พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 94 ชายหนุ่มรูปงาม
ตอนที่ 94
ชายหนุ่มรูปงาม
มู่อวี้เฉิงมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวแล้วถามว่า “เสี่ยวเป่าเป็นยังไงบ้าง? ไข้ลดลงแล้วเหรอ?”
“อืม ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ แต่เดี๋ยวฉันจะให้เขานอนดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลต่อสักหนึ่งวัน พรุ่งนี้มั่นใจแล้วค่อยพากลับบ้าน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” มู่อวี้เฉิงโล่งอก ก้มหน้าลงและพูดกับเสี่ยวเป่า “เสี่ยวเป่า ถ้าหลังจากนี้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวอีก ต้องรีบบอกหม่ามี้นะ”
การรู้เรื่องช้าเกินไป ทำให้เสี่ยวเป่าตกอยู่ในอาการโคม่า
เสี่ยวเป่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “ไม่ต้องห่วงฮะคุณลุงสุดหล่อ! เสี่ยวเป่าจะจำเอาไว้”
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าพึงพอใจและมองดูถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่อยู่ด้านข้าง
เมื่อคืนเธออยู่ดูแลจนกระทั่งดึกดื่นเที่ยงคืน และเข้านอนช้า คงเป็นเพราะกังวลมากว่าเสี่ยวเป่าจะนอนหลับไม่สบาย ใต้ตาของเธอจึงมีสีดำคล้ำเล็กน้อย
มู่อวี้เฉิงกังวล “ตอนนี้เสี่ยวเป่าตื่นขึ้นมาแล้ว คุณก็พักผ่อนเถอะ ส่วนเรื่องทางบริษัทเอาไว้ก่อน”
หลังจากต้องเผชิญหน้ากับความบ้าคลั่งของมู่อวี้เฉิงเมื่อคืนนี้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงไม่กล้าสบตาเขาโดยตรง เธอหรี่ตาลงและพยักหน้า
“อืม ฉันคุยกับกู้ชิงแล้วว่าวันนี้จะทำงานในโรงพยาบาลค่ะ”
มู่อวี้เฉิงยังคงพูดเตือน “ดูแลร่างกายคุณด้วย”
หลังจากพูดคุยอยู่สองสามประโยค ลู่หมิงที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็เปิดประตูเข้ามา “ท่านประธาน ถ้าไม่รีบออกไปจะสายนะครับ”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลุกขึ้นยืน “รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก”
เสี่ยวเป่ารู้สึกหดหู่เล็กน้อยเมื่อได้ยินว่ามู่อวี้เฉิงกำลังจะจากไป ทว่าเขากลับวางมือลงและพูดว่า “คุณลุงสุดหล่อ ไปทำงานเถอะ!”
จนลู่หมิงอดจะหัวเราะไม่ได้ นายน้อยช่างมีไหวพริบดีมากจริง ๆ
มู่อวี้เฉิงลูบหัวเสี่ยวเป่าเบา ๆ “ลุงไปก่อนนะ เอาไว้ครั้งหน้าว่างแล้วจะแวะมาหาใหม่”
“คุณลุงสุดหล่อบ๊ายบาย!”
มู่อวี้เฉิงจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยว จากนั้นจึงเดินเลี้ยวกลับออกไป
มู่อวี้เฉิงเดินกลับออกไปหาเบนท์ลีย์คันสีดำที่จอดอยู่ริมถนนทางเข้าโรงพยาบาล
ขณะเดียวกัน ชายร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาในโรงพยาบาล ทั้งสองมีสัดส่วนความสูงใกล้เคียงกัน และเดินสวนกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
แต่หลังจากนึกขึ้นได้ ชายหนุ่มก็หยุดฝีเท้าลงและมองย้อนกลับไปทางด้านหลัง มองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ เดินจากไป
อีกฝ่ายคงไม่รู้จักเขาสินะ
ชายหนุ่มล้มเลิกความคิดและสาวเท้าเดินเข้าไปในโรงพยาบาล เดินจนมาถึงประชาสัมพันธ์แล้วจึงถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “สวัสดีครับ ห้องสามศูนย์หนึ่งไปทางไหนครับ?”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนราวกับสายน้ำเย็นที่ไหลผ่านหยก
นางพยาบาลตัวน้อยที่กำลังนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับสายตาประหลาดใจ
ผู้ชายตรงหน้ามีผิวขาวดุจหิมะ ดวงตาเป็นสีฟ้าอมเทา ดูแตกต่างจากคนจีน ใบหน้าของเขาเนียนละเอียดราวกับรูปปั้นที่แกะสลักออกมาจากประณีต เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยขณะมองเธอผ่านที่กั้นกระจกใส
ดวงตาคู่สวยหลากสีดูลึกซึ้งและแน่วแน่
สมกับเป็นชายหนุ่มรูปงาม!
“อยู่… ชั้นสามทางซ้ายสุดค่ะ!” นางพยาบาลตัวน้อยจ้องมองเขาขณะพูดตะกุกตะกัก
“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าขอบคุณและเดินจากไป
นางพยาบาลตัวน้อยจ้องมองเขาด้วยสายตาแวววาวจนกระทั่งเธอเดินขึ้นบันไดชั้นบนไป เธอก้มหน้าลงยกมือขึ้นมาปิดแก้มที่แดงแปร๊ด
หล่อมากเลยฮือ ๆ ๆ…
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวสับสนเพราะมู่อวี้เฉิงเพิ่งออกไปได้ไม่ถึงสิบนาที “เขาลืมของไว้หรือเปล่า?”
เธอมองหารอบห้องแต่กลับไม่พบอะไรเลย
ขณะเดียวกันประตูห้องผู้ป่วยถูกเปิดออก ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงหันไปมอง
ชายผู้มีดวงตาอ่อนโยนสีฟ้าเข้มอยู่ในชุดเสื้อคลุมกันลมสีเทายาวถึงเข่ายืนสงบนิ่งอยู่หน้าประตู ในมือมีกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ
“รุ่นพี่!” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวประหลาดใจ
เยี่ยชวงที่กำลังนั่งเล่นกับเสี่ยวเป่าอยู่ในห้องผู้ป่วยเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าสงบแฝงไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาทันที
เสี่ยวเป่ายืนเท้าเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงรีบร้องตะโกน “ลุงซีจวี๋!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินเข้าไปถามด้วยความประหลาดใจ “ไหนบอกว่าจะกลับมาจีนเดือนหน้าไงคะ ทำไมถึงกลับมาก่อนกำหนดล่ะ?”
ดวงตาของลู่ซีจวี๋ยังคงดูอ่อนโยนเหมือนเคย “ตอนแรกงานยังมีปัญหาอยู่ คิดไม่ถึงเหมือนกันว่างานจะเสร็จเร็วกว่ากำหนด พี่ก็เลยเปลี่ยนกำหนดวันกลับมาจีน แต่นึกไม่ถึงว่าทันทีที่เครื่องบินลงจอด เยี่ยหานจะมารายงานว่าเสี่ยวเป่าเข้าโรงพยาบาล”
เขาพูดขณะมองดูเจ้าตัวเล็กบนเตียงพยาบาล
เสี่ยวเป่ากะพริบตาสองครั้งและเอามือเล็ก ๆ กุมศีรษะตัวเอง “คุณลุงซีจวี๋! เมื่อคืนนี้เสี่ยวเป่าไม่สบาย”
ลู่ซีจวี๋เข้ามากอดเสี่ยวเป่าและถามด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้ยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่แล้วฮะ” เสี่ยวเป่าส่ายหัว
“ไม่เป็นอะไรแล้วก็ดี” ลู่ซีจวี๋กอดเขาและยิ้มแกมหยอกล้อ “ทำไมลุงถึงรู้สึกว่าเสี่ยวเป่าตัวหนักขึ้นนะ?”
“ไม่หนักสักหน่อย” เสี่ยวเป่าตะเบ็งเสียงใส่ “ทำไมลุงซีจวี๋ถึงว่าเสี่ยวเป่าหนักขึ้น ไม่เห็นว่าสูงขึ้นหรือไง?”
ลู่ซีจวี๋ยื่นนิ้วออกไปแตะปลายจมูกเขา “ลุงก็ต้องเห็นอยู่แล้วสิ ว่าแต่เสี่ยวเป่ารู้ด้วยเหรอว่าตัวเองสูงขึ้น?”
“ก็หม่ามี้พูดกับเสี่ยวเป่าอยู่บ่อย ๆ” เสี่ยวเป่าพึมพำ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวหัวเราะ
บางทีมันอาจจะเป็นผลพวงจากทางจิตวิทยา เธอออกไปทำงานที่บริษัททุกวันและกลับมาถึงบ้านจนมืดค่ำ ทำให้เธอรู้สึกว่าเสี่ยวเป่ามักจะสูงขึ้นทีละนิด
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเห็นว่าเขาลากกระเป๋าเดินทางมาด้วยจึงถามว่า “รุ่นพี่ลงจากเครื่องบินแล้วก็ตรงมานี้เลยเหรอคะ?”
ลู่ซีจวี๋พยักหน้า “เป็นห่วงเสี่ยวเป่าน่ะ เลยและมาดูหน่อย”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้ว่าเขาชอบเสี่ยวเป่ามาโดยตลอด จึงยิ้มและพูดว่า “รุ่นพี่นี่ห่วงกันจังเลยนะคะ”
“ก็ต้องแน่อยู่แล้วสิ ทำไมเธอถึงเกรงใจพี่นักล่ะ”
ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ในห้องผู้ป่วย ลู่ซีจวี๋เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศและเล่นกับเสี่ยวเป่าอยู่สักพักหนึ่ง
จนกระทั่งถึงช่วงเที่ยง คุณหมอเข้ามาวัดไข้เสี่ยวเป่าอีกครั้งและพบว่าอุณหภูมิกลับมาเป็นปกติ
เสี่ยวเป่าแลบลิ้น “หม่ามี้ เมื่อไหร่พวกเราจะไปจากที่นี่สักที อากาศมันเหม็นมากเลย…”
ภายในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเขาไม่ชอบกลิ่นของมันสักเท่าไหร่
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมองดูเครื่องวัดไข้ด้วยความรู้สึกสบายใจขึ้น “ไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันจะไปทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วเดี๋ยวเรากลับกันค่ะ”
ลู่ซีจวี๋พยักหน้า “ไปสิ เดี๋ยวพี่ดูเสี่ยวเป่าให้”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเดินตามคุณหมอออกจากห้องไป
เสี่ยวเป่านอนเล่นเกมปริศนาคำอยู่บนเตียง ขณะที่เยี่ยชวงรีบเดินเข้ามากระซิบกับลู่ซีจวี๋ “ในที่สุดท่านก็มา ถ้านายท่านมาไม่ทัน ฉันกลัวว่าคุณเหมี่ยวเหมี่ยวจะโดนฉกไปก่อนค่ะ!”
เขามองออกว่าตอนนั้นเธอกำลังกังวลมากแค่ไหน
ดวงตาสีเข้มของลู่ซีจวี๋ฉายแววประกาย “เดี๋ยวหาเวลามาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้ฉันฟังด้วยนะ”
เขารู้เรื่องสำคัญจากเยี่ยหานและเยี่ยชวงเป็นระยะ ๆ นอกจากนั้นเขาไม่รู้อะไรอีกเลย
ตอนนี้กลับมาถึงประเทศจีนแล้ว เขาจึงตั้งใจว่าจะกลับเข้ามาในชีวิตของเธออีกครั้ง
เยี่ยชวงพยักหน้าและยิ้มตอบรับ “ค่ะ!”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจัดการขั้นตอนออกจากโรงพยาบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงกลับเข้ามาเก็บข้าวของของเสี่ยวเป่าและออกจากห้องผู้ป่วยไป
ในลิฟต์ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวยิ้มและพูดเกริ่นว่า “รุ่นพี่มาถึงทั้งที ขอฉันเลี้ยงอาหารสักมื้อนะคะ ถือว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับแล้วกัน!”
ดวงตาสีฟ้าเข้มโค้งลงเล็กน้อยก่อนที่ลู๋ซีจวี๋จะตอบตกลง