พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 65 ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมจริง ๆ
ตอนที่ 65
ผู้หญิงคนนี้โหดเหี้ยมจริง ๆ
ณ ทางเข้าโรงแรมโซล่า แกรนด์
เยี่ยชวงขับเร่งความเร็วมาตลอดทางจนได้ยินเสียงยางเสียดสีกับพื้นอย่างรุนแรง
ทันทีที่รถยนต์จอดสนิท ทั้งสามคนก็เปิดประตูรถวิ่งเข้าไปในโรงแรมทันที
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันช่วยหรือเปล่าคะ?”
หญิงสาวที่แผนกต้อนรับรีบพูดถามเมื่อสังเกตเห็นพวกเขา
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วขณะแจ้งชื่อผู้จัดการหลี่
“ช่วยผมตรวจสอบทีว่าเขาพักอยู่ห้องไหนและตอนนี้ยังพักอยู่ในห้องหรือเปล่า”
พนักงานสาวส่งยิ้มขอโทษ “ต้องขออภัยด้วยค่ะ ตามนโยบายของทางโรงแรมไม่มีสิทธิ์เปิดเผยความเป็นส่วนตัวของแขกค่ะ หากพวกคุณรู้จักแขกเป็นการส่วนตัวดิฉันแนะนำให้ติดต่อเขาเองน่าจะดีกว่านะคะ”
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วและสั่งการลู่หมิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา “โทรหาประธานถัง”
โรงแรมโซล่า แกรนด์ที่ถูกจัดให้เป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมของประธานถัง
ลู่หมิงไม่รอช้ารีบกดโทรออกทันที
หลังจากวางสายลงเพียงแค่ไม่กี่วินาที ใครบางคนก็เดินเข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับท่านประธานมู่ ท่านประธานถังส่งให้ผมมารับพวกคุณ แผนกต้อนรับของเรายังไม่ค่อยรู้ความ ได้โปรดยกโทษให้เราด้วยนะครับ”
ผู้มาเยือนส่งยิ้มหัวเราะและหันกลับไปมองแผนกต้อนรับด้วยสีหน้าจริงจัง “ทำตามที่ท่านประธานมู่บอก”
พนักงานต้อนรับไม่กล้ารีรอรีบตรวจสอบข้อมูลของชายคนนั้น และรู้สึกทุกข์ใจที่เผลอทำผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง
“เจอแล้วค่ะ ตอนนี้คุณหลี่ยังอยู่ในห้องอยู่ ส่วนนี่เป็นคีย์การ์ดห้องค่ะ”
คราวนี้แผนกต้อนรับใจกว้างมากขึ้นแม้ว่ามู่อวี้เฉิงจะไม่พูดอะไรก็ตาม
มู่อวี้เฉิงพยักหน้าให้ลู่หมิงรับคีย์การ์ดมาและเดินตามชายคนนั้นไปที่ลิฟต์
เขาส่งกลุ่มคนเข้าไปในลิฟต์ ยิ้มอย่างนอบน้อมและเฝ้าดูจนกระทั่งประตูลิฟต์ปิดลง
มู่อวี้เฉิงขมวดคิ้วขณะยืนมองตัวเลขที่เปลี่ยนไปมาภายในลิฟต์
“ทำไมลิฟต์ถึงช้านัก!”
เยี่ยชวงพูดความในใจออกมา
และทันทีที่เธอพูดจบ ลิฟต์ก็หยุดลง
มู่อวี้เฉิงเดินออกมาจากลิฟต์เป็นคนแรกและสังเกตเห็นห้องพักที่ดูแปลกตาไปจากห้องพักทั่วไป
บนทางเดินอันเงียบสงบมีชายฉกรรจ์ห้าถึงหกคนยืนอยู่หน้าห้องหัวมุม แต่ละคนยิ้มลามกพากันกระซิบกระซาบ
มู่อวี้เฉิงมองดูท่าทางของพวกเขาและพอจะคาดเดาเหตุการณ์ภายในห้องได้จากจิตใต้สำนึก และในที่สุดความรู้สึกหมดความอดทนก็พุ่งทะยานออกมา
กลุ่มคนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรสแต่จู่ ๆ เสียงวัตถุเคลื่อนตัวผ่านอากาศก็ดังมาจากทางด้านหลัง ทำให้พวกเขาล้มระเนระนาดลงก่อนที่จะทันได้ตั้งตัว
มู่อวี้เฉิงจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้ามืดมนราวกับเจ้าแห่งนรก
กลุ่มคนตื่นตระหนกอยู่หลายวินาทีก่อนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ขณะที่พวกเขากำลังจะโต้กลับ เยี่ยชวงก็พุ่งเข้ามาก่อน
พวกเขาจะต่อกรกับทหารรับจ้างมืออาชีพได้อย่างไร ควบคู่ไปกับมู่อวี้เฉิงที่อยู่ทางด้านหลังทำให้พวกเขาล้มลงไปกองกับพื้น
ลู่หมิงที่อยู่ไม่ไกลนักรีบก้าวเข้ามาเปิดประตู
ทันทีที่บานประตูเปิดออก เสียงแส้ก็ดังชัดเจนออกมาจากห้องด้านใน
ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ขณะที่ลู่หมิงกับเยี่ยชวงกำลังมองหาต้นตอของเสียง มู่อวี้เฉิงก็พุ่งเข้าไปด้านใน
เหตุการณ์ภายในห้องทำให้มู่อวี้เฉิงแทบเสียสติ
ชายตรงหน้าเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงจนไม่ได้ยินเสียงเหตุการณ์ต่อสู้จากทางด้านหลัง ขณะที่เขากำลังจะยกมือเฆี่ยนอีกครั้งร่างกายก็ถูกเตะอัดจนกระเด็นออกไป
แผ่นหลังกระแทกเข้าไปมุมโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ไกล แต่ก่อนที่จะได้ส่งเสียงร้องครวญครางใครบางคนก็กระชากศีรษะเขาขึ้นมาจากทางด้านหลัง
คนที่อยู่ด้านหลังจับหัวเขากระแทกเข้ากับขอบโต๊ะครั้งแล้วครั้งเล่า
เลือดที่ไหลออกมาจากหน้าผากทำให้โต๊ะถูกฉาบไปด้วยสีแดงสด และเขามองไม่เห็นหน้าคนที่กำลังทุบเขาอยู่ด้วยซ้ำ
“มู่อวี้เฉิง…”
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวที่ขดตัวอยู่บนพื้นใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตอบสนองและมองเห็นภาพตรงหน้าชัดเจน เธอเหลือบมองแผ่นหลังของมู่อวี้เฉิง
และคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป
เธอจะมองเห็นคนตรงหน้าเป็นเขาได้อย่างไร?
มู่อวี้เฉิงได้สติคืนมาหลังจากได้ยินเสียงของเธอ
เขาโยนร่างของชายตรงหน้าทิ้งอย่างไร้ความปรานี หันกลับมาหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวและประคองเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
“โอ๊ย…”
มู่อวี้เฉิงรีบเคลื่อนตัวเข้ามาหาจนบังเอิญสัมผัสเข้ากับบาดแผลบริเวณที่เธอถูกเฆี่ยนตีครั้งแล้วครั้งเล่า ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงส่งเสียงร้องครวญครางออกมา
มู่อวี้เฉิงตระหนักถึงความเป็นจริงอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงร้องของเธอและลดสายตามองตรวจสอบร่างกายเธออย่างระมัดระวัง
ภายใต้แสงสุกสกาว เลือดบนเสื้อเชิ้ตของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
“ขอโทษนะ ผมมาช้าไป”
หัวใจของมู่อวี้เฉิงกำลังทุกข์ระทม น้ำเสียงที่แค่นออกมาฟังดูแหบแห้งเป็นพิเศษ
ดวงตาของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเปียกชุ่มอีกครั้งเมื่อได้ยินคำขอโทษจากเขา
เดิมทีเธอคิดว่าเขาคือเยี่ยชวง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าคนแรกที่ลืมตาขึ้นมาเห็นจะเป็นเขา
เมื่อสักครู่นี้มู่อวี้เฉิงทำให้เธอหวาดกลัว แต่ตอนนี้คำขอโทษของมู่อวี้เฉิงกลับทำให้หัวใจของเธออ่อนยวบลง
เขามาช่วยเธอ ทำไมเขาจะต้องขอโทษเธอด้วย…
“คุณเหมี่ยวเหมี่ยว!”
เยี่ยชวงเข้ามาช้ากว่ามู่อวี้เฉิงไปหนึ่งก้าว เธอเดินเข้าประตูมาและเห็นอีกฝ่ายอยู่พันธนาการอ้อมกอดของมู่อวี้เฉิง ถึงอย่างนั้นกลับไม่ได้สนใจมากนักและลงไปนั่งยอง ๆ ข้าง ๆ พวกเขา
“ขอโทษนะคะ ฉันละเลยหน้าที่ตัวเอง”
คำขอโทษดังขึ้นอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวคลี่ยิ้มอย่างอ่อนแรง “พี่เก่งมากแล้วค่ะ ฉันไม่ระวังตัวเอง”
หัวใจของเยี่ยชวงบีบรัดแน่นเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนชำเลืองมองเลือดสีแดงสดที่กระเซ็นไปตามร่างกายและหันไปมองชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น
“แกเป็นคนเฆี่ยนใช่มั้ย?”
ท่าทางของเยี่ยชวงในตอนนี้น่าสะพรึงกลัวพอ ๆ กับท่าทางของมู่อวี้เฉิง
ชายคนนั้นกำลังสะลึมสะลือจากการทุบตีของมู่อวี้เฉิง เขานอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นขณะมองดูเยี่ยชวงค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้
“ไอ้เฮงซวย”
น้ำเสียงของเยี่ยชวงฟังดูเย็นชา เธอสวมเครื่องแต่งกายชุดดำราวกับเจ้าแห่งนรก
เขาค่อย ๆ คลานถอยหลังแต่กลับเชื่องช้ากว่าฝีเท้าของเยี่ยชวงนัก
“อ๊าก!”
ทันใดนั้นเสียงครวญครางก็ดังขึ้นภายในห้อง
เยี่ยชวงคว้าแขนของอีกฝ่ายและออกแรงดึงอย่างแรงจนเสียงกระดูกหักดังก้องไปทั่วห้อง
เขาเจ็บปวดมากและยังไม่ทันได้หยุดร้องเยี่ยชวงก็ขึ้นลุกขึ้น
“เก็บเอาไว้จะมีประโยชน์อะไร? ฉันจะช่วยแกกำจัดภาระชิ้นนี้เอง”
เยี่ยชวงปรายตามองท่อนล่างของอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะเหยียบย่ำมันด้วยรองเท้าส้นสูงจนเสียงกรีดร้องฟังดูโหยหวนมากกว่าปกติ จากนั้นจึงบดขยี้จุดเดิมอีกสองสามครั้งอย่างไร้ความปรานี
จากนั้นเสียงโหยหวนในห้องจึงเงียบลง
เขาหมดสติลงด้วยความเจ็บปวด
เยี่ยชวงทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจึงหันหลังกลับมาหาถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ลู่หมิงที่ยืนมองเหตุการณ์ต่าง ๆ อยู่ด้านข้างเห็นชายคนดังกล่าวร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะก้มลงมองท่อนล่างของตัวเอง จากนั้นจึงมองเยี่ยชวงด้วยสายตาเหลือเชื่อ
ผู้หญิงคนนี้สวยมากแต่ทำไมถึงได้โหดเหี้ยมนัก…
“ท่านประธานให้ผมทำยังไงบ้างครับ?”
ลู่หมิงติดตามเข้าไปหลังจากได้สติกลับคืนมา
เขามองดูหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของมู่อวี้เฉิงขณะที่ความเห็นอกเห็นใจก่อนหน้านี้ได้จางหายไป
ลงมือปฏิบัติต่อผู้หญิงอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ เขาไม่สมควรที่จะได้รับการยอมรับว่าเป็นลูกผู้ชายด้วยซ้ำ
มู่อวี้เฉิงตรวจสอบบาดแผลบนร่างกายของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่เธอได้รับบาดเจ็บอย่างระมัดระวัง อุ้มเธอเอาไว้อ้อมแขนและพยายามลุกขึ้นยืน
“ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลก่อน นายอยู่จัดการเรื่องนี้ด้วย”
มู่อวี้เฉิงพูดและเปรยตามองชายที่มีรูปลักษณ์เหมือนศพอย่างเย็นชา
ลู่หมิงตอบรับด้วยน้ำเสียงทุ้ม
เยี่ยชวงเห็นว่าทั้งสองกำลังเดินจากไปจึงรีบบอกลา ลู่หมิงและก้าวตามไป