู้น่ารักของฉันช่วยปกป้องคุณพี่สาวด้วยล่ะ ! เมษายน 19, 2022
- ตอนที่ 6: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเเสดงความเป็นห่วงด้วยล่ะ ! เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 5: เพื่อจบความขัดเเย้ง การเสียสล่ะคือสิ่งที่จำเป็น เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 4: น้องสาวผู้น่ารักของฉันเข้าวัยต่อต้าน !? เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 3: ไม้ต่อ เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 2: เเยกจาก เมษายน 18, 2022
- ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นภายในห้องขังอันอับชื้น เมษายน 18, 2022
MANGA DISCUSSION