พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 655 ยับยั้งความคิดถึง
ตอนที่ 655
ยับยั้งความคิดถึง
เมื่อเห็นว่าอินอวี่โหรวเริ่มทนไม่ไหว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ไป ไป รีบไป”
“เดี๋ยวฉันมาหาเธอทีหลังนะ” อินอวี่โหรวพูดและรีบวิ่งออกไป
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจ้องมองไปยังทิศทางที่เธอวิ่งออกไปและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ผู้หญิงคนนี้ยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะรู้สึกอะไรก็แสดงออกมาบนสีหน้าหมดเปลือก ไม่รู้จักปิดบังบ้างเลย
อินอวี่โหรวเดินเงียบ ๆ ไปที่ห้องทำงานของลู่ซีจวี๋แล้วเคาะประตู
“เข้ามา” เสียงทุ้มของลู่ซีจวี๋ดังลอดออกมาจากข้างใน
อินอวี่โหรวผลักประตูและเดินเข้าไป
ลู่ซีจวี๋คิดว่าพนักงานเข้ามารายงาน เขารอฟังอยู่นานแต่กลับไม่ได้ยินเสียง
เขาจึงเงยหน้าขึ้นและเห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง
ผู้หญิงตรงหน้าสวมกระโปรงสั้นเผยให้เห็นขาเรียวสวย เธอใส่เสื้อคลุมบาง ๆ และเสื้อสายเดี่ยวตัวสั้นที่เผยให้เห็นหน้าท้องลีน
ต้องบอกว่าดวงตาของผู้หญิงคนนี้ดูมีเสน่ห์ที่คุ้นเคยมาก แต่ลู่ซีจวี๋กลับแสดงสีหน้าเย็นชา “คุณเป็นใคร? ใครปล่อยให้คุณเข้ามา”
แทนที่จะกลัว ผู้หญิงคนนั้นกลับเดินเข้าไปหาลู่ซีจวี๋และโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของลู่ซีจวี๋
ขณะที่ลู่ซีจวี๋กำลังจะผลักเธอออก เขาก็เห็นหญิงสาวในอ้อมกอดดึงหน้ากากออก
เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย ลู่ซีจวี๋ก็ขมวดคิ้วแน่น “อวี่โหรว ที่รัก มาทำอะไรที่นี่?”
“ทำไม? มาไม่ได้เหรอ? คุณทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า?” อินอวี่โหรวนั่งคร่อมตักของลู่ซีจวี๋
อินอวี่โหรวพึงพอใจกับปฏิกิริยาของลู่ซีจวี๋มาก
ลู่ซีจวี๋ของเธอยังคงเป็นสุภาพบุรุษและสงบสติได้แม้จะถูกยั่วยวน
ไม่คล้อยตามสิ่งล่อตาล่อใจ
จากนั้นไปเธอก็สามารถมั่นใจได้
“เรื่องไม่ดีอะไรล่ะ?” ลู่ซีจวี๋กอดเธอไว้ในอ้อมแขน หน้าอกที่เคยว่างเปล่าถูกเติมเต็มจนสุดขอบ
เหมือนกับการได้สมบัติที่สูญหายกลับมา ทำให้เขามีความสุขมาก
“ฮึ่ม” อินอวี่โหรวชอบอยู่ในอ้อมแขนของเขาและถูไถเข้ากับร่างกายของเขาทันที
อินอวี่โหรวแต่งตัวร้อนแรงมากและบนร่างกายเธอมีเสื้อผ้าแค่ไม่กี่ชิ้น
ลู่ซีจวี๋เป็นผู้ชายเลือดร้อนและเขาไม่ได้เจออินอวี่โหรวมานานแล้ว
ใครจะทนไหว?
ลู่ซีจวี๋กดร่างอินอวี่โหรวลง และอินอวี่โหรวก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงทันที
เธอหน้าแดงด้วยความเขินอายและซุกศีรษะลงในอ้อมแขนของลู่ซีจวี๋
มือใหญ่เลื่อนลงมาตามต้นขาของอินอวี่โหรว สัมผัสที่อ่อนนุ่มยังคงตราตรึงอยู่ในมือเขา
ลู่ซีจวี๋หรี่ตาลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าระหว่างทางที่อินอวี่โหรวเดินทางมาที่นี่มีคนเห็นอินอวี่โหรวสวมชุดนี้กี่คนแล้ว
เขาจับหน้าอินอวี่โหรวให้หันมาหาและละเลงจูบริมฝีปากอย่างดุเดือด
กว่าลู่ซีจวี๋จะปล่อยมือออก ริมฝีปากของอินอวี่โหรวก็บวมฉึ่ง
อินอวี่โหรวทุบแผ่นอกของลู่ซีจวี๋ “คุณไม่อ่อนโยนเลยอ่ะ”
“ก็ใครบอกให้คุณแต่งตัวแบบนี้ล่ะ? หื้ม?” ดวงตาของ ลู่ซีจวี๋มืดมนลงและน้ำเสียงก็เย็นชาขึ้น
“ฉัน ฉันใส่มันเอง ทำไม?” อินอวี่โหรวสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าลู่ซีจวี๋ดูโกรธมาก
“จากนี้ไปแต่งให้ผมดูคนเดียวเท่านั้น ถ้าคุณใส่เสื้อผ้าพวกนี้ออกมาให้คนอื่นเห็นอีก ผมจะขังคุณไว้ในบ้าน!” ลู่ซีจวี๋พูดและก้มหน้าลงไปกัดริมฝีปากของอินอวี่โหรวอย่างแรง
อินอวี่โหรวในใจว่าลู่ซีจวี๋น่าจะกำลังหึง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงโกรธมาก
เธอโน้มตัวลงไปใกล้ใบหูของลู่ซีจวี๋แล้วพูดว่า “ตอนนี้ฉันเป็นชู้รักของคุณแล้วไง พี่ซีจวี๋ หรือพี่ไม่ชอบเหรอคะ?”
อินอวี่โหรวจงใจพูดยั่วยวน
ลู่ซีจวี๋รู้ดีว่าอินอวี่โหรวเป็นคนประพฤติตนดีและไม่เคยทำอะไรตรงข้ามกับกฎเกณฑ์
เขานึกไม่ถึงว่าอินอวี่โหรวจะทำตัวออดอ้อนขนาดนี้เมื่อต้องการยั่วยวนใครสักคน
ลู่ซีจวี๋กอดเอวเธอแน่นและทั้งสองก็สลับทิศทางกันทันที อินอวี่โหรวถูกลู่ซีจวี๋ผลักลงบนเก้าอี้
ลู่ซีจวี๋แนบกายชิดอินอวี่โหรวและลูบไล้เธอผ่านกางเกงชุดสูท
อินอวี่โหรวรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
เธอหวาดกลัวความรู้สึกบดขยี้นี้มากที่สุด
หากลู่ซีจวี๋ทำตามวิธีการธรรมดา ๆ ก็คงจะดี แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ชอบอะไรแบบนั้น
อินอวี่โหรวไม่สามารถทำอะไรได้
เธอรู้สึกว่าลู่ซีจวี๋จงใจทำแบบนี้
ตอนนี้เหลือแค่เสื้อผ้าชิ้นเดียว
มันยังจำเป็นอยู่เหรอ?
ฮึ่ม มาดูกันว่าเธอจะลงโทษลู่ซีจวี๋ยังไง
เธอดึงเนกไทของลู่ซีจวี๋จนลู่ซีจวี๋ก้มหน้าลงมาใกล้ ลมหายใจของทั้งสองอยู่ใกล้กันมาจนผสมผสานกลายเป็นหนึ่งเดียว
อินอวี่โหรวยกยิ้มเล็กน้อย เลียริมฝีปากตัวเองแล้วพูดว่า “คุณลู่ จะไหวมั้ยนะ?”
“อ๊ะ” ลู่ซีจวี๋เบิกตากว้าง จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของอินอวี่โหรวลอดเข้ามาในหู
ตลอดช่วงบ่าย ลู่ซีจวี๋พยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อบอกอินอวี่โหรวว่าไหวหรือไม่
ในตอนแรกอินอวี่โหรวสามารถอดทนได้ แต่ต่อมาเธอทำได้เพียงส่งเสียงร้องขอความเมตตา
ลู่ซีจวี๋ถามเธอกลับว่าไหวหรือไม่
อินอวี่โหรวรู้สึกว่าเธอแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง
ทำไมเธอไปท้าทายกำลังของลู่ซีจวี๋ทั้งที่เธอรับไม่ไหว?
เธอเป็นบ้าเหรอ?
อินอวี่โหรวนอนอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว มีรอยฟกช้ำตามร่างกายและเสื้อผ้าก็กลายเป็นเศษผ้าขี้ริ้วตามที่คาดคิดเอาไว้
เธอเอนตัวลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ลู่ซีจวี๋ยังคงเป็นเหมือนคนไม่ปกติ เขาระบายความพึงพอใจบนร่างกายเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
อินอวี่โหรวกัดมุมผ้าห่มอย่างไม่พอใจ
ดูสิ นี่คือมนุษย์เหรอ?
ลู่ซีจวี๋ยังมีงานต้องทำ หลังจากอาบน้ำแล้วเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่
เขามองดูดวงตาที่ขุ่นเคืองของอินอวี่โหรวแล้วยิ้มกว้าง จากนั้นก็โน้มตัวลงมาจูบแก้มของอินอวี่โหรว “อวี่โหรว อย่าสงสัยในความสามารถของว่าที่สามีอีกนะรู้มั้ย?”
อินอวี่โหรวถอยกลับเข้าไปในผ้าห่มด้วยความโกรธ
ใช่แล้ว หลังจากนี้เธอจะไม่พูดถึงมันอีก
ไม่กล้าพูดอีกแล้ว
เธอไม่สามารถไล่ตามความแข็งแกร่งทางกายภาพของ ลู่ซีจวี๋ได้
ลู่ซีจวี๋ตบร่างกายเธอผ่านผ้าห่มเบา ๆ “พักผ่อนเยอะ ๆ มีอะไรก็มาเรียกผม ผมออกไปก่อน”
ขณะที่ลู่ซีจวี๋กำลังจะเดินออกไป คนที่เพิ่งซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างแน่นหนาก็ยื่นมือออกมาจับนิ้วของเขา
ลู่ซีจวี๋หัวเราะเบา ๆ และกุมมือเธอไว้ทั้งมือ “ทำไม?”
“คุณอยู่กับฉันที่นี่ไม่ได้เหรอ?” อินอวี่โหรวเหนื่อยมากแต่เธอไม่อยากนอน
เธอไม่ได้เจอลู่ซีจวี๋มาหลายวันแล้ว
เธอคิดถึงลู่ซีจวี๋แต่แค่ทำเป็นนิ่งเฉย
ก่อนหน้านี้เธอพยายามระงับความคิดถึงเหล่านั้นเอาไว้
“เด็กนี้ ช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นในบริษัทเยอะมาก ผมต้องจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน ถ้าคุณเหนื่อยก็งีบหลับสักหน่อย พอคุณตื่นแล้วผมค่อยพาคุณออกไปกินข้าวดีมั้ย?” ลู่ซีจวี๋พูดเกลี้ยกล่อม
เขาเองก็ต้องการใช้เวลากับอินอวี่โหรวให้มาก ๆ แต่สถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย
เขาคอยสังเกตสถานการณ์ตั้งแต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมาแจ้งข่าวเขาเมื่อครั้งที่แล้ว
เพื่อป้องกันสถานการณ์เหล่านั้น เขาจะต้องออกไปประกาศ
ยังมีอีกหลายโครงการที่ต้องดำเนินการตามกำหนดการ
เขาต้องออกไป
หลังจากได้ยินเช่นนั้น อินอวี่โหรวก็ดึงมือกลับและซ่อนตัวอยู่ในผ้าห่ม “งั้นก็ไปเถอะ”
น้ำเสียงหดหู่ของเธอทำให้ลู่ซีจวี๋รู้สึกทุกข์ใจอย่างมาก
แต่มันไม่มีทางอื่นแล้ว
เขานั่งลงข้างเตียง คอยมองอินอวี่โหรวอยู่พักหนึ่ง จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของอินอวี่โหรว เขาจึงลุกขึ้นเดินออกไป