พี่สาวนางร้าย ปักธงตายตั้งเเต่ตอนเเรก !? - ตอนที่ 1: จุดเริ่มต้นภายในห้องขังอันอับชื้น
‘โลกใบนี้เป็นโลกของโอโตเมะเกม และ ตัวเธอจะต้องตายในอีก 5 ปีข้างหน้า’
ภายในกรงขังที่มืดสนิท ความทรงจำในอดีตชาติที่หวนกลับมาอีกครั้ง มันช่วยซ้ำเติมความสิ้นหวังของฉันให้เป็นหนักยิ่งกว่าเก่า
‘World End Fantasy’ นั่นคือชื่อของโอโตเมะเกมชื่อดังที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับโลกแฟนตาซีแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและเวทมนต์ โดยเหตุการณ์ในเกมจะเกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสองประเทศคือ จักวรรดิเซลเทีย และสาธารณรัฐยูเฟเซีย
เรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างสองประเทศโดยเป็นโรงเรียนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศภายหลังจากที่สงครามครั้งใหญ่ระหว่างทั้งสองสิ้นสุดลง
นางเอกของเกมที่เป็นสามัญชนจะได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนั้นจนได้ทำความรู้จักกับผู้ชายมากหน้าหลายตา หลากยศฐาบันดาศักดิ์ บ้างเป็นเจ้าชาย บ้างเป็นว่าที่อัศวิน หรือ บ้างก็เป็นบุตรชายนายก
ตัวเธอได้ทำความรู้จักคนของจากทั้งสองประเทศที่มีความขัดแย้งและเข้าใจทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างดี โดยหลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างมีปกติสุขจนถึงกลางเรื่อง นางเอกก็จะขึ้นเป็นประธานนักเรียนและสามารถเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนจากทั้งสองประเทศได้สำเร็จ ทว่า หลังจากนั้นไม่นาน จู่ๆก็ได้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่เผาโรงเรียนจนมอดไหม้ มีนักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก
แม้ว่าพวกตัวเอกชายจะรอดไปได้ แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็จะต้องเข้าร่วมสงครามและห้ำหั่นกันเอง เนื่องจากทั้งสองประเทศต่างโยนความผิดให้ฝ่ายตรงข้ามและใช้มันเป็นข้ออ้างในการทำสงคราม หลังจากนั้นนางเอกก็ต้องเข้าร่วมกับผู้ชายคนใดคนหนึ่งแล้วช่วยรบในฐานะนักเวทย์ที่มีพลังกล้าแกร่งเหนือคนธรรมดา แน่นอนว่า หลังจากที่สงครามสิ้นสุดลงและสองประเทศได้ผนวกรวมกันเป็หหนึ่งเดียว นางเอกก็จะได้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอตกหลุมรักและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข
ทว่า ระหว่างที่เนื้อเรื่องกำลังดำเนินอยู่ แน่นอนว่า สำหรับโอโตเมะเกม ทุกๆเรื่อง มันย่อมต้องมีนางร้ายเป็นธรรมดา
โดยนางร้ายที่ว่าจะเป็นหญิงสาวผู้มีพลังเวทย์ธาตุมืดที่รุนแรงถึงขั้นสามารถสะกดจิตผู้คนเพียงแค่สบตา เธอคนนั้นอยากได้เจ้าชายจากจักวรรดิเซลเทียจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อคว้าหัวใจของเขามาครอง แถมเธอยังรังเกียจนางเอกมากๆ เธอก็เลยพยายามกลั่นแกล้งนางเอกอยู่เสมอ
นอกจากนี้ นางร้ายคนนั้นก็ยังมีส่วนร่วมในการวางเพลิงโรงเรียนภายใต้แผนการอันชั่วร้ายของขุนนางจากจักวรรดิเซลเทีย เพราะเธอต้องการจะให้องค์ชายที่เธอชื่นชอบกลายมาเป็นจักพรรดิของทั้งสองประเทศและร่วมปกครองโลกใบนี้ไปด้วยกันกับเธอ
ในตอนท้ายของเรื่อง มันจะเฉลยความจริงที่ว่านางร้ายผู้ชั่วร้ายคนนี้ จริงๆแล้วคือ หนูทดลองของฝั่งสาธารณรัฐยูเฟเซียในการสร้างวีรชนเทียม….เครื่องจักรสงครามรูปแบบมนุษย์ที่มีพลังกล้าแกร่งเทียบเท่าทหารนับพันนาย
ตัวเธอที่สิ้นหวังกับหัวใจของมนุษย์มองมนุษย์ทุกคนเป็นแค่ตุ๊กตาที่มีไว้ให้เธอเชิดเล่น
หญิงสาวผู้มีจิตใจเย็นชาไม่เคยหลงรักองค์ชายจากจักวรรดิเซลเทียจริงๆ หากแต่เธอเห็นว่าเขาหล่อดี เธอก็เลยอยากได้มาครองเฉยๆราวกับเด็กอยากได้ของเล่น
สำหรับเธอ ชีวิตของมนุษย์ทุกๆคนมีค่าไม่ต่างจากหนอนแมลงที่เธอสามารถบี้ทิ้งได้ง่ายๆโดยไม่มีแม้กระทั่งความรู้สึกผิด
เธอคือตัวร้ายที่ทั้งน่ากลัวและแข็งแกร่ง เป็นผู้หญิงที่ทั้งน่าสงสารแต่ก็เลวโดยบริสุทธิ์ กระทั่งตอนที่ตายก็ไม่รู้สึกถึงความเสียใจและความเจ็บปวด เธอเพียงแค่หัวเราะอย่างสนุกสนานแล้วตายจากไปท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ
นับได้ว่านางร้ายในเกมนี้ เป็นตัวละครที่ดำมืดโดยสมบูรณ์ และมีความเลวร้ายระดับที่ร้ายที่สุด ถึงขั้นที่ไม่มีผู้เล่นชอบเลยซักคน แม้จะรู้ความเป็นมาที่น่าสงสารของเธอ
ใช่….แล้วตัวฉันคนนี้ก็เป็นพี่สาวของนางร้ายคนนั้น
เราทั้งคู่ต่างเป็นแค่ลูกสาวชาวบ้านธรรมดาๆฐานะยากจนในดินแดนชายขอบของสาธารณรัฐยูเฟเซีย ซึ่งในตอนที่ฉันอายุได้ 11 ปี และ น้องสาวของฉันอายุได้ 6 ขวบ พวกเราทั้งคู่ก็ถูกพ่อแม่ขายให้รัฐมนตรีผู้ชั่วร้ายที่กำลังรวบรวมเด็กๆไปทำการทดลองสร้างวีรชนเทียมเพื่อใช้เป็นอาวุธสงคราม
หลังจากนั้น ตัวฉันและน้องสาวก็ถูกผ่าตัดดัดแปลงร่างกายและถูกยัดแก่นมนตราเข้ามา จากนั้นก็ฉีดยาแปลกๆเข้าไปทุกๆวัน จนต้องทนทุกข์ทรมานจากการทดลองของพวกมันอยู่เป็นปีๆ
ระหว่างนั้นเพื่อนใหม่ที่เราทั้งคู่รู้จักก็ค่อยๆตายจากไปคนแล้วคนเล่าเพราะทนการทดลองอันโหดร้ายไม่ไหว ในขณะที่พวกเราก็ทำได้เพียงมองพวกเขาจากไปโดยไม่อาจช่วยอะไรได้
น้องสาวของฉันค่อยๆสิ้นหวังอย่างช้าๆ เธอเอาแต่ถามซ้ำไปซ้ำมาว่า ทำไมพวกเขาต้องทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้กับพวกเราด้วย ? ทำไมพ่อแม่ถึงทิ้งหนูไป ? ทำไมหนูต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ ?
ทำไม ? ทำไม ? ทำไม ?
เธอถามเช่นนั้นซ้ำๆจนจิตใจแตกสลายกลายเป็นปีศาจที่มองมนุษย์ทุกคนเป็นแค่ก้อนหินริมทาง
ไม่มีจุดประสงค์ใดๆในการดำเนินชีวิต
ด้วยพลังที่กล้าแกร่งของเธอ ไม่ว่าจะอยากได้สิ่งใด เธอก็สามารถได้สิ่งนั้นมาครอง
เธอก็แค่หาอะไรบันเทิงมาฆ่าเวลาเล่นไปจนกว่าวันที่ความตายจะมาถึง
เรียกได้ว่า กลายเป็นคนที่บิดเบี้ยวอย่างแท้จริง ด้วยสาเหตุจากความกดดันจากการทดลองรวมถึงพลังอันมหาศาลที่ได้รับมาอย่างกระทันหัน
หลังจากที่เธออายุได้ 8 ขวบ เธอก็มีพลังมากพอที่จะทำลายสถาบันวิจัยที่ทดลองพวกเราออกมาได้ หนูทดลองจำนวนมากได้หลบหนีออกไปพร้อมกับเธอ โดยฉันก็เป็นถึงหนึ่งในนั้น
ทว่า ถึงจะหนีรอดไปได้ เธอก็ทิ้งตัวฉันเอาไว้คนเดียวแล้วออกเดินทางไปโดยไม่สนใจฉันเลยแม้แต่น้อย
ตามเนื้อเรื่องเล่ากันว่า ฉันได้ตายไปหลังจากนั้นในอีก 5 ปีถัดมา เนื่องจากการดัดแปลงร่างกายของฉันมีความผิดพลาดต่างจากน้องสาว
ร่างกายของฉันไม่สามารถทนแก่นมนตราที่ยัดเข้ามาได้จนต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ถึง 5 ปี จากนั้นก็ระเบิดตายจากไปในที่สุด
เมื่อรับรู้ถึงความจริงตรงนั้น ฉันก็มองไปรอบข้างอีกรอบ
“ฮืออออ”
ในห้องที่มืดและอับชื้นเต็มไปด้วยเสียงร้องไห้
รอบข้างมีพวกเด็กที่ถูกพาตัวมาอยู่ราวๆ 7-8 คน
เท่าที่จำความได้ พวกเราพึ่งผ่านการปลูกถ่ายแก่นมนตรามาหมาดๆทำให้ทุกคนต่างทุกทรมานกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แบบนี้ก็หมายความว่าฉันโดนปักธงตายไปแล้วน่ะสิ !
ตัวฉันในตอนนี้อายุ 11 ในขณะที่น้องสาวอายุแค่ 6 ขวบ ถ้าเรียงตามไทม์ไลน์ก็คือ น้องสาวจะแหกคุกในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยที่ตัวฉันซึ่งหนีออกไปได้จะต้องตายในอีก 5 ปีถัดมา….ตายในตอนที่ฉันอายุแค่ 18 เองเนี่ยนะ !?
นี่มันจะไร้เหตุผลเกินไปแล้ว !!!
“อึก !”
เจ็บ ! แถมตอนนี้ยังเจ็บแน่นหน้าอกมากๆ ร่างกายทั่วร่างมันร้อนระบมไปหมด
ภาพตรงหน้าพร่ามัว รู้สึกเวียนหัว แล้วก็อยากจะอาเจียนออกมา
มันราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะระเบิดออกมาจากร่างกาย
กลัว…กลัวเหลือเกิน….ทำไมอยู่ดีๆฉันถึงมาระลึกชาติได้ ไม่สิ ทำไมฉันถึงต้องมาเกิดใหม่แล้วเจอเรื่องโหดร้ายพรรคนี้ด้วยนะ !
“ฮือออออ ปะป๊า…หม่าม๊า ….”
ทว่า ข้างกายของฉันก็มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังร้องไห้อยู่
เธอมีดวงเนตรสีไพริน และ เรือนผมสีทอง หน้าตาดูสกปรกนิดหน่อยเพราะไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน
ถ้าจะให้พูดล่ะก็เธอหน้าตาเหมือนกับฉันไม่มีผิด นั่นก็เพราะว่าเธอคือน้องสาวของฉันนี่นา
แถมเธอก็ยังเป็นนางร้ายอีกด้วย
“ฮืออ…ช่วยด้วยพี่ริซ”
ชื่อของฉันมีชื่อว่าไอริซ ส่วนน้องสาวคนนี้มีชื่อว่าไอริน
ไอรินที่กำลังกุมหน้าอกแน่นด้วยความทุกข์ทรมานพยายามเรียกชื่อของฉัน
“หนูเจ็บ…ช่วยหนูด้วย”
พี่ก็เจ็บเหมือนกันนั่นแหล่ะย่ะ !
ก็อยากจะพูดแบบนั้นอยู่หรอก แต่พูดได้ที่ไหนกัน
ทางนี้เจ็บจะแย่อยู่แล้ว
เอามีดมาแทงกันให้ตายกันยังจะดีซ่ะกว่า
ฆ่าฉันทีๆๆๆๆๆ เจ็บจะตายอยู่แล้ว
มันเป็นความทรมานที่ทำให้น้ำมูกน้ำตาไหลจนแทบอยากจะร้องขอความตายตรงนี้เสียด้วยซ้ำ
“ฮือออ..ช่วยหนูด้วย….เจ็บ….ช่วยหนูด้วยพี่ริซ”
ทว่า พอเห็นน้องสาวตัวน้อยยื่นมือมาหมายจะขอความช่วยเหลือ
ใบหน้าของเด็กสาวร่างเล็กซึ่งกำลังสั่นระริกแล้วร้องไห้ออกมาไม่หยุด มันก็ทำให้หัวใจของฉันรู้สึกบีบแน่น
สัญชาติญาณความเป็นพี่ที่อยู่ข้างในร้องเตือนให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันควรทำ…ทำในสิ่งที่ฉันคนนี้เกิดมาเพื่อทำ
“ไอ…ริน”
แม้จะหอบหายใจจนควันอุ่นร้อนพ่นออกมาจากปาก เรี่ยวแรงที่แทบจะหมดเกลี้ยงทำให้ฉันได้แต่คลืบคลานตรงไปข้างหน้า
ทว่า ฉันก็ไปถึงตัวเธอในที่สุด และ สามารถโอบกอดเธออย่างช้าๆและทะนุถนอม
“อึก ! ไม่เป็นไรนะไอริน….พี่อยู่ตรงนี้”
แม้จะเจ็บเจียนตาย แต่การต้องทนเห็นน้องสาวเจ็บ มันทำให้ฉันเจ็บปวดยิ่งกว่า
“ฮืออออ พี่จ๋า ! พี่ริซ !”
ไอรินกอดตอบด้วยแรงที่มากกว่าฉันเสียอีก
ฮ่าๆๆ เด็กคนนี้แข็งแรงกว่าฉันอีกแฮะ อุก !
“ไม่เป็น…ไรนะ”
“ฮือออออ”
ฉันลูบหลังน้องสาวของฉันอย่างช้าๆ พยายามฝืนทนต่อความเจ็บปวดแล้วปลอบโยนเธอเท่าที่จะทำได้
“ฮืออออ”
“โอ๋ๆ..ไม่เป็นไรนะๆ พี่จะอยู่ข้างๆน้องเอง”
พวกเราทั้งคู่โอบกอดกันและกันที่มุมมืดของห้องขัง
แลกเปลี่ยนหยาดน้ำตาและความอบอุ่นให้กันและกันจนสุดท้ายก็ทนไม่ไหวและเผลอหลับไปทั้งคู่
— พอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องประมาณ 3 คนในห้องนี้ได้กลายเป็นศพไปแล้วเรียบร้อย ดวงตาเบิกกว้าง ผิวกายเย็นเฉียบ ร่างกายแน่นิ่งไม่ไหวติง
ท่ามกลางความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้าใส่ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากปลอบโยนไอรินด้วยการลูบหลังของเธออย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง